The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
สำหรับผม Michael Bay มีความสามารถที่ผู้กำกับคนอื่นอาจจะอิจฉา คือ
1.ความสามารถในการทำหนังให้สนุก การทำหนังให้ดี กับการทำหนังให้คนดูสนุก ไม่ได้อยู่คู่กันเสมอไป หนังบางเรื่องมีข้อบกพร่องมากมาย แต่หากหนังดูสนุก ข้อบกพร่องนั้นพร้อมจะถูกลืมไปอย่างง่ายดาย สำหรับMichael Bay หนังที่เขากำกับมาและผมรู้สึกว่าลงตัวที่สุดคือThe Rock ส่วนเรื่องอื่นมักจะมีความขาดๆเกินๆอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นที่ตัวบทหรือที่ตัวนักแสดง
แต่ด้วยความสามารถของเขา ก็สามารถทำให้หนังผสมผสานความขาดๆเกินๆนั้น ให้ออกมาลงตัวดูเพลินโดยไม่ขัดความรู้สึกมากเกินไป ที่เห็นชัดเจนคือการมีบทจำเจ, หลวมและเลอะเทอะอย่าง Bad Boys II เขาก็ทำออกมาให้คนดูอย่างผมสามารถที่จะสนุกกับความหวือหวา และวินาศสันตะโรได้จนจบ ชนิดที่ว่าตอนดูอาจมีเบื่อๆมีขัดๆบ้างแต่มันก็เป็นไม่นาน
2.ความสามารถในการคุมงานสร้างที่มีสเกลใหญ่ๆได้อย่างแม่นยำ ขนาด Pearl Harbor ที่เรื่องราวดูมีโอกาสหลงทางอยู่หลายตอน ทั้งจากนักแสดงที่ไม่เหมาะสม หรือตัวบทเองที่พยายามจะใส่ความสมจริง,ความเป็นดราม่าให้เข้ารวมกับฉากแอคชั่น
ก่อนหนังจะออกฉายมีเสียงตำหนิล่วงหน้า ว่า Pearl Harbor น่าจะเป็นผลงานช้างล้มแน่ๆ แต่ในที่สุด แม้ไม่สามารถเอาชนะใจนักวิจารณ์ ไม่ใช่งานระดับเข้าชิงรางวัล แต่มันก็มีดีในตัวเอง มีความลงตัวเพียงพอที่จะยืนหยัดลบคำสบประมาทไปได้
3.ความสามารถสลัดความเป็น Bruckheimerได้ เท่าที่ผมเห็น หากเป็นหนังแอคชั่นภายใต้งานสร้างของ Jerry Bruckheimer มีเพียงTony Scott และ Michael Bay เท่านั้นที่คนดูเห็นชื่อหนังแล้วคิดชื่อผู้กำกับออก (ต่างจาก Gone in Sixty Seconds หรือ Con Air ที่คนดูเห็นชื่อหนังแล้วต้องใช้เวลานานในการหาชื่อผู้กำกับ แต่คิดออกได้ทันทีว่าเป็นหนังของ Jerry Bruckheimer ) และเรื่องนี้ก็เป็นการสลัดร่มเงาของ Jerry Bruckheimer ออกอย่างแท้จริง เพราะเป็นเรื่องแรกที่ผู้อำนวยการสร้างของเขาไม่ได้ชื่อ Jerry Bruckheimer
เมื่อเขามาจับหนังไซไฟที่เอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ อย่างการโคลนนิ่ง จึงน่าสนใจว่าเขาจะสร้างความสนุกชวนติดตามจากหนังที่มีพล็อตซ้ำซากนี้อย่างไร ผู้กำกับมือดีหลายรายต้องมาตกม้าตายกับหนังไซไฟมาแล้ว อย่าง จอห์น วู ที่แม้ได้บทประพันธ์ชั้นดีจาก Philip K. Dick มาทำเป็น Paycheck แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาต่อให้นกพิราบบินมาทั้งฝูงก็ไม่อาจฉุดให้หนังไปรอดได้
The Island เล่าเรื่องของการโคลนนิ่งได้น่าสนใจ หนังเปิดประเด็นการทำโคลนนิ่งเพื่อเป็นอะไหล่สำรองให้กับมนุษย์ในอนาคต เช่น โคลนคนอีกคนขึ้นมาเพื่อตั้งครรภ์แทน หรือ หวังเพียงอวัยวะบางอย่าง ในกรณีที่อวัยวะของเราเสื่อมไป ฯลฯ
