bloggang.com mainmenu search
แนะผ่านช่วงวิกฤต สู้มะเร็งเม็ดเลือดขาว

รายงานพิเศษ



ชีวิตคนเราเลือกเกิดไม่ได้ หาก เลือกได้เราก็คงจะขอไม่เลือกที่จะเป็น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Chronic Myeloid Leukemia หรือ CML) เช่นเดียวกับผู้ชายที่ชื่อ พิพิธพร วงศ์ประดิษฐ์ หนุ่มนักการตลาดรุ่นใหม่ไฟแรง อนาคตไกล เมื่อพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์ สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหวังที่จะหายจากโรคมะเร็ง CML และใช้ชีวิตได้อย่างปกติ คือ การอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่น และศรัทธา



นายพิพิธพร วงศ์ประดิษฐ์ สมาชิกชมรมผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์แห่งประเทศไทย บอกว่า ปัจจุบันได้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์ (CML) อยู่กับ อาจารย์หมอแสงสุรีย์ จูฑา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในช่วงแรกต้องไปหาหมอเกือบทุกอาทิตย์เพื่อรับยา เพื่อตรวจเลือดควบคุมให้เม็ดเลือดขาว อยู่ในเกณฑ์ปกติ และเจาะไขกระดูกดูค่าเซลล์มะเร็ง จนกว่าจะได้ผลตรวจตามเกณฑ์การรักษา หลังจากนั้นก็ต้องมาพบหมอเพื่อรับยา และตรวจเลือดทุกๆ 3 เดือน และเจาะไขกระดูกดูโครโมโซมดูค่าเซลล์มะเร็งปีละครั้ง



"ในความโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่ที่ได้เจอคุณหมอที่ดี ได้รับการรักษาด้วยยาที่มีได้ผลดี ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชมรมผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว ที่คอยให้กำลังใจและทราบว่ามีหลายคนที่ได้รับยาฟรีผ่านโครง การช่วยเหลือผู้ป่วยนานาชาติ GIPAP"



วันนี้ยังต้องรับประทานยาอยู่ทุกวัน ถ้าผลการรักษาดีติดต่อกันอย่างต่อเนื่องไปนานๆ วันหนึ่งอาจมีโอกาสที่สามารถหยุดยาได้ คุณหมอบอกว่าตอนนี้เป็นเพียงการศึกษาและทดลองอยู่ ยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร



พิพิธพรปัจจุบันอายุ 37 ปี จบปริญญาโท ที่ University of Wollongong, Australia ปัจจุบันทำงานตำแหน่ง International Marketing Division Manager บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ดูแลตลาดลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาพำนัก และทำงานอยู่ในเมืองไทย โดยทำงานปกติแหมือนกับคนทั่วไป



แต่เมื่อช่วงประมาณปลายปี 2552 รู้สึกว่า เหนื่อยง่าย น้ำหนักค่อยๆ ลดลง ทั้งๆ ที่ใช้ชีวิตตามปกติ จนอาการเริ่มรุนแรงมากขึ้น คือ เริ่มมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นอาการจากม้ามโต ตัวเองก็ยังเข้าใจว่า เป็นโรคกระเพาะ สุดท้ายก็ไปพบหมอที่ร.พ.รามคำแหง แต่หลังจากตรวจเลือดก็รู้ผลในวันนั้นเลยว่าป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรังแบบมัยอีลอยด์



"เครียดมากในตอนแรกที่ทราบว่าตัวเองเป็นอะไร รู้สึกอึ้ง หูอื้อ ตาลาย คิดในตอนนั้นว่าชีวิตจบแล้ว เตรียมตัวตายแน่ๆ ผมมีอาการเสียใจอยู่อย่างนี้ประมาณ 2-3 วัน ตอนหลังทำใจได้ รู้สึกเฉยๆ ถ้าต้องตายก็ไม่เป็นไร แต่จะสู้กับโรคให้ถึงที่สุด" 
Create Date :09 ธันวาคม 2556 Last Update :9 ธันวาคม 2556 2:48:32 น. Counter : 1460 Pageviews. Comments :0