แม้ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง แต่ถ้าเรารู้จักดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ถึงอากาศจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป!!
ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่หน้าฝนแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์ อยากแนะนำให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น เพราะสภาพอากาศที่อับชื้นและเย็นลงจะเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อโรค ทำให้มีการแพร่ขยายเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่ก่อโรคได้มากมาย และเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่นำไปสู่กลุ่มโรคที่สำคัญที่มักมากับหน้าฝน 5 กลุ่มโรค ได้แก่
กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบหรือปอดบวม
กลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ ที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนเชื้อ
กลุ่มโรคติดเชื้อผ่านทางบาดแผลหรือเยื่อบุผิวหนังที่พบบ่อย คือ โรคเลปโตสไปโรซิสหรือไข้ฉี่หนู ที่มีเชื้ออยู่ในปัสสาวะของหนู แล้วผ่านเข้าบาดแผลจากการแช่น้ำท่วมขัง
กลุ่มโรคจากยุง เช่น ไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ มาลาเรีย
กลุ่มโรคเยื่อบุตาอักเสบหรือโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำสกปรก กระเด็นเข้าตา
เพราะฉะนั้นหน้าฝนนี้ เราจึงควรหันมาดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น เพื่อให้ร่างกาย สามารถปรับสภาพและมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้โดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุในบ้านที่ต้องดูแลกันให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวัยที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าวัยอื่นๆ อยู่แล้ว
คำแนะนำเบื้องต้นในการดูแลสุขภาพในหน้าฝน
รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ
รับประทานอาหารและน้ำดื่มที่สะอาด
ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือคลุกคลีกับผู้ป่วย
ออกกำลังกายเป็นประจำ
ระวังอย่าให้ถูกยุงกัด
รับประทานให้ครบ 5 หมู่ เพิ่มผัก ผลไม้ที่จัดว่ามีวิตามินซีสูง เพราะเป็นวิตามินที่มีผลการวิจัยพบว่าช่วยเสริมภูมิต้านทานให้หายจากหวัดได้เร็วขึ้น เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอ มะนาว กีวี พริกหยวก มะเขือเทศ หน่อไม้ฝรั่งและบรอกโคลี
เสริมสูตรวิตามิน เกลือแร่และแร่ธาตุรวม เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี ผ่านพ้นหน้าฝนนี้ไปอย่างสบายใจ
ขอบคุณ : ภก.ภัทรพงษ์ แก้วเภตรา ผู้เชี่ยวชาญจากเมก้า วีแคร์