โลกที่เปรียบเสมือนยูโทเปียในตัวโลกจำลองนั้น ไม่ต่างอะไรกับการเป็นฟาร์มมนุษย์ ความพยายามเหล่านี้มันก็มาจากความพยายามที่จะดิ้นรนมีชีวิตอยู่ต่อไป ความพยายามที่อยากเอาชนะธรรมชาติ อยากเอาชนะความตาย
หากดูตามวัตถุประสงค์แล้วก็ฟังดูดี แต่สิ่งที่ขัดกับศีลธรรมคือการโคลนที่เกิดขึ้น ไม่ได้เป็นการโคลนแค่อวัยวะแต่เป็นการโคลนคนขึ้นมา แล้วใช้ประโยชน์จากมนุษย์โคลนเหล่านั้นก่อนจะกำจัดทิ้งเหมือนผักปลา โดยไม่ได้คิดคำนึงถึงว่าเขาเหล่านั้นจะรู้สึกนึกคิดอย่างไร ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากมนุษย์ต้นฉบับเลยแม้แต่เซลล์เดียว
...ในฉากที่ตัวละครทั้งสองคนต้องการเอาชีวิตรอด Lincoln Six Echo บอกกับ Tom Lincoln ว่า เขาเองก็อยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา แต่ความต่างอยู่ที่เขาไม่มีสิทธิในการเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อไป
สิทธิของเขาและมนุษย์โคลนคนอื่นๆถูกจำกัดจากมนุษย์ต้นแบบ ที่เปรียบเปรยพวกเขาว่าเป็นเพียงสินค้า(Product)ที่ ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ น่าตลกที่มนุษย์โคลนที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์นั้น เมื่อต้องการเอาตัวรอดกลับยังรู้จักที่จะคิดถึงคนอื่นๆ เขาเลือกกลับไปช่วยเหลือแทนที่จะหนีไปมีชีวิตรอดต่อเพียงลำพัง ในขณะที่มนุษย์จริงๆอย่าง Merrickและ Tom Lincoln ที่อ้างสิทธิความเป็นมนุษย์เต็มตัว กลับมองสิ่งมีชีวิตอื่นเหมือนแค่สินค้าพร้อมจะทำลายเมื่อมันบกพร่อง ไม่คิดห่วงสิ่งมีชีวิตพวกเดียวกัน มีแต่ความต้องการเอาตัวรอดเท่านั้น
....ความเป็นมนุษย์ของทั้งคู่ ก็คือ สัญชาติญาณในการต้องการมีชีวิต,การเอาตัวรอด , การพยายามจะเอาชนะความตาย ฯลฯ การหลงตัวเองพร้อมที่จะตัดสินแบ่งชนชั้นคนอื่นของมนุษย์ถูกนำมากัดอย่างเจ็บแสบเมื่อตัวละครในเรื่องพูดถึง Gods complex และ ความอยากเป็นพระเจ้า ไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคนจริงๆอย่างตัว Merrickและ Tom Lincoln มากมายในสังคมปัจจุบัน น่าเศร้าที่สิ่งต่างเหล่าๆนี้ยังคงถูกหล่อหลอมในตัวคนอยู่เรื่อยมา เพราะสังคมทุกวันนี้ที่หมักบ่มสร้างความเป็นมนุษย์แบบนี้มาไม่รู้ตัวตั้งแต่เด็ก เช่น การสอนให้เด็กแข่งกันเรียน,แข่งกันฉลาด,แข่งกันเป็นที่หนึ่งเมื่อเติบโตก็ต้องแข่งขันกันเอาตัวรอด เราเรียนรู้แต่ที่จะเอาตัวรอดอย่างไรโดยไม่คำนึงว่าคนที่อยู่รอบข้างเราจะเป็นอย่างไร เมื่อเติบโตมาจึงมีแต่ความพยายามที่จะเอาตัวรอด ความอยากจะอยู่เหนือคนอื่น ฯลฯ
ความเป็นมนุษย์จึงกลายเป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอกแต่ความเป็นมนุษย์ที่หมายถึงคุณค่าจริยธรรมในใจไม่ได้เติบโตตาม
