เลือกกินผักผลไม้ให้เป็น นักโภชนาการแนะลดหวาน-ห่างโรค



รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อ.ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันการรับประทานผักผลไม้ของคนไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ 400 กรัมต่อวัน แต่ก็พบว่ามีปัญหาการรับประทานที่ไม่ถูกต้องอยู่ด้วย โดยทานผลไม้บางชนิดมากเกินไป เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ซึ่งมีน้ำตาลสูง โดยเฉพาะทุเรียนมีไขมันด้วย การรับประทานมากเกินไปจะส่งผลให้น้ำตาลเกินได้ ทั้งนี้ แนะนำให้กินผลไม้วันละ 3-5 ส่วน คือ 1 ส่วนให้คาร์โบไฮเดรต 15 กรัม พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี เช่น หญิงวัยทำงาน ผู้สูงอายุ ต้องการพลังงานวันละ 1,600 กิโลแคลอรี ต้องการผลไม้ 3-4 ส่วน วัยรุ่น ต้องการพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี ต้องการผลไม้ 4 ส่วน ผู้ใช้แรงงานต้องการพลังงาน 2,400 กิโลแคลอรี ต้องการ 5 ส่วน เป็นต้น

อ.ประจำสถาบันโภชนาการกล่าวต่อว่า การคิดส่วนของผลไม้ อาทิ กล้วยไข่ 1 ส่วน คือ 1 ผลขนาดใหญ่ เงาะโรงเรียน 1 ส่วนเท่ากับ 5 ผลขนาดกลาง ทุเรียนหมอนทอง 1 ส่วน เท่ากับ 1 เม็ดขนาดกลาง มะละกอแขกดำ 1 ส่วน เท่ากับ 3 ชิ้นใหญ่ หรือ 6 ชิ้น มังคุด 1 ส่วน เท่ากับ 4 ผลขนาดกลาง เป็นต้น การทานผลไม้รสหวานจะทำให้ได้รับคาร์โบไฮเดรตสูง จึงควรลดปริมาณความหวานในมื้ออื่นๆ ลงด้วย

รศ.ดร.รัชนีกล่าวว่า ควรเน้นทานผักให้มากขึ้น ส่วนผลไม้ควรทานตามฤดูกาล ไม่จำเป็นต้องกินอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กินส้มเพื่อให้ได้วิตามินซี เพราะในผลไม้มีวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหารไม่ต่างกัน สามารถกินฝรั่งแทนได้ ทั้งนี้ ผักผลไม้จะช่วยให้ร่างกายได้วิตามิน เกลือแร่ และสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการเป็นโรคติดต่อเรื้อรังทั้ง เบาหวาน มะเร็ง โรคหัวใจ ลงได้