Xinchao Vietnam ( 5 ) ![]() ท่าทราย ทีพบเห็นกันมากตามย่านนี้ครับ เพราะมีแม่น้ำหลายสาย ![]() พ้นเขต จ.นิงบิ่งห์ (Ninh Binh) เข้าเขต จ.ไทบิ่งห์ (Thai Binh) ซึ่งเป็นจังหวัดอยู่ติดชายทะเลอ่าวตังเกี๋ย แล้วครับ ![]() ตัวเมืองไทบิ่งห์ (Thai Binh) มองจากถนนเลี่ยงเมือง จะสังเกตว่า มีนาข้าวเขียวอร่ามอยู่ในภาพด้วย ที่นี่อุดมไปด้วยน้ำท่าบริบูรณ์ เพราะมีแม่น้ำหลายสาย ชาวนาที่นี่ทำนากันปีละ 3 หน ยกเว้นช่วงเดือนกันยายน เพราะเป็นช่งพายุไต้ฝุ่นเข้าพอดี ชาวนาที่นี่ขยันมากครับ ด้วยพื้นที่เพาะปลูกมีจำกัด ไปทำนาที่ฮวงซุ้ยก็มี บรรพบุรุษจะอยู่ไม่สุขก็ตรงนี้แหละ ![]() ![]() ดังที่กล่าว บริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำแดงมีประชากรอยู่หนาแน่น บ้านเรีอนของชาวเวียตนามแถบนี้ จะพื้นที่ค่อนข้างแคบและเน้นไปทางสูง ดังที่เห็น ระหว่างที่ตั้งข้อสังเกตกับอาจารย์ชาวเวียตนาม ท่านหัวเราะหึๆ บอกว่าใจของชาวเวียตนามนั้น อยากจะขยายบ้านเรือนไปทางกว้างมากกว่า แต่จนใจที่ราคาที่ดินมีราคาแพง ทำให้บ้านเรือนมีสภาพดังกล่าว ![]() ขอแวะทิ้งน้ำหนักยามบ่ายและซื้อของที่ระลึกจากร้าน OTOP ที่เมืองไทบิ่ง (Thai Binh) ก่อนครับ ซึ่ีงของที่จำหน่ายนั้น ทำจากผลไม้ ถั่วเขียว เม็ดบัวตากแห้ง มีรสหวานเล็กน้อย เหมาะสำหรับกินกับน้ำชายามบ่ายแบบชาวจีนนั่นแหละ ![]() ข้าวของที่จำหน่ายภายในร้าน มีที่นั่งพักด้วย การซื้อขายนั้นทำไม่ยาก เพราะรับเงินบาทและทอนเป็นเงินบาท ส่วนราคานั้นคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันโดยปรากฎตัวเลขตามเครื่องคิดเลข นับว่าแฟร์พอสมควร วันที่ผมเดินทางไปนั้น อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 บาทต่อ 700 ด่ง และมีคณะทัวร์หลายคณะลงมาแวะซื้อของกันที่นี่เหมือนกัน ![]() หลักกิโลเมตรที่หน้าร้าน บอกเราว่า เมืองไฮฟอง (Hai phong) ยังอยู่ห่างไปอีก 54 กิโลเมตร ![]() ข้ามแม่น้ำอีกแห่งแล้วครับ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตถ่านหินชนิดแอนทราไซต์ที่ใหญ่โตของเวียตนาม ![]() ไม่นานนัก เราก็พ้นเขต จ.ไทบิ่งห์(Thai Binh)เข้าเขต จ.ไฮฟอง(Hai phong) ลืมบอกไปตั้งแต่แรกครับว่า รถมอเตอร์ไซต์ หรือรถสองล้อลงมา ไม่ต้องจ่ายเงินค่าผ่านด่านแต่อย่างใด ![]() ที่ราบลุ่มแม่น้ำแดง มีพื้นที่การเกษตรหนาแน่น สามารถทำนาได้ปีละ ๓ ครั้ง ยังมีประชากรหนาแน่น แถมยังมีลำน้ำหลายแห่งที่สร้างสะพานข้ามอีกด้วย ฝั่งแม่น้ำ เป็นเส้นทางรถไฟสายฮานอย - ไฮฟอง สู่เมืองไฮฟอง และท่าเรือครับ ![]() ข้ามสะพานลอยผ่านทางหลวงหมายเลข 5 (ฮานอย - ไฮฟอง) ดูทันสมัยไม่เบา ![]() ผ่านถนนเลี่ยงเมืองไฮฟอง (Hai Phong) ทำให้ผมนึกถึงบรรยากาศสมัย B - 52 กำลังโปรยลูกระเบิดมาถล่มตัวเมืองและบริเวณท่าเรือแห่งเดียวของเวียตนามเหนือในขณะนั้น ![]() เรากำลังสู่สะพานแขวนข้ามแม่น้ำแดง (Song Hong) ที่ไหลจากเมืองฮานอย (Hanoi) แล้วครับ ![]() แม่น้ำแดง (Song Hong) และเมืองไฮฟอง (Hai Phong) มีผลผลิตที่สำคัญคือถ่านหินแอนทราไซต์ ซึ่งนอกจากใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าแล้ว ยังเป็นเชื้อเพลิงสำหรับครัวเรือนอีกด้วย โดยเอาผงถ่านหินผสมกับดิน มาปั้นเป็นแผ่นเพื่อจำหน่าย ไกด์เล่าว่าหม้อไหในครัวเรือนของชาวเวียตนาม จะค่อนข้างหนา ไม่เช่นนั้น ความร้อนสูงจากถ่านหินอาจทำให้ก้นหม้อทะลุได้ ![]() สองข้างทางตอนนี้ ทำให้ผมคิดว่ากำลังอยู่แถวๆ จ.กระบี่ - พังงา ของบ้านเรา ![]() บางที่ก็มีท่าเรือขนถ่านหินครับ ทำให้มีหลายคนเกรงว่า เถ้าถ่านอาจไปทำลายความสวยงามของอ่าวฮาลอง (Halong Bay) ![]() พ้นเขต จ.ไฮฟอง (Hai Phong) แต่ด่านนี้ไม่มีเก็บเงิน อาจเป็นว่าทางจังหวัดมีงบประมาณอุดหนุนเหลือเฟือแล้วก็ได้ เราจะเข้าเขต จ.กว่างนินห์ (Quang ninh) ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนอีกแห่งหนึ่งสู่ชายแดนจีน ดังนั้น เราจะเห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนกันค่อนข้างหนาตา ![]() ผ่านเส้นทางรถไฟจากฮานอย ไป จ.กว่างนิงห์ (Quang Ninh) แต่เส้นทางรถไฟสายนี้ ไปไม่ถึงตัวจังหวัด ![]() บ่ายคล้อย คณะทัวร์ก็มาถึงอ่าวฮาลอง (Halong Bay) แล้วครับ สภาพตึกรามดูทันสมัย ไม่แพ้เมืองพัทยาบ้านเรา ![]() ด้วยเป็นเวลาเย็นแล้ว ทางไกด์ได้จอดพักให้ลูกทัวร์เข้าทำธุระส่วนตัวที่ร้านจำหน่ายของที่ระลึกของจีน ก่อนเข้ารับประทานอาหาร และเข้าที่พักต่อไป ![]() ที่ระลึกจากอ่าวฮาลอง (Halong Bay) ตอนพลบครับ ![]() พ้นจากอาหารมื้อเย็นแล้ว ก็ถึงคราวแวะชมร้านจำหน่ายของที่ระลึกแล้วครับ ซึ่งผมเองไม่มีพื้นเรื่องนี้ แต่น้องของผมใช้สูตรบอกครึ่งหนึ่งของราคาที่เสนอมา แล้วค่อยต่อรองจนเป็นที่พอใจ ซึ่งแม่ค้าพูดไทยได้นิดหน่อย ต้องพลิกตำรามาต่อรองกันกันสุดฤทธิ์ แบบไว้ลายแม่ค้าเวียตนามเชียวล่ะ ![]() หลังใช้จากลูกล่อลูกชนกันนิดหน่อยแล้วตกลงกันได้ น้องผมก็จ่ายเป็นเงินไทย และแม่ค้าทอนเป็นเงินไทยเช่นกัน โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนตามที่คำนวนในเครื่องคิดเลข ต่างคนต่างยิ้มแย้มให้กัน ก่อนที่ชาวคณะจะเข้าสู่ที่พักคืนนี้ คือ โรงแรมไซ่ง่อน ฮาลอง (Saigon Halong) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่ผมสนใจมากกว่านั้นคือเงินบาท และภาษาไทย เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับกันของแหล่งท่องเที่ยวในเวียตนาม แสดงว่าเราก็เป็นมหาอำนาจย่อยๆ ในถิ่นอาเซียนเหมือนกัน ฤทธิ์เดชของนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นไม่เบาเลยครับ ![]() เราก็ต่อราคาไม่ค่อยเป็นค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
![]() |
บทความทั้งหมด
|