www.facebook.com/ibehindyou

ทุก comment ที่คุณให้มา ทำให้เรารู้ว่า เราไม่ได้สนุกกับการเขียน blog แล้วอ่านอยู่คนเดียว

ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี



...ผมเองไม่ลังเลใจ ไม่คิดให้มากมายในการที่จะไปอุดหนุน ผีแม่ลูก ที่เทียวไลเทียวขื่อมาขอเงินคนดูปีเว้นปี ชนิดข้ามน้ำข้ามสมุทรขอเรี่ยไรตั้งแต่ญี่ปุ่นยันฮอลลีวูด จนเรียกได้ว่า แม่ลูกคู่นี้ ทำธุรกิจผีเป็นแฟรนไชส์ได้ไม่แพ้ ซาดาโกะจาก The ring เพราะ มีทั้ง หนังญี่ปุ่น หนังฮอลลีวูด หนังสือนิยาย และ มินิซีรี่ส์ และ ผมเองก็ติดตามมาตั้งแต่ต้น

คำแนะนำสำหรับ ใครที่คิดจะดู ผีแม่ลูกคู่นี้ ก็ต้องทำใจเตรียมไว้ได้เลย ว่าหนังไม่ได้มีเนื้อหาสาระอะไร ไม่ใช่หนังที่ดูเอาความ แต่ดูเอาสะดุ้งตกใจ พวกเขาเป็นเพียงแค่ ผีไร้จรรยาบรรณ หลอกกันแบบขาดสติ ทั้งคู่มีคอนเซ็ปท์เดียวคือ ใครเข้าบ้านฉัน มันตายหมด



ดังนั้นคนดูก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมเนื้อที่สมองมากนัก ตอนดูอาจจะงงเล็กน้อยตอนต้น แต่เดี๋ยวผีในหนังก็จะช่วยไล่หลอกจนตายไปทีละคนจนมาเฉลยความสัมพันธ์ในตอนจบให้เราเข้าใจ

คนดูแค่เตรียมใจไปสะดุ้งก็พอ แฟรนไชส์แม่ลูกคู่นี้ไม่มีความซับซ้อน มีแค่เดินหน้าฆ่าตัวละคร และ คนดูก็ไม่ต้องคาดหวัง ไม่ต้องลุ้นอะไรมากนัก เนื่องจากที่ผ่านๆมา ตัวละครทั้งหลายในหนังล้วนตายเรียบไม่มีชิ้นดี หรือจะมีใครรอด ก็รอไปตายต่อในภาคต่อไป อย่าไปคิดแก้อาถรรพณ์ใดๆให้เสียเวลา

...งานรีเมค The Grudge ภาคแรก จัดได้ว่าเป็นการรีเมคที่ดีพอใช้ ไม่ได้ดีเยี่ยมน่าชื่นชมขนาด The ring เพราะ หนังไม่ได้ทำอะไรมากแค่เปลี่ยนโลเคชั่น เปลี่ยนนักแสดง แต่ทุกอย่างยังคงกลิ่นอายของญี่ปุ่น เพียงแต่ใช้ทุนที่ทำให้โปรดักชั่นทั้งหลายดูดีขึ้น และ เรียบเรียงบทให้มีที่มาที่ไปดูรู้เรื่องมากขึ้น

ต่างจาก The Ring ที่สามารถเปลี่ยนกลิ่นอายความกลัวแบบยากิโซบะ ให้มาสยองแบบสปาเก็ตตี้ได้โดยยังคงธีมเดิมอย่างครบถ้วน

ข้อเสียที่ The grudge สลัดไม่หลุดและวนเวียนจำเจ อาจเป็นเพราะการตีความของผู้กำกับคนเดิม ไม่เหมือน The ring ที่ผู้กำกับต่างคนต่างสัญชาติมารื้อและใส่ความเป็นตัวของตัวเองเข้าไป

ในขณะที่ เด็กผี มีแต่ ป๋า ทาคาชิ ชิมิสึ ตามมาคุมและบริหารจัดการชนิดไม่ยอมปล่อยวาง เพราะป๋าแกเล่นเหมาเรียบแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ Ju-on ทั้งสองภาคจนถึง The Grudge ภาคสองนี้

...การที่ ป๋า ยังไม่สามารถปล่อยวาง เด็กผี ของตัวเองได้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าทำให้เด็กผีเล่นได้ไม่เข้าตา

