www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี



... ปีนี้มีผมได้ดูหนังดีๆมาแล้วหลายเรื่อง แต่เพิ่งจะมีเรื่องนี้ที่ผมดูแล้วรู้สึกว่ามี ความสุข อย่างที่สุด หนังที่ทำให้ผมดูไปยิ้มไปตั้งแต่ต้นจนจบ หนังที่ผมขำกับมุกได้แทบจะทุกห้านาที และ หนังที่ออกจากโรงแล้วยังฮัมเพลงประกอบจนต้องรีบไปหาซื้อ ost. มาเก็บไว้ในครอบครอง พร้อมร่ำๆจะหาโอกาสไปดูรอบสองให้ได้

หนังโรแมนติคคอมิดี้หลายเรื่อง มีความพยายามทำตัวเองให้น่ารัก ด้วยการดึงพระเอกนางเอกเจ้าเสน่ห์มาประชันกัน คิดฉากเด็ดๆตั้งใจให้จี๊ดคนดูล่วงหน้าจนบางทีเหมือนกับว่า คิดฉากได้ก่อนคิดพล็อตเสียด้วยซ้ำ กระบวนการต่อไปก็สรรหาเพลงเพราะๆที่มั่นใจว่าติดหู

สูตรสำเร็จรูปแบบนี้เป็น ความพยายามของหนังหลายเรื่องที่ผลลัพธ์สุดท้ายกลายเป็นความสูญเปล่า เมื่อ ผลรวมออกมาเกิดปัญหาเช่น นักแสดงนำเคมีไม่เข้ากัน , บทกระท่อนกระแท่น, มุกแป้ก หรือ อารมณ์ของหนังทั้งเรื่องชวนหาวหวอด ถึงจะมีของดีเป็นฉากเด็ดที่เตรียมไว้ก็ไร้ผลโดยสิ้นเชิง

ตัวอย่างหนังที่เข้ากับนิยามข้างต้น ไม่ต้องมองไปอื่นไกล Two Weeks Notice งานชิ้นก่อนหน้าของ ผู้กำกับ มาร์ค ลอเรนซ์ เป็นเช่นนั้นแทบทุกประการ แต่บางคนสามารถเรียนรู้ความผิดพลาดและสร้างผลงานที่ดีขึ้นได้เรื่อยๆ และเขาเองก็เป็นคนหนึ่งในนั้น จึงทำให้ Music and Lyrics ออกมาดีกว่าที่ผมคาดหวังไว้เยอะมาก

...หนังเรื่องนี้บอกคนดูไว้ว่า เวลาฟังเพลง เสียงดนตรีหรือท่วงทำนอง จะดึงดูดให้เราสนใจเข้าหา แต่หลังจากฟังไปซักพัก เราจะชอบหรือจะรักหรือไม่ เนื้อเพลง คือตัวตัดสิน เช่นเดียวกับความรัก ที่แรงดึงดูดภายนอกที่มีต่อกัน หรือ แม้กระทั่ง เซ็กส์ ก็เหมือนกับท่วงทำนองดนตรีที่นำพาคนสองคนเข้ามาจับคู่กัน แต่ การจะรักหรืออยู่กับใครยั่งยืนหรือไม่นั้น แค่ ท่วงทำนองคงไม่พอ

เราจำเป็นต้องศึกษาและรู้จัก ตัวตนของอีกฝ่าย ซึ่งก็เหมือนกับ เนื้อเพลง ที่จะบอกว่า เพลงๆนั้นเป็นเช่นไร คนๆนั้นเป็นอย่างไร

...หาก การได้มาพบกัน อเล็กซ์ เฟลทเชอร์ ของ โซฟี ฟิชเชอร์ ความประทับใจในช่วงเวลาหลายวันของการแต่งเพลงร่วมกัน คือ ท่วงทำนองของความรัก( Melody)

การที่ โซฟี ตัดสินใจซื้อซีดีโซโล่อัลบั้มแผ่นค้างสต็อกของ อเล็กซ์ ที่เสียงวิจารณ์ว่ากันว่า ไม่เหมาะแม้จะเปิดคลอขณะทำฟัน มาฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เริ่มเอาใจใส่ในตัวเขา ในฉากเดียวกัน เราก็จะเห็น อเลกซ์ ซื้อหนังสือเจ้าปัญหามานั่งอ่านและเป็นกำลังใจคอยปกป้องโซฟี ก็คือ ช่วงเวลาที่พวกเขาเริ่มต้นศึกษาเนื้อเพลงความรัก(Lyric)ของกันและกันแล้ว

เพราะ ซีดีของอเล็กซ์ และ หนังสือเรื่องราวชีวิตของโซฟี คือ ตัวแทนอดีตที่คุมพื้นที่ชีวิตในปัจจุบันของทั้งคู่

คนสองคน ต่างจมอยู่กับ อดีต ที่ไม่น่าจดจำ



คนหนึ่งใช้ชีวิตติดอยู่กับอดีตอันสวยหรูที่ผ่านพ้นไปแล้ว

คนหนึ่งให้ชีวิตถูกหลอกหลอนจากความล้มเหลวในความสัมพันธ์



และ อดีตก็มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบันของคนทั้งสองเหลือเกิน


อเล็กซ์ เฟลชเชอร์ อดีตศิลปินวง Pop วงดนตรีบอยแบนด์ในยุคเรืองโรจน์ช่วงปี 80 หลังจากร่วงตกกระป๋อง ต้องมาใช้ชีวิตอาศัยร่มเงาของอดีต ดูได้จาก การเลือกอยู่กับการร้องเพลงเก่าๆ กับ แฟนกลุ่มเดิมๆ ใน สถานที่เดิมๆ มาตลอด สิบปี เขาจมอยู่กับอดีตเพราะคิดว่าตัวเอง ไม่มีโอกาสที่จะสร้างสิ่งที่ดีกว่าได้ เขาอยู่อย่างไร้ความมั่นใจ ไร้แรงบันดาลใจให้กับชีวิต เพราะ ความสูญสิ้นความมั่นใจจากความล้มเหลว เขาจึงต้องใช้ชีวิตอย่าง play safe เช่น ยอมประนีประนอมเพียงเพื่อให้เพลงขายได้ หรือ แต่งเพลงโดยมุ่งหวังยอดขาย

