Xinchao Vietnam ( 12 ) ต้องขออภัยครับ ที่ทิ้งช่วงนานไปหน่อยจนเกือบลืม แต่เรื่องก็งวดเต็มทีแล้วล่ะ ![]() ![]() รุ่งขึ้น เปิดห้องมาที่ห้องโถงชั้นสองของโรงแรมแล้วต้องผงะ มีเสือโคร่งตัวเบ้อเริ่ม ยืนจังก้า แยกเขี้ยวต้อนรับแต่เช้าเลยครับ กำลังสงสัยว่าเขาปล่อยเสือมาเดินเพ่นพ่านได้อย่างไร ? ![]() แต่น้องผมกลับชอบใจ แถมให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยสิ เป็นเสือโคร่งสตั๊ฟฟ์ ยืนอยู่ห้องโถงชั้นที่พักครับ ปลุกแขกที่กำลังงัวเงียหรือกำลังเดินสะเงาะสะแงะกลับเข้าห้องดีนักแล ![]() ![]() วันนี้ต้องแต่งตัวค่อนข้างเรียบร้อยกันอีกวันครับ เพราะมีกำหนดนัดพบกับคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฮาติ่งห์ (Ha tinh University) ในช่วงบ่าย ซึ่งต้าอ่วยกันเพื่อหาทางทำ MOU แลกเปลี่ยนนักศึกษา และอาจารย์ กับทาง มข.ด้วย ![]() หลังจากอิ่มมื้อเช้า และเช็คเอ้าท์จากโรงแรมเสร็จสรรพแล้ว ก็พากันมาขึ้นรถ ให้ไกด์เช็คหัวเป็นรายคนตามปกติประจำวัน ![]() พอนับหัวครบดีแล้ว ไม่มีใครตกหล่นกับสาวเวียตนามแต่ประการใด ล้อก็เริ่มหมุนทันที ระหว่างทางช่วงนี้ มีเส้นทางรถไฟขนานกับถนนไปจนถึงเมืองวิงห์ (Vinh) และรถด่วนเที่ยวเช้าจากสถานีไซ่ง่อนสวนทางขึ้นมาจะไปกรุงฮานอย เสียดายที่ผมคว้ากล้องมาถ่ายรูปไม่ทัน มาทันตอนเจอรถสินค้าเที่ยวล่องจากฮานอยนี่แหละ ![]() เห็นสัญญลักษณ์แล้ว เป็นที่รู้กันว่า กำลังพ้นเขต จ.นิงบิ่งห์ (Ninh binh) ครับ และเข้าสู่ จ.แทงหัว (Thanh hua) ![]() ไม่กล้าซิ่งมากครับ เพราะเจอตำรวจเวียตนามตั้งด่านด้วยสิ ![]() คราวนี้ เส้นทางรถไฟที่ห่างออกไปทางทิศตะวันตกนั้น กลับเข้ามาขนานกับถนนอีกครั้งหนึ่ง และข้ามไปอยู่ทางด้านซ้ายมือ ![]() หลังจากเร่งเครื่องแซงแล้ว ก็ทิ้งขบวนรถไฟจนลับจากสายตา เพราะขบวนรถสินค้าวิ่งด้วยความเร็ว 50 กม./ชม.เท่านั้น ![]() รถเมล์ (นอน) ไปกรุงฮานอย เริ่มปรากฎให้เห็นต่อสายตาอีกครั้งแล้วนะครับ ![]() ขณะที่มองสองข้างทางเพลินๆ อยู่นั้น มีรถตู้คันหนี่ง ติดธงเต็มคัน และมีมอเตอร์ไซต์นับสิบขับตามรถตู้นั้น ออกมาจากเมือง ได้สักพักหนึ่ง รถตู้ก็มาบรรจบกับถนนใหญ่ พอให้เห็นใกล้ๆ รถขนศพนั่นเอง กำลังจะเอาไปฝังยังฮวงซุ้ยนอกเมือง ไม่ยักมีนางร้องไห้ข้างศพแฮะ หรือว่ายุคสมัยเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ได้ ![]() ป้ายนี้จะเขียนว่าอะไร ผมเดาไม่ออก ขอได้วิจารณ์ตามอัธยาศัย ![]() ![]() และก็เช่นเคย เรากำลังออกจากเขต จ.แทงหัว (Thanh hoa) เข้าสู่เขต จ.เหง่ะอานห์ (Nghe Anh) แล้วครับ ![]() เนื้อที่อาศัยอันมัธยัสถ์ของบ้านชาวเวียตนาม ![]() เส้นทางรถไฟที่เริ่มขนานกับเส้นทางหลวงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากแยกห่างไปที่หมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากเส้นทางหลวงครับ ![]() และผ่านตัวเมือง หากจะเรียกให้ถูกต้องคือ อำเภอของ จ.