แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่ ...แก๊งชะนีกับอีแอบ คือ เรื่องของเพื่อนสาว 1 ก๊วน ที่หนึ่งสาวในกลุ่มนั้น กำลังจะแต่งงาน กับ 1 หนุ่ม ที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า และ เป็นหนุ่มช่างเอาใจใส่ในรายละเอียด ตั้งแต่การปรุงอาหารไปจนถึงเครื่องสำอางค์ เขารู้กระทั่งว่าแป้งผัดหน้ารุ่นไหนดีหรือยี่ห้อไหนมีเซลล์ก่อนใคร จนเพื่อนร่วมก๊วนที่เป็นสาวแท้ๆ เริ่มสงสัยว่าเขาจะเป็น “แอบแมน” หรือเปล่า พวกเธอจึงเริ่มปฏิบัติการสืบค้นเพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนของตัวเองต้องกลายเป็นเหมือน ภรรยาที่ระทมทุกข์ตอนสามีไปตกปลาอย่างใน Brokeback mountain ประเด็น ชาย(แอบ)หนุ่มตกร่องปล่องชิ้นกับหญิงสาว เป็นประเด็นสำคัญที่ๆสาวในยุคสมัยปัจจุบันหวาดกลัวกันมากพอดู ในยุคสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อน เพราะไม่ใช่แค่ว่า สาวๆต้องคัดว่าชายหนุ่มที่เข้ามาสวีทวี๊ดวิ้วด้วย ดีหรือไม่ดี เธอยังต้องมีการพิจาณาอีกขั้นด้วยว่า ชายหนุ่มที่เข้ามาในชีวิตของตัวเองนั้นเป็นหนุ่มแท้หรือหนุ่มเทียม ยิ่งเทรนด์สมัยใหม่พูดถึง Metrosexual ก็ยิ่งทำให้แยกได้ยากขึ้นว่า ชายหนุ่มข้างกายเป็นแค่หนุ่มเจ้าสำอางค์หรือหนุ่มแอบสาว ต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้สาวๆต้องหวาดกลัว ไม่ได้มาจากความเป็นเพศที่ 3 แต่มาจาก คนที่เป็นเพศที่ 3 บางคนกลับสร้างปัญหาอันเนื่องมาจากความเห็นแก่ตัว ด้วยเพียงแค่หวังว่า การแต่งงานจะเป็นการกลบเกลื่อนบทบาททางเพศของตัวเองในสังคม ไม่ได้คำนึงว่าผู้หญิงที่แต่งเข้ามาอยู่ด้วยต้องทรมานเพียงใด และ ในเวลาเดียวกัน ก็มีชายหนุ่มอีกหลายคนที่ไม่ยอมรับ ยังสับสน หรือ ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และ เลือกหญิงสาวมาแต่งงานด้วย เมื่อรู้ตัวก็สายเกินกว่า สาวเจ้าจะกลับตัวทัน ...เพราะผลงานหนังตลกดีมีสาระอย่าง สตรีเหล็ก ของผู้กำกับ ยงยุทธ ทองกองทุน จึงทำให้ผมคาดหวังไว้สูงกับ แจ๋ว นั่นทำให้ แจ๋ว เป็นหนังที่ผมผิดหวังอยู่มาก หนังฝืดอยู่หลายตอน ในตอนที่ตลกส่วนใหญ่ก็เป็นผลมาจากพรสวรรค์ส่วนตัวของนักแสดงในเรื่อง แต่ตัวบทนั้นค่อนข้างสะเปะสะปะ ล้นและเลอะอยู่มาก หลายหนที่ฝืนยิงมุกโดยไม่ได้สนใจจังหวะของหนัง จนชวนให้หวั่นใจเมื่อผู้กำกับ ยงยุทธ ทองกองทุน เลือกงานล่าสุดมากำกับ ตัวละครห้าสาว ว่าจะสามารถคุมหนังให้อยู่ในกรอบในเกณฑ์ ได้หรือไม่ พล็อตหลักของแก๊งชะนีกับอีแอบ อาจเป็น การจับแอบ โดยเฉพาะจากโฆษณาที่ปล่อยออกมา คนดูย่อมเข้าใจว่า นี่คงเป็นหนังตลกที่ขาย 5 สาวช่อง 3 บวกกับ เนื้อเรื่องที่มีแค่ Guideline แยกแยะ ชายแท้-ชายเทียม จึงอาจทำให้ใครไม่ชอบหรือหมั่นไส้ 5 สาวนี้ หรือ ใครที่หลงคิดว่านี่เป็นหนังเล่าแต่ประเด็นเพศที่ 3 เพียงอย่างเดียว จะไม่สนใจมาตีตั๋ว ซึ่งนั่น น่าเสียดาย ตัวหนังจริงกลับมีดีกว่าที่คิด จุดแข็งที่ทำให้หนังไปได้มากกว่าหนังตลกจับแอบ มาจาก พล็อตรอง ที่มีอยู่ในหนัง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องมิตรภาพ ,เรื่องของการสับสนและค้นหาตัวเองของตัวละคร และ ส่วนที่ผมชอบ คือ เรื่องความรักคู่อื่นๆนอกจากคู่ตัวละครหลักก็ล้วนน่าสนใจไม่ว่าจะเป็น คู่วัวสาวแก่เคี้ยวหญ้าหนุ่มอ่อนที่ดูน่ารักกุ๊กกิ๊กดี หรือ คู่ของ นิน่า กับแฟนญี่ปุ่นที่อายุมากราวพ่อ จนทำให้ใครเจอก็ทักก็แซวและกลายเป็นปมด้อยที่เกิดปัญหาของความสัมพันธ์ เนื้อหาส่วนนี้แม้กินเวลาน้อยกว่าคู่หลักแต่กลับซึ้งได้ไม่แพ้กัน ... ต้องชมคนเขียนบทที่ไม่พยายามทำให้หนังเรื่องนี้ออกมาเป็นหนังขายมุกฮาชนิดทอดทิ้งพล็อต ไม่เป็นหนังฮาเลอะเทอะต่อมุกไปเรื่อยๆจนหนังจบเหมือนหนังตลกไทยหลายๆเรื่อง หนังไม่ได้เดินเรื่องทื่อๆตรงๆ แต่มีลูกเล่นทั้งในแง่การเล่าเรื่องและในแง่การนำเสนอ (ฉากย้อนเวลาเล่าสมัยวัยเรียนของสองสาวที่เป็นภาพเขียนต่อหัวตัวละคร เด็ด) กล่าวได้ว่า แก๊งชะนีกับอีแอบ เป็น หนังตลกไทยที่มีบทหนังลงตัวที่สุดในรอบปีถึงสองปีนี้ทีได้ดูมา บทสรุปสุดท้ายผิดจากที่เดาไว้แต่ก็จัดได้ว่าเป็นบทสรุปที่ดีตรงที่ไม่เป็นสูตรสำเร็จจนเกินไป และยังเพิ่มประเด็นดีๆให้กับหนังมากขึ้นอีก เสียดายที่ว่าฉากจบสุดท้ายไม่ได้กระฉับกระเฉงหรือมีพลังงานมากพอเหมือนหนังช่วงต้นๆ ฉากจบดูธรรมดาเหมือนละครซิทคอมจบในตอน ยังรู้สึกว่า ฉากลอยกระทงก่อนหน้านั้นที่เป็นบทสรุปของตัวละครแต่ละคน หากดัดแปลงเอามาเป็นฉากปิดท้ายยังจะน่าประทับใจเสียกว่า ...บุคคลที่สมควรได้รับการปรบมือมากที่สุดกับผลงานชิ้นนี้คือ ยงยุทธ ทองกองทุน ในฐานะหัวเรือใหญ่ที่กำกับหนังให้ไปสู่ที่หมายอย่างมีทิศทาง เป็นอีกครั้งที่เขาเลือกจับประเด็นของเพศที่สาม ต่อจากสตรีเหล็ก และ ทำให้เริ่มสังเกตเห็นว่า หนังของเขามักนิยมใช้ตัวละครนำหลายตัว ไม่ว่าจะเป็น สตรีเหล็ก หรือ แจ๋ว การกลับมาครั้งนี้เป็นการลบจุดอ่อนเดิมๆที่เคยมีจาก แจ๋ว หนังรู้จักหยอดมุกแบบรู้จักพอ รู้จังหวะจะโคน ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เรียกได้ว่า หากใครไม่ได้เกลียดหรือมีอคติกับ 4สาว ผู้หญิงถึงผู้หญิง บวก หนึ่งสาว เจ้าแม่ไทรทอง จนเกินไปนัก ก็น่าจะดูไปยิ้มไปขำไปได้ตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากความขำ หนังยังให้ความรู้สึกดีๆมีฉากซึ้งๆอยู่เป็นระยะๆไปจนจบเรื่อง นักแสดงนำทั้ง 5 คนก๊วนเดียวกันจากช่องสาม แท็คทีมกันมาทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี อาจเพราะการสนิทสนมทำงานร่วมกันในจอโทรทัศน์อยู่แล้ว จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเธอเมื่อมาขึ้นจอใหญ่ พวกเธอให้การแสดงที่เนียนตาเหมือนกับเราได้เห็นเพื่อนก๊วนหนึ่งจริงๆไม่ใช่เป็นการแสดง เรียกได้ว่า แทบจะเล่นเป็นตัวของตัวเองเสียด้วยซ้ำ สามในห้ารายนี้สอบผ่าน ไม่ว่าจะเป็น ไก่ - มีสุข และ ปุ้ย – พิมลวรรณ เล่นสบายๆไม่ต่างจากภาพที่เคยเห็นคุ้นเคยมากนัก ยกเว้นราย ปอ – อรปรียา ที่มีทีเด็ดเป็นพิเศษ ในบทสาวหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ ทำให้เธอเป็นตัวโจ๊กตัวหนึ่งที่เรียกเสียงฮาได้มากที่สุดโดยเฉพาะในมุกทะลึ่งๆทั้งหลาย (หากมีการแบ่งเรทหนัง บทนี้ของเธอมีส่วนทำให้หนังอาจต้องขยับเรตขึ้นไปถึง PG-13 ) ...ส่วนสองสาวที่เหลือ นอกจากสอบผ่าน ยังทำคะแนนสร้างความประทับใจได้มากกว่าที่คิด กาละแมร์ แม้เธอจะเป็นเป้าหมายของการหมั่นไส้อยู่บ่อยๆ และ แม้ในหนังบทของเธอดูจะห่ามๆ ฮาๆ แต่เมื่อบทเปลี่ยนอารมณ์ สีหน้าเธอก็สามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลายตามบทได้ดี เธอแสดงฝีมือในการแสดงได้มากกว่าการเป็นตัวของตัวเองอย่างที่เห็นในทีวี และ คนที่ผมชอบที่สุดในหนัง คือ นิน่า เธอเล่นได้ดีกว่าที่คิดโดยเฉพาะ ฉากเสียใจของเธอตั้งแต่อาการมึนที่โต๊ะอาหารมาถึงฉากขับรถไม่ไหว และ ส่งผลให้ตัวละครของเธอมีความน่าติดตามมากกว่าคนอื่นๆ (ฉากโทรศัพท์ไปเตือนนัดตามหมอตรวจ เป็นฉากสั้นๆที่ผมชอบ มีหลายอารมณ์ทั้งเศร้า ทั้งขำ ทั้งซึ้งเกิดขึ้นพร้อมๆกัน) ... ในขณะที่ 