โซฟี ฟิชเชอร์ น้องสาวเจ้าของกิจการลดน้ำหนัก ต้องคอยหวาดผวาจากฝันร้ายที่คอยหลอกหลอนเธอไม่ได้ผุดได้เกิด จาก ความสัมพันธ์ของเธอ และ สโลน ครูวิชาวรรณกรรมที่หลอกให้เธอตกหลุมรักโดยไม่เคยปริปากถึงคู่หมั้นของตัวเอง ก่อนจะเอาชีวิตเธอไปยำเป็นตัวละครร้ายๆในนิยายเรื่องใหม่ เธอต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆเมื่อพบกับหนังสือที่เอาชีวิตเธอไปเขียน และ มันกำลังจะเป็นหายนะ เมื่อหนังสือเล่มนั้นกำลังจะสร้างเป็นหนังให้คนหลายล้านคนดู

...ทั้งสองคนมาพบกัน จาก พรสวรรค์ที่ซุกซ่อนของโซฟี และ ชีวิตที่ถึงจุดพลิกผันของอเล็กซ์ นำพาให้เขาและเธอได้มีโอกาสแต่งเพลงร่วมกัน เพลงที่จะสร้างโอกาสเกิดใหม่อีกครั้งของอเล็กซ์ เพลงที่ทำให้โซฟีได้กลับมาตระหนักถึงคุณค่าภายในของตัวเอง



...ความงดงามจากความศรัทธาที่มีต่อกันที่เราจะเห็นโซฟี มีต่อ อเล็กซ์ แจ่มชัดในฉากร้องเพลงในสวนสนุกซึ่งสามารถสร้างความมั่นใจให้เขาขึ้นเวที เช่น เดียวกับการที่อเล็กซ์ เชื่อมั่นในพรสวรรค์ของโซฟี และ คอยต่อสู้ให้เธอในฉากร้านอาหาร ทำให้ ผลลัพธ์สุดท้าย ไม่ใช่แค่บทเพลงที่งดงาม แต่ยังก่อให้เกิด ความผูกพันที่รอนด้า บอกกับน้องสาวไว้ว่า บางครั้งแค่มองตากัน แค่เพียงสัมผัส ก็รู้ได้ว่า ความรัก บังเกิดขึ้นแล้ว



แล้วในที่สุด เพลงของ อเล็กซ์กับโซฟี ก็บรรลุสิ้นสุดลง เพลงที่เขาและเธอใช้เวลาชีวิตร่วมกัน เพลงที่สร้างขึ้นมาจากแรงบันดาลใจ แต่งขึ้นมาจากความรู้สึกของแต่ละฝ่าย และ ความรู้สึกที่มีต่อกัน



แล้วในที่สุด เพลงของ อเล็กซ์ ก็ได้เกิดขึ้น เพลงที่เขามองหามาตลอดสิบปี เพลงที่เขาแต่งด้วยหัวใจมิได้หวังยอดขายหรือการออกอัลบั้ม เพลงที่ร่วมแต่งขึ้นมาภายใต้ความรักความศรัทธาของใครอีกคน ซึ่งไม่เคยสงสัยและสูญสิ้นความเชื่อมั่นในตัวเขา

แล้วในที่สุด ความรักของคนสองคน ก็ชักชวนกันนำพาให้ทั้งเขาและเธอออกมาจากอดีตอันมืดมน

กับสองเพลงที่มีความหมายเป็นอย่างยิ่ง Way Back Into Love และ Don’t write me off



I've been living with a shadow overhead
I've been sleeping with a cloud above my bed
I've been lonely for so long
Trapped in the past, I just can't seem to move on

I've been hiding all my hopes and dreams away
Just in case I ever need em again someday
I've been setting aside time
To clear a little space in the corners of my mind

สำหรับบางคน เช่น อเล็กซ์ , โซฟี และ อีกหลายๆคน ไม่ได้อยากที่จะใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของอดีต เพราะมันทำให้เหมือนติดอยู่ในกับดัก ติดอยู่กับอดีตที่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้เลย แต่ บางครั้งเงาอดีตนั้นมันก็ยิ่งใหญ่จนไม่สามารถที่จะเดินออกมาสู่แสงสว่างของปัจจุบัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการแค่ใครสักคนมาบอกว่า “เดินออกมา”


All I want to do is find a way back into love
I can't make it through without a way back into love
And if I open my heart to you
I'm hoping you'll show me what to do
And if you help me to start again
You know that I'll be there for you in the end

สำหรับบางคน เฝ้ารอคอยหาถนนที่จะพากลับไปพบความรักอีกครั้ง เฝ้ารอใครสักคนที่จะร่วมเดินทางบนถนนสายนั้น ได้แต่หวังว่าจะมีเธอคนนั้นมาช่วยเหลือให้ได้เริ่มต้นการเดินทาง และ เธอจะร่วมทางไปด้วยกันจนถึงปลายทางของถนนเส้นนั้น

Since I met you my whole life has changed
It’s not just my furniture you’ve rearranged
I was living in the past but somehow you’ve brought me back
And I haven’t felt like this since before Frankie said relax

สำหรับอเล็กซ์ เมื่อโซฟี ก้าวเข้ามา เธอเปรียบเสมือนแสงส่องสว่างให้กับชีวิตที่มืดมนจากเงาของอดีตที่ครอบคลุม เธอเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งในชีวิต ไม่ใช่ แค่เสื้อผ้าข้าวของภายนอก แต่ เธอยังมาช่วยฉุดให้พ้นจากอดีตขึ้นมาพบกับปัจจุบัน ทำให้ผ่อนคลายและมีความสุขอีกครั้งหลังจากห่างหายความรู้สึกนี้ไปนานเหลือเกิน

For years I’ve been telling myself the same old story
That I’m happy to live of my so-called former glories
But you’ve given me a reason to take another chance
Now I need you despite the fact you’ve killed all my plants


เธอทำให้ได้รู้ว่า อดีตที่เคยคิดว่าดีอยู่แล้ว ปัจจุบันที่จมอยู่กับอดีตที่เคยคิดว่าดีนั้น มันไม่ใช่เลย

And though I know I’ve already blown more chances
That anyone should ever get
All I’m asking you is don’t write me off just yet
Don’t write me off just yet


และในตอนนี้ ฉันก็ได้รู้แล้วว่า เธอเองมีค่ามากแค่ไหน เธอทำให้ชีวิตฉันดีขึ้นอย่างไร และ ฉันเองทำลายโอกาสที่เธอหยิบยื่นให้กี่ครั้งกี่หนแล้ว สิ่งเดียวที่ฉันขอร้องในตอนนี้ คือ อย่าจากฉันไปได้ไหม อย่าลบฉันไปจากชีวิตเธอได้ไหม


