ด้วยพระกรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยสุขภาพของประชาชนชาวไทย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จึงทรง พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง หน่วยแพทย์พระราชทานพระตำหนักจักรีบงกช โดยใช้พื้นที่ภายในบริเวณพระตำหนักจักรีบงกช ต.บางขะแยง จ.ปทุมธานี เป็นจุดตั้งหน่วยแพทย์ ให้บริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง และในวันงดบุหรี่โลกปี 2556 ได้จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนที่มารับการรักษาด้วย
ศาสตราจารย์ กิตติคุณ นพ. จรัส สุวรรณเวลา รองประธานสถาบัน วิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี 2554 บริเวณพระตำหนักจักรีบงกช น้ำก็ท่วมเช่นกัน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดหน่วยแพทย์พระราชทานเข้ามาดูแลประชาชนใน ละแวกพระตำหนัก จนกระทั่งน้ำลด ด้วยทรงตระหนักว่าโครงการนี้น่าจะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวปทุมธานี และบริเวณใกล้เคียง ที่อาจเข้าไม่ถึงบริการของสาธารณสุข หรือไม่สะดวกเข้ารักษาในโรงพยาบาล พระองค์จึงทรงมีพระดำริให้ตั้งหน่วยแพทย์พระ ราชทาน พระตำหนักจักรีบงกชขึ้น ตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นของขวัญปีใหม่ 2556 พระราชทานแก่ประชาชน ซึ่งจัดขึ้นทุกวันจันทร์เวลา 08.00-12.00 น. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และพระองค์ก็เสด็จตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานนี้ด้วยพระองค์เองเป็นครั้ง คราว โดยคณะแพทย์และพยาบาลที่มาร่วมโครงการมาจาก รพ.จุฬาภรณ์, รพ.ปทุมธานี รวมทั้งอาสาสมัครจากรพ.ศิริราช
คุณหมอจรัสกล่าวต่อว่า จากการออกตรวจครั้งนี้เป็นครั้งที่ 21 แล้ว โดยให้บริการรักษาโรคทั่วไป กรณีผู้ป่วยมีอาการหนัก ก็จะส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในสังกัด บางคนก็เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ ผู้มาใช้บริการส่วนใหญ่มักเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคปอด, โรคทางเดินหายใจ, โรคกล้ามเนื้อ, โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ และตอนนี้ได้ขยายให้บริการด้านทันตกรรม, บริการด้านกุมารเวช และให้บริการหน่วยสัตวแพทย์อาสาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมทั้งหน่วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ได้มาให้บริการด้านสังคมสงเคราะห์แก่ประชาชนที่เดือดร้อนในเรื่องคุณภาพ ชีวิตด้วย พร้อมกันนี้เราได้จัดบริการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องต่างๆ เช่น โรคภัยของการสูบบุหรี่, โรคมะเร็ง ที่เป็นแล้วรักษาให้หายได้ถ้ารู้แต่เนิ่นๆ เป็นต้น
ผู้ป่วยที่มาใช้ บริการหน่วยแพทย์พระราชทานนี้ อย่าง นางสุนีย์ สุภิมารส อายุ 70 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน มีอาการแขนขาอ่อนแรงและมีแผลที่เท้า บอกว่า ตนเคยไปรักษาที่อนามัยและที่โรงพยาบาล แต่ช่วงหลังไม่ได้ไปเพราะไม่สะดวก พอทราบข่าวว่ามีโครงการนี้ เพื่อนบ้านเลยพามารักษา รู้สึกดีใจมาก เพราะได้รับการดูแลรักษาอย่างดี จนทำให้มีกำลังใจขึ้นเยอะ ส่วน นายสถิต สำเนียงเสนาะ อายุ 66 ปี ป่วยเป็นวัณโรค บอกว่า ตนไม่รู้ว่าเป็นวัณโรค จนกระทั่งมาตรวจที่นี่และได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล จนตอนนี้ใกล้หายแล้ว ดีใจมาก พระองค์ท่านทรงเป็นที่พึ่งของประชาชนจริงๆ.