5 สาวไม่มีปัญหา แต่ 1 หนุ่มในเรื่องกลับเป็นจุดอ่อนเดียวในส่วนของการแสดง เมื่อเทียบกับคนอื่นๆทั้งเรื่อง พระเอกของเรื่องดูฝืนๆแข็งๆ บวกกับเสียงพากษ์ทับที่ฟังแล้วขัดๆ ทำให้เขาดูไม่เป็นธรรมชาติเกือบตลอดทั้งเรื่อง ... นักแสดงรับเชิญและนักแสดงสมทบ คือ อีกหนึ่งจุดเด่นในหนังของผู้กำกับ ยงยุทธ ทองกองทุน ที่ช่างเลือกช่างคัดสรรเหล่าคนดังมาสร้างสีสันให้กับหนังมาตลอด ในเรื่องนี้ นักแสดงรับเชิญที่มาปรากฎตัวมีตั้งแต่ กลุ่มเฉยๆไม่ดีไม่แย่ อย่าง บทยามประจำคอนโด , พนักงานซูเปอร์ ที่การมาของนักแสดงรับเชิญสองคนนี้ ไม่ได้ช่วยทำให้บทนั้นดีขึ้นหรือแย่ลง สามารถหาใครมาเล่นแทนก็ได้ , กลุ่มบุคคลที่สร้างเสน่ห์และสีสันให้กับเรื่อง เช่น ตัวละครแม่ของแป้ง ที่ปล่อยมุกน่ารักๆเนียนๆหลายหน และก็ปล่อยไดอะล็อกซึ้งๆตอนท้ายเปรียบเปรยชีวิตกับส่วนผสมอาหาร ที่ฟังแล้วประทับใจ , บทแม่หมอสาวส้มตำ ก็บ้าได้เต็มเหนี่ยวอย่างที่ต้องการ และ ไมเคิล เชาวนาศัย ก็มาวาดลวดลายได้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด นักแสดงสมทบกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มทีเด็ดที่เป็นเซอร์ไพรส์ อันได้แก่ ยาโน คาซูกิ ในบทแฟน(ไม่)หนุ่มชาวญี่ปุ่นของนิน่า ฉากเด็ดๆตอนแสดงท่าประกอบคำใบ้ซื้ออาหารของเขา เล่นได้ฮามาก สมกับเป็นนักแสดงที่มีพื้นฐานการเล่นละครใบ้ และทีเด็ดจริงๆ น่าจะเป็น สามคุณป้ากองบก.สนพ.ขวัญเรือน ที่แจ่มในทุกฉากที่ปรากฎตัว สิ่งที่ชอบ 1.บทหนัง ... เป็นอีกหนังตลกของไทยที่บทลงตัวมาก บทหนังมีหลากหลายอารมณ์ทั้งขำทั้งเศร้าทั้งหวานทั้งซึ้ง และ บทหนังผสมผสานส่วนผสมเหล่านั้นได้ลงตัว ผ่านการนำเสนอด้วยลีลาที่กิ๊บเก๋ในหลายๆตอน ผ่านไดอะล็อกที่มีทั้งคมมีทั้งฮา จังหวะการปล่อยมุกในเรื่องอยู่ในเกณฑ์เยี่ยม คือ ไม่ยิงพร่ำเพรื่อ เลือกมุกดีๆมายิง และ ยิงแบบรู้จักพอไม่เกินหน้าเกินตาเนื้อหาของหนัง 2.ผู้กำกับ ยงยุทธ ทองกองทุน ทำเรื่องนี้ออกมาเรียกได้ว่าเป็นการคืนฟอร์มอย่างแท้จริง มันช่วยกลบผลงานที่น่าผิดหวังอย่างแจ๋วไปได้ และ ช่วยเพิ่มหนังตลกดีๆมีสาระขึ้นหิ้งหนังไทยอีกเรื่องถัดจากสตรีเหล็ก 3.5 สาว ... ใครเป็นแฟนๆพวกเธอ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง หรือ ใครคิดไว้ว่าพวกเธอจะมาโวยวายแข่งกันพูดยิงมุกกรี๊ดกร๊าดจนน่ารำคาญเป็นความเข้าใจผิดอย่างสิ้นเชิง พวกเธอให้ความพอดีได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ 4.นิน่ากับแฟนญี่ปุ่น ... ชอบคู่นี้ ทั้งสองคนเล่นจับคู่เข้ากันได้ดี และ เนื้อหาความสัมพันธ์ของคู่นี้ก็ซาบซึ้งประทับใจ ขอแค่เมื่อใดก็ตามที่มีความรักแท้ที่มั่นคง เสียงภายนอกก็จะไร้ความหมายได้ในท้ายที่สุด สิ่งที่ไม่ชอบ 1.ตอนจบ เป็นฉากที่น่าสนใจน้อยที่สุดในเรื่อง หนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้จากที่ทำได้ดีมาตลอด สรุป ... ดีกว่าที่คิด เป็นผลงานที่ช่วยยืนยันว่า หนัง comedy ไทยดีๆมีคุณภาพยังมีอยู่ หนังดูได้สนุกทั้งชายจริง ชายแอบ หญิงแท้ หญิงเทียม เป็นหนังไทยที่คนชอบหนัง comedy เบาๆคลายอารมณ์ และ ไม่ชอบหนังที่ยิงแต่มุกเหมือนรายการตลกในทีวี ควรค่ากับการเสียเงินไปดู เริ่มต้นอ่าน Blog นี้มีข้อสงสัย + แวะเวียนมาพูดคุยถาม-ตอบ คลิกไปคุยกันที่ --> หน้าแรก รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป   Create Date : 15 กรกฎาคม 2549 45 comments Last Update : 17 กรกฎาคม 2549 1:14:21 น. Counter : 3972 Pageviews. Share Tweet