...ผมชอบที่หนังทำให้เราสัมผัสช่วงเวลาที่ตัวละครทั้งคู่ใช้ร่วมกันได้อย่างเข้าถึง จนทำให้เรารู้สึกเชื่อไปเลยว่า เพลง ที่ทั้งคู่แต่งขึ้นมาในหนังนั้น มาจาก ความรู้สึกขึ้นจริงๆ ซึ่งในชีวิตจริงทุกวันนี้ บทเพลงที่วางขายกันตามแผงไม่รู้จะมีเพลงที่แต่งจากใจแบบนี้กันซักกี่เพลง

“กระบวนการแต่งเพลง” ที่เกิดควบคู่ไปกับ “กระบวนการของความรัก” ของหนัง มันก็ช่างเข้ากับ การเปรียบเปรย “ความรัก” กับ “ดนตรีและเนื้อเพลง” ที่เกริ่นไว้ตอนต้นเป็นอย่างดี

....หลังจากซึมซับการยักย้ายส่ายสะโพกของ ฮิวจ์ แกรนท์ ในเรื่องนี้จบลง เราก็อาจจะคิดแว่บขึ้นมาว่า มันช่างคุ้นตาเหมือน เขากำลังเต้นต่อเนื่องออกมาจาก ฉากเต้นของตัวเขาเองใน Love actually ฮิวจ์ ก็ยังคงเป็น ฮิวจ์ ที่คงบุคลิกตัวเองไว้ในหนังทุกเรื่อง กับ สีหน้าครุ่นคิด และ ตลกหน้าตาย ลักษณะผู้ชายที่ดูขี้กังวลและเอาแต่ใจตัวเองบวกไม่เคยรู้ตัวว่ามีปัญหา ในเรื่องนี้ ดูจะใกล้เคียงกับตัวเขาจาก About a boy มากที่สุด ซึ่งก็เป็น สองบทของ ฮิวจ์ แกรนท์ ที่ตัวผมเองชอบมากกว่าบทนุ่มอ่อนไหวสะท้านใจสาวแบบใน Notting hill (เหะๆเพราะนิสัยไม่ดีจากหนังทั้งสองเรื่องเหมือนกับตัวเอง แต่ดันไม่ได้รับความหล่อมาด้วย)

ดรู แบรี่มอร์ มาประกบคู่กับ ฮิวจ์ ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ บุคลิกท่าทีของเธอที่ถูกสร้างขึ้นมา ความกังวลตอนกดปากกา ความไม่มั่นใจ หรือ ความวิตกจริตทั้งหลายแหล่ ทำให้เธอดูน่ารักเป็นคนธรรมดาๆที่น่าคบหาน่าทำความรู้จัก ตอนเห็นโปสเตอร์ยังคิดภาพไม่ออกว่าทั้งคู่จะจับคู่กันออกมาอีท่าไหน แต่ ปรากฎว่า เคมีของทั้งสองคนเข้ากันได้อย่างลงตัวเป็นที่สุด

ความมีเสน่ห์ของทั้งสองคน คือ สิ่งที่หนังต้องการขาย และ มันก็ขายได้สมฝีมือ เพราะ ไม่ใช่แค่การปล่อยมุกตลกเท่านั้น ทั้งคู่ยังถ่ายทอดฝีมือการแสดงที่คนดูอาจไม่ทันสังเกตเห็น เช่น แววตาที่เชื่อมั่นศรัทธาของดรูในหลายต่อหลายฉากที่มีให้กับ ฮิวจ์ หรือ ท่าทางมาดมั่นในตัวเองสลับไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ก็รู้สึกดีและมีความสุขยามอยู่กับ ดรู ของฮิวจ์ แกรนต์

หนังไม่ได้ให้ความสำคัญแค่นักแสดงนำ แต่ หนังยังนำเสนอขายเสน่ห์ของเหล่านักแสดงสมทบในเรื่องด้วย และ นี่คือจุดดีที่เราจะพบได้ในหนังรักโรแมนติกคอมิดี้ ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น Notting hill หรือ Love actually ฯลฯ ทั้งหลายล้วนให้ความสำคัญกับ นักแสดงสมทบ ที่ไม่ได้โผล่มาแค่เติมเต็มเนื้อเรื่องให้ครบเวลา




เราจึงพบว่า โคร่า นักร้องสาว ผลิตผลของบริทนีย์ สเปียร์ สาวหน้าใสฝักใฝ่ธรรมะจนน่าเป็นห่วงศาสนา หรือ ผู้จัดการส่วนตัวของ อเล็กซ์ ที่ดูอบอุ่นจริงใจซื่อสัตย์เคียงข้างเขาตลอดเวลา หรือ รอนด้า ศรีภรรยาผ.บ.ประจำบ้านผู้คลั่งไคล้ในตัวอเล็กซ์ พวกเขาและเธอล้วนมีคุณค่าน่าจดจำ ทำให้เราลืมไม่ลงเช่นเดียวกับพระเอกนางเอก

...หนังเรียกรอยยิ้มจากคนดูได้ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องด้วยการล้อเลียนยุค 80 จาก มิวสิควิดีโอ ประเภท สะบัดสะโพก ยืนซ้อนกันแล้วโผล่หัวมาร้องเพลงแล้วเก๊กหน้าหล่อ ยิ่งถ้าใครเติบโตมาในยุคนั้นเห็นฮิวจ์ แกรนท์คงต้องอดอมยิ้มไปด้วยไม่ได้ ตลอดทั้งเรื่องก็จะตามหยอกเอินยุค 80 ไม่ว่าจะเป็น วง Wham ที่ถูกนำมาล้อเป็นวง Pop ตัวละครพระเอกที่ช่างคลับคล้ายคลับคลากับ george michael (ปกโซโล่อัลบั้มยังทำท่าเดียวกันอีกต่างหาก) หรือจะเป็น รายการ 'Battle of the '80s Has-Beens' (ที่ตอนเฉลยตลกชะมัดว่าจะให้มาชกมวย)



หลังจากนั้น เราก็จะพบว่า บทหนังยังแพรวพราวด้วยไดอะล็อกน่ารักๆสนุกสนานสำราญใจ เช่น เพลงนี้สำหรับคนร้อง , คนท้องจะรีบขึ้นแท็กซี่ ฯลฯ หรือโรแมนติกขำๆ กับ เสื้อผ้าหน้าผมอย่าง กางเกงรัดเป้าจนเลือดขึ้นไปถึงหัวใจ , การล้อเลียนตัวเองทำหน้า Pop face ก่อนขึ้นเวที หรือ ตลกน่ารักโดยอาศัยบุคลิกของตัวละคร เช่น รดน้ำต้นไม้พลาสติก , โปะน้ำแข็งผิดข้าง ฯลฯ

