www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า

.........การนำงานที่มีชื่อเสียงเช่นหนังสือหรือละครเวทีที่ประสบความสำเร็จและโด่งดังมากๆ มาทำเป็นภาพยนตร์มีความเสี่ยงสูงแล้วทำได้ไม่ดีในระดับยอดเยี่ยมแล้วโอกาสที่จะได้รับคำติมากกว่าคำชมเพราะ

1.คนดูคุ้นเคยและชื่นชมกับงานเดิมอยู่แล้ว

2.ถ้าทำไม่แตกต่างคนดูที่เป็นไม่เคยดูงานเก่าก็จะรู้สึกว่าน่าเบื่อที่บรรยายเหมือนกับลอกฉากมาจากหนังสือหรือละครเวที (เช่นHarry Potter)

3.ถ้าดัดแปลงหรือทำแตกต่างออกไป ก็อาจถูกแฟนต้นฉบับไม่ยอมรับเพราะไม่เคารพบทดั้งเดิม

....แต่ถ้าทำออกมาได้ดีถึงแม้ว่าจะไม่ดัดแปลงมาก(เช่นLord of the ring)หรือ ดัดแปลงต่างออกไป (เช่น Romeo & Juliatของบาซ เลอห์แมน) คนดูก็พร้อมจะอ้าแขนยอมรับเสมอ

..... The Phantom of the Opera เป็นงานที่โด่งดังมากๆแต่ก็เชื่อว่าไม่ใช่คนส่วนใหญ่ที่จะได้ดูงานเต็มๆที่เป็นละครเวที ที่เรามักจะคุ้นเคยมากกว่าคือชื่อของ Andrew Lloyd Webber และเพลงประกอบของเค้า เมื่อต้องถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ชื่อของ Joel Schumacher ทำให้ผมไม่คิดว่าเค้าจะเหมาะกับเรื่องนี้เท่าไหร่นัก(งานในช่วงหลังมีเพียง TigerlandกับPhoneboothที่ผมชื่นชอบและคิดว่าเค้าเหมาะกับหนังดราม่าแอคชั่นมากกว่าที่เป็นงานเล็กๆเน้นคุณภาพเพราะถ้าเป็นหนังที่ใช้องค์ประกอบที่ใหญ่เค้าจะคุมไม่อยู่เช่น Batman & Robin/ Batman Forever )เพียงแต่ Andrew Lloyd Webberไม่คิดเหมือนผมเพราะเค้าเป็นคนเลือกผู้กำกับคนนี้เอง

....ถ้าดูจากบทที่ตัวละครในเรื่องเล่าจินตนาการของตัวละครของผมคือ

The Phantom>>>คนหรือปีศาจที่ยังไม่อาจรู้ได้ ซ่อนใบหน้าอันอัปลักษณ์และนัยน์ตาโศกเศร้าไว้หลังหน้ากาก หน้ากากเปรียบเสมือนการป้องกันตัวเองจากโลกภายนอกและซ่อนตัวเองจากการไม่ยอมรับของตัวเอง

>>>เป็นตัวตลกและถูกรังเกียจมาแต่เด็ก ทั้งเจ็บปวดที่คนอื่นรังเกียจและเจ็บปวดที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่ยอมรับตัวตน

>>>อัจฉริยภาพทางดนตรีที่สร้างและหลงรักลูกศิษย์ของตัวเองจนความหลงเข้าครอบงำ และทำให้ปีศาจที่อยู่ในใจออกมาสู่โลกแห่งความจริง และปีศาจในใจนี้น่าจะเป็น Phantomที่แท้จริงมากกว่า ใบหน้าอันอัปลักษณ์ภายหลังหน้ากาก

แต่ในหนัง
The Phantom....เป็นเพียงไอ้หนุ่มหน้าหล่อครึ่งซีกที่ใส่หน้ากากคอยเลี้ยงต้อยนางเอกมาตั้งแต่เด็ก

.....หนังเหมือนกับไม่ได้สร้างจากบทประพันธ์แต่สร้างจากละครเวที ทำให้การดำเนินเรื่องมันดูไม่ราบรื่น น่าเบื่อและไม่น่าเชื่อถือ หลังจากฉากเปิดตัวที่น่าสนใจหลังจากนั้นก็เป็นเหมือนการโชว์อยู่เป็นช่วงๆแต่มันก็เหมือนกับละครเวทีที่มีมิติที่ปรากฎบนจอมากกว่าเป็นหนังเรื่องหนึ่ง มีเพียงฉากปัจจุบันที่เป็นภาพขาว-ดำที่คอยเชื่อมต่อหนังแต่ละช่วงให้ดูเหมือนหนังเรื่องหนึ่ง

....และนอกจากนั้นฉากโชว์ทั้งหลายในหนัง รวมทั้งการเป็นหนังเพลงหนัง ภายใต้เพลงที่คุ้นหูกับเครื่องประดับอันตระการตาแต่หนังกลับไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจมากมายแต่อย่างใด คือดูแล้วเพียงรู้สึกว่า"ก็ดีนะ" (แตกต่างจากตอนที่ได้ดูMoulinRougeที่ดูแล้วรู้สึกว่า"สุดยอด")

....นอกจากนี้นักแสดงที่หนังเลือกมามีเพียงEmmy Rossumคนเดียวที่ผมประทับใจในการแสดงและเสียงร้อง ตัวละครหลักที่เหลือที่สำคัญRaoul โดยเฉพาะอย่างยิ่งThe Phantom นอกจากบทที่แบนและราบเรียบแล้วการแสดงและเสน่ห์ของทั้ง2คนกลับน้อยอย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งที่ชอบ

1.5นาทีแรกของหนัง.....ทำให้ผมหลงเชื่อว่าหนังมีอะไรดีๆน่าติดตามน่าสนใจ และน่าจะเป็นการดัดแปลงบทละครเรื่องนี้มาเป็นภาพยนตร์ได้อย่างมีเสน่ห์ (แต่น่าเสียดายที่หลังจากนั้นมันทำให้ผมคิดว่าถ้าได้ดูละครเวทีน่าจะดีกว่าดูภาพยนตร์)

2. Emmy Rossum...มีอะไรที่ผมรู้สึกว่าเธอคล้ายกับไดแอน ครูเกอร์อย่างบอกไม่ถูกคือเป็นคนที่สวยหวานมากที่เล่นหนังได้ดีและขึ้นกล้อง เรื่องนี้ถ้าไม่มีเธอหนังจะกลายเป็นหนังที่น่าเบื่อมากที่สุดของผมในช่วงหลังๆ

3.เพลงและดนตรีประกอบ....เพลงเดิมทำนองเดิมแต่ฟังอีกรอบก็ประทับใจ

4. Minnie Driver .....ไม่ได้เจอเธอจากจอมานาน ได้เห็นคราวนี้ก็อดยิ้มกับการแสดงของเธอไม่ได้

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความเป็นหนัง......ผมรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้แบนราบมาก ทั้งบท ทั้งตัวละคร และเดินเรื่องไปอย่างไม่ชวนติดตามเลย(อย่างที่บอกข้างต้นว่ารู้สึกเหมือนหนังยกละครเวทีมาสร้างไม่ได้ดัดแปลงสร้างจากบทประพันธ์)ทั้งที่เมื่อการเปลี่ยนจากละครเวทีมาเป็นภาพยนตร์มันน่าจะมีอะไรที่ทำได้มากกว่าแต่หนังไม่ได้ให้อะไรมากไปกว่าละครเวทีเลย สิ่งที่ทำให้รอดไปได้เพียงเพราะหนังมีโครงเรื่องเดิมที่แข็งแกร่งดีกับเพลงและดนตรีที่ดึงดูดคนดูเท่านั้น

2.Casting....ผมคิดว่าสองตัวละครหลักที่เลือกมาไม่โดดเด่นและไม่มีพลังพอ ถึงแม้หน้ากากจะปิดบังใบหน้าแต่การแสดงที่ออกมาก็ไม่ทำให้รู้สึกว่า The Phantomไม่มีพลังเพียงพอ

3.บทและความลึกของตัวละคร.....แบนราบและไร้มิติอย่างสิ้นเชิง หนังใส่ให้รู้เพียงเหมือนยัดเยียดว่า The Phantomเป็นอย่างไรแต่กลับไม่ทำให้รู้สึกร่วมไปกับตัวละครเลย ยิ่งทั้งตัวคริสทีนและราอูลก็ไร้มิติเราจับต้องตัวละครไม่ได้เลย ข้อนี้เองที่ผมคิดว่าในเมื่อนำมาทำเป็นหนัง หนังน่าจะทำส่วนนี้ได้ดีกว่าละครเวทีที่มีข้อจำกัดมากกว่า

4.The Phantom หล่อเกินไป.... บางครั้งความหล่อก็มีผลกับตัวหนังอย่างเรื่องนี้เพราะมันทำให้หมดความเชื่อถือในบทนี้เข้าไปอีกที่ควรจะเป็นตัวละครที่อาภัพน่าสงสารมาอาศัยหน้ากากบังหน้า ยิ่งมาเทียบกับ Raoul คงต้องถามผู้หญิงที่ดูว่าถ้าให้เลือกจะเลือกใคร เพราะดูแล้ว The Phantomไม่ได้น่าสงสารแถมยังดูมีอะไรที่เด่นกว่าด้วยซ้ำ

