<<
พฤษภาคม 2552
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
27 พฤษภาคม 2552
 
 
ละค ดิน น้ำ ลม ไฟ ตอนที่ 12

ตอนที่ 12

นิอรซึมเศร้าอยู่สองสามวัน ข้าวปลาอาหารก็ไม่ค่อยกิน กระทั่งวันนี้เธอมีคิวต้องไปกองถ่าย กวางจึงคะยั้นคะยอนายสาวให้กินอาหารเสียบ้าง จะได้มีแรงทำงาน พร้อมกันนี้กวางก็เน้นย้ำให้นิอรเลิกคิดเรื่องหนีออกจากบ้าน ถ้าไม่อยากทำให้ดินเดือดร้อนไปด้วย

เสร็จงานที่กองถ่าย นิอรแวะไปที่วังพระองค์ชาย ซึ่งท่านทรงเลือกเธอเป็นนางเอกหนังเรื่องบ้านปราสาททราย และจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังอย่างยิ่งใหญ่ เชิญสื่อมวลชนมากมาย จึงกำชับนิอรต้องมาให้ตรงเวลา นิอรรับปากแข็งขัน แต่ยังอดกังวลถึงสิรีไม่ได้

"ไม่ต้องกังวล ฉันจะปลอบใจแม่สิรีด้วยการให้เป็นนางเอกหนังของฉันอีกเรื่อง ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันหรอก"

"เพคะ" นิอรรับคำ สีหน้าคลายกังวล จากนั้นรับใบนัดจากเลขาฯ ก่อนก้มลงกราบพระองค์ชาย และรับปากจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด...

รุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันแถลงข่าวเปิดตัวนางเอกหนังเรื่องบ้านปราสาททรายที่วังพระองค์ชาย ช่วงเช้านิอรมีคิวงานที่กองถ่าย เมื่อดินพานิอรไปถึงกองถ่ายที่สิรีกับกนกวรรณมาถึงก่อนแล้ว สิรีวางท่าข่มนิอรอีกตามเคย คุยอวดว่าเธอจะได้โกอินเตอร์ไปเล่นหนังกับเดวิด เจียง นิอรแสดงความยินดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ระหว่างนี้เอง เจ้าหน้าที่กองถ่ายเดินมาตามกนกวรรณไปรับโทรศัพท์จากเลขาฯพระองค์ชาย สิรีตื่นเต้นใหญ่ คาดหวังว่าต้องเป็นข่าวดีแน่ๆ

"นี่นิอร เธอรู้ใช่ไหมว่าเย็นนี้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวนางเอกบ้านปราสาททราย"

"ค่ะ พี่สิรีได้ใบนัดแล้วนะคะ"

"พระองค์ชายนี่ก็แปลก ชอบทำอะไรแบบตื่นเต้น เชิญเราไปทั้งสองคนเลย ถ้าคนนึงได้ อีกคนไม่ได้ ก็ขายหน้าแย่เลยสินะ" สิรีพูดอย่างมั่นใจในตัวเองมากๆ นิอรเลยไม่กล้าขัด ได้แต่นิ่งฟังอย่างเดียว

เมื่อกนกวรรณกลับมาหาสิรี ก็ถูกสิรีซักเป็นการใหญ่ว่าแอบถามเลขาฯของท่านหรือเปล่าว่าใครจะได้เป็นนางเอก

"ถามสิคะ แต่ไม่ได้เรื่องอะไรเลย ทางโน้นปิดปากสนิทไม่แย้มพรายซักนิด"

"ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ต้องเป็นนางเอกอยู่แล้ว"

"มีแผนอะไรเหรอคะ"

"ก็ทำให้มันไปสาย หรือไม่ก็ไปไม่ได้เลยน่ะสิ" สิรีพูดจบก็มองไปที่นิอรซึ่งกำลังซ้อมคิวห้อยโหนเพื่อจะเข้าฉากต่อไป

สิรีมีแผนชั่วอีกแล้ว เธอดอดไปคุยกับแจ็ค ชายหนุ่มของกองถ่ายที่เธอเคยมีบุญคุณช่วยเหลือลูกชายของเขาเอาไว้... แล้วอีกครู่ แจ็คก็แอบเอามีดไปเฉือนเชือกที่นิอรต้องห้อยโหน เมื่อเริ่มการถ่ายทำ แรกๆนิอรก็ไม่เป็นอะไร โหนเชือกต่อสู้กับคนร้ายไปตามบทบาท แต่พอนานเข้าเชือกที่ถูกเฉือนก็ค่อยๆขาด และในจังหวะสุดท้ายที่นิอรแกว่งตัวสู้กับคนร้าย เชือกก็ขาดออกจากกัน ทำให้นิอรเซล้ม ดินที่จับจ้องนิอรตลอดเวลารีบวิ่งเข้าไปรับได้ทัน
สิรีเห็นสองคนกอดกันกลมก็กรีดเสียงอย่างตำหนิ