งั้นก็ตัดสินใจได้แล้วว่า จะเสียเงินไปดูหนังเรื่องนี้หรือไม่... ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ^__________________^   โดย: stubborn IP: 61.90.243.11 15 กรกฎาคม 2549 2:00:31 น.

ตอนแรกกะว่าจะไม่ดูหนังเรื่องนี้ครับ ตอนนี้เปลี่ยนใจรับไว้พิจารณาครับ   โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 15 กรกฎาคม 2549 4:48:33 น.

โดย: Bluejade 15 กรกฎาคม 2549 7:52:12 น.

เห็นด้วยเกือบทั้งหมดค่ะ โดยเฉพาะประเด็นการแสดงของพระเอก (แฟนไก่มีสุข) โป๋ยว่าเป็นจุดด้อยที่โป๋ยเสียดายมากๆ เวลาเขาปรากฏตัวทีไรโป๋ยอึดอัดค่ะ ยิ่งเสียงพากย์ที่ใส่เข้าไปนี่แบ่บว่า.. เฟคสุดริด มันน่ารำคาญอ่ะค่ะ แต่รวมๆแล้วเป็นหนังไทยที่โป๋ยชอบมากที่สุดอีกเรื่องนึงค่ะ   โดย: ปุ๋ย พันธุ์ทิพย์ IP: 202.139.199.177 15 กรกฎาคม 2549 7:56:24 น.

อยากดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ   โดย: 304 คอนแวนต์ (304 คอนแวนต์ ) 15 กรกฎาคม 2549 8:24:31 น.

จะไปดูคะ ขอบคุณด้วยสำหรับบทวิจารณ์ดี ๆ   โดย: แพรวา IP: 61.47.108.2 15 กรกฎาคม 2549 8:28:18 น.

ว้าววววว ขอบอกว่าถ้าไม่ได้มาอ่านบทรีวิวหนังเรื่องนี้จากคุณ คงเป็นอีกเรื่องที่รอแผ่นเลยอะค่ะ แต่พออ่านแล้วอยากดูเลยแฮะ แต่วันนี้มีคิวไพเรทฯ อยู่อะค่ะ เอาไงดีหว่า อยากดูทั้งสองเรื่องแล้วสินี่   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 15 กรกฎาคม 2549 9:01:44 น.

ไม่เคยคิดจะไปดูเลย แต่พออ่านก็น่าสนใจเหมือนกันแฮะ   โดย: โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ IP: 202.28.181.10 15 กรกฎาคม 2549 10:01:39 น.

สนุกมากมากค่ะ โดยส่วนตัวชอบที่สุดคงจะเป็นบทแม่ของแป้ง เล่นได้เนียนดีจิงๆค่ะ บท ขาขาด เนี่ย สุดๆ ไปเลย ส่วนชอบรองลงมาคงเป็นแม่หมอโอปอล์สุดยอดจิงๆ   โดย: กวา IP: 61.47.119.62 15 กรกฎาคม 2549 10:22:09 น.

เห็นตัวอย่างครั้งแรกที่โชว์ที่ห้องเฉลิมไทย ที่คล้ายๆ หนังเรื่องชัดเตอร์นั้น ก็ฮามากเลยครับ คิดโฆษณาได้เก๋มาก กับรูปผู้ชายกอดคอกัน แล้วอีกคนล้วงไปจับนม 555555 เลยคิดว่าจะไปดูแน่นอนครับ แต่คงรอให้คนซาลงกว่านี้อีกหน่อยครับ เพราะไม่อยากไปเจอผีโรงหนังในช่วงหนังเข้าอย่างนี้อีก   โดย: เ IP: 124.120.236.209 15 กรกฎาคม 2549 10:36:25 น.

ตอนแรกไม่คิดจะไปดู แต่ได้บัตรฟรีของ ubc บอกคำเดียวว่าคุ้มมาก ฮาตลอด ชอบพี่บี ที่เป็นรักแรกของแป้ง ตลกมาก   โดย: ลักยม IP: 58.9.156.43 15 กรกฎาคม 2549 11:06:01 น.

อ่านแล้วเกิดการลังเล จะไปดูดีมั้ยเนี้ย...   โดย: hokuyuri 15 กรกฎาคม 2549 12:41:43 น.

สนุกค่ะ ชอบเรื่องนี้จัง ได้หลายรสชาติดี ทั้งฮา ขำ ซึ้ง สิ่งที่ไม่ชอบในหนัง จริง ๆ ก็ไม่ได้ถือว่าไม่ชอบนะคะ แต่แอบรำคาญนิด ๆ กับโฆษณาแฝง อุอุ สรุปว่าชอบค่ะ   โดย: hana_bi IP: 124.120.209.104 15 กรกฎาคม 2549 12:49:21 น.

ไปดูมาแล้วก่อนเข้ามาอ่าน สนุกจริง ๆ ชอบคู่ของนีน่ามากที่สุดเหมือนกัน อรปรียาเนี่ยก็ทะลึ่งได้ใจดี น้องคนที่เล่นเป็นหญ้าอ่อนตอนทำท่าเขินก็ดูน่ารัก แล้วก็....การเขียนวิจารณ์หนังของคุณ ยังมีอิทธิพลกับคนอ่านเหมือนเคย เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปนะ   โดย: empty sky IP: 125.24.10.50 15 กรกฎาคม 2549 13:01:27 น.