เรียกได้ว่า เราแทบจะต้องตามเก็บมุกที่หนังปล่อยออกมาแทบทุกห้านาที กับบทหนังรักโรแมนติกที่ถูกเขียนอย่างชาญฉลาดอีกเรื่องหนึ่ง

เพลงประกอบของหนัง เพราะมาก และ ทำให้ผมต้องทึ่งว่า “โอ้ ฮิวจ์แกรนท์ ก็ร้องเพลงเพราะไม่ใช่เล่นแฮะ” ไม่ใช่แค่ ความไพเราะ เพลงของหนังเรื่องนี้ยังถูกสร้างขึ้นมาเป็นเหมือนตัวละครหนึ่งในหนัง เป็น เหมือนกามเทพที่ทำให้ทั้งคู่มาพบกัน และ เป็นผู้นำพาพวกเขากลับมาเดินบนเส้นทางของความรัก เนื้อร้องของทุกๆเพลงไม่ว่าจะเป็น Don’t write me off หรือ Way Back Into Love นอกจากเขียนขึ้นมาได้หวานอย่างมีความหมาย ยังสอดคล้องกับ เรื่องราวในหนังอย่างลงตัว ชนิดที่ว่า ภาพและเพลงจะถูกจับคู่กันในหัวคนดู จนแม้ว่าจะเดินออกมาจากโรง เมื่อใดที่เราได้ยินเพลงจากหนังเรื่องนี้ ภาพในหนังจะผุดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

เพลงที่ผมชอบที่สุดในหนังคือ เพลงนี้ในหนังมาแบบถูกที่ถูกเวลา เนื้อเพลงเป็นเนื้อเพลงที่ถูกเขียนขึ้นมาอย่างชาญฉลาด เพราะเป็นการสรุปเหตุการณ์สำคัญและความรู้สึกพระเอก

... ด้วยองค์ประกอบทั้งหลายที่หนังมี ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้ หนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติกที่สุดของผมประจำปีโดยไม่มีข้อสงสัย และ เป็น หนังที่ "น่ารัก" ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา

สิ่งที่ชอบ

1ฮิวจ์ และ ดรู ... น่ารัก ลงตัว เสน่ห์ล้นพ้น ขำๆ รับส่งมุกกันดีเหลือเกิน

2.ทีมนักแสดงสมทบ ... เพ้อถึงโคร่า กับ ขำรอนด้า ไปได้อีกหลายวัน

3.บทหนัง ... ฉลาด ดูเหมือนจะตื้นเขินแต่ก็มีความลึกซึ้งซุกซ่อนอยู่แฝงไว้ทั้งในเนื้อหาและในตัวเพลง เต็มไปด้วยไหวพริบและมุกตลก ลงตัว อีกทั้ง การสร้างบุคลิกตัวละครในหนังเรื่องนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างชั้นดีของการสร้าง คาแรกเตอร์ให้คนดูตกหลุมรัก

4.มุกตลก ... ไม่ได้ทำให้เราหัวเราะร่า 555 แต่หนังทำให้เราต้องยิ้มอย่างไม่หยุดหย่อน จนเลือกไม่ได้ว่า มุกที่ดีที่สุดคืออะไร เพราะ มุกทั้งหลายในหนังล้วนเด็ดดวงแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น การรดน้ำต้นไม้ , การโปะน้ำแข็ง , ท่าเต้น , หรือ บทสนทนาหยิกๆกัดๆของ ฮิวจ์ แกรนต์ ทั้งหลายแหล่

5.เพลงประกอบ ... แน่นอนเพลงที่สร้างความประทับใจคือเพลงเอกของหนังอย่าง Way Back Into Love แต่ผมเองนั้น อินน้ำตาซึมเป็นอย่างยิ่งกับ Don’t write me off ที่เนื้อหาของเพลงทั้งซึ้งก็ยังอุตส่าห์ขำ + ท่วงทำนองของเพลง + จังหวะนำเสนอของเพลง ล้วนเป็น ช่วงเวลาที่งดงามและน่าจดจำ

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.คนแปลซับไตเติ้ลหนังเรื่องนี้ ... ที่แย่ที่สุดคือ การไม่ยอมแปลบทสรุปของเหล่าตัวละครในฉาก End titles ส่วนผลงานที่แปลออกมาแล้วนั้น ก็น่าผิดหวังเล็กๆ หนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยมุกตลกจากบทสนทนา แต่ คนแปล ยังถ่ายทอดต้นฉบับมาเป็นไทยไม่ดี เรียกว่า หลายมุกแปลออกมาแล้วแป้ก หลายตอนแปลออกมาไม่ซึ้งเท่าตัวละครพูด

สรุป ... หนังน่ารักมากกกกก หนังสนุกมาก หนังเรียกรอยยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง ผมไม่ลังเลใจที่จะชักชวนใครต่อใครให้ไปดู เพราะหนังเรื่องนี้ก็มีความสามารถเหมือนกับเพลงที่พระเอกบอกนางเอกว่า การฟังเพลงดีๆสามารถทำให้คนมีความสุขได้เร็วยิ่งกว่าสื่อใดๆ หนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราเดินออกมาจากโรงอย่างมีความสุขได้แค่ภายในสองชั่วโมงที่นั่งชม และ แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้จะต้องติด 1 ใน10 หนังที่ผมชอบของปีนี้ และ เป็นเรื่องแรกของปีนี้ที่ผมไปดูรอบสองในโรงมาเรียบร้อยแล้น

ป.ล. อย่าพลาด บทสรุปที่คนแปลซับไตเติ้ลไม่ยอมทำงานแปลในตอน end credit ของหนัง และ ห้ามพลาด ซีดีซาวด์แทร็คของหนังเรื่องนี้ ที่เก็บเพลงจากหนังไว้อย่างครบครัน (และยังมีเพลงตอนซ้อมของคู่พระเอกนางเอกที่ใส่บทสนทนาน่ารักลงไปด้วย)

ป.ล. 2. โปรดสังเกตว่าบทความครั้งนี้เต็มไปด้วยคำว่า “น่ารัก” มากที่สุดเท่าที่เคยเขียนมา



ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว)
เดือนแห่งความรัก มอบ"หนังสือรัก"แด่คนที่คุณรัก ฮิ้ววว






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง






ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 15:40:45 น. 49 comments
Counter : 7016 Pageviews.

