bloggang.com mainmenu search
เทคโนโลยีอัจฉริยะ พิชิตโรคหัวใจ

โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยสูงสุดเป็นอันดับสาม รองจากโรคมะเร็งและอุบัติเหตุจราจร เพื่อรณรงค์ให้คนไทยใส่ใจดูแลสุขภาพหัวใจให้ฟิตปั๋ง โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล ทุ่มทุนสร้างเปิดห้องผ่าตัดไฮบริดอัจฉริยะ “HYBRID   OPERATING  ROOM” ด้วยเทคโนโลยี  Flexmove  อย่างเป็นทางการ บริเวณชั้น  3  อาคาร  1  เพื่อตอบโจทย์การรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจที่ต้องรับการรักษาด้วยวิธีใช้สายสวนทางหลอดเลือด และผู้ป่วยที่ต้องการผ่าตัดฉุกเฉิน โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการเส้นเลือดแดงโป่งพอง

ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชั่นแนล “นพ.อนันตศักดิ์  อภัยรัตน์” เปิดเผยว่า โรงพยาบาลพญาไท 2 ทุ่มงบประมาณกว่าร้อยล้านบาท สร้างห้องผ่าตัดไฮบริดด้วยเทคโนโลยี Flexmove เพราะตระหนักถึงภัยร้ายจากการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ความเจ๋งของเทคโนโลยีนี้อยู่ที่ประสิทธิภาพสุดยอดในการถ่ายภาพเอกซเรย์หลอดเลือดบริเวณศีรษะ, คอ และทรวงอก โดยสร้างภาพเสมือนหลอดเลือดได้ก่อนและขณะผ่าตัด อีกทั้งสามารถเคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่แพทย์จะผ่าตัด ทั้งแนวระนาบ และถ่ายภาพเสมือนจริงเกือบ 360 องศา เนื่องจากห้องผ่าตัดดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับงานหัตถการหลายรูปแบบในห้องเดียว มีระบบไฟพิเศษ และระบบการไหลเวียนของอากาศทิศทางเดียวที่แยกจากส่วนอื่น จึงทำให้ปลอดเชื้อ และเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด

รศ.นพ.กิตติชัย เหลืองทวีบุญ และ นพ.อนันตศักดิ์  อภัยรัตน์  ให้คำแนะนำ

รศ.นพ.กิตติชัย เหลืองทวีบุญ และ นพ.อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ให้คำแนะนำ "นัท มีเรีย เบเนเด็ตตี้" ที่เข้ารับการตรวจสุขภาพหัวใจด้วยเครื่อง SPHYGMOCOR วัดความดันหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ส่งไปเลี้ยงหัวใจและสมองส่วนต้น.

หลังเป็นไกด์กิตติมศักดิ์พาชมห้องผ่าตัดไฮบริด และแนะนำอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ พร้อมสาธิตการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทุกซอกทุกมุม ศัลยแพทย์โรคหัวใจมือหนึ่ง “รศ.นพ.กิตติชัย เหลืองทวีบุญ” ผู้อำนวยการศูนย์ผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก ได้บอกเล่าถึงภัยเงียบจากโรคหัวใจที่กำลังคุกคามคนไทยว่า โรคหัวใจมีหลายแบบ แต่โรคหัวใจที่เกิดจากหลอดเลือดแดงโป่งพอง เปรียบเสมือนเพชฌฆาตเงียบคร่าชีวิตผู้ป่วย  ซึ่งหากเกิดกับใครแล้วก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเสียชีวิตถึง 90% ตัวอย่างจากผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่มีอาการปวดท้อง และได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นอาการจากกรดไหลย้อน แต่ทานยาไปพักหนึ่ง อาการก็ยังไม่ดีขึ้น แถมมีอาการปวดท้องหนักกว่าเก่า กระทั่งได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร และทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT Scan จึงพบว่า มีอาการหลอดเลือดแดงบริเวณช่องท้องโป่งพอง และต้องผ่าตัดทันที เนื่องจากเป็นผลข้างเคียงจากโรคความดันโลหิตสูง ที่เป็นโรคประจำตัว ขณะที่ผู้ป่วยอีกรายมีอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นอาการจากโรคหลอดเลือดแดงโป่งพอง เมื่อรับการผ่าตัดทำให้อาการปวดหลังหายไป และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง.

Create Date :17 มกราคม 2557 Last Update :17 มกราคม 2557 13:42:26 น. Counter : 1310 Pageviews. Comments :0