สรุป.....ผมไม่ชอบหนังเรื่องนี้เท่าไหร่นักเพราะไม่สนุกเท่าที่ควร แต่กับค่าตั๋วที่เสียไปกับโรงสกาล่ารอบ17.45น.ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียดายเงินแต่อย่างใดเพราะการได้เข้าไปดูฉากสวยงาม(ฉากที่ผมชอบสุดแต่ก็ไม่ได้ชอบมากคือฉากงานเลี้ยงหน้ากาก) ฟังเพลงเพราะๆกับการแสดงและร้องของ Emmy Rossumก็นับว่าเท่าทุนแล้ว เพียงแต่ผิดหวังกับหนังที่มีความแข็งแรงของเนื้อเรื่องและเพลงประกอบแต่ทำออกมาแล้วไม่ประทับใจเท่าที่ควร





standby='Loading Microsoft Windows Media Player components...' VIEWASTEXT>
















Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2548 23:06:02 น. 10 comments
Counter : 2909 Pageviews.

 
หนังเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ความสนใจของเราเลย
แปลกเนอะ เห็นมีแต่ใคร ๆ บอกน่าดู
ถึงตอนนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะดูดีมั้ย
อาจจะเป็นเพราะไม่ชอบสไตล์ของหนังมั้ง
แต่แฟนสิ อยากดูเพราะอยากฟังเพลง
ก็เลยบอกไปว่า ไปซื้อซีดีมาฟังละกัน
ง่ายดิ อิ อิ อิ



* - * - * หัวใจสีชมพู ยินดีต้อนรับค่ะ * - * - *



โดย: หัวใจสีชมพู (หัวใจสีชมพู ) วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:0:32:37 น.  

 
มาบอกว่าไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อนเลยค่ะ(เนื้อเรื่องก็ไม่รู้ด้วย)

สำหรับเรา...เราว่าสนุก(โอเคอ่ะ แต่ไม่มาก) เพลงเพราะ ชอบเนื้อเรื่องค่ะ

และแอบเห็นด้วยเรื่องแฟนท่อม น่าจะดูคุกคามหรือน่าเกรงขาม และน่าสงสารมากกว่านี้(เราจะได้อิน+สงสารมากกว่านี้....เรื่องนี้มีเวลาสงสารแฟนท่อมน้อยจัง)

บทพระรอง(ชื่ออะไรสักอย่างนี่แหละ) กับนางเอก ดูรักกันได้....ไม่มีเหตุผล เหมือนอยู่ดีๆก็รักกันอ่ะ ง่ายๆไงไม่รู้อ่ะ

แต่ไม่รู้นะคะ นานๆได้ฟังเพลงแบบนี้ก็คุ้ม + ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้ก็ดีแล้ว(ถ้าดูที่โรงละครคงไม่มีใครแปลซับให้ดูจริงมั้ย??)

(ปล. มีลำเอียง เพราะถ้าเป็นหนังเกี่ยวกับเพลง ไม่ว่าจะร้อง หรือ เครื่องดนตรี.....ถ้าเพลงเพราะซะอย่างเราก็ชอบอยู่ดีค่ะ...เนื้อเรื่องนี่หลีกไปเลย^^)


โดย: To me,You're perfect. IP: 61.91.169.125 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:23:51:11 น.  

 
ชอบคะ เพลงหนุกดี ว่าจะไปหาอันเก่ามาดู


โดย: เลดี้ข้าวเหนียว IP: 202.28.27.3 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:17:28:01 น.  

 
เพิ่งดูเมื่อวาน
ก็ดีครับ ชอบครับ
แต่จุดบกพร่องบะเริ่มเลยผมว่าคือนักแสดงนำชายทั้งสองคน น่าจะ cast ใหม่ได้ดีกว่านี้ครับ


โดย: Dr Syntax วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:10:56:13 น.  

 
เห็นด้วยหลายข้อครับ โดยเฉพาะความเป็นหนังนี่โดนเต็มๆๆ


โดย: it ซียู IP: 203.170.164.130 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:19:28:54 น.  

 
เหมือนละครเวทีต้นฉบับมากๆ แม้กระทั่งบทพูด
ทำให้ตอนดูแอบเซ็งนิดๆ

สิ่งที่ประทับใจที่สุดในเรื่องนี้คือ เครื่องแต่งกายในเรื่อง สวยจริงๆ

ส่วนนางเอก Emma Rossum สวยมากๆ ตาเค้าดูเศร้าๆดี แต่ส่วนตัวแล้วยังไม่ค่อยชอบที่เค้าเล่นเท่าไหร่ ยอมรับว่าเค้าสวยจริงแต่ยังรู้สึกว่า คริสตินน่าจะเป็นคนที่มีเสน่ห์มากกว่านี้


:)


โดย: โยเกิร์ตรสสตรอเบอร์รี่ (โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ ) วันที่: 3 มีนาคม 2548 เวลา:10:40:12 น.  