....ในการที่มนุษย์เอ่ยอ้างสิทธิอันชอบธรรมในการใช้ชีวิต แล้วให้มนุษย์โคลนต้องตกภายใต้การควบคุม ทั้งที่สองฝ่ายไม่มีความแตกต่างกันแม้แต่เซลล์เดียวนั้น เป็นการสะท้อนภาพของการแบ่งชนชั้นวรรณะที่มีมาทุกยุคทุกสมัย เช่น การเหยียดสีผิว การเหยียดชนชาติ ฯลฯ เพียงแต่มนุษย์โคลนเป็นเหมือนตัวแทนของผู้ถูกกระทำของโลกอนาคต หนังย้ำประเด็นนี้ให้ชัดขึ้นด้วยตัวละคร Albert Laurent (Djimon Hounsou) ที่เป็นเหมือนตัวแทนจากโลกอดีตและปัจจุบัน ทั้งคู่เป็นสัญลักษณ์ของประชากรชั้นสองหรือชนชั้นที่ด้อยกว่า ถูกตีตราจากมนุษย์บางกลุ่มทั้งที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไป และเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ให้เห็นว่า หากความก้าวหน้าทางวิทยาการเดินสวนทางกับพัฒนาการของจิตใจ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ร้อยปี ความเสื่อมโทรมของจิตใจก็ไม่มีวันจางหายไปเพียงแต่มันจะแปรรูปแบบไปเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง
จุดมุ่งหมาย(Purpose) ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้งหนึ่งในเรื่องนี้ เป้าประสงค์ในการมีชีวิตอยู่คือคำถามที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็น(Curiosity)ของ Lincoln Six-Echo นำไปสู่การพยายามหาคำตอบและการหลุดพ้นก่อนที่จะค่อยๆเริ่มนำไปสู่ความเป็นมนุษย์เต็มตัวในที่สุด แปลกดีที่ทุกวันนี้เราเองที่เป็นมนุษย์กลับเริ่มใช้ชีวิตไปเป็นเหมือนมนุษย์โคลนมากขึ้นทุกทีสังเกตได้จากเมื่อเป้าประสงค์ในการใช้ชีวิตเริ่มลางเลือนพึ่งพาแต่สิ่งที่ถูกหยิบยื่นให้ ใช้ชีวิตไปวันๆรอคอยที่จะถูกรางวัลก้อนโตให้กับชีวิต The Islandในหนังก็ไม่ต่างจากของรางวัลที่ผู้มีอำนาจเบื้องบนหรือผู้บริหารหยิบยื่นมาเป็นสัญญาใจหลอกประชาชนของตัวเองไปวันๆ และเราเองเผลอหลงเชื่อการไปเกาะนั้นด้วยหรือเปล่า เพราะสุดท้ายเกาะที่เราจะได้ไปมันอาจไม่ใช่สวรรค์ที่รอคอย อาจไม่ใช่ความตายทางร่างกายเหมือนในหนังแต่มันคือความตายทางจิตสังคมจาก ค่าเงินที่ตกต่ำ ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นทุกวัน ฯลฯ
....ก่อนดูหนัง ผมเองคิดว่าพล็อตเรื่องนี้มันจำเจแล้วแต่เมื่อดูจบผมกลับคิดว่าหนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ใช้ประโยชน์จากพล็อต โคลนนิ่ง ได้อย่างเข้าท่าทีเดียว หลายประเด็นในหนังน่าสนใจและน่าคิดต่อเป็นอย่างยิ่ง ชนิดที่ว่าถ้าใช้โครงเรื่องเดียวกันนี้มาปรับให้จริงจังมากขึ้น มีเหตุผลสมจริงมากขึ้น มันสามารถออกมาเป็น หนังที่มีมุมมองเรื่องโคลนนิ่งชั้นดีเรื่องนึงเลยทีเดียว (แค่ฉากจบยังทำให้ผมคิดต่อไปได้เลยว่า หากเปลี่ยนมือผู้กำกับมาสร้างภาค 2 แล้วเดินเรื่องต่อ เมื่อมนุษย์โคลนออกมาโลกจริงพบกับมนุษย์ต้นแบบจะเป็นอย่างไร)