 
เป็น หน้าบล๊อกที่อ่านแล้ว ยิ้มแฉ่ง สดชื่น ค่ะ
เป็น หนึ่งคนรักหนัง รักหนังสือ แล้วก็ รักเพลง
แถม รักหนังชนิดบ้ามากๆ จะมีความสุขมากๆ ที่ได้ดู รอบแรกๆ ..
คงต้องรีบไปดู อ่านแล้วนับได้ว่า เจ้าของบล๊อก
คงรู้สึกว่า เป็น หนังที่น่ารักจริงๆ แหละ ค่ะ คำว่าน่ารัก เยอะมากๆๆ....ชอบทั้ง นักแสดงนำชายและ หญิง เลยด้วย ...หนังดีๆ ที่ทำให้ คนยิ้มน้อยๆ แถมมีความสุขกลับคืนหัวใจ ...

ขอบคุณค่ะ ต้องรีบไปดูแล้ว ...


โดย: ประกายดาว วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:46:40 น.  

 
หนังน่าดูทั้งนั้นเลยค่ะ


โดย: hayashimali วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:58:33 น.  

 
อยากดูเรื่องนี้มากอ่ะค่ะ... แต่ว่าคนบางคนอ้างว่าไม่ว่างตลอด... เซ็ง


โดย: Mocha Macchiato วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:07:54 น.  

 
อยากไปดูจังเลย แต่รอบฉายตอนนี้น้อย มีแต่รอบดึกๆอ่าค่ะ จะได้ไปดูไหมเนี่ย


โดย: ker IP: 203.152.15.3 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:19:33 น.  

 


โดย: Zantha วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:21:22 น.  

 
รีวิวซะอยากโดดงานไปดูวันนี้เลย


หวังว่าจะได้ดูค่ะ

เสียดายเรื่องคนแปลเลยนะนี่ (เมื่ออ่านที่บอกไว้) จริงๆ ซับไตเติ้ลสำคัญมากนะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนไม่เก่งภาษาต่างชาติอย่างเรา กร๊ากกกก)

ใครแปลอ้ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:26:14 น.  

 
ฟังเพลง Way Back into Love มาก่อนหน้านี้ในเวอร์ชั่นที่ ฮิวจ์ ร้องคู่กับคอร่า แบบว่า ฟังแล้วยิ้มแก้มปริ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ดูหนัง เพราะเพลงเนื้อหาดีมาก แถมจังหวะน่ารักสุดๆ ปลื้มครับปลื้ม ฟังทีไรยิ้มแป้นแล้นทุกที

ส่วนหนัง อยากดูมาก แต่ไปทีไร ไม่เคยทันได้ดูรอบที่เหมาะๆ ซะที พาลต้องไล่ไปดูเรื่องอื่นแทนเสมอ ยังไงจะไม่พลาดเด็ดขาดครับ


โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:27:03 น.  

 
+ เพิ่งไปดูมาสดๆ ร้อนๆ มะคืนนี้เองครับ ... หลังจากเพิ่งจะเคลียร์เวลาว่างตัวเองได้
+ สำหรับ ฮิวจ์ แกรนต์ ผมชอบเค้าจาก About a boy มากที่สุด เพราะดูมีมิติ มีความลึก ... ส่วนสาวดรู เรื่องที่ชอบเธอที่สุดก็คือ The wedding singer (แต่ช่วงหลังๆ เธอก็แทบจะมีคาแรคเตอร์คล้ายๆ แบบนี้ ในหนัง romantic-comedy ที่เธอแสดงไปแล้ว คือเอ๋อหน่อยๆ, กุ๊กกิ๊กน่ารัก, ดูมีเสน่ห์ อย่างเช่นใน 50 first dates ... และสำหรับเรื่องนี้เธอก็ทำได้ดีเช่นเคย) ... และตัวประกอบแต่ละคน โดยเฉพาะที่คุณ จขบ. ว่าไว้ ก็มีโมเมนต์โดดเด่นที่เป็นที่จดจำของตัวเองดีครับ (เจ๊รอนด้า ฮาโคตร ... ส่วนโคร่า ก็ เซะ ซะ )
+ ฉากเปิดเรื่อง และ ฉากปิดเรื่อง ทำได้น่าประทับใจครับ ช่วง end credit แล้วบอกว่าใครไปทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้าง ตอนแรกผมก็ไม่ทันได้อ่านเหมือนกัน แต่พอดูไปสักแป๊บก็เอ๊ะ ... มันต้องอ่านเอานี่นา ... เลยอ่านทันแค่ช่วงกลางๆ ถึงหลังๆ ... เสียดายแฮะ
+ ถึงแม้พล็อตเหมือนจะไม่มีอะไรใหม่ ... แต่ผมชอบเคมีที่ลงตัวระหว่างพระเอกกับนางเอก ... และความไม่ล้น ไม่มากไปหรือน้อยไปของอารมณ์หนังและมุกที่ใส่เข้ามา (อย่าง Nothing Hill กับ Love actually ... ผมไม่ถึงกับชอบมาก เพราะดูมันล้นไปนิด)
+ 2 เพลงเอกที่คุณ จขบ. ชอบ ... ผมก็ชอบเช่นกันครับ ... เพลง Way Back Into Love เพราะมั่กๆ (ไม่ใช่เวอร์ชันแปลงของโคร่านะ อิๆ) ... ส่วน Don’t write me off ก็ทั้งซึ้งทั้งฮา แถมยังหยิบเอาช่วงที่พระเอกกับนางเอกแต่งเพลงร่วมกัน มาใส่ในเนื้อร้องได้อย่างลงตัวอีกต่างหาก


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:36:21 น.  

 
ไปดูเพราะเพื่อนให้ชดใช้ที่เราลากไปดูหนังหนัก ไปดูเพราะคิดง่ายๆ ดีเหมือนกันมีหนังกุ๊กกิ๊กมาเปลี่ยนอารมณ์บ้าง
...ดูแล้ว...แอบซึ้งน้ำตาซึม...ตกหลุมความน่ารัก สม!
เมื่อวานเพื่อนชวนคนอื่นไปดูอีก หันมาถามเรา แกจะไปป่ะ แต่แกยุ่งขนาดนี้แล้วก็....."ไปไป ดูจิดูอิก" เรารีบตอบ อิอิ


โดย: bua ja IP: 202.6.107.60 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:14:59 น.  