เพิ่งไปดูมาเมื่อวานตอนเย็นค่ะ หนุกดี ฮากระจาย ยิงมุกเป็นระยะๆ ชอบคู่ของแมร์กับเด คู่ของนีน่าก้อชอยนะ แต่น้อยกว่าเดนิ้ดนึง แล้วก้อซื้อหนังสือมาด้วย   โดย: knin IP: 210.167.165.67 15 กรกฎาคม 2549 13:01:34 น.

ไปดูมา เหมือนกัน ค่ะ ตลกดี และก็ สนุกด้วย แต่ แอบร้องไห้ ด้วยค่ะ ตอนขอแต่งงานซึ้งมากๆๆๆ ชอบนักแสดงสาวทุกคนเลยค่ะ   โดย: บู้บี้ IP: 124.121.36.139 15 กรกฎาคม 2549 13:47:48 น.

หนังสนุกมากๆเลยค่ะ ตอนแรกไม่คาดหวังเลยว่าหนังจะทำได้ดีขนาดนี้ ฉากที่เปิดเพลงแล้วนีน่า ร้องไห้ในรถ นี่มันสุดๆแล้วอะ เกือบร้องตาม   โดย: Cookie Kids 15 กรกฎาคม 2549 14:37:33 น.

ตั้งใจว่าจะไปดูเหมือนกันค่ะ มีโอกาสต้องแว่บไปดูแน่ๆ แล้วก็ แวะมาบอกว่า เปลี่ยนชื่อ log in อ่ะค่ะ แต่ทุกอย่าง.....เหมือนเดิมค่ะ แวะไปเจิมนะคะ   โดย: octavio เปลี่ยนเป็น--------> (renton_renton ) 15 กรกฎาคม 2549 15:24:36 น.

ว้า..ไม่น่าหลุดเข้ามาอ่าน review ของพี่เลยอ่ะ เสียตังอีก 100 นึงจนได้   โดย: heartfelt melody IP: 58.9.57.158 15 กรกฎาคม 2549 19:47:11 น.

อ่านแล้วอยากดูฉับพลัน   โดย: Moonlight Mile 15 กรกฎาคม 2549 20:54:53 น.

เพิ่งเข้าเวบนี้ครั้งแรก จขกท มีความคิดแบบเดียวกับผม มากกว่าอ่านวิเคราะห์จากเล่มอื่นน่ะครับ ผมชอบมาก ดูแล้วบอกเพื่อนว่า บทหนังดีจริงๆอาจจะไม่ดีที่สุด ผมว่าดูแล้วสนุกกว่าหนังซัมเมอร์จากฮอลลีวู๊ดทุกเรื่องที่ดูมาในปีนี้ รวมถึงหนังไทยตั้งแต่ต้นปีเลยน่ะ ความสนุก-คุณค่าของหนังมาจากบทย่อยๆมากกว่า ทุกฉากของนีน่ากะแฟน นั่นคือฉากที่ไม่มีเบื่อหนังทำให้เพิ่มดรามา มากกว่าบทแป้ง....ทำผมน้ำตาซึมเลย ฉากสรุปความสัมพันธ์ของเกย์-หญิง และเรียกน้ำตาที่แท้จริง คือฉากแม่-แป้งทำขนมกันนั่นล่ะชีวิตถึงจะมีน้ำตากับมัน แต่มันต้องอยู่ได้ ยังต้องมีรอยยยิ้มเกิดตามมาได้เสมอ ............ดีกว่าที่คิดไว้เยอะครับ ผมไม่คิดจะดูเรื่องนี้เลยแต่การตลาดโฆษนาแบบเดียวกับเดอะชัตเตอร์ ดึงผมไปดูแบบขำๆกับเพื่อนโดยไม่ได้คาดหวัง แต่กับคุ้มค่าตั๋วทั้งเสียงหัวเราะ+น้ำตา ที่เดียวหนังฮอลลี่วูด ฮ่วยๆเอฟเฟคเยอะ ทุนสูงซะอีก ทำผมอึดอัด   โดย: โอ IP: 203.114.107.244 15 กรกฎาคม 2549 22:37:21 น.

หนังคอมเมดี้ ไทยดีๆยังมีอยู่จริงๆ ผมชอบนะครับ เพียงแต่ยังไม่ประทับใจ ปล. ผมถูกใจ เจ้าแม่ มากที่สุด...   โดย: OncE UPoN'-'a MaN 16 กรกฎาคม 2549 0:13:30 น.

อยากบอกว่าไปดู แมร์กะอรปรียาโดย แบบว่า ขอยอมเสียตังค์อีกรอบหลังจากเสียดายตังค์สุดกับ มอ. 8 แต่เอาอะ ไปดู(ใจจริงอยากดูแต่ไม่มีครายไปเป็นเพื่อนเลยอ่า) แล้วที่ชอบกลับมาคือทุกคน ยกเวินมีสุข เล่นไม่ดีที่สุดเลยในบรรดาสาวๆ อรปรียาน่าร๊ากกกกกกกกกกกมาก ลบภาพสาวเรียบร้อยจากสายตาเราเลยอ่า แมร์ก้อเล่นแบบเดียวกะนิสัยเธอนะ คุณพิมลวรรณ เราไม่ค่อยดูเธอเท่าไหร่ในโทรทัศน์การแสดงเธอสอบผ่าน และนอกสายตาเราสุดๆ คือ หนิน่า ชอบที่สุดได้ใจมากก อยากไปดูอีกรอบจัง (จามีครายไปด้วยมั้ยเนี่ย)   โดย: misskwongwa IP: 58.64.88.137 16 กรกฎาคม 2549 1:30:53 น.

อ่ะ ดูก็ดู   โดย: beebah IP: 58.9.147.236 16 กรกฎาคม 2549 7:02:08 น.

น่าดูมากครับ ว่าจะไปดูอาทิตย์นี้อ่ะ   โดย: เรย์ (Jedi ใจดี ) 16 กรกฎาคม 2549 11:23:44 น.

