bloggang.com mainmenu search
ป่วยเบาหวาน-ความดันฉุดโรคไตพุ่ง เร่งเปลี่ยนพฤติกรรมบริโภค



นพ.สมเกียรติ วสุวัฏฏกุล รองผอ.ฝ่ายพัฒนาคุณภาพและอายุรแพทย์โรคไต ศูนย์โรคไต โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มผู้ป่วยโรคไตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมักเกิดปัญหาในกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรังโดยเฉพาะโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งพบว่าผู้ป่วยทั้งสองโรค ร้อยละ 40 มักเกิดโรคไตร่วมด้วย แต่หากควบคุมโรคได้ดีก็จะลดการเกิดโรคแทรกซ้อนได้ โดยระยะเวลาที่จะเกิดโรคไตได้ในผู้ป่วยเบาหวาน และ ความดันโลหิตสูง จะอยู่ในช่วง 10 ปี และในระยะ 5 ปี จะเข้าสู่อาการไตวายระยะสุดท้าย ต้องได้รับการฟอกเลือด ล้างไตผ่านช่องท้อง เปลี่ยนถ่ายไต เป็นต้น โดยหากปล่อยให้ป่วยด้วยโรคไตระยะเรื้อรังแล้ว เฉลี่ยจะเกิดค่ารักษา 2 แสนบาทต่อคนต่อปี



นพ.สมเกียรติกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคไต เกิดจากพฤติกรรมเป็นหลัก การรับประทานอาหาร เค็มจัด หวานจัด ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และทำให้เกิดโรคไตตามมา นอกจากนี้ยังเกิดได้จากการ กินวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินซี ในรูปแบบสังเคราะห์ ที่ไม่ควรเกิน 100-500 มิลลิกรัม ซึ่งความจริงหาได้ในอาหารจำพวกผักสดและผลไม้รสเปรี้ยว และยังเกิดได้ จากการกินยาบางชนิดติดต่อกัน เช่น ยาแก้ปวดกดการอักเสบ (NSAIDa) อีกด้วย



นพ.สมเกียรติกล่าวว่า โรคเรื้อรังเป็นปัญหาที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้สามารถดูแลตนเองได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดเค็ม ลดหวาน ลดไขมัน และออกกำลังกาย ตรวจร่างกายเป็นประจำ หากพบปัญหาเร็วก็อาจแก้ไขได้ เช่น หากพบว่าเกิดจากนิ่ว ก็ต้องแก้ที่ โรคนิ่ว เป็นต้น ทั้งนี้ ควรตรวจหาโรคตั้งแต่อายุ 40 ปี ขึ้นไป ส่วนสัญญาณของโรคไต เช่น อาการบวม ปัสสาวะเป็นฟองมาก นานจนผิดสังเกต เป็นต้น



ทั้งนี้ ร.พ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ได้จัดโครงการอาสาสมัครใจ SiPH 2gether Caring&Sharing โดยจัดเวิร์กช็อป ประจำเดือน พ.ค. "ผู้สูงอายุกับโรคไต" ให้ความรู้และกระตุ้นความสำคัญการป้องกันโรค
Create Date :23 พฤษภาคม 2557 Last Update :23 พฤษภาคม 2557 3:55:49 น. Counter : 1275 Pageviews. Comments :0