 
เห็นมีฉากนึงเป็นฉากคอนเสิร์ตอ่ะ บนเวทีด้านหลังเซทเป็นองค์พระพุทธอ่ะ มันดูไม่ค่อยเหมาะนะ คือยังไม่ได้ไปดูหรอกเห็นตัวอย่างหนังอ่ะ ปกติชอบดรูว์ แบรี่มอร์นะ แต่พอเห็นฉากนี้แล้วความอยากดูมันหายไปเลยอ่ะ คนที่ไปดูมาแล้วมีความเห็นกับฉากนี้ยังไงบ้าง


โดย: พลอย IP: 203.144.212.89 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:11:45:27 น.  

 
ตั้งใจจะไปดูเหมือนกันค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:21:31 น.  

 
เห็นด้วยทุกประการค่ะ หนังน่ารักมากๆๆๆๆ น่ารักสุดๆในรอบหลายปีจริงๆ น่ารักแบบไม่เสแสร้ง ดูเสร็จเดินออกจากโรงเพลงติดในหัวมาเลย แถมยังเดินยิ้มออกมาได้อีก ฮิวท์ แกรนท์ เล่นได้น่ารัก ตลก ดูเป็นอเล็กซ์ จริงๆ ส่วนดรู ก็เข้ากันได้ดี เชียร์สุดๆ เรื่องนี้


โดย: รัตน์ IP: 203.144.212.229 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:07:05 น.  

 
ด้านหลังฉาก concert เบลอตลอดเลย สงสัยตลอดเวลาว่าเขาปิดอะไร ที่แท้คงเป็นภาพพระพุทธรูปนี่เอง ดูแล้วก็ยิ้ม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตลอดเรื่อง ความรักที่น่ารัก แม้ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริง แต่ทำให้เรามีความสุขที่ได้ดู


โดย: happyann IP: 203.151.46.130 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:13:37 น.  

 
ไปดูมาแล้วค่ะ ชอบมาก ชอบทุกเพลงในหนัง
และ ฮิวจ์ แกรนท์ เสียงเพราะมาก
เขาเกิดมาเพื่อบทแบบนี้จริงๆ


โดย: พี่อิงค์ ปรนัย IP: 58.136.52.53 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:28:06 น.  

 
เเงๆๆๆๆ อยู่โคราช อดอีกเเล้ว


โดย: bigwores วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:35:12 น.  

 
อยากดูมากๆ ไม่ได้ดูหนังแบบนี้มาเกือบ 3 ปีแล้ว คลื่น 99.5 ก็เปิดเพลงกรอกหูทุกวันเลย


โดย: merveillesxx วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:17:09 น.  

 
ดูไป 3 รอบแล้วค่ะ
เป็นหนังรักที่นานๆ จะเห็นทีค่ะ เรียกว่าตอนนี้เรื่องนี้ถูกบรรจุไว้ในใจเคียงคู่กับ 50 Fiset Dates แล้ว (ทำไมมีแต่หนังที่ดรูเล่นเนี่ย...)
ในหัวมีแต่ All I wanna do is find a way back into love
เห็นด้วยมากเลยค่ะที่คนแปลซับเรื่องนี้ยังไม่โดนนัก มีกลุ่มเด็กผู้ชายนั่งข้างๆ เนี่ยนิ่งเชียว เราเนี่ยนั่งอมยิ้มตลอด


โดย: Vicky IP: 58.9.84.70 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:07:49 น.  

 
โอ้โห...พี่เขียนซะอยากดูขึ้นมาเลยค่ะ จากที่คิดว่าคงจะไม่ได้ดู ก็เริ่มอยากดูขึ้นมาแล้วสิ (แต่ผู้กำกับ two weeks notice หรือคะ ไม่ชอบเรื่องนั้นง่ะ)

กำลังลังเลระหว่างเรื่องนี้กับ volver ค่ะ.....แหะๆ เลือกให้หน่อยสิคะ


โดย: azzurrini IP: 202.28.181.9 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:56:05 น.  

 
ชอบดรู เรื่องนี้เราว่าสวยกว่าทุกเรื่องเลย มุขนี่เราโดนนะตลกแบบยิ้มๆแต่ตอนบอกว่าต้องไปชกมวยนี่ขำกิ๊กเลยอ่ะ ซวยเล็กน้อยที่เด็กนักศึกษาที่นั่งข้างๆคุยงึมงำกันตลอดเวลา ย้ำว่าตลอดเวลาไม่เข้าใจว่ามีเรื่องคุยกันมากขนาดนี้เสียเวินเข้ามาดูทำไม ดูจบโดนเปิดประตูไล่และไม่อยากเห็นหน้าไอ้เด็กไร้มารยาทเลยอดดู end credit เลย


โดย: vertical limit IP: 58.8.11.198 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:04:27 น.  

 
เปิดโมเด็มคู่โลกเข้ามาเพราะต้องส่งงานภายในวันที่ 27 เกือบตายเพราะมันช้าาาาาาา ...ข้ามวัน

กลับมาอ่านอีกรอบ Music and Lyrics โอ๊ว! แฟนตรึม แต่อย่าลังเลเลยนะ! ...หาเวลาไปทำให้หัวใจตัวเองและคนข้างๆ ...ฟู ...เต็ม และกลายเป็นสีชมพูกันเหอะ ...อุย เหมือนขนมถ้วยฟูยังไงไม่รุ

อ่านอีกรอบ ก้อยังนึกถึงได้ทุกฉาก น่ารักจนแก้มอุ่นเลยอ่ะ ...เคยมะ ต้องลองไปดูนะ


โดย: bua ja IP: 202.47.238.220 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:52:30 น.  

 
ร่วมด้วยช่วยยืนยัน ไม่ให้ลังเล...
หนังน่ารักมากๆครับ อาจไม่ถึงกับโดนใจผมอย่างจัง แบบ Love Actually กับ The Holiday
แต่คุ้มค่าตั๋วคนปลาบปลื้มหนังรัก-ตลกแน่นอน

พี่ฮิวจ์ + ดรูว์ เป็นคู่เคมีที่เข้ากันพอดี๊พอดี...น่ารัก
บทหนังมีเรื่องยิบย่อยเยอะแยะแต่ไม่ล้นเกินพอดี...ไดอะล็อกน่ารัก
เพลงเพราะ ความหมายดี และตลก(ผมชอบเพลงรู้ซึ้งรสพระธรรมของโคร่า...มันดูผิดๆ แต่ก็ฮาๆขำๆดี) ...คนร้อง คนแต่งน่ารัก

น่ารัก แค่นี้ก็พอ...ขอชวนให้คนอื่นไปน่ารักกันต่อด้วยตาตัวเองแล้วกัน


โดย: OncE UPoN'-'a MaN วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:49:50 น.  

