ไอศกรีม...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

วันก่อนคุณยายท่านหนึ่งมาพบแพทยเ์พื่อ ตรวจเบาหวานตามนัด ปรากฏว่าครั้งนี้มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึง 300 มิลลิกรัม/เดซิลิตร คุณหมอ จึงถามไปว่า “เมื่อวานเย็นคุณยายกินอะไรไปคะ” คุณยายตอบ ว่า “ก็กินตามปกติ ผัดหมี่ก็ไม่หวาน ไม่มันนะ” สักพักใหญ่หลานที่มากับคุณยายนึกขนึ้ ไดว่า “อ๋อ เมื่อวานคุณยายกินไอศกรีมช็อคโก แลตไป 1 ถว้ยไงคะ” คุณยายรีบตอบว่า “เออยาย ลืมไปนะ เมื่อวานอากาศมันร้อนเลยกินไอศกรีมไป ค่ะคุณหมอ”

บ้านเรานับวันยิ่งอากาศร้อนขึ้นๆ หลายๆ คนคงอยากหาอะไรมาคลายร้อน ไม่ว่าจะเป็นนั่งในห้องแอร์เย็นๆ ไปว่ายน้ำ หรือหาอะไรที่หวานเย็นรับประทานกัน ไอศกรีมก็จัดเป็นหนึ่งของหวานที่หลายๆ คนชอบรับประทานกัน

โดยทั่วไปไอศกรีมที่เรารับประทานกันนั้นมี ส่วนผสมของ นม น้ำตาล ครีม ไข่ หรือกะทิ และได้ รับการเติมสี กลิ่นต่างๆ นอกจากนี้ไอศกรีมมักมีการ โรยหน้าด้วยของหวานมัน ไม่ว่าจะเป็นลูกชิด มัน เชื่อม ถั่วคั่ว ขา้ วเหนียวมูน ตลอดจนวิปครีม ช็อคโกเเลต เยลลี่ ถั่วอัลมอนต ์หรืออื่นๆ ลงไปเพื่อ ใหดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น แต่ไอศกรีมทั่วไปเหล่านี้ มักให้พลังงานสูงและมีไขมันอยู่มากเมื่อเทียบกับ ไอศกรีมประเภทไขมันต่ำหรือไอศกรีมที่ทำจากผล ไม้ซึ่งให้พลังงานและไขมันน้อยกว่า

สำาหรับท่านที่ไปรับประทานไอศกรีมตาม ร้านทั่วไป ถ้าสั่งไอศกรีมธรรมดา 1 ถว้ ย (2-4 Scoops) จะได้รับพลังงานประมาณ 500-1100 กิโลแคลอรี เทียบเท่ากับเรารับประทานข้าวมันไก่ ข้าวคลุกกะปิ ข้าวหมูแดง 1-2 จานเลยทีเดียว ซึ่งใน ทางกลับกัน ถ้าเลือกรับประทานไอศกรีมไขมันต่ำ หรือไอศกรีมผลไมแ้ ทนในปริมาณเท่ากันจะให้ พลังงานระหว่าง 220-700 กิโลแคลอรี ดังนัน้ เรา ควรเลือกรับประทานไอศกรีมอย่างระมัดระวัง เพราะอาจเป็นตน้ เหตุใหคุ้ณมีระดับน้ำตาลและ ระดับไขมันในเลือดสูง น้ำหนักขึ้น หรืออ้วนได้โ้ ดยไม่รู้ตัว

หลักการเลือกรับประทานไอศกรีมเพื่อสุขภาพ

1. ควรเลือกไอศกรีมชนิดไขมันต่ำ หรือ ไอศกรีมประเภทซอรเ์บท แทนไอศกรีม ธรรมดาทั่วไปเนื่องจากให้พลังงานและไข มันที่นอ้ยกว่า้ ถ้ารับประทานไอศกรีมที่บรรจุภาชนะควรอ่านฉลาก โภชนาการก่อนเลือกซื้อโดยพิจารณาดูพลังงาน ปริมาณคารโ์บไฮเดรต และไขมันที่ได้รับดังตัวอย่าง ต่อไปนี้


จากตารางฉลากโภชนาการ จะเห็นได้ว่าถ้าเรารับประทาน ไอศกรีม 1 ถ้วย จะได้รับพลังงาน 186 กิโลแคลอรี โดยเป็นพลังงานจากคารโ์บไฮเดรต 62% โปรตีน 9% ไขมัน 29% ซึ่งพลังงานส่วนใหญ่มาจากน้ำตาล มีใยอาหารเพียงเล็กน้อย ในผู้ป่วยเป็นเบาหวาน อาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้
2. ควรรับประทานไอศกรีมครั้งละ ? ถ้วยตวง และลดการบริโภคอาหารหมวดข้าว แป้ง ไขมันลง
3. ไม่ควรโรยหน้าไอศกรีมด้วย วิปครีม ช็อคโกเเลต หรือ เยลลี่ เพราะมีไขมันและน้ำตาลมาก อาจโรยเป็นผลไม้สดชนิดต่างๆ แทน เช่น สตรอเบอรี่ สับปะรด กล้วย ถั่วอัลมอนต์หรือถั่วลิสงเล็กน้อย เพราะผลไม้จะให้ใยอาหารและวิตามินที่หลากหลายกว่า ถั่วอัลมอนต์ จะให้ โฟเลต แคลเซียม แมกนีเซียมและไขมันชนิดไม่อิ่มตัวดีกว่า ถั่วลิสงอุดมไปด้วยวิตามินอีและไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเช่นกัน
4. ผู้เป็นเบาหวานควรตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดภายหลังรับประทานไอศกรีม เพื่อเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในการไปใช้ปรับแผนการบริโภค




ไอศกรีมถ้วยนี้ มีคุณหรือโทษขึ้นอยู่กับการเลือกสรรของคุณ