คงยังจำกันได้ว่า ปีก่อน ป๋าและเด็กผีที่อยู่คนละทวีป คนละวงการ ก็เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน นั่นคือ ช่วงแรกของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เหล่าเด็กผี ของ ป๋าเฟอร์กี้ ทำแต้มหล่นเป็นว่าเล่น ตอนนั้นมีข้อสงสัยว่า การที่ป๋าเฟอร์กี้ต้องคุมทีมเดิมๆมาตลอดเป็นเหตุส่งผลให้ไฟมอดหรือไม่ เพราะทุกอย่างก็วนอยู่ในอ่างเดิมๆ

เช่นเดียวกัน ปัญหาของป๋าทาคาชิกับเด็กผี(แป้ง)ขาว คือ ผลงานของป๋าเริ่มถอยหลัง โดยที่ป๋าไม่สามารถหาความแตกต่างที่สร้างสรรค์ออกไปได้อีก และ การหลอกคนดูก็เหมือนกับการยิงประตู คือ ป๋าไม่สามารถทำให้เด็กผีของป๋ายิงประตูได้เฉียบคมเหมือนในภาคแรก ซึ่งนั่นเป็นปัญหาที่ป๋าทาคาชิ ต้องจัดการให้ได้หากคิดจะทำภาคต่อไป เพราะถ้าไม่ เชื่อได้ว่า เด็กผีอาจต้องตกชั้นหนังผีชั้นดีไปอยู่ดิวิชั่นสองอย่างแน่นอน

ยิ่งมาเจอผม ที่มีปัญหากับการหลอกของ เด็กผี ตั้งแต่เวอร์ชั่นญี่ปุ่นแล้ว Ju-on ทำให้ผมรู้สึกกลัวตกใจได้ก็เพราะผีแม่ แต่กับ ผีลูกที่นิยมโบ๊ะแป้งเกินขนาดพร้อมร้องเสียง แคว๊กๆ ไม่ชวนให้รู้สึกขนลุกแต่อย่างใด ผมไม่รู้สึกว่าผีผ้าห่ม หรือ เด็กผีที่มานั่งคุกเข่าใต้โต๊ะอาหารนี้มีความน่ากลัวแม้แต่น้อย ออกจะรำคาญเสียด้วยซ้ำ

แต่เมื่อภาคก่อนๆหนังไม่เจ๊ง ก็ทำให้ป๋ามั่นใจ ป๋าก็เลยพาเด็กผีมาวิ่งเล่นแบบนี้ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคปัจจุบัน จากเดิมที่น่ารำคาญมาถึงภาคนี้ที่ตัวหนังก็ขาดความสยองอยู่แล้ว เด็กผีจึงเหมือนเป็นส่วนที่ลดทอนความน่ากลัวของหนังสำหรับผมเสียด้วยซ้ำทุกครั้งที่เห็นเขาโผล่ออกมา

เนื้อเรื่องในหนังภาคนี้ผมสามารถเล่าจบได้ในไม่กี่ประโยคคือ “น้องสาวของนางเอกภาคก่อนมาหาพี่ที่ญี่ปุ่น เธอเข้าบ้าน ผีตามมาหลอก หนังจบ”

...แม้หนังตระกูล The Grudge จะเน้นแต่ผีหลอก แต่ภาคนี้หนังดูจะมีอะไรดีๆเล็กๆอยู่นั่นคือ การวางบุคลิกและปูมหลังตัวละครที่น่าสนใจ สองตัวละครหลักที่เป็นตัวดำเนินเรื่องล้วนเป็นผู้หญิงที่ถูกลืม



ออเบรย์ เป็น ลูกสาวที่ขาดการยอมรับจากแม่ แม่ไม่เคยมองเห็นเธออยู่ในสายตา สำหรับแม่ ลูกสาวที่ดีที่สุดมีเพียงคนเดียวคือ พี่สาวของออเบรย์ หนทางที่ออเบรย์จะได้รับการยอมรับ คือ การเดินทางไปรับพี่สาวที่ถูกอาถรรพณ์จากบ้านผีสิง

แอลลีสัน เป็น เด็กนักเรียนเชยๆที่อยู่ในโรงเรียนนานาชาติที่ขาดการยอมรับจากเพื่อนๆ การที่จะได้รับการยอมรับคือการเดินเข้าบ้านผีสิงตามที่เพื่อนชวน

