ประโยชน์ของกระโดน (สมุนไพร)
กระโดน

ชื่ออื่น ๆ : กระโดน(กลาง-ใต้) ปุยกระโดน(ใต้) ปุย(ใต้-เหนือ) ปุยขาว พุย(ละว้า-เชียงใหม่) ขุย(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)เส่เจ๊อะบะ(กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) หูกวาง(จันทบุรี)กะนอน(เขมร)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Caraya sphaerica Roxb.
วงศ์ : BARRINGTONIACEAE

ลักษณะทั่วไป

  • ต้น : เป็นพรรณไม้ยืนต้น ขนาดกลาง มีความสูงประมาณ 10-30 เมตร มีกิ่งก้านสาขามาก
  • ใบ : ใบจะออกเรียงสลับกันเป็นกระจุกบริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปใบกลับ ขนาดของใบมีความกว้างประมาณ 6 นิ้ว ยาวประมาณ 12 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 1.5-1 นิ้ว
  • ดอก : ดอกออกเป็นช่อ ช่อหนึ่งยาวประมาณ 6-8 นิ้ว ลักษณะของดอก มีกลีบดอกและกลีบรองดอกอย่างละ 4 กลีบ กลีบดอกสีขาว กลีบยาวประมาณ 1 นิ้ว โคนกลีบจะเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นฝอย สีแดง ยาวประมาณ 2 นิ้ว จะเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จำนวนมาก
  • ผล : ผลมีลีกษณะเป็นรูปกลม มีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว ยาว 2.5 นิ้ว ภายในผลมีเมล็ดเป็นจำนวนมาก

การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ทนต่อความแห้งแล้ง และแสงแดดไม่มีมีการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด หรือการตอนกิ่ง

ส่วนที่ใช้ : เปลือก ใบ ดอก ผล เมล็ด ราก

สรรพคุณ :

  • เปลือกและผล ใช้เป็นยาฝาดสมาน
  • ใบ มีสาร tannin19% ซึ่งจะมีรสฝาด ใช้ปรุงเป็นน้ำมันสมานแผล หรือผสมกับเครื่องยาอื่น ๆ
  • ดอก และน้ำจากเปลือกสด ใช้ผสมกับน้ำผึ้งทาเป็นยาแก้หวัด แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ เป็นยาบำรุงสำหรับสตรีหลังจากคลอดลูกแล้ว
  • ผล เป็นยาในการช่วยย่อยอาหาร
  • เมล็ด เป็นยาแก้พิษ
  • ราก เปลือก และใบ ใช้เป็นยาเบื่อปลา

ถิ่นที่อยู่ : เป็นพรรณไม้ที่ขึ้นทั่ว ๆ ไปเป็นหมู่ ๆ ตามบริเวณป่าทุ่ง ป่าแดง หรือป่าเบญจพรรณชื้น



ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com




Create Date : 03 สิงหาคม 2557
Last Update : 3 สิงหาคม 2557 4:03:58 น.
Counter : 523 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

vnize
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



สิงหาคม 2557

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
3 สิงหาคม 2557
All Blog