สนุกดีครับ ผมว่าขำ แต่มันไม่สุดนะครับ   โดย: mto IP: 124.120.206.34 16 กรกฎาคม 2549 11:32:01 น.

ชอบตอนนีน่าร้องให้ในรถหนะค่ะ มันทั้งซึ้ง+ตลก   โดย: nam IP: 124.157.182.80 16 กรกฎาคม 2549 22:40:01 น.

ไปดูมาแล้วชอบมากค่ะ ตลกดี ทำให้บ่ายวันอาทิตย์ของเราไม่เงียบเงาค่ะ   โดย: Little Kitty IP: 221.128.103.199 17 กรกฎาคม 2549 11:49:01 น.

สรุปคือเสียงพากย์ทับจริงๆใช่มั้ยครับ.. ผมเองก็ขัดๆหูมาตั้งแต่ตอนดูแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจ เพิ่งจะมารู้ชัดๆในนี้นี่เอง กาละแมร์กับนีน่าเล่นดีครับ คุณอรปรียานี่มาแบบเซอร์ไพรส์มาก คุณป้ากองบอกอก็น่ารักทุกคนเลย ส่วนตัวผมชอบฉาก "แม่ชี" มากที่สุดแล้วครับ หักอารมณ์ได้ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที   โดย: nanoguy IP: 161.200.255.164 17 กรกฎาคม 2549 13:47:04 น.

+ อืม ... ตอนแรกตัดสินใจ "ไม่ดู" ไปแล้วนะครับเรื่องนี้ ด้วยเหตุผลแบบเดียวกับที่คุณ จขบ. ดักคอไว้เป๊ะเลย คือ ... อาการ "เบื่อแกมหมั่นไส้" 5 สาวนั่นเอง ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นสีสันของข่าวผู้หญิงยุคใหม่ แต่หลายๆ กิริยาอาการที่แสดงออกเวลาอ่านข่าวหรือการก้าวล้ำจากการเป็นเพียงพิธีกรมาสู่บทบาทอื่นๆ (ทั้งๆ ที่อาจเป็นความสามารถเฉพาะตัวของพวกเธอที่สูงกันอยู่แล้ว) ทำให้ผมรู้สึกขวางพวกเธอนิดๆ ... คนอื่นๆ ไม่เท่าไหร่ แต่คุณ แมร์ เนี่ยหมั่นไส้เป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเธอแสดงออกได้ตรงและแรงมากที่สุดในกลุ่มนั่นเอง (ผมกลัวว่าสตรีไทยยุคใหม่ จะเอาอย่างลุคของเธอกันซะหมด ... แล้วผู้หญิงไทยแบบที่ผมคิดและอยากให้มีเยอะๆ ก็จะค่อยๆ อันตรธานหายไปจากสังคมไทย) + ในเมื่อคุณ จขบ. ลงทุนเชียร์กันขนาดนี้ ประกอบกับ "บท" ที่แข็งแรง เห็นทีคงต้องรับไว้พิจารณาอีกเรื่องอ่ะครับ (ว่าแต่จะดูทันมั้ยเนี่ย เพราะหนังที่จะเข้าวันพฤหัสนี้ ว่าจะดูตั้ง 3 เรื่องแน่ะ) ... เด๋วถ้าได้ดู จะมาเม้นต์เพิ่มเติมครับผม   โดย: บลูยอชท์ (บลูยอชท์ ) 17 กรกฎาคม 2549 15:29:10 น.

น่ารักมากๆ เลยค่ะ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ Faminine มากๆ ดูแล้วนึกถึงเพื่อนๆ แก๊งสาวโสดของเรา อยากให้ไปดูด้วยกันจัง ( มีหวัง หัวเราะกันลั่นโรงแน่ๆ :) )   โดย: boomba IP: 203.156.185.37 17 กรกฎาคม 2549 16:33:29 น.

ดูแล้วหนังดีกว่าที่คิดประมาณสองเท่า ชอบความสัมพันธ์ของเพื่อนรอบๆตัวแป้ง ทำได้ดีมากครับ คู่ชายแก่กับแฟนเด็กก็ทำออกมาได้น่าเอ็นดูมาก พระเอกพากย์เสียง ผมคิดลึกว่าเออ มันทำให้คนดูรู้สึกปลอมตั้งแต่แรกได้ยินรึเปล่านะ ฮ่าๆๆ   โดย: นายเบียร์ 18 กรกฎาคม 2549 16:01:07 น.

เสียดายอ่ะครับที่เพื่อนๆชวนแล้วไม่ได้ไปดู พอมาอ่านแล้วเกิดอยากดูขึ้นมา เลยไม่เหลือใครไปดูด้วยแล้ว T-T   โดย: Sixteenth IP: 202.28.181.9 19 กรกฎาคม 2549 19:31:38 น.

อือม...วิพากษ์ได้น่าฟังและเป็นกลางดีค่ะ..... แต่หากตัวเองจะไปดู คงต้องขอข่มอคติกันสักหน่อย...อดรู้สึกรำคาญบทบาทในเชิงวิชาชีพของเธอบางคนไม่ได้ในบางครั้ง... ฤางานนี้ควรเป็นกรณียกเว้น   โดย: Life's like that IP: 58.64.108.47 22 กรกฎาคม 2549 11:53:07 น.

At first, I just felt interesting in this title. After I read your review, I want to watch it!.   โดย: cottonbook 23 กรกฎาคม 2549 6:43:51 น.

ไปดู เรื่อง the break up มาแล้ว ชอบมากค่ะ เลยมาแนะนำ แต่เรื่องนี้เรียก น้ำตาจากเราไม่ได้แฮะ   โดย: vodca 24 กรกฎาคม 2549 10:17:32 น.

