เดิน-ปั่นเพื่อสุขภาพ รวมพลคนรักจักรยาน
รายงานพิเศษ
สํานักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมสนับสนุนการจัดงานระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น หรือ Bangkok Bike 2013 ครั้งที่ 2 โดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) รณรงค์การออกกำลังกาย สร้างภูมิคุ้มกันโรค และสร้างโอกาสให้ ผู้ประกอบการธุรกิจด้านจักรยานกว่า 100 แบรนด์ วันที่ 17-20 ต.ค.นี้ ที่ฮอลล์ 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. บอกว่า เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีส่วนในการหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ รณรงค์ให้เกิดการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ดึงกลุ่มคนรักจักรยานที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Bike 2013 ที่มีพลังทางด้านสังคมในการสร้างแรงขับเคลื่อนและสร้างกลุ่มคนใหม่ๆ ให้สนใจออกกำลังกาย ด้วยการขี่จักรยาน มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาหลายๆ แคมเปญในการรณรงค์การออกกำลังกาย ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จ หนึ่งในโครงการต่างๆ คือโครงการ "ลดพุง ลดโรค" ส่วนอีกโครงการ คือ I bike I walk หรือ เดินไป ปั่นไป ครั้งนี้ สสส.ได้นำนิทรรศการความรู้ โครงการ ลดพุง ลดโรค มาจัดแสดงด้วย โดยจะบอกเล่าเคล็ดลับการออกกำลังกาย วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง
"หากปั่นจักรยานประมาณ 45 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 กิโลแคลอรี ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ป้องกันโรคเข่าเสื่อม ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจลงถึงร้อยละ 50 การปั่นจักรยานและการเดิน ยังช่วยลดมูลค่าความเสียหายทางด้านสุขภาพประมาณ 62,000 ล้านบาท"
นที ศาสตร์ยังกุล ผู้ดำเนินรายการวิทยุ คาร์ฟอร์ไลฟ์ FM89.5 mhz เล่าว่า เริ่มหันมาขี่จักรยานอย่างจริงจัง และขี่ไปทำงานมาเกือบ 10 ปี ช่วยประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ลดค่าเดินทางวันละ 20 บาท เดือนหนึ่งก็มีเงินเหลือประมาณ 5-6 พัน ปีละ 6 หมื่น
"ขี่จักรยานให้อิสระ ให้ความสุขใจที่อธิบายไม่ได้ ช่วยให้ลืมความเครียด โลกช้าลง ได้เห็นชีวิตข้างทางมากขึ้น ควบคุมเวลาเดินทางได้แน่นอน ไปช้าๆ แต่เร็ว อยากกินร้านอร่อยร้านไหน ก็จอดสะดวก ไม่ต้องเสียอารมณ์ สุขภาพจิต ก็จะดีขึ้น ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย จริงๆ ถ้าอยากขี่จักรยานอย่างจริงจัง ควรเลือกจักรยานที่มีเกียร์ เพื่อป้องกันเข่าพัง ใช้เกียร์เบาที่สุด อย่าใช้เกียร์หนัก เน้นการปั่นด้วยรอบขา ไล่เกียร์ขึ้นไป เหมือนเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ มือใหม่รอบขา 80-90 รอบ/นาที แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเกียร์ และควรสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ส่วนการขี่ออกถนนใหญ่สำคัญที่สุด คือ ต้องรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด และท่องไว้เสมอว่าอันตรายมาก อย่าประมาท ต้องชิดซ้ายสุดๆ เท่านั้น"
รายงานพิเศษ
สํานักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมสนับสนุนการจัดงานระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น หรือ Bangkok Bike 2013 ครั้งที่ 2 โดย บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด (นีโอ) รณรงค์การออกกำลังกาย สร้างภูมิคุ้มกันโรค และสร้างโอกาสให้ ผู้ประกอบการธุรกิจด้านจักรยานกว่า 100 แบรนด์ วันที่ 17-20 ต.ค.นี้ ที่ฮอลล์ 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. บอกว่า เพื่อสนับสนุนให้คนไทยได้มีส่วนในการหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพ รณรงค์ให้เกิดการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยาน ดึงกลุ่มคนรักจักรยานที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Bike 2013 ที่มีพลังทางด้านสังคมในการสร้างแรงขับเคลื่อนและสร้างกลุ่มคนใหม่ๆ ให้สนใจออกกำลังกาย ด้วยการขี่จักรยาน มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาหลายๆ แคมเปญในการรณรงค์การออกกำลังกาย ได้รับความสนใจและประสบความสำเร็จ หนึ่งในโครงการต่างๆ คือโครงการ "ลดพุง ลดโรค" ส่วนอีกโครงการ คือ I bike I walk หรือ เดินไป ปั่นไป ครั้งนี้ สสส.ได้นำนิทรรศการความรู้ โครงการ ลดพุง ลดโรค มาจัดแสดงด้วย โดยจะบอกเล่าเคล็ดลับการออกกำลังกาย วิธีลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง
"หากปั่นจักรยานประมาณ 45 นาที สามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 กิโลแคลอรี ช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ป้องกันโรคเข่าเสื่อม ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจลงถึงร้อยละ 50 การปั่นจักรยานและการเดิน ยังช่วยลดมูลค่าความเสียหายทางด้านสุขภาพประมาณ 62,000 ล้านบาท"
นที ศาสตร์ยังกุล ผู้ดำเนินรายการวิทยุ คาร์ฟอร์ไลฟ์ FM89.5 mhz เล่าว่า เริ่มหันมาขี่จักรยานอย่างจริงจัง และขี่ไปทำงานมาเกือบ 10 ปี ช่วยประหยัดเวลา ค่าใช้จ่าย ลดค่าเดินทางวันละ 20 บาท เดือนหนึ่งก็มีเงินเหลือประมาณ 5-6 พัน ปีละ 6 หมื่น
"ขี่จักรยานให้อิสระ ให้ความสุขใจที่อธิบายไม่ได้ ช่วยให้ลืมความเครียด โลกช้าลง ได้เห็นชีวิตข้างทางมากขึ้น ควบคุมเวลาเดินทางได้แน่นอน ไปช้าๆ แต่เร็ว อยากกินร้านอร่อยร้านไหน ก็จอดสะดวก ไม่ต้องเสียอารมณ์ สุขภาพจิต ก็จะดีขึ้น ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย จริงๆ ถ้าอยากขี่จักรยานอย่างจริงจัง ควรเลือกจักรยานที่มีเกียร์ เพื่อป้องกันเข่าพัง ใช้เกียร์เบาที่สุด อย่าใช้เกียร์หนัก เน้นการปั่นด้วยรอบขา ไล่เกียร์ขึ้นไป เหมือนเปลี่ยนเกียร์รถยนต์ มือใหม่รอบขา 80-90 รอบ/นาที แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเกียร์ และควรสวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง ส่วนการขี่ออกถนนใหญ่สำคัญที่สุด คือ ต้องรักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด และท่องไว้เสมอว่าอันตรายมาก อย่าประมาท ต้องชิดซ้ายสุดๆ เท่านั้น"
Create Date :15 ตุลาคม 2556
Last Update :15 ตุลาคม 2556 11:18:53 น.
Counter : 1196 Pageviews.
Comments :0