กนกวรรณพลอยผสมโรง ดินลุกขึ้นมาจ้องหน้าสองสาวอย่างรู้ทัน "ผมเตือนคุณแล้วนะ" สิรีผงะ แต่ยังกลบเกลื่อน ถามดินว่าพูดอะไร อย่ามาขู่กันนะ

"นี่มันเรื่องอะไรกัน" ผู้กำกับเข้ามาถาม

"จะเรื่องอะไร ก็ไอ้คนขับรถของนิอรคนนี้สิคะ อยู่

กองถ่ายไหนก็ก่อเรื่อง มีปัญหากับคนอื่นไปทั่ว" กนกวรรณ จีบปากฟ้อง

"สิรีไม่ยอมนะคะ จู่ๆมาทำท่าข่มขู่กันอย่างนี้ ถ้ามันอยู่ สิรีทำงานไม่ได้"

ดินโกรธ จ้องหน้าสิรีกับกนกวรรณอีกครั้ง ก่อนเดินเบียดแหวกวงล้อมคนในกองถ่ายออกไป จนสองสาวถึงกับเซจะล้ม นิอร รีบเข้ามาขอโทษสองสาว กนกวรรณฮึดฮัดไม่ยอม ให้นิอรไปจัดการคนขับรถ นิอรจำต้องรับปาก ทั้งที่รู้สึกลำบากใจไม่น้อย...

ooooooo

นิอรออกมาต่อว่าดินและไล่ให้กลับบ้านไปก่อน ดินพยายามจะอธิบายว่าสองคนนั้นต้องการแกล้งนิอร แต่นิอรสวนว่า ดินจะกล่าวหาใครโดยไม่มีหลักฐานไม่ได้ และหยุดมองคนอื่นในแง่ร้ายได้แล้ว เธอไม่อยากฟัง

"แต่ว่า..."

"เธอทำให้คุณสิรีกลัว เธอจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ ไปสิ เดี๋ยวฉันจะขับรถกลับเอง"

ดินท่าทีลังเล ไม่อยากทิ้งนิอร

"ฉันไม่หนีไปไหน แล้วก็จะไม่ทำให้เธอเดือดร้อนแน่" นิอรหน้านิ่ง มั่นคงในคำพูด จนดินเกรงใจเดินออกไป

ด้านสองสาวขี้อิจฉา พอแผนสกัดดาวรุ่งอย่างนิอรไม่สำเร็จ จึงคิดหาวิธีใหม่ สิรีย้ำว่ายังไงต้องทำให้นิอรไปไม่ทันงานแถลงข่าวเย็นนี้ กนกวรรณเลยเจ้ากี้เจ้าการเสนออีกวิธี...ว่าแล้วกนกวรรณ ก็รีบติดต่อไปยังท่านสุชล ซึ่งขณะนั้นเขาอยู่กับสมชายพอดี

สุชลรับปากดาราสาวคู่ขาทันที ขณะที่สมชายบอกกับสุชลตรงๆว่าเขาลำบากใจ เพราะนิอรเป็นเด็กสร้างของตน

"มันก็ถูก แต่เราไม่ได้ทำอันตรายอะไรนี่ มันก็แค่ ถ่วงเวลาให้ไปงานไม่ทัน"

"ถ้าไอ้ปานศักดิ์พ่อมันรู้เข้าคงเป็นเรื่องอีกแน่ ครั้งที่แล้วมันก็ฆ่าคนของเราไปคนนึงแล้ว"

"กลัวอะไร ผมเป็นแบ็กให้คุณอยู่ ลืมแล้วหรือไง"

"แต่ทำแบบนี้ก็เท่ากับประกาศสงครามกับมันเลยนะท่าน"

"ก็ดี ผมน่ะอยากจะกำจัดมันให้สิ้นซาก คุณจะได้ไปเทกโอเวอร์กิจการของมัน ค้าผงกับพวกอเมริกันน่ะ เงินเป็นร้อยๆล้านเลยนะ อย่าลืมสิ"

สมชายนิ่งคิดแล้วคล้อยตาม ขณะที่สายตาของสุชลดุดันเอาจริง

ooooooo

เมื่อไล่ดินกลับไปแล้ว พอเลิกกองนิอรเลยต้องขับรถเอง...ขณะนิอรมุ่งหน้าไปงานแถลงข่าวที่วังพระองค์ ชาย จู่ๆก็มีรถคันหนึ่งขับตีคู่และพยายามจะปาดหน้า นิอรตกใจเหยียบเบรกทันที ในรถคันนั้นมีผู้ชายสามคน แล้วสองในสามก็รีบลงจากรถปรี่มาขู่บังคับลากนิอรไปขึ้นรถของพวกมัน

ดินซึ่งยังเป็นห่วงนิอร ไม่ได้กลับบ้านตามที่นิอรออกคำสั่ง ดินโผล่มาทันเห็นเหตุการณ์ที่นิอรถูกชายสองคนจับตัวขึ้นรถแล่นออกไป ดินตกใจมาก รีบวิ่งมาขึ้นรถนิอรขับตามไปทันที...นิอรถูกพาไปขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งเพื่อถ่วงเวลาให้ไปงานแถลงข่าวไม่ทัน สิรีกับกนกวรรณแอบมาดูผลงานด้วยความสะใจ แล้วตอนจะกลับออกไปสองสาวไม่ทันระวังตัว นิอรหันไปเห็นเข้าเต็มๆ จึงเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง

ดินกำลังหัวเสียที่คลาดกับรถคนร้าย แต่แล้วดินเหลือบไปเห็นรถสิรีแล่นออกมาจากซอย ดินไม่รอช้า เลี้ยวรถเข้าไปในซอยนั้นทันที จนไปเจอรถคนร้ายซึ่งดินจำได้แม่นจอดอยู่ หน้าบ้านหลังหนึ่ง ดินรีบจอดรถห่างออกไป แล้วย่องเข้ามาดูลาดเลาก่อนจะจัดการกับชายสามคนที่เฝ้านิอรอยู่จนหมดฤทธิ์ จากนั้นจับมันมัดรวมกันพาขึ้นรถออกไปพร้อมกับนิอร

ในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บัดนี้ถึงเวลาเปิดตัวนางเอกหนังบ้านปราสาททรายแล้ว แต่นิอรยังไม่โผล่ พระองค์ชายทรงไม่พอพระทัยอย่างมาก ให้สิรีมารับบทนางเอกแทนนิอร สิรีถึงกับยิ้มหน้าบาน รีบไปเปลี่ยนชุดที่จัดเตรียมไว้สำหรับนิอร

แต่แล้วขณะที่สิรีกำลังเฉิดฉายออกมาต่อหน้าบรรดาสื่อมวลชน ดินก็พานิอรเข้ามา และบอกเล่าเหตุการณ์ที่มีคนกลั่นแกล้งนิอรทำให้นิอรมาไม่ทันเวลา พร้อมกันนี้ดินกับนิอร
ก็มีหลักฐานสำคัญคือชายสามคนมายืนยันด้วย พอชายทั้งสามเห็นสิรีกับกนกวรรณ ต่างก็ร้องขอความช่วยเหลือ

แม้สิรีกับกนกวรรณพยายามปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น แต่ พยานหลักฐานชัดเจนจนพระองค์ชายไล่ทั้งคู่ออกจากงาน และสั่งห้ามมาเหยียบที่นี่อีก ส่วนนิอรก็ให้รับบทนางเอกหนังเรื่องนี้เหมือนเดิม

กนกวรรณกับสิรีสุดแสนอับอาย ร้องกรี๊ดวิ่งหนีออกจากวัง พวกนักข่าวตามถ่ายภาพกันมันมือ...จากนั้นไม่นาน สองสาวก็ไปร่ำไห้ต่อหน้าสุชล พวกเธอกลัวอนาคตในวงการจะดับ เพราะพรุ่งนี้หนังสือพิมพ์ต้องลงข่าวแน่ สุชลให้ทั้งคู่ ใจเย็น เรื่องนี้แก้ไม่ยาก เดี๋ยวเขาจะจัดการให้

"จริงหรือคะท่าน ท่านจะช่วยสิรีจริงๆหรือคะ"

"จริงซิ เพียงแต่ว่า...สิรีจะมีอะไรตอบแทนผมบ้างล่ะ"