เพียงแต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของ Michael Bay มันก็ถูกกลืนไปพร้อมกับระเบิดและลูกกระสุนในเรื่อง หลายตอนที่หนังมีประเด็นน่าสนใจ จะตามมาด้วยฉากวิ่งไล่ยิงสนั่นเมือง หนังเลือกโยนความสมจริงทิ้งไปเหลือไว้แต่ความมันส์พร้อมกับประณีประณอมกันระหว่างความอยากเป็นหนังไซไฟและความเป็นหนังของ Michael Bay ผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นหนังโลกอนาคต+โคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง ดูสนุกเพลิดเพลินตามตัวตนของหนังที่ต้องการนำเสนอออกมา
.....ความเป็นMichael Bay ยังอยู่ในหนังเรื่องนี้ไม่ขาดตกบกพร่อง ความสนุกคือสิ่งที่เขายังคงจัดให้คนดูโดยไม่มีมือตก และก็ขาดไม่ได้ที่จะได้เห็นฉากแอคชั่นวินาศสันตะโรชนิดที่ว่าถ้าหากหนังไทยมีฉากประเภทระเบิดภูเขาเผากระท่อม หนังของMichael Bay มันก็คือฉากแอคชั่นบนทางด่วนที่เห็นบ่อยจนคุ้นตาจากหนังเก่าๆของเขาเช่นBad Boys การกำกับภาพตามสูตรเช่นหมุนวนกล้องไปรอบๆ การถ่ายภาพอย่างฉวัดเฉวียนหรือซูมเข้า-ออกและสโลว์โมชั่นตามฉบับของเบย์ก็มีมาอยู่อย่างครบครัน หากถามว่าความเป็นMichael Bay เหล่านี้มันยังได้ผลอยู่หรือไม่แน่นอนมันยังได้ผลอยู่ Michael Bay ยังแม่นยำกับการกำกับฉากแอคชั่น สามารถสะกดคนดูให้ลุ้นชนิดหายใจไม่สะดวกได้เหมือนทุกครั้ง แต่มันก็เหมือนการสนุกที่ย่ำอยู่กับที่ มันไม่เกิดความแปลกใหม่ที่สร้างความประทับใจและสิ่งนี้เองที่มีส่วนทำให้หนังช่วงหลังๆของเขาไม่มีเรื่องไหนก้าวไกลสามารถขึ้นหิ้งไปเทียบชั้นได้กับTheRock ดูจบแล้วก็จบไปเบื่อเมื่อไหร่ก็ค่อยหยิบมาดูอีกรอบแต่ไม่ใช่หนังแอคชั่นอันดับแรกๆที่คนดูจะคิดถึงเหมือนThe Rock
......หนังได้นักแสดงนำเจ้าเสน่ห์มาทั้งฝ่ายชายและหญิง Ewan McGregor น่าจะเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้อีกยกใหญ่เมื่อต้องมาขายเสน่ห์แบบคูณสองด้วยการรับบททีเดียว2บทบาททั้งไร้เดียงสาและกรุ้มกริ่มพร้อมกับสำเนียง2สัญชาติ ในขณะเดียวกัน Scarlett Johansson นักแสดงสาวที่ผมขอมอบคำว่ามีเสน่ห์อย่างร้ายกาจให้เธอไปตลอดกาล ก็ไม่มีบทบาทที่ต้องเหนื่อยรับผิดชอบมากนักนอกจากการวิ่ง กระโดด คลานฯลฯ เธอก็ยังเปล่งประกายผุดผาดความสาวแต่เพียงหนึ่งเดียวตลอดทั้งเรื่องดึงดูดคนดู(หนุ่มๆ)ชนิดตาไม่กระพริบเช่นกัน ทั้งคู่ทำให้ช่วงที่ตัวหนังไม่มีฉากแอคชั่นหรือขาดความน่าสนใจจากเนื้อหาหรือองค์ประกอบอื่นๆไม่น่าเบื่อเพราะแค่ดูสองคนนี้มันก็ฆ่าเวลาเพลินๆรู้ตัวอีกทีก็ถึงฉากไล่ล่าเสียแล้ว ในส่วนงานProductionทำได้ล้ำสมัยและดูดีชนิดเนี้ยบทุกองค์ประกอบจะมีจุดอ่อนก็ตรงที่ขาดความคิดสร้างสรรค์สำหรับโลกอนาคตไปพอประมาณและหลายครั้งเหลือเกินที่ดูจงใจโชว์ยี่ห้อสินค้าเพื่อการโฆษณา การถ่ายภาพจากด้านนอกโชว์งานสร้างในระดับมืออาชีพชนิดไม่มีอะไรที่ตำหนิได้เลย
สิ่งที่ชอบ