 
เป็นหนังที่ชอบมากเลยนะ ก่อนจะเช่า วีซีดี มาดู ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะได้ยินเสียงวิจารณ์ในแง่ลบมาเยอะ แต่พอดูรู้สึกตระการตา เบื้องต้นชอบเพลงก่อน เพราะคุ้นหู และชอบนางเอก สวย น่ารัก ร้องเพลงเพราะมาก ไม่แปลกใจที่หนุ่มๆ มารุมรัก ดูรอบสอง เริ่มชอบ Phantom หล่อดี พอดูหลายๆรอบ รู้สึกว่าแสดงดี มีรายละเอียด และร้องเพลงได้เหมาะสมกับอารมณ์ในเนื้อเรื่อง
เคยอ่านสัมภาษณ์ Gerard Butler ที่แสดงเป็น Phantom เขาบอกว่า การที่จะสื่อให้คนเห็นถึงอารมณ์การแสดง ในขณะที่ต้องมีหน้ากากปิดอยู่ครึ่งหน้า สำหรับเขาแล้ว ไม่ง่ายเลย แต่เมื่อมีหน้ากากมาผนึกที่หน้า เขาจะรู้สึกได้ถึงความรันทด ความกดดัน และความทุกข์ ทำให้เขาสามารถสวมวิญญาณตามบทบาทได้(หน้ากากทำจากงาช้าง แล้วเวลาแสดงต้องติดแน่นสนิทกับหน้าไปเลย มิฉะนั้นเวลาเคลื่อนไหวหน้ากากจะหลุดได้)

มักมีผู้เปรียบเทียบบทบาทของ Gerard Butler ในภาพยนตร์ กับ Micheal Crawford ที่แสดงบท Phantom ในละครเวที ว่า Micheal ร้องเพลงได้ไพเราะประดุจมีมนต์สะกด แต่ Gerard กลับร้องได้ ไม่นุ่นนวล ลื่นไหล ฟังเสียงแล้วไม่กลมกลืนกับเสียงที่หวานใส ดุจระฆังของคริสทีน แต่สำหรับเรากลับโดนมนต์สะกดของ Gerard เข้าไปเต็มๆ และหลงรัก แฟนทั่มไปเรียบร้อยแล้ว

ขอแนะนำว่า หนังเรื่องนี้ต้องดูหลายรอบ มีแง่มุมซ่อนอยู่เยอะ และถ้าคุณซื้อดีวีดี ลิขสิทธิ์ของแมงป่อง คุณจะได้ Speacial Feather ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว มีตั้งแต่ เบื้องหลังการสร้างโรงละครขึ้นมาใหม่หมด,วัตถุประสงค์ในการ Cast นักแสดงแต่ละคน ,การ Screen Test นางเอก, และพิเศษสุดคือ ความเป็นมาของการเริ่มต้นจับหนังสือ The Phantom of The Opera มาสร้างเป็นละครเพลงบนเวทีอลังการ ของ แอนดรู ลอย เว็บเบอร์ และหลายฉากหลายตอนของละครเวที ในหลายๆ เวอร์ชั่น โดยใน Speacial Feather เหล่านี้ มีซับไตเติ้ลให้อ่านตามไปด้วย
ขอสนับสนุนให้คอหนังซื้อเก็บไว้นะคะ

ขอยืนยันว่าไม่ได้รับค่าโฆษณาแต่ประการใด เพราะไม่รู้จักใครที่แมงป่อง แค่เห็นว่าดีเลยมาบอกต่อ


โดย: Phantom's Phan IP: 203.144.167.85 วันที่: 24 สิงหาคม 2548 เวลา:19:43:00 น.  

 
ซื้อดีวีดีมาเก็บเหมือนกันค่ะ
เก็บเพลง เก็บฉาก เก็บคอสตูม


โดย: น้องส้วม IP: 61.91.144.205 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:19:50:21 น.  

 
คริสทีนเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กของ Raoul ค่ะ เจอกันเลยกลับมารักกัน ส่วน Phantom เป็นเหมือน Father Figure. ไปดูละครมาหลายรอบ เห็นว่าหนังสู้ละครไม่ได้ และ phantom ในหนังร้องเพลงมี accent ไปหน่อย ฟังแล้วจั๊กเดียม คือ phantom เป็นเรื่องที่ base อยู่ที่ฝรั่งเศส จะมี French accent คงไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ว่า.. ฟังไม่เหมือนค่ะ เหมือนคนลาติโน่มากกว่า ฟังไปเครียดไป


โดย: พี่หมูน้อย วันที่: 6 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:31:27 น.  

 
เคยเล่นเพลงนี้ด้วยละ


โดย: new IP: 203.121.131.3 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:16:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
2 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.