แต่อย่าหวังว่าการวางคาแรกเตอร์ที่มีความลึกซึ้งนี้จะมีประโยชน์อะไรต่อการดำเนินเรื่อง เพราะหนังแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลยจากปมของตัวละคร ทั้งที่ปูไว้อย่างดีและมีท่าทีว่าจะเป็นประโยชน์ต่อเนื้อเรื่องมิใช่น้อย จนดูเหมือนว่าถ้าจะดัดแปลงให้หนังมีเรื่องราวที่ซับซ้อนลึกซึ้ง ป๋าทาคาชิอาจกลัวว่า แฟรนไชส์ The grudge& Ju-on จะเสียเอกลักษณ์ไป เพราะแฟรนไชส์นี้ให้ความสำคัญแค่ การหลอกคนดูเป็นหลัก the grudge ไม่ใช่หนังที่ดูเพื่อเน้นเอาใจความ แต่ดูเพื่อเน้นเอาตกใจ

...ข้อดีของภาคที่แล้วคือ การเรียบเรียงเนื้อหาให้เข้าใจง่ายขึ้นและมีที่มาที่ไป ฉากผีหลอกแม้จะด้อยกว่าเวอร์ชั่นญี่ปุ่นแต่ก็ไม่ห่างไกลกันมากนัก มาถึงภาคนี้ ผมกลับหาข้อดีกว่าเดิมไม่ได้แม้แต่ข้อเดียว บทของหนังในภาคนี้ที่ดูเหมือนจะพยายามใส่อะไรเข้าไป ก็ดันไปซ้ำรอยทางเดิมที่ The ring เคยทำมาแล้ว กับการเดินทางย้อนรอยอดีตเพื่อไปช่วยแก้ไขแค้นฝังใจผีในอดีตที่แถบชนบท

สำหรับแฟรนไชส์ เด็กผีและแม่ผีดุ เนื้อความที่กลวงโบ๋เป็นที่เข้าใจและยอมรับได้ แต่ปัญหาสาหัสที่เกิดขึ้นและยากจะยอมรับได้คือ การหลอกคนดูที่ควรจะเป็นไม้ตายนั้น ในภาคนี้เป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

หนังไม่สามารถสร้างบรรยากาศสะพรั่นพรึงใดๆ และ ผีในหนังก็ไม่สามารถสร้างความสะดุ้งตกใจอย่างที่เคยทำมา แม้ว่าหนังตัวอย่างดูเหมือนว่าจะน่ากลัวสุดๆ แต่พอมาอยู่ในหนัง กลับไม่ทำได้เหมือนที่เคยเห็นในเทรลเลอร์ มีเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้นที่เข้าขั้น โคตรผีดุ อย่างที่หนังเคยเป็น ดังนั้น หากยังคิดจะสร้างภาคถัดไป หนังควรจะสรรหามุกใหม่ๆมากกว่าให้เด็กแป้งฝุ่นมุดไปซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม ใต้โต๊ะ ใต้ตู้ ใต้หมอน ฯลฯ



สิ่งที่ชอบ

1.ปมของตัวละคร ... แม้จะไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร แต่ก็ยังดีที่ทำให้หนังไม่แห้งแล้วน่าเบื่อจนเกินไป ปมของตัวละครสร้างความน่าสงสารสะเทือนใจได้พอสมควร

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ไม่น่ากลัว ... The Grudge 2 หรือ Juon มีดีมาตลอดก็แค่ผีหลอก ครั้งขาดข้อนี้ไปข้อเดียว ผีดุ ก็ หมดความน่าสนใจสำหรับผมโดยสิ้นเชิง

สรุป ... The Grudge 2 จะเป็นหนังผีที่น่ากลัวสุดๆ และ คุ้มค่าตั๋วมาก หากปีสองปีนี้คุณไม่ได้ดูหนังผีเอเชียเลย แต่ The Grudge 2 คือ ผีหย่อนสมรรถภาพทางการหลอกคนดู หากคุณ หยิบหนังผีเอเชียที่เห็นผีคลานชักกระตุกลงมาตามบันไดมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งเรื่อง ไม่ต้องไปให้ไกลมาก แค่ ผีคนเป็น ที่มีผีสปีชิส์เดียวกันที่ยังฉายอยู่ตอนนี้ยังน่ากลัวกว่านัก

ประการสำคัญหากใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ตระกูล Juon มาตั้งแต่แรก จะสังเกตได้ว่า จากที่เดิมที่เคยเป็นระบบแอดมิดชั่นคัดเอาสาวๆสวยๆน่ารักๆมาตายในหนัง ภาคนี้ก็ดันยกเลิกระบบนี้ไปเสียนี่ รวมเหตุผลข้อนี้ The Grudge 2 จะพลาดไปก็ไม่น่าเสียดาย


ป.ล. ... อันเนื่องมาจาก blog นี้ >> //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=10-2006&date=28&group=5&blog=1
ขออนุญาติแอบโหด ฝากถึง ผู้ที่นำบทความใน blog นี้ไปดัดแปลงแล้วอ้างว่าเป็นของตัวเองในเชิงพาณิชย์(เช่น ตีพิมพ์ในคอลัมน์ตัวเอง หรือ ส่งงาน) ว่า กรุณาเคารพตัวเองด้วยนะครับ จับได้อีกครั้งไม่ใช่แค่แจ้งต้นสังกัดกับบก. ยังจะแจ้งดำเนินคดีด้วยจ้า เพราะบทความเหล่านี้มีกฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองเหมือนกันเน้อ

ส่วนเพื่อนๆที่เอาไปบทความจากในนี้ไปปะในสเปซ , ในบล้อก , ส่งฟอร์เวิดเมลล์ เจ้าของบล้อกยินดีเสมอจ้า (ขอแค่ลงลิงค์ที่มาก็พอ)



ขอฝาก"หนังสือรัก" พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่พูดถึงความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ


หนังสือเกี่ยวกับอะไร ? มีที่มาอย่างไร ? ชวนไปอ่านเบื้องหลัง ไปรู้จักหนังสือได้ที่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=13&month=10-2006&date=19&blog=1


(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว เช่น ซีเอ็ด , นายอินทร์ , B2S แอบเห็นบางสาขาลดอยู่จ้า 15% ฯลฯ )



ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

เริ่มต้นอ่านครั้งแรก ชวนคลิก ชวนคุยกันที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 31 ตุลาคม 2549
Last Update : 31 ตุลาคม 2549 0:20:22 น. 12 comments
Counter : 4411 Pageviews.

 
กำลังรอดูเหมือนกันค่ะเรื่องนี้ ดูเอาความสะดุ้งเหมือนกัน ส่วนเรื่องเอาความนั้นคงไม่เท่าไหร่ เพราะทำใจแล้วว่าบางทีดูแนวนี้ จะหาที่มาที่ไปให้ครบมักไม่ค่อยได้ เลยทำใจว่าดูเอาเพื่อความบันเทิงค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:0:46:22 น.  

 
ไม่เสียตังค์ดูโรงเพราะ หนังแบบนี้ต้องอยู่บ้านดูคนเดียวตอนพลบค่ำ นาน ๆ เสียงบ้านข้าง ๆ แว่วมาก็หลอนดีพิลึก ฮา
จริงสินะ ตระกูลนี้มีแต่หลอนจริง ๆ ดูไม่รู้เนื้อเรื่องเลย

(นอกเรื่องนิด อยากดูบ้านผีปอบจัง)
(นอกเรื่องอีกนิด หนังสือรักเป็นหนึ่งในสามเล่มที่ซื้อในงานสัปดาห์ฯครั้งนี้ และถูกใจมากเลย ขอบคุณนะคะที่รวมเล่มอย่างสวยงามและชวนอ่าน)


โดย: atihasita IP: 58.64.108.194 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:0:55:52 น.  

 
ออกแนว ผีคนเป็น สิครับ
ที่ผีไม่น่ากลัวเลย.. 55+
(แต่ผีคนเป็น ผมยังชอบครึ่งเรื่องหลังนะ)

The Grudge นี่... ไม่รู้สิ.. ผมไม่คิดจะดูอยู่แล้ว 55+ เพราะว่าไม่ค่อยชอบหนังผีเป็นตัวๆ (แต่หนังเลือดสาดแบบ masters of horror นี่ล่ะชอบบบ)
อีกอย่าง ผมยังว่าเด็กผีใน Scary Movie 4 ยังดูน่ากลัวกว่าเด็กผีในเรื่องนี้อีก


โดย: nanoguy IP: 203.113.34.9 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:8:50:57 น.  

 
แหม ... ฉลองวันฮัลโลวีนด้วย Grudge2 เชียวเหรอครับ อิๆ ... เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องของหนังสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ผมขอบาย อารมณ์ผมเวลาอยากดูหนัง horror หลอกหลอนเนี่ย จะคล้ายๆ คุณ atihasita #2 อ่ะครับ คือชอบดูทางเคเบิลอยู่ในห้องคนเดียว จอเล็กๆ ก็พอ ถ้าไปดูจอใหญ่ บางทีอาจสะดุ้งจนคนนั่งข้างๆ ขำผมได้อ่ะครับ เหอะๆ ... แต่ถ้าดูเอาเนื้อเรื่องหรือเอาบรรยากาศหลอนยังเงี้ยะ จะชอบมากกว่า ... นี่เย็นนี้ยังคิดอยู่เลยว่าอาจแว่บไป 'เปนชู้กับผี' รอบพิเศษ จะดีมั้ยเนี่ย? หรือไม่ก็รออาทิตย์หน้าอ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:13:49:15 น.  