1.มุขตลก....มีมุขเด็ดๆหลายหนจากไดอะล้อคโดยเฉพาะที่ถูกปล่อยออกมาจากปากตัวละครจอมขโมยซีนอย่างSteve Buscemi (ผมชอบมุขวัวกับแฮมเบอเกอร์ตลกดี) อีกทั้งมีจังหวะที่รู้จักหยอดโดยไม่ทำให้เนื้อความของหนังหรือธีมหนังบิดเบือนไป ทำให้ความสนุกสนานในเรื่องนี้แซมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนดูได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ได้พึ่งแค่ความอึกทึกอย่างเดียว(ผมสนุกกับหลายมุขในเรื่องนี้มากกว่าหนังที่เน้นคอมิดี้แอคชั่นอย่างBad Boys IIเสียอีก)
2.ความสนุก....ต้องยอมรับในความสามารถของผู้กำกับที่เก่งในการรู้จักกำกับทิศทางความสนุกของหนังรู้จักจังหวะในการเล่าฉากแอคชั่น รู้ว่าจุดไหนควรเร่งควรผ่อนหรือควรขยี้คนดูให้ตายคาโรง จะเห็นได้ว่าทุกจังหวะของหนังนั้นทำได้ลงตัวชนิดช่วงลุ้นก็ลุ้นกันหอบ(ทั้งที่รู้ว่ามันโม้แสนโม้เราเองก็อดเอาใจช่วยอยู่ดี) จะอืดไปนิดก็เป็นช่วงแรกในโลกจำลอง
3. 2นักแสดงนำ 1.นักแสดงสมทบ...ฝ่ายชายเป็นนักแสดงคุณภาพอยู่แล้วเมื่อมาอยู่ในหนังแอคชั่นก็ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับหนังได้เป็นอย่างดีดูเขาสนุกไปกับหนังเรื่องนี้มาก ยิ่งฉากที่ตัวจริงกับตัวโคลนมาเจอกันครั้งแรกที่ตัวเขาเล่นสนุกกับทั้งสองตัวนี้ได้อย่างน่าเอ็นดู ในขณะที่สกาเล็ตต์ไม่มีอะไรที่จะบรรยายได้ดีกว่าเธอช่างมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ และ Steve Buscemi ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้คุ้มค่ากับเวลาที่โผล่ออกมา
4.หนังมีอะไรให้ขบคิด .... แม้ว่าเนื้อหาข้อคิดจะถูกกลบตามความเป็นหนังแอคชั่นและถูกพูดถึงแค่กระท่อนกระแท่นแต่ตัวเรื่องเองแล้วหนังมีประเด็นให้หยิบยกมาพูดถึงต่อมากทีเดียว ผมชอบฉากที่เหล่าโคลนรอลุ้นว่าตัวเองจะถูกล็อตเตอรี่หรือไม่มันดูน่าสงสารน่าสมเพชและน่าเห็นใจในชะตากรรมเหมือนชีวิตคนในปัจจุบันอย่างที่กล่าวข้างต้น หรือ ความคิดต่อเนื่องไปว่าหากมนุษย์โคลนออกไปอยู่โลกจริงจะเป็นอย่างไร มันทำให้ผมพาลคิดไปถึงสัตว์ที่เราเลี้ยงเป็นอาหารทุกวันนี้ก็คงคล้ายกับมนุษย์โคลนโดยไม่รู้ว่าใช้ชีวิตไปเพื่ออะไรรอวันที่จะถูกเรียกไปฆ่านั่นเอง
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ช่วงแรก... ด้วยความที่ว่าคนดูเองรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวในส่วนนี้จะเกิดอะไรขึ้นและเป็นเรื่องราวของอะไร จึงทำให้ช่วงแรกของหนังมันไม่มีอะไรที่ชวนให้คนดูอยากติดตามและอาจทำให้คนดูรู้สึกว่ามันอืดไปเสียด้วยซ้ำ คนดูรู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายพระเอกก็ต้องรู้ตัวแล้วพานางเอกหนีออกไปจึงได้แต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่ที่เราจะเห็นเนื้อเรื่องมีการเดินหน้าจากส่วนนี้ไปเสียที หรือ เมื่อไหร่ฉากแอคชั่นมันจะมาเสียที(ก็คงคล้ายกับการดูหนังผีที่เราย่อมคาดว่าเมื่อไหร่ผีจะโผล่) นอกจากตัวเนื้อเรื่องในช่วงนี้ที่ไม่น่าสนใจแล้ว