ประโยชน์ของข้าวโพด (สมุนไพร)
ชื่ออื่น ๆ : ข้าวสาลี สาลี(ภาคเหนือ) โพด(ภาคใต้) บือเคส่ะ(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) ข้าวแข่(เงี้ยว-ฉาน-แม่ฮ่องสอน) เง็กบี้ เง็กจกซู่ (จีน)
ชื่อสามัญ : Indian corm,Maize
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zea mays Linn.
วงศ์ : GRAMINEAE

ลักษณะทั่วไป

  • ต้น : ข้าวโพดเป็นพรรณไม้จำพวกหญ้า มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ปัจจุบันนำไปปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก ลำต้นนั้นอวบตั้งตรงแข็งแรง เนื้อภายในฟ่ามมีลักษระคล้ายฟองน้ำมีความสูงประมาณ 1.4 เมตร
  • ใบ : จะเป็นเส้นตรงปลายของมันแหลมยาวประมาณ 30-100 ซม. กว้างประมาณ 2-10 ซม. เส้นกลางของใบจะเห็นได้ชัด ตรงขอบใบจะมีขนอ่อน ๆ สีขาว
  • ดอก : ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียอยู่ในต้นเดียวกัน (Monoecious) ช่อดอกตัวผู้อยู่ที่ส่วนยอดของลำต้น ช่อดอกตัวเมียจะอยู่ต่ำถัดลงมาออกระหว่างกาบของใบและลำต้น ดอกย่อยจะมีก้านเกสรตัวผู้ 9-10 อัน และมีอับเรณูสีเหลืองส้ม ยาวราว 5 มม. ยอดเกสรตัวเมียจะเป็นเส้นบาง ๆ คล้ายกับเส้นไหมยาวและยื่นพันออกมาเป็นจำนวนมาก
  • ฝัก : เกิดจากดอกตัวเมียที่เจริญเติบโตแล้ว ข้าวโพดต้นหนึ่งอาจให้ฝักมากกว่าหนึ่งฝักก็ได้ ฝักข้าวหุ้มด้วยกาบบางหลายชั้น ฝักอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีนวล เราเรียกว่า เปลือกข้าวโพด ฝักข้าวโพดจะประกอบด้วยซังข้าวโพด (cob) ซึ่งเป็นที่สำหรับให้ผลที่เราเรียกว่าเม็ดเกาะ
  • เมล็ด(ผล) : ผลจะเป็นฝักทรงกระบอกยาว ในฝัก 1 ฝัก มีเม็ดเกาะอยู่ประมาณ 8 แถว แถวหนึ่ง ๆ จะมีเม็ดประมาณ 30 เม็ด และมีสีได้ต่าง ๆ กันเช่นสีนวล เหลือง ขาว หรือม่วงดำ

การขยายพันธุ์ : โดยการเอาเมล็ดมาเพาะ

ส่วนที่ใช้ : เมล็ด (เม็ด) ราก ใบ ช่อดอก ยอดเกสรตัวเมีย (ไหมข้าวโพด) และซังข้าวโพดใช้เป็นยา

สรรพคุณ :

  • เมล็ด ใช้ต้มกินหรือจะเอามาบดเป็นแป้งทำขนมกิน ใช้บำรุงกระเพาะอาหาร ฝาดสมาน บำรุงหัวใจ ปอด ทำให้เจริญอาหาร มีรสชุ่ม ไม่มีพิษ สามารถใช้ต้มรับประทานมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และใช้พอกแผลเพื่อทำให้เยื่ออ่อนนุ่มไม่ให้เกิดการระคายเคือง
  • ซัง ใช้ที่แห้งแล้วประมาณ 10-12 กรัม นำมาต้มน้ำกินหรือเอามาเผาเป็นถ่านผสมกับน้ำกิน มีรสชุ่ม บำรุงม้าม ขับปัสสาวะ รักษาบวมน้ำ รักษาบิดและท้องร่วง ใช้ภายนอกเผาเป็นเถ้า บด ผสมกันใช้ทา ต้นและใบ ใช้จำนวนพอสมควรใช้สดหรือแห้ง นำมาต้มน้ำกิน รักษานิ่ว
  • ยอดเกสรตัวเมีย (ไหมข้าวโพด) ใช้แห้งประมาณ 30-60 กรัม นำมาต้มน้ำกินหรือนำมาเผาเป็นเถ้า บด ผสมกิน หรือใช้ภายนอก ใช้สูบหรือรมควัน มีรสชุ่ม ช่วยขับปัสสาวะ ขับน้ำดี บำรุงตับ รักษาตับอักเสบเป็นดีซ่าน ไตอักเสบบวมน้ำ ความดันเลือดสูง นิ่วในถุงน้ำดี อาเจียนเป็นเลือด เบาหวาน โพรงจมูกอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ ฝีหลายหัวที่เต้านม เลือดกำเดาอักเสบ
  • ราก ใช้แห้งประมาณ 60-120 นำมาต้มน้ำกิน รักษษนิ่ว และอาเจียนเป็นเลือด สามารถขับปัสสาวะได้
  • แป้ง แป้งข้าวโพดเปียกใช้เป็นอาหารที่ดีสำหรับบุคคลที่ฟื้นจากการเป็นไข้ แป้งข้าวโพดเป็นแป้งที่ย่อยง่าย เชื่อกันว่าขนมปังที่ทำจากแป้งข้าวโพดมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าขนมปัง ที่ทำมาจากแป้งสาลี สมควรใช้กับบุคคลที่เป็รโรคเกี่ยวกับตับและไต น้ำมัน ประกอบด้วยกรดไขมันคือ กรดโอเลอิค (oleic) ร้อนละ 37 กรดลิโนเลอิค (linoleic) ร้อยละ 50 กรดปาล์มมิติค (plamitic) ร้อยละ 10 และกรดสเตียริค (stearic) ร้อยละ 3 น้ำมันข้าวโพดสามารถนำมาประกอบอาหาร ใช้เป็นตัวทำละลายของสาร ergosterol เอามาเติมไฮโดรเจน (hydrogenated) น้ำมันจะแข็งขึ้นนำมาทำเป็นเนยเทีนมใช้ทำขนมเค้กตามที่ต้องการให้เป็นมัน

  • ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com



Create Date : 03 สิงหาคม 2557
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 4:05:42 น.
Counter : 417 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

vnize
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
3 สิงหาคม 2557
All Blog