ศิริราชชี้คนไทยบริจาคอวัยวะน้อย ยันให้ไต-ร่างกายไม่ทรุด



นพ.ศิรส จิตประไพ สาขาวิชาศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงาน "40 ปี งานเปลี่ยนอวัยวะศิริราช" เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ร.พ.ศิริราชปลูกถ่ายอวัยวะให้แก่ผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 80 ราย โดยอวัยวะที่ปลูกถ่ายมากที่สุดคือ ไต ปลูกถ่ายไปแล้วกว่า 1,000 ราย รองลงมาคือ ตับ ปลูกถ่ายไปแล้วกว่า 100 ราย ส่วน ตับอ่อน หัวใจ และลำไส้เล็ก ยังมีการปลูกถ่ายน้อย แม้จะมีการปลูกถ่ายอวัยวะไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ประเทศไทยถือว่ายังมีการบริจาคอวัยวะน้อยมาก เนื่องจากยังมีความเชื่อว่าบริจาคแล้วชาติหน้าจะมีอวัยวะไม่ครบ ซึ่งตนไม่อยากให้คิดเช่นนั้น เพราะการบริจาคอวัยวะถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่



นพ.ศิรสกล่าวอีกว่า ปัจจุบันร.พ.แต่ละแห่งได้รับอวัยวะมาปลูกถ่ายจากผู้ป่วยสมองตาย ซึ่งขณะมี ชีวิต ได้แสดงความจำนงกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โดยเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าอวัยวะ เข้ากันได้กับผู้ป่วยรายใดของร.พ.ใด ก็จะติดต่อไปยังร.พ. แห่งนั้น และอีกส่วนได้รับมาจากผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งอวัยวะที่ให้แก่กันได้ขณะมีชีวิต คือ ไต และตับ แต่ให้กันได้เฉพาะญาติพี่น้องเท่านั้น เนื่องจากยังติดในข้อกฎหมายอยู่



นพ.ศิรสกล่าวด้วยว่า สำหรับข้อกังวลที่ว่าบริจาคไตข้างหนึ่งแล้วจะส่งผลให้ร่างกายทรุดโทรมนั้นไม่ใช่เรื่องจริง และยังมีผลวิจัยจากต่างประเทศชี้ชัดว่า หากผู้บริจาคมีการดูแลสุขภาพอย่างดี จะมีอายุยืนยาว โดยร.พ.ศิริราช จะมีโปรแกรมเช็กสุขภาพสำหรับผู้ที่บริจาคอวัยวะโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ที่รับการปลูกถ่ายอวัยวะไปแล้ว ภูมิต้านทานในร่างกายจะต่อสู้ทำให้อวัยวะไม่เข้ากับร่างกาย จึงจำเป็นต้องให้ยากดภูมิต้านทาน จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย แต่ถึงขั้นเสียชีวิตเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น สาเหตุมาจาก ไม่ดูแลสุขภาพร่างกาย สำหรับค่าใช้จ่ายการปลูกถ่ายอวัยวะ กองทุนสุขภาพให้เบิกได้ทั้งหมด