แหะ แอบหายไปนาน มาบอกว่า ของเค้าดีจริงๆ ค่ะ   โดย: halle' IP: 202.28.27.4 24 กรกฎาคม 2549 17:18:24 น.

อ่านแล้วก็ไปดู ดูแล้วก็มาขอบคุณ ชอบจ้ะชอบ... เห็นด้วยทู้กประการ   โดย: Life's like that 25 กรกฎาคม 2549 9:32:52 น.

โดนตัวเองหลายตอนครับ ทั้งๆที่เราก็ไม่ใช่เกย์   โดย: bb IP: 124.120.220.38 27 กรกฎาคม 2549 9:24:19 น.

ไปดูมาวันนี้เอง เลยมาsearch หาข้อมูลหรือกระทู้เกี่ยวกับหนัง ชอบหนังเรื่องนี้มากเพราะเสียน้ำตา ได้ทั้งเรื่องไม่ว่าจะตลกหรือซึ้งก็ตาม เห็นด้วยกับเจ้าของบล๊อคทุกประการ   โดย: :+:So Much In Love:+: 29 กรกฎาคม 2549 20:28:11 น.

ได้มาดูตอนท้ายๆ โปรแกรมที่โรงหนังเอสเอฟ ก๊อปปี้ที่ฉายสีสันแย่สุดๆ ทั้งซีดและไฮคอนทราสต์ ดูไปก็ปลงไปกับคุณภาพการพิมพ์ฟิล์มบ้านเรา ก็พยายามไม่ตั้งความหวังอะไรมาก ขนาดนั้นก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะยอมรับแคแรคเตอร์ของบรรดาชะนีทั้งหลาย เสียดายที่บทยังไม่คมเท่าที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะไดอะล็อค ซึ่งสำคัญมากสำหรับหนังแนวคอมเมดี้ ยังนึกเลยว่า จริงๆ ถ้าปล่อยให้บรรดาห้าสาวเธอ Improvise กันเองบ้างอาจจะมันกว่านี้ หนังมันเลยไม่สนุกเท่าที่ควรจะเป็น มันควรให้ความรู้สึกกุ๊กกิ๊กและขำกว่านี้ จริงๆ แก๊งค์ชะนีเธอก็เล่นได้เป็นธรรมชาติไม่เลวเลยทีเดียว อย่างที่ คุณ จขบ บอกไว้ เธอแทบจะเล่นเป็นตัวเองกันอยู่แล้ว เสียดายที่ผู้กำกับยังคงให้เน้นการเล่นสีหน้าสีตาแบบละครทีวีไทยๆ อยู่ไม่น้อย เลยทำให้เสน่ห์ของความสมจริงดูจางๆ ไป ข้อด้อยของบทที่เห็นชัดๆ คือ ความพยายามในการสร้างข้อสรุปของการเป็นเกย์ เพราะจริงๆ แล้วข้อมูลที่นำเสนอมานั้น บอกตามตรงว่าเชยสุดๆ ..เหอๆๆ แล้วมีความเป็นไปได้น้อยสุดๆ เช่นกัน รวมไปถึงบุคลิกของพี่บี (ไมเคิล)และแฟนหมอซึ่งเน้นความเป็นแต๋วเสียจนล้น คนพาลจะเข้าใจผิดเอาว่านี่คือบรรทัดฐานของบุคลิกเกย์โดยทั่วไป ก็รู้อยู่ว่าเขียนเอามัน แต่มันก็จะทำให้กลายเป็นหนังตลกดาษๆไปอย่างน่าเสียดาย ( เหมือนอย่างซีน รปภ) ที่อ่อนที่สุดคงจะเป็นเหตุผลที่พยายามจะเน้นถึงความสัมพันธ์ช่วงเด็กของก้องกับพัฒน์ ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินเพื่อนจนมีอิทธิพลมีถึงปัจจุบัน เฮ้อ...จะบอกให้ว่าช่วงที่เป็นเด็กนั้น ความรักเพื่อนบางครั้งมันแทบจะเท่าเทียมกับคนรักเลยทีเดียว และบางครั้งเด็กก็จะมีประสบการณ์ทางเพศแบบฉาบฉวยกันบ้าง แต่ไม่ได้ซีเรียส แล้วพฤติกรรมตอนโตก็อาจจะเปลี่ยนไปเลยก็ได้ แต่ถ้าอยู่ในช่วงมัธยมแล้วเห็นผู้ชายก็วิ่งเข้าใส่ อันนั้นก็คงสรุปได้ไม่ต้องกังขา ที่ดูไร้สาระมั่กๆ อีกอย่างก็คือกลอนที่เขียนในหนังสือรุ่นซึ่งดูจะซับซ้อนเกินความสัมพันธ์แบบเด็กๆ ที่มีอยู่ในโรงเรียน แถมเอามาตีความได้อย่างมั่วซั่วดีจริงๆ ถึงขนาดตามไปรังควาญพัฒน์จนยอมรับสารภาพ อย่างว่าแหละ เหตุผลมันอ่อนแต่ต้น อะไรๆ ที่ตามมาก็ต้องทำใจ แล้วการที่ให้ไมเคิลมาทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้ แต่ตอบปัญหาให้กับก้องได้อย่างเคว้งๆ มันเลยทำให้มีแต่เครื่องหมายคำถามอยู่ในใจ ก็ถูก..ที่มีคนบางคนยังค้นตัวเองไม่พบ บางคนอายุเลยเลขสี่ไปแล้วเพิ่งรู้ก็มี แต่พัฒนาการตรงนั้นมันใช้เวลา ไม่ใช่ปุบปับก็ยอมรับ ผู้ชายพวกนี้ลองไปเค้นสิ เขาจะปฏิเสธคอเป็นเอ็น แถมบางครั้งยังทำก้าวร้าวกับเกย์จนโอเว่อร์ไปด้วยซ้ำ แล้วยังรวมไปถึงพฤติกรรมความเป็นอยู่ของก้องที่พยายามมากกก...ที่จะให้ดูเนี้ยบเกินเหตุ บอกตามตรงว่าวัดอะไรไม่ได้เลย มันเน้นจนเป็นอาการของโรคชนิดหนึ่งคล้ายๆ ที่แจ็ค นิโคลสันแสดงใน As good as it gets ที่ทราบเพราะเพื่อน(ซึ่งเป็นชายแท้) เป็นอยู่ เมียเขาบ่นให้ฟังตลอด (แขวนเสื้อต้องเรียงสี แถมต้องเว้นระยะเท่ากันทุกตัว..อะไรทำนองนั้น) เอาเถอะ เข้าใจว่าเป็นกลวิธีเล่าของหนังที่จะต้องหาแกนอะไรสักอย่างที่ชัดเจนในการนำเสนอ ก็พอหยวนๆ เพียงแต่อยากจะบอกว่า มันอาจทำให้คนดูเข้าใจผิดๆ เรื่องความเป็นเกย์ได้ง่ายๆ เกย์ก็เหมือนผู้ชายธรรมดาๆ ทั่วๆ ไป มีทั้งที่ประณีต มีรสนิยม หรืออาจจะห่ามๆ ชุ่ยๆ ซกมก ฯลฯ ได้ทั้งนั้น ถ้าไปเห็นคู่ของเพื่อนที่รู้จักก็จะงง เพราะเป็นหนุ่มห้าวๆ ผิวคล้ำไว้หนวดดุดันตัวล่ำๆ ทั้งคู่ แต่งเนื้อแต่งตัวก็ราวกับจะไปลุยป่า จริงๆ ชอบช่วงท้ายของเรื่องมากกว่า เพราะเป็นดราม่าที่กระตุ้นให้ชวนติดตาม โดยมีมุกเพลินๆ แซมให้ชวนดูพอดีๆ ส่วนในแง่การแสดง โดยส่วนตัวจะเห็นพัฒนาการของไก่ มีสุขมากกว่าคนอื่น จากการที่มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ซึ่งดูเธอเล่นได้เป็นธรรมชาติไม่เลวเลยทีเดียว ขณะที่กาละแมร์ดูจะเล่นแรงไปหน่อย เน้นคำพูดคำจาจนเกินลีลาที่เธอเคยเล่นบนจอแก้ว ก็เลยดูไม่ค่อยน่ารัก ส่วนนีน่านั้นดีเป็นซีนๆ บางทีก็โดดๆ กับสีหน้าสีตา แต่ก็ชอบบทตอนอกหักนั่นแหละ เธอทำได้ดี ส่วนอรปรียาถึงจะคล่อง แต่ก็ดูล้นๆ กับความทะลึ่งไปนิด ปุ้ยก็เล่นเป็นตัวเองได้ดีตามสมควร แต่ออกจะเข้มไปหน่อย (ตามกาละแมร์?) ส่วนตัวหลักฝ่ายชาย ดูจะดีเป็นช่วงๆ เช่นเวลาที่ต้องซีเรียส แต่พอบทเล่นๆ ช่วงต้น คงพยายามตีบทที่เขียนเน้นมาจนดูไม่ค่อยธรรมชาติ หนุ่มหัวฟูดูจะลื่นไหลกว่า หากแต่ตัวบทไม่ค่อยเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงพัฒนาการทางอารมณ์เท่าไร สำหรับตัวหนัง ถ้าเทียบกับหนังไทยทั่วไป ก็ยอมรับว่าทำได้ชวนดูกว่าแน่นอน เพียงแต่จังหวะจะโคน หรือความคมคายของบท ยังไม่ถึงขั้นที่เรียกได้ว่าประทับใจ อย่างว่าคนเขียน คนกำกับ (อาจจะ) ไม่ใช่เกย์ จะไปหวังอะไรลึกซึ้งนักคงยาก แต่ก็ชอบที่ทำให้ชีวิตของแต่ละคนลงเอยอย่างแฮปปี้เอนดิ้งได้อย่างลงตัวไม่เลวเลยทีเดียว ดูหนังแนวนี้ก็ควรจะได้ความรู้สึกดีๆ กลับบ้านไปไม่ใช่หรือ...   โดย: Bkkbear (Bkkbear ) 30 กรกฎาคม 2549 2:57:24 น.

