ชื่ออื่น ๆ : ผักกอก (เชียงใหม่), ไต่ผู้เฟี้ย (จีน-แต้จิ๋ว), กากอก (ภาคเหนือ)
ชื่อสามัญ : Water lettuce
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pistia stratiotes L.
วงศ์ : ARACEAE
ลักษณะทั่วไป - ต้น : เป็นพรรณไม้ที่ชึ้นลอยและเติบโตอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งลำต้นจะอวบน้ำ และมีรากเป็นกระจุก
- ใบ : ออกใบเดี่ยว มีสีเขียว การเรียงใบนั้นจะเป็นวงคล้ายกับรูปถ้วย ลักษณะของใบปลายมนจะบานแผ่ออกคล้ายกับใบพันยาว 1-4 นิ้วตรงโคนใบจะนูนออกทางด้านหลัง และมีขนอยู่ ระหว่างใบกับด้านทั้งสองด้านทั้งสองด้าน
- ดอก : ออกเป็นช่ออยู่ตรงกลางต้นหรือตรงโคนใบระหว่างกลาง ซึ่งดอกนี้จะมีกาบห่อหุ้มดอกอยู่ 2-3 อันมีเกสรตัวผู้และเมียอยู่ในช่อเดียวกัน
- ผล : ลักษณะของผลเป็นแผ่นบาง ๆ ภายในผลมีเมล็ดอยู่ 2-3 เม็ดเปลือกเมล็ดจะมีรอยย่น ๆ
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้น้ำชอบแดดจัด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด หรือแยกต้นแขนงอออก ชอบน้ำจืด
ส่วนที่ใช้ : ใบ
สรรพคุณ :
- ใบ นำใบที่เจริญเติบโตเต็มที่ และควรจะเก็บใบในหน้าร้อย ถึงจะดี นำมาล้างให้สะอาดตัด รากออกให้หมดพยายามอย่าให้รากติดได้ยิ่งดี นำมาตากแห้งซึ่งจะมรสเค็ม เย็น และฉุนจะเป็นยาแก้หัดผื่น หรือมีน้ำเหลืองแก้บอบช้ำ ขับปัสสาวะซึ่งวิธีทำคือนำเอาใบแห้งมาต้มกับน้ำ
ข้อห้ามใช้
1. รากมีพิษเล็กน้อย เวลาที่เรานำใบมาต้มควรจะล้างให้สะอาดและตัดรากออกให้หมด
2. สตรีที่ตั้งครรภ์ห้ามรับประทาน
3. จอกเป็นพรรณไม้ที่ดูดสารมีพิษได้ดีมาก ฉะนั้นถ้าขึ้นอยู่ในท้องน้ำที่เป็นพิษ หรือต้นมีรสขมอย่านำมารับประทานเป็นอันขาด
ตำรับยา
1. นำใบสดประมาณ 100 กรัมตากให้แห้งหรือผิงไฟให้แห้งบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง ทำเป็นยาเม็ด เพื่อแก้ผื่นคันมีน้ำเหลือง ทยอยกินให้หมดภายใน 1 วัน
2. ใช้ใบสดต้มผสมกับน้ำตาลทรายโดยใช้อย่างละ120กรัมต่อน้ำ 3 ถ้วยต้มให้ข้นจนเหลือถ้วยเดียวแล้วรับประทานให้ได้ 3 ครั้ง เพื่อที่เป็นยาแก้ท้องมาน หรือบวมน้ำ พอกินเข้าไป แล้วก็จะปัสสาวะออกมาจำนวนมาก
3. หรือให้ใบสดผสมกับน้ำตาลกรวดดำ อุ่นให้ร้อนใช้พอกบริเวณที่ได้รับการกระทบกระเทือน หรือฟกช้ำ
อ้างอิง : พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม
ขอบคุณข้อมูลจาก samunpri.com