 
เข้ามาอ่าน Pursuit of Happiness สนใจแต่ยังไม่ได้ดูค่ะ อิอิ มาขอเม้นท์หน้านี้แทน เพราะได้ดู Music and Lyrics แล้ว เรื่องนี้น่ารักจริง ๆ อย่างที่ว่าค่ะ ดูไปยิ้มไป เพื่อนหลายคนบอกว่าไม่ชอบ ผิดกับตัวเองที่ดูแล้วประทับใจเลยค่ะ ตอนดูพยายามไม่อ่าน Sub นะ แต่ทำได้เป็นพัก ๆ (เล็ก ๆ) เพราะไม่เก่งภาษาอังกฤษ ก็เหลือบดูบ่อย แต่ไม่ได้ทำให้อ่าน Sub หมดสนุก เพราะสิ่งที่ทำให้สนุกอยู่ที่นักแสดงค่ะ เล่นได้น่ารักจริง ๆ

ปล.ชอบเพลงประกอบเหมือนกัน ดูหนังจบก็กลับมาหาเพลง ชอบเสียงคอร่า เสียงเธอใสดี


โดย: ZAZaSassY วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:17:41:52 น.  

 
สนุกอ่ะค่ะ ไปดูมาแล้วแต่เนื่องจากอ่านรีวิว ีรวมทั้งเสียงวิจารณ์ของคนรอบข้างเยอะไปหน่อยเลย
...
...

...



ผิดหวังนิดนึงค่ะ
นึกว่าจะดีกว่านี้ ค่ะ


โดย: vodca วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:9:11:03 น.  

 
ไปดูมาแล้ว น้ำตาไหลด้วย ตอนที่นางเอกเดินหันหลังกลับ แต่ฮิวจ์ร้องเพลงที่แต่งเอง โอ๊ย หักมุมสิ้นดี แต่ก็น่ารักมาก ๆ


โดย: nid IP: 125.25.64.27 วันที่: 22 มีนาคม 2550 เวลา:17:05:55 น.  

 
ดูสองรอบคะ ทำให้อมยิ้ม มีความสุข(แม้จะดูคนเดียว) ..... ขอบคุณเจ้าของบอร์ดด้วยคะ พี่ที่น่ารักคนนึงส่ง link มาให้ คงอ่านทุกวันเพราะชอบดูหนังแล้วก็เก็บแง่คิดในหนังมาใช้กับตัวเองคะ


โดย: Aommy IP: 203.146.63.182 วันที่: 28 มีนาคม 2550 เวลา:20:41:21 น.  

 
หนังดูสนุก และอบอวลไปด้วยความสุข เป็นหนังอีกเรื่องที่อยู่ในใจตอนนี้ ขอเพิ่มคำว่า "น่ารัก" อีกหนึ่งคำค่ะ


โดย: Shaula IP: 58.8.155.188 วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:9:52:40 น.  

 
I dont' know why but most of romantic-comedy of Drew got to have the actor singing for her near the end.

I like this movie krub. Got the soundtrack already also :)


โดย: ThirskUK IP: 203.120.162.66 วันที่: 10 เมษายน 2550 เวลา:13:38:13 น.  

 
Very good


โดย: Wasukii IP: 58.8.46.112 วันที่: 29 เมษายน 2550 เวลา:18:51:18 น.  

 
thanks a lot for the good movies u have introduced, not only this one but also another. I read your comment before and after the movie and that makes me happy with it. So, thanks.


โดย: gig IP: 203.113.35.7 วันที่: 9 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:47:43 น.  

 
ไปดูมาแล้วเช่นกันค่ะ(แต่เพิ่งเข้ามาอ่าน)เป็นหนังรักที่ดีมากๆๆๆๆอีกเรื่องหนึ่งเลยเราชอบมากจนตอนนี้ร้องเพลงway back into loveจบเพลงโดยไม่ต้องดูเนื้อได้เลยค่ะหนุกมากกกก


โดย: Steeveeyui IP: 124.120.9.210 วันที่: 25 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:18:17 น.  

 
เชียร์อย่างแรงสูง ชอบมากๆครับ


โดย: Maguz IP: 58.8.123.152 วันที่: 30 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:54:16 น.  

 
ไม่เคยดูสักที แต่อ่านจากรีวิวแล้วเห็นทีต้องไปร้านวีดีโอเร็วๆนี้ล่ะค่ะ


โดย: Hi IP: 203.155.120.58 วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:25:07 น.  

 
อ่านแล้วรู้สึกอยากดูมากๆครับ
จากทุนเดิมที่อยากดูอยู่แล้วยิ่งอยากดูมากถึงมากที่สุด
แต่แม่ผมบอกว่ามันยังไม่ออกเป็นซีดีอ้ะ T^T หรือออกแล้ว ต้องรีบไปร้านเช่าแล้วสิ ;P


โดย: Juz!~ IP: 125.26.78.3 วันที่: 31 พฤษภาคม 2550 เวลา:23:39:58 น.  

 
end credit ว่ายังไงหรืิอครับ spoil ให้หน่อย ไม่ทันได้ดูครับ


โดย: catsteven IP: 124.120.154.109 วันที่: 1 มิถุนายน 2550 เวลา:0:59:11 น.  

 
อ่านแล้วเกิดอาการอยากดูมากๆค่ะ


โดย: s.o.s วันที่: 7 มิถุนายน 2550 เวลา:15:35:12 น.  

 
เพิ่งได้ดูดีวีดีเรื่องนี้เมื่อเดือนก่อนเองค่ะ
เพราะว่าหนังมันออกไรงไปก่อน

น่ารัก น่ารัก และ น่ารัก
ดูจบ อมยิ้มไปเป็นวันๆเลยค่ะ


โดย: other places IP: 128.172.67.86 วันที่: 8 มิถุนายน 2550 เวลา:0:23:11 น.  

 
บอกได้คำเดียวว่า สุดยอดแห่งหนังโรแมนติคคอมมิดี้เลย เพลงเพราะมาก จะเก็บไว้เป็นรายชื่อหนังในดวงใจเลยค่ะ


โดย: หนูดี IP: 117.47.8.142 วันที่: 30 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:22:45 น.  

