เปิดสายด่วนผักสด-ดูแลผู้บริโภค ชูปลอดภัยไร้เคมีตกค้าง



พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กล่าวในการเสวนาเรื่อง "แนวทางการแก้ไขปัญหาผักสดไม่ปลอดภัยและการพัฒนาสถานที่จำหน่ายผักสดให้ได้มาตรฐาน" จากโครงการ "ผักสดปลอดภัย ส่งเสริมคนไทยสุขภาพดี ภายใต้ทฤษฎีตำรวจผู้รับใช้ชุมชน (สายสืบผักสดรีเทิร์น)" ว่า การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหน้าที่ของ บก.ปคบ. ซึ่งมีภาระงานหลายด้านทั้งการให้บริการ สินค้า อาหาร และยา อุตสาหกรรม โดยประชาชนสามารถช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้ด้วยการแจ้งผ่านสายด่วน 1135 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบเพื่อควบคุมให้เป็นไปตามมาตรฐาน



ด้านนายวิฑูร เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าวว่า การควบคุมสารเคมีของไทยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือหลายภาคส่วน โดยเฉพาะระบบการขึ้นทะเบียนสารเคมี ซึ่งในยุโรป และสหรัฐอเมริกา สามารถนำสารเคมีที่ไม่เหมาะสมและอันตรายต่อผู้บริโภค ออกจากระบบได้ประมาณร้อยละ 40 ขณะที่ประเทศไทยมีการผลักดันให้ควบคุมสารเคมี 4 ตัว ได้แก่ สารไดโครโดฟอส สารเมโทบิล หรือแลนเนท สารคาร์โบฟูราน หรือฟูราคาน สาร อีพีเอ็น หรือคูมิฟอส ซึ่งหากควบคุมได้จะทำให้ปัญหาสารเคมีตกค้างในพืชผักส่งออกลดลงได้ 1 ใน 3



นายวิฑูรกล่าวต่อว่า การจัดการการขายและการผลิตที่ไม่มีจริยธรรม จำเป็นต้องมีการจัดการกระบวนการผลิตต้นน้ำให้เข้มข้นมากขึ้น ทำให้เกิดการลดการใช้สารเคมีลง โดยระบบการตลาดสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดที่มีการขายส่งให้กับห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จะเน้นคุณภาพสินค้ามากขึ้น ทำให้เกษตรกรใส่ใจการผลิตสินค้าที่ปลอดภัยมากขึ้น ทั้งนี้กลไกเฝ้าระวังในประเทศไทยถือว่ายังไม่เพียงพอและจำเป็นต้องสร้างความเข้มแข็งด้วยการให้ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคร่วมวางกติกา ก่อนถึงขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย