ชื่ออื่น ๆ : กุ่มน้ำ (ทั่วไป) รอถะ (ละว้า-เชียงใหม่) อำเภอ (สุพรรณบุรี) เหาะเถาะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
ชื่อวิทยาศาสตร์ :
Crateva magna (Lour.) DC.
วงศ์ : CAPPARIDACEAE
ลักษณะทั่วไป
- ต้น: เป็นพรรณไม้ยืนต้น ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 ซม. มีความสูงประมาณ 4-20 เมตร
- ใบ : ใบออกเป็นช่อ ใบมีลักษณะเป็นรูปหอก หรือรูปขอบขนานปลายใบแหลมเรียว โคนใบสอบแคบ ผิวเนื้อใบค่อนข้างหนา หลังใบมีสีเทาอมน้ำตาล ใต้ท้องใบมีขนระอองเป็นสีเทา เส้นกลางเส้นใบเห็นได้ชัด มีสีค่อนข้างแดงขนาดของใบกว้างประมาณ 0.5-2.5 นิ้ว ยาวประมาณ 2-9 นิ้วก้านใบมีรอยเป็นร่องไปตามยาว ตรงปลายก้านจะมีต่อมสีน้ำตาล มีขนาดประมาณ 1 มม. ขนาดของก้านยาวประมาณ 1.5-5.5 นิ้ว
- ดอก : ดอกออกเป็นช่อ ยาวประมาณ 4-6.5 นิ้ว ลักษณะของดอก มีกลีบรองกลีบดอกเป็นรูปไข่ หรือรูปรี ปลายกลีบแหลมเรียว มีขนาดยาวประมาณ2-3.5 มม. กว้างประมาณ 1.2-1.5 มม. สำหรับกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปค่อนข้างกลม รูปรีหรือรูปไข่ โคนกลีบกลมสอบแคบ ส่วนปลายกลีบจะมน กลีบดอกมีขนาดประมาณ 1.5-3 ซม. กว้างประมาณ 1.5-2 ซม. ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้ ก้านเกสรมีสีม่วงมีทั้งหมดประมาณ 15-25 อัน
- ผล : ผลมีลักษณะเป็นรูปรี ผิวเปลือกหนามีสะเก็ดบาง ๆ ซึ่งจะเป็นสีเหลืองอมเทาขึ้นอยู่ทั่วไป ผลมีขนาดยาวประมาณ 5-8 ซม.
- เมล็ด : เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปเกือกม้า มีขนาดหนาประมาณ 2-3 มม. ยาวประมาณ 6-9 มม.
การขยายพันธ์ : เป็นพรรณไม้ที่มีการขยายพันธ์ด้วยการใช้เมล็ด หรือการปักชำกิ่ง หรือการตอน
ส่วนที่ใช้ : ใบ เปลือก ดอก
สรรพคุณ :
- ใบ มีกลิ่นหอม รสชาติขม ใช้ต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้ไข้ยาเจริญอาหาร ยาบำรุง ยาระบาย ขับพยาธิ แก้ปวดเส้น โรคไขข้ออักเสบ เป็นอัมพาต ขับเหงื่อ ใช้ภายนอกเป็นยาถูนวดให้เลือดมาเลี้ยงให้ทั่ว
- เปลือก ใช้เป็นยาระงับพิษทางผิวหนัง เป็นยาบำรุง ขับนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ขับน้ำดี ขับน้ำเหลืองเสีย และเป็นยาแก้อาเจียน เป็นต้น
ถิ่นที่อยู่ : กุ่มน้ำ เป็นพรรณไม้ที่มักพบขึ้นทั่วไปตามบริเวณขอบบึงมตามริมฝั่งแม่น้ำ
อ้างอิง : พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com