ฉากในโลกจำลองนั้นก็ราบเรียบและธรรมดา ขาดความโดดเด่นของงานออกแบบ(หากเทียบกับงานออกแบบฉากในโลกอนาคตอย่างAI หรือ Minority report ดูมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่า)มันยิ่งทำให้ช่วงแรกนั้นดูไม่น่าติดตาม ดีที่นักแสดงนำทั้งคู่มีแรงดึงดูดมากพอที่ทำให้คนดูไม่ละสายตาไปจากหน้าจอ จึงทำให้มันไม่น่าเบื่อจนเกินไปนัก
2.ความคิดสร้างสรรค์ในโลกอนาคต...ความคิดสร้างสรรค์และการสรรสร้างโลกอนาคตเป็นสิ่งที่ผมคาดหวังจากหนังในในหนังแนวไซไฟโลกอนาคต เช่น ดราม่าไซไฟอย่าง Gattacaก็แสดงให้เห็นภาพการใช้ชีวิตของโลกอนาคตที่หนังใช้ประโยชน์จากการเป็นหนังอนาคตเต็มที่ หรืออย่างแอคชั่นไซไฟในTotal Recall ,Minority Reportก็ทำให้เห็นความคิดสร้างสรรค์ในการบันดาลองค์ประกอบต่างๆรอบตัวละคร แต่เรื่องนี้มีแค่ฉากตัวที่ไต่เข้าไปในลูกตาพระเอกเท่านั้นเองที่หนังใช้ประโยชน์จากความเป็นโลกอนาคต ดูๆไปแล้วถ้าไม่มีเรื่องของโคลนนิ่ง หนังเรื่องนี้ขยับเข้าความเป็นแอคชั่นมากกว่าความเป็นหนังไซไฟอยู่มากโข น่าเสียดายที่น้ำหนักของหนังลงไปที่ฉากแอคชั่นมากมายจึงทำให้ความคิดสร้างสรรค์มันหดหายไปด้วย(ความรู้สึกคล้ายกับตอนดู The 6th Day ที่หนังออกมาเป็นหนังแอคชั่นของอาร์โนลด์มากกว่าเป็นหนังแอคชั่นไซไฟที่เล่าเรื่องของโคลนนิ่งแต่ดีกว่าตรงที่เรื่องนี้มีประเด็นให้ขบคิดมากกว่า) สรุป...ดูเอามันส์ ดูเพื่อความบันเทิง สนุกคุ้มค่าตังค์ ดูเอาสาระพอมีอยู่บ้าง แต่หากจะว่าไปแล้วผมมองว่าหนังเรื่องนี้ถ้าเทียบกับหนังไซไฟที่ออกฉายซัมเมอร์เดียวกันนี้อย่าง War of the world หนังเรื่องนี้ตอบโจทย์ตัวเองได้ดีกว่าในแง่ความเป็นแอคชั่นไซไฟและคนดูต้องการความสนุกโดยไม่แคร์ในเรื่องของเหตุผลมากมาย ในขณะที่อีกเรื่องตอบโจทย์ความเป็นดราม่าไซไฟได้ยังไม่ดีพอ
ปล...ระบบDigitalในโรงSFX Emporiumรอบ14.30น. เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมานั้นไม่ทำให้ผมรู้สึกถึงความแตกต่างเหมือนกับตอนที่ดูStarWarsหรือการ์ตูนของPixarเลย แต่ก็ยังดีที่ตอนดูจบมีรอลุ้นประกาศรางวัล(นึกว่าคัดเลือกคนดูหนังให้ได้ไปเกาะซะอีก ถ้ารางวัลเป็นทริปไปเกาะนี่จะอินเทรนด์มาก)
หากคุณเข้าเว็บบล้อกนี้เป็นครั้งแรก/ติดตามบทความใหม่/วิธีใช้ ขอเชิญชวนไปเริ่มต้นโดยคลิกที่นี่เลยครับ --> หน้าแรก
เชิญชวนแวะไปอ่านไปคุย ค้นหาหนังเรื่องเก่าๆได้ที่ ---> ห้องเก็บหนัง
Create Date : 23 กรกฎาคม 2548 |
Last Update : 23 กันยายน 2548 0:36:13 น. |
|
32 comments
|
Counter : 8747 Pageviews. |
|
|
|
โดย: zmen วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:49:03 น. |
|
|
|
โดย: จอมอสูร วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:00:49 น. |
|
|
|
โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:35:30 น. |
|
|
|
โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:55:09 น. |
|
|
|
โดย: zaesun วันที่: 23 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:48:27 น. |
|
|
|
โดย: Robotoon วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:4:11:29 น. |
|
|
|
โดย: ยวนน้อย IP: 210.138.18.59 วันที่: 25 กรกฎาคม 2548 เวลา:14:45:01 น. |
|
|
|
โดย: mda IP: 203.159.0.10 วันที่: 26 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:23:50 น. |
|
|
|
โดย: Dabadee วันที่: 26 กรกฎาคม 2548 เวลา:17:07:33 น. |
|
|
|
โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ IP: 61.90.141.59 วันที่: 27 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:38:41 น. |
|
|
|
โดย: บันจัง IP: 221.128.114.172 วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:12:44:48 น. |
|
|
|
โดย: banx IP: 203.121.172.162 วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:43:36 น. |
|
|
|
โดย: ข้าวปุ้น (ขี้เกียจล็อคอิน) IP: 61.91.192.186 วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:04:32 น. |
|
|
|
โดย: imome IP: 202.28.27.4 วันที่: 29 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:29:50 น. |
|
|
|
โดย: 1993 IP: 61.91.134.65 วันที่: 29 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:04:41 น. |
|
|
|
โดย: Galenvagor IP: 61.91.98.218 วันที่: 30 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:28:30 น. |
|
|
|
โดย: 0216546 IP: 203.151.140.116 วันที่: 30 กรกฎาคม 2548 เวลา:7:13:16 น. |
|
|
|
โดย: ชมพู ค่ะ IP: 203.118.125.69 วันที่: 31 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:30:52 น. |
|
|
|
โดย: tokei no ketsurin IP: 61.19.165.121 วันที่: 31 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:31:02 น. |
|
|
|
โดย: Ryuichi ณ พันติ๊บ IP: 61.90.79.131 วันที่: 1 สิงหาคม 2548 เวลา:13:53:22 น. |
|
|
|
โดย: นก IP: 203.155.162.66 วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:10:01:03 น. |
|
|
|
โดย: chocolateสอดไส้มิ้นต์ผสมถั่ว IP: 61.90.97.146 วันที่: 16 ตุลาคม 2548 เวลา:14:22:42 น. |
|
|
|
โดย: sunzo IP: 58.8.57.147 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:19:18:30 น. |
|
|
|
โดย: AronSun IP: 203.114.97.149 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:3:33:27 น. |
|
|
|
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:01:06 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
ต้องไปดูมั่งซะและ