 
โอ้ว ... ลืมทักไป หัวข้อเรื่องว่า 'ผี 3 บท' (แต่กี่บาทไม่รู้?!? อิๆ) เนี่ย แสดงว่ายังมีหนังแนวผีๆ ที่คุณ จขบ. ดูมาแล้ว และยังเขียนไม่เสร็จอีก 2 เรื่องจิครับเนี่ย ... เท่าที่รู้ว่าดูมาแล้วก็น่าจะเป็น 'เปนชู้กับผี' และ Monster house แม่นบ่ครับ? ... เอ หรือว่าจะมี The wicker man อีกเรื่องหว่า?
ปล. เห็นด้วยกับ คุณอะไรซักคน ที่เขียนไว้ที่บล็อก The guardian ว่าช่วงนี้ คุณ จขบ. ดูหนังเพียบกระจายเลยนะครับเนี่ย ... โห จัดสรรเวลาได้ดีจัง ของผมก็อยากดู แต่เวลาไม่ค่อยเอื้อ เลยต้องลดกิเลสตัวเองลงเหลือแค่ที่อยากดูจริงๆ อ่ะครับ แหะๆ


โดย: บลอทช์ยู IP: 202.69.140.233 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:14:02:35 น.  

 
ไม่ได้ไปดู เปนชู้กับผี หรือครับ
รอวิจารณ์อยู่ครับผม


โดย: คนเดินทาง IP: 203.113.61.132 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:11:12:49 น.  

 
พวกเขาเป็นเพียงแค่ ผีไร้จรรยาบรรณ หลอกกันแบบขาดสติ ทั้งคู่มีคอนเซ็ปท์เดียวคือ ใครเข้าบ้านฉัน มันตายหมด

^^" เห็นภาพมากเลยค่ะ
เคยดูภาคหนึ่งแล้วไม่ประทับใจอ่ะ ภาคนี้เลยไม่ได้ดึงดูดเท่าที่ควร ว่าจะรอเปนชู้กะผีเหมือนกัน..


โดย: น็อต IP: 203.107.217.194 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:33:34 น.  

 
เขียนได้คมคายมากมาก
มีเปรียบเปรยให้เห็นภาพอีกตะหาก
(ถึงจะไม่เคยดูบอลกับเค้าก็เหอะ)

เคยแอบดู (แอบจริงๆ เอามือปิดตา แอบมองผ่านช่องนิ้ว) juon ภาค2
ตกใจนะ แต่ดูจบแล้วก็...งั้นๆแฮะ
ไม่เหมือนตอนหาเรื่องไปดู the eye 1 ที่หลอนค้างไป 3 เดือน


โดย: KajuakungGunso IP: 58.136.94.235 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:28:15 น.  

 
แต่เราว่าภาคนี้มันก็ดุนะ ตามไปฆ่าถึงเมืองนอกเลย
ขนาดคนที่ไม่ได้เข้าบ้านก็ตายยกครอบครัวอ่ะ (ที่อยู่เมืองนอก)
อย่างนางเอกยังไม่ทันเข้าบ้านเลย อีกเด็กแป้งนั่นก็ฉุดเข้ามา อิทธิฤทธ์มันเหลือล้นจิงๆ เชื่อเลย ผีบ้าไรวะ
ปล. ชอบตอนที่มีคนบอกว่า "นี่เป็นบ้านผีสิงที่น่ากลัวที่สุดในญี่ปุ่น" ตลกดี เหมือนไกด์กำลังนำเที่ยว


โดย: นางาเสะจัง IP: 221.128.88.233 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:33:30 น.  

 
มาอ่านเพราะคงไม่ได้ดูแน่ๆ หนังเรื่องนี้


โดย: cottonbook วันที่: 17 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:53:32 น.  

 
หลังจากดูภาคนี้เสร็จ ผมก็อยากดูภาค 3 ต่อเลย (เห็นมีข่าวว่าจะสร้างด้วย) เพราะอยากเห็นผีสองแม่ลูกนี่พบจุดจบเสียที

ผมว่าภาคนี้โหดกว่าเดิมนะ คนที่ไม่ได้เข้าบ้านนรกนั่น แต่อยู่ใกล้คนที่เคยเข้าไป จะถูกคำสาปเล่นงานไปด้วย เหอ เหอ


โดย: AronSun IP: 124.120.238.79 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:12:09 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: วิศรุต IP: 203.172.198.178 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:04:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 ตุลาคม 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.