 
ชอบฮิวแกรนท์ ค่ะ ดูทุกเรื่อง ชอบดรู ด้วย เรื่องนี้ดูแล้วน่ารักทั้งสองคน แต่พอมาคู่กัน ไม่รู้สึกว่าทั้งสองคนรักกันน่ะค่ะ

รอนด้า เหมือนจะเก๊กใส่กล้องตลอดเวลา ค่ะ เลยไม่อินกับการแสดงของเธอเท่าไหร่

อีกความเห็นนึงค่ะ ^__^


โดย: มะเขือเทศน้อย IP: 213.42.21.150 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:12:56 น.  

 
อ่า... นี่คงเป็นหนังแนวเดียวที่เราเห็นไม่ตรงกับคุณแน่ๆ เลย
จริงๆ love actually ก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ ดูแล้วรู้สึกเหมือนกำลังอ่านนิยายรักหวานใสในเน็ต

เอาเป็นว่า ชอบเพลงในหนัง และรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าฮิวจ์แกรนท์หล่อ ล่ะกันค่ะ


โดย: The SoVo (http://kangalala.spaces.live.com/) IP: 122.26.192.237 วันที่: 16 สิงหาคม 2550 เวลา:11:37:32 น.  

 
เป็นหนังอีกเรื่องนึง ที่ดูแล้วก็ต้องมีรอยย้ิม ทุกครั้ง ชอบความมีเสน่ห์ ของทุกตัวละคร ดูแล้วไม่เบื่อจริงๆ


โดย: artnus IP: 124.157.247.106 วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:0:43:07 น.  

 
หนังเรื่องนี้ดูมาหลายรอบแล้วสนุกมากๆ
แล้วก็ต้องดูภาคซาวแทรกแล้วจะได้อารมณ์มากๆเลยค่ะ สำหรับใครที่ชอบหนังรักโรแมนติกอย่าพลาดเรื่องนี้นะค่ะ


โดย: cocomilk IP: 125.26.183.21 วันที่: 1 กันยายน 2550 เวลา:22:10:55 น.  

 
เราอยากรู้ว่าใครแปลซับอ่ะ ใครรู้บ้างอ่ะ ขอบคุณน่ะ


โดย: G IP: 202.41.167.244 วันที่: 9 กันยายน 2550 เวลา:19:01:07 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูล จริงๆแล้วไม่ค่อยสนใจหนังฝรั่งเท่าไหร่..แต่เพื่อนสนิทให้หาเพลงประกอบหนังเรื่องนี้ให้..ก็เลยมาหาข้อมูลของหนังดู...อืมม์ คิดไว้ในใจต้องไปหาดูให้ได้...และคงไปหาซื้อดีวีดีเก็บไว้..ของดีมีคุณค่าควรแก่การมีไว้ครับ...


โดย: nut IP: 58.64.55.188 วันที่: 21 กันยายน 2550 เวลา:12:09:52 น.  

 
รวมๆแล้วผมก็ชอบหนังเรื่องนี้นะ
บทสนทนาโดนๆที่ฟังแล้วอึ้งก็มีเยอะ
เช่นประโยคนี้ติดหูผมนานเลย "ทำนอง (music) เหมือนกับผู้หญิงหน้าตาดี แต่หลังจากนั้นเนื้อเพลง (lyric) เหมือนกับบุคคลิก และนิสัยของเจ้าหล่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะอยู่ไปนานกว่า" (ผมดูเสียงซาวน์ด์แทรกไม่รู้ว่าเขาแปลภาษาไทยในโรงว่ายังไงนะครับ)


ที่ผมไม่ชอบมากจนทำให้ดูแค่รอบเดียว
คือผมว่าเขาดึงรสนิยมทางศาสนาของคนอเมริกันเข้าไปโยงกับดนตรีปอปได้ยังไงกัน หลายประโยคสนทนาผมฟังว่ามันเสียดสีแบบไม่เหมาะสม โดยเฉพาะที่พาดพิงถึงองค์ดาไลลามะของธิเบตตอนท้ายๆของเรื่อง

แดนซ์เซอร์ของโคร่าที่ห่มผ้าเหมือนจีวรพระ
ออกมาเต้นแร้งเต้นกาหน้าพระพุทธรูป
ผมก็ว่ามันดูขัดๆจนไม่อยากดูต่อ

หรือผมอาจจะซีเรียสเรื่องศาสนามากไปหน่อย



โดย: หมู IP: 124.120.0.216 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:0:18:01 น.  

 
ชอบ


โดย: ร่า IP: 203.113.23.8 วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:14:19:38 น.  

 
น่าดูครับ


โดย: XXX IP: 203.155.74.131 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:14:30:27 น.  

 
เพิ่งจะดูจบครับ หนังดีมากกกก น่ารัก เพลงเพราะ


โดย: นายไข่ IP: 58.8.220.179 วันที่: 1 กรกฎาคม 2551 เวลา:1:03:17 น.  

 
เป็นหนังโปรเรื่องนึงเลยค่ะ อย่างแรกที่ชอบคือตัวละครโซฟีนะ เพราะSHE ดูเป็นธรรมชาติมาก
อาจจะเป็นคนที่ไม่ได้สังเกตว่าหนังเป็นอย่างไร แต่ก็ชอบฉากหลักๆเช่น เอล็กซ์ปกป้องโซฟีในร้านอาหาร หรือโซฟีให้กำลังใจเอล็กซ์ตอนที่ต้องร้องเพลงในสวนสนุก แต่ชอบฉากจบมาก ถ้าตัวเองเป็นโซฟีก็คงไม่คิดหรอกว่าเอล็กซ์จะร้องเพลงให้โซฟี โรแมนติดมาก


โดย: amikensai IP: 203.146.6.86 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:14:01:00 น.  

 
เพิ่งเจอเวปนี้ค่ะ..คำวิจารณ์น่าสนใจทีเดียว
เล่าเกี่ยวกับหนังได้อย่างน่าติดตาม..บทวิจารณ์มีเสน่ห์ ไม่ตัดสินว่าหนังดี หรือไม่ดี ผู้เขียนเพียงแต่บอกว่าชอบส่วนไหน ไม่ชอบส่วนไหน และบอกเหตุผลที่มาของความรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบนั้นๆ

..อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากกเหมือนกันนค่ะ
พออ่านบทความนี้จบ..ทำให้รู้สึกอยากดูอีกครั้งนึง
..และ เพลง Way Back Into Love ก็ติด TOP 5 ของเพลงโปรดในใจด้วยค่า



โดย: น้ำทิพย์ IP: 202.149.25.238 วันที่: 19 ธันวาคม 2551 เวลา:21:20:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.