เหง่ะอานห์ (Nghe Anh) นั่นเอง โชว์รูมมอเตอร์ไซต์ที่ว่า เป็นของยี่ห้อดังจนแทบผูกขาดตลาดของเวียตนาม ![]() หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันที่โรงแรมเฟืองดง (Phong dong) ที่พักคืนแรกที่มาเยือนเวียตนามแล้ว ล้อก็เริ่มหมุนไปยัง จ.ฮาติ่งห์ (Ha tinh) ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กม.ครับ ![]() จากชุมชนเมือง รถจะผ่านสะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำลำ (Song Lam) และเป็นแม่น้ำประจำเมืองวิงห์ (Vinh) ด้วย พอข้ามสะพานแล้ว จะเป็นเขต จ.ฮาติ่งห์ (Ha tinh) ที่เป็นเช่นนี้ เพราะทางการเวียตนามได้แยก จ.ฮาติ่งห์ ออกจาก จ.เหง่ะอานห์ เพื่อพัฒนาเมืองให้รับกับโครงการท่าเรือน้ำลึก ๒ แห่ง คือ ท่าเรือหวุงอาง (Vung ang Port) และท่าเรือเซินเยวือง โรงไฟฟ้าพลังความร้อนอีก ๓ แห่ง และนิคมอุตสาหกรรมหวุงอาง และน่าสนใจมากกว่านั้น เป็นโครงการร่วมทุนของ สปป.ลาว เพื่อหาทางออกสู่ทะเล นอกเหนือจากท่าเรือแหลมฉบังของประเทศไทย ![]() แม่น้ำลำ (Song lam) ซึ่งดูกว้างขวางมากนะครับ ![]() ตอนนี้ แนวภูเขาได้ขยับไปทางตะวันตกซึ่งติดกับ สปป.ลาว มองดูผาดๆ เหมือนอยู่ในที่ราบ รถรามีวิ่งขวักไขว่ ทั้งรถประจำทาง และรถบรรทุก เหมือนในบ้านเรา ![]() แล้วคณะก็เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยฮาติ่งห์ (Ha tinh University) ในเวลาบ่ายสองโมงเย็น มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ตั้งขึ้นโดยรวมวิทยาลัยฝึดหัดครูฮาติ่งห์ วิทยาลัยเทคนิค และวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งเข้าด้วยกัน และได้ก่อสร้างที่ทำการให้ใหม่ แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ที่เห็นเป็นที่ตั้งวิทยาเขตเดิม ![]() ดังที่กล่าวตั้งแต่ต้นมาครั้งหนึ่งแล้ว ด้วยการประชุมร่วมกัน ทางมหาวิทยาลัยฮาติ่งห์ (Ha tinh University) ได้สรุปข้อมูลเบื้องต้น และหารือด้านการสนับสนุนต่างๆ จาก มข. ซึ่งจะมีการพบปะกันเป็นทางการกับทาง มข.ต่อไป การพูดคุยกันนั้น ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะมีล่ามพร้อมที่จะแปลภาษาอยู่แล้ว ทั้งทางมหาวิทยาลัยเองกับคณะทัวร์ที่ไป แถมยังเป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยในประเทศไทยด้วย และท้ายสุด มีการนัดเลี้ยงอาหารมื้อเย็นที่โรงแรม โดยมหาวิทยาลัยฮาติ่งห์เป็นเจ้าภาพ งานนี้เลยอิ่มท้องไปอีกหนึ่งมื้อ ![]() ![]() ตัวเมืองฮาติ่งห์ (Ha tinh) มองจากห้องที่พักอยู่ของโรงแรม BMC ครับ โดยมีห้องอาหารอยู่ที่ขั้นดาดฟ้าของโรงแรม และคืนนั้นมีการรับประทานอาหารสังสันท์กับทางคณาจารย์ของ มหาวิทยาลัยฮาติ่งห์ ซึ่งนั่งประกบอยู่ทุกโตีะทีเดียว แต่เป็นกันเอง สนุกสนานมากมาย รุ่งขึ้น ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ![]() โดย: tuk-tuk@korat
![]() ขอบคุณที่มาแวะชมครับ
โดย: owl2 IP: 110.77.160.171 วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:8:40:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|