อยู่ดี ๆ ก็ซึ้งหง่ะ คาดไม่ถึง ..... ดีค่ะดี   โดย: แม่คาปู IP: 203.144.184.61 3 สิงหาคม 2549 13:00:20 น.

ความคิดเห็นที่ 41 พี่ปุ้ยไม่ได้ตามพี่กาละแมร์ซักกะหน่อยมั่วจัง   โดย: รักพี่ปุ้ยจัง IP: 202.142.193.66 30 มกราคม 2550 11:18:07 น.

กำลังใจให้ผู้เขียน Thanks for your comment for this movie! I want to watch Thai comedy movies that many people enjoy and impressed after that. Kobkhun krub.   โดย: HIRO IP: 222.228.27.237 15 มีนาคม 2550 19:23:39 น.

ชอบมากเลย ไอ้วิธีจับแต๊วเนี่ย แต่ว่าสำหรับเราแล้ว แค่มองก็พอ เพราะมีคนรอบข้างเป็นเกย์เยอะ "ผีย่อมเห็นผี" อ่ะค่ะ หัวเราะตลอดเลย และแอบปลื้มกะละแมมาก   โดย: ฉันอยู่ข้างหลังคุณอีกที IP: 202.28.181.9 3 พฤศจิกายน 2550 16:00:49 น.