ชื่อ : กระท่อม (Kratom)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Mitragyna speciosa Korth.
วงศ์ : Rubiaceae
ลักษณะทั่วไป :
- เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูง 10-15 เมตร
- ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตัวเป็นคู่ตรงข้ามและมีหูใบ 1 คู่ (interpetiolarstipules) ใบมีรสขมเฝื่อน แผ่นใบสีเขียว เป็นรูปไข่รีแกมขอบขนาน ปลายแหลมมีขนาด กว้าง x ยาวประมาณ 5-10 x 8-14 ซม. ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ฐานใบมน ก้านใบออกจากฐานใบ มีความยาวประมาณ 2-4 ซม. เส้นใบเรียงตัวแบบขนนก เส้นกลางใบและเส้นแขนงใบมีสีแดงเรื่อ มีขนอ่อนสั้นๆ บริเวณเส้นใบที่อยู่ด้านท้องใบ มีเส้นแขนงใบ 10-15 คู่
- ดอกออกเป็นช่อตุ้มกลม(head) ขนาด 3-5 ซม. ใน 1 ช่อประกอบด้วยดอกย่อยขนาดเล็กสีขาวอมเหลืองจํานวนมาก ดอกย่อยสมบูรณ์เพศ
- ผลเป็นรูปไข่ขนาดเล็กประมาณ 5-7 มม.
แหล่งที่พบ : กระท่อมพบได้ในบางจังหวัดของภาคกลาง เช่น ปทุมธานี แต่จะพบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สตูล พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และตอนบนของประเทศมาเลเซีย กระท่อมเป็นพืชเสพติดให้โทษประเภท 5 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
สรรพคุณทางยา :
- ใบกระท่อมมีรสขมเฝื่อนเมา ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อยร่างกาย ระงับประสาทช่วยให้ทำงานทนไม่หิวง่าย
วิธีใช้
- ให้นำใบสด 3-4 ใบ มาลอกเอาก้านใบและเส้นใบออก เคี้ยวให้ละเอียด ดื่มน้ำอุ่นกลั้วกลืนลงไป หรือนํ าใบมาตากแดดให้แห้งบดเป็นผง รับประทานกับน้ำอุ่นครั้งละ 1 ช้อนกาแฟพูนๆ แก้ท้องเสีย บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และทำให้เกิดอาการเคลิบเคลิ้มสบายตัวได้นานประมาณ 4-5 ชั่วโมง การรับประทานใบกระท่อมช่วยให้ทำงานได้ทนเวลามีแสงแดดจัด แต่จะเกิดอาการหนาวสั่นเวลาอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com