สิรีมองหน้ากนกวรรณ สุชลรู้ทันความคิดสิรี รีบพูดขึ้นทันที

"ไม่ต้องห่วง กนกวรรณเขาไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว จริงมั้ย"

"ค่ะท่าน อะไรที่เป็นความสุขของท่าน กนกวรรณไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว"

สุชลส่งสัญญาณให้กนกวรรณออกไป พอกนกวรรณขยับ สิรีมีแววกังวล ทำท่าจะรั้งกนกวรรณไว้

"ไม่ต้องกลัวพี่สิรี เรื่องแบบนี้เป็นความลับระดับสุดยอด ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ" ว่าแล้วกนกวรรณลุกออกไป สิรีมองสุชลแล้วรู้สึกหวาดหวั่นระคนเขินอาย

ครู่ต่อมา สมชายได้รับการติดต่อจากสุชล ที่ไม่ต้องการให้มีข่าวของสิรีกับกนกวรรณตามหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งสุชลมั่นใจว่าสมชายต้องทำได้...แต่กว่าสมชายจะทำสำเร็จก็เล่นเอาน้ำลายแทบแห้งคอ เพราะต้องโทร.ไปเจรจากับเจ้าของสำนักพิมพ์หลายแห่ง

"เฮ้อ นี่ถ้าท่านไม่ขอมา ก็ไม่อยากจะยุ่งเล้ยเรื่องแบบนี้" สมชายบ่นอุบหลังจากวางสายสุดท้ายลง แล้วหันมาเห็นเขียวเดินนำชายสามคนที่ก่อเรื่องเข้ามา

"ผมไปประกันตัวจากห้องขังมาให้แล้วครับป๋า" เขียวรายงาน

"เป็นไง เกือบนอนตะรางแล้วมั้ยล่ะ นี่ถ้าเส้นไม่ใหญ่ จริง แกไม่รอดออกมาแน่"

"ขอบคุณมากครับป๋า"

"จะไปไหนก็ไป แต่ห้ามกลับไปให้ท่านเห็นหน้าอีก ไม่งั้นแกตายแน่"

ทั้งสามคนหน้าเจื่อน รีบเดินออกไป จากนั้นสมชายบอกเขียวว่า เขาจะจ้างเขียวให้คอยดูแลนรสิงห์ แล้วก็คอยวิ่งงานให้เขาด้วย เขียวตกลงทันที ทั้งรับรองแข็งขัน ไม่ว่าป๋าจะใช้งานอะไร เขียวทำได้ทุกอย่าง

สมชายหันไปมองนรสิงห์ที่มีอาการเคลิบเคลิ้ม จึงถามเด็กหนุ่มในสต๊อกของตนว่า นรสิงห์เป็นอะไร

"เทกยาครับพี่"

สมชายผู้นิยมไม้ป่าเดียวกันถึงกับร้องว้ายตกใจ แล้วไม่ทันไร นรสิงห์ก็ลุกขึ้นอาละวาดอย่างขาดสติ ต่อยหน้าเด็กของป๋าสมชายล้มกลิ้ง เขียวต้องเข้าจับนรสิงห์วุ่นวายไปหมดตามคำสั่งของสมชาย...

ooooooo

เมื่อรู้เรื่องที่นิอรถูกคนของสุชลจับตัวไปขัง ปานศักดิ์รู้สึกโกรธแค้นสุดๆ อยากจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกมัน แต่นิอรไม่ยอม และว่าดินจัดการพวกนั้นสาสมไปแล้ว ปานศักดิ์จำใจรับปากลูกสาว แต่พอลับหลังก็สั่งอู๊ดไปจัดการ...ส่วนนิกกี้ ปานศักดิ์ให้ไปเอาเทปบันทึกเสียงที่บ้านสมชายมาให้ได้

หลังจากรับคำสั่งเจ้านาย อู๊ดใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงในค่ำคืนนี้ ก็เด็ดหัวลูกน้องของสุชลสามคนหมดเกลี้ยง ขณะที่นิกกี้ก็พยายามปีนป่ายเข้าไปถึงห้องนอนของสมชายจนได้ แล้วรีบหยิบเทปที่มีอยู่สองสามม้วน ก่อนจะกระโดดหนีออกทางหน้าต่าง เพราะสมชายเปิดประตูเข้าห้องมาพอดี สมชายเห็นหลังไวๆ ตะโกนว่าขโมยเข้าบ้าน นรสิงห์กับเขียวจึงวิ่งพรวดเข้ามา แล้วยิงