YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
จิ้งจกเปลี่ยนสี

วันนี้เป็นวันที่ยาวนานเหลือเกิน
ต้องสลับโหมดหลายรอบทีเดียว

ช่วงบ่ายต้องไปสัมภาษณ์ศิลปินกลุ่มหนึ่ง
ที่มีโอกาสเข้าร่วมในโครงการ art camp เมื่อเดือนที่แล้ว
ก็นั่งคุยกับพวกเขา แล้วก็กับอาจารย์ที่ดูแลโครงการนี้ด้วย
มันเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างเอเชีย-ยุโรป
ที่มุ่งจะสร้างให้ศิลปินรุ่นใหม่ตระหนักในคุณค่าของศิลปะ
และบทบาทของศิลปินที่มีต่อสังคม ในการที่จะสร้างสังคมใหม่
ทุกคนบอกว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากโครงนี้
เรียนรู้ความกล้าที่จะพูด และพร้อมที่จะฟัง ละวางความยึดมั่น
ทำลายกำแพงแห่งคำนิยามและข้อจำกัดที่เขามีต่อคำว่า “ศิลปะ”
ฉันสัมภาษณ์ศิลปินกลุ่มนี้แล้ว รู้สึกดีเหลือเกิน

ช่วงเย็นๆ ฉันวิ่งไปงานสัมภาษณ์อีกที่หนึ่ง
คราวนี้ฉันมีหน้าที่ฟัง และคอยสังเกตวิธีการถามของนักสัมภาษณ์ตัวจริง
คนที่เราไปสัมภาษณ์ในเย็นนี้นั้น ก็เป็น “ศิลปิน” คนหนึ่งเหมือนกัน
เขามีหน้าที่ทำงานตามโจทย์ “คอมเมอร์เชียล” ที่ได้รับมา
เขามีหน้าที่ทำให้ “ลูกค้า” ของเขาดูดี
เขาทำหน้าที่ของเขาได้ดีที่สุด ดีที่สุดจริงๆ

คงจะรู้สึกเฉยๆนะ ถ้าเกิดว่าไม่ได้ไปสัมภาษณ์ศิลปินกลุ่มแรกก่อน
ทำไมโลกมันช่างต่างกันได้อย่างนี้นะ
สำหรับฉันแล้ว ทั้งคู่ต่างมีความเป็นศิลปินเท่าๆกัน
แต่มันผิดจรรยาบรรณของนักสัมภาษณ์รึเปล่า
ที่ฉันรู้สึกว่าคนหลังซึ่งดูจะเป็นคนที่ผ่านโลกมามากกว่านั้น
เขากลับใส่ใจสิ่งที่สังคมจะได้รับน้อยกว่าคนกลุ่มแรกมากมาย
มันเป็นบทพิสูจน์สมมติฐานของฉันเป็นอีกครั้ง ที่ว่า
เมื่อเด็กเติบโตขึ้น ความห่วงใยโลก และความฝันถึงชีวิตที่ดี มันจะหายไป
ไม่มีใครผิดหรอก มีแต่คนที่คิดต่างๆกัน
จึงให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆไม่เท่ากัน ก็เท่านั้นเอง

แต่กับตัวเราเองเล่า ในฐานะคนสัมภาษณ์
ก็มีหน้าที่ต้องดึงส่วนที่ดีที่สุดของเขาออกมา
ฉันจะทำไปได้อย่างไร ถ้าฉันไม่ชอบใจ ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำ
วันนี้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี กลับกลอกหลอกลวงตัวเอง
บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องทำถ้าฉันคิดจะทำงานอย่างนี้
ตอนนี้แน่ใจเหลือเกินแล้วว่า ฉันไม่เหมาะจะทำงานนิตยสารเลย
หลังจากอีกสองเดือนข้างหน้า ชีวิตอาจจะมีทางเลือกอื่นผ่านเข้ามา
รวมถึงการหันกลับไปมองทางเลือกเก่าๆที่เคยอยากไป แต่ยังไม่ได้ไปสักที




วันนี้เหนื่อยมาก เหมือนกับ notebook จะหนักขึ้นยังไงไม่รู้
อยากมีจักรยานขี่จังเลย
คงเป็นแค่ฝันเท่านั้นแหละ สำหรับเด็กกรุงเทพฯ


Create Date : 10 เมษายน 2551
Last Update : 10 เมษายน 2551 0:09:48 น. 10 comments
Counter : 1403 Pageviews.

 
แวะผ่านเข้ามา

บางครั้งเพราะภาระหน้าที่ที่ทำให้เราต้องกลายเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสี...แม้บางทีเราจะไม่รู้ตัวก็เถอะ

ยิ่งโตยิ่งต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบไว้มากมาย คิดถึงตัวเองมากขึ้น แต่ใส่ใจสิ่งรอบข้างน้อยลง


โดย: NN IP: 124.120.61.161 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:2:27:19 น.  

 
เหนื่อยและล้าใช่มั้ย gluhp...

เราคิดว่าคนแต่ละคนก็มีกระปุกที่สะสมความคิดและประสบการณ์กันมาคนละแบบ

กลุ่มแรกอาจเก็บประสบการณ์ที่ดีๆ ไว้มากมายเลยสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตนเองออกมาได้อย่างที่ gluhp รู้สึก

แต่กลุ่มที่สอง เค้าอาจโชคร้ายและเจอเรื่องไม่ดีมามากจนทาสีของโลกด้วยสีดำไปแล้ว ก็เลยไม่เห็นค่าว่าจะทำเพื่อคนอื่นหรือเพื่อสังคมไปเพื่ออะไร...

อย่าคิดมากเลยน้า... เราแค่รักษาตัวตนที่ดีของเราไว้ให้ได้ อย่าเปลี่ยนแปลงไป
และก็พยายามถ่ายทอดสิ่งที่ดีๆให้คนอื่นๆรอบตัว

คงจะเป็นสิ่งที่เราจะพอทำได้ละมั้ง..นะ ^_^


โดย: philous (phil-harmonica ) วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:17:40:07 น.  

 
as long as you know who you are..what you really want...things should be fine na.


โดย: KS IP: 212.219.118.170 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:22:21:53 น.  

 
เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ความคิดก็เปลี่ยนตามค่ะ
บางทีอยู่ในสังคมที่บูชาเปลือกหรือชื่นชอบ
หน้ากาก เรามันแค่ตัวเล็ก ๆ ก็อาจจะฝืน
ไม่ไหวค่ะ
>>>
อยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าใจเราเป็นคนดี ถึงคนจะไม่เห็นแต่เทวดาท่านเห็นค่ะ...


โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:42:36 น.  

 
งานสัมภาษณ์ที่ดี ไม่ใช่เเค่ดึงส่วนที่ดีของคนถูกสัมภาษณ์

เเต่มันต้องมี ความคิดของคนที่ทำสัมภาษณ์ไปด้วย

เพราะคนที่อ่านสัมภาษณ์ของนิตยสารต่างก็มีความคิด ความสงสัย เเละตั้งคำถามต่อคนที่ถูกสัมภาษณ์ เราเป็นเหมือนตัวเเทนคนอ่านในการถามคำถามนั้น

ถ้าคนสัมภาษณ์ไม่มีความคิด ถือไปเเต่โพยคำถามเเละพูดออกไปทื่อๆ ก็ไม่ต่างจากหุ่นยนต์ เเละใครๆ ก็ทำได้ทั้งนั้นเเล

ปล.ขออภัยที่มาเเวะเวียนโดยไม่บอกกล่าว 55 เผอิญมีลิงก์อยู่ที่คอมพี่พอดีน่ะ


โดย: พี่เอี่ยว IP: 124.120.199.234 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:23:46:42 น.  

 
เราไม่สามารถห้ามหรือเปลี่ยนความคิดของใครได้ แม้ว่าเราจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

...
อากาศ


โดย: yonongi IP: 203.144.211.242 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:17:01:09 น.  

 
บางทีการมองดู รับรู้ และเข้าใจ ว่าทำไมใครๆถึงได้เป็นอย่างนั้น
อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับเราคนที่มองเข้าไป เพราะอย่างน้อยมุมที่เราเห็นก็แค่มุมแคบๆมุมเดียวของใครๆ
คงจะดีถ้าเราจะมองอย่างเข้าใจ แล้วไม่ตัดสินอะไร ปล่อยให้เค้าเป็นของเค้าอย่างนั้นไป...ช่างเขา
....อาจจะดีมั้งครับ

++แวะผ่านมาครับ


โดย: หนึ่งในชาวโลก วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:17:39:58 น.  

 
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่า...gluhp

ขอให้มีความสุขมากๆ และเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ในปีใหม่ๆ ด้วยความไม่ประมาทนะคะ... ^_^

สุขสันต์กับวันหยุดแสนยาวแบบนี้...


โดย: philous (phil-harmonica ) วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:18:07:07 น.  

 
น้องเสี้ยวครับ

ไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบ
ถ้ามันเป็น "อาชีพ"
เราก็ควรทำไปตามความเป็น "มืออาชีพ" ของเรา


อันนี้ผมตอบตามงานที่ผมทำอยู่

ความรู้สึกดีเก็บเอาไว้
ความรู้สึกไม่ดีก็มีดี
อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้ว่าความรู้สึกดี-และไม่ดี
เป็นยังไง

และเราจะเลือกอยู่ฝั่งไหน



โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:8:36:53 น.  

 
ดีคร่า ทักทายน๊าค๊า


โดย: www.24hotcasino.com IP: 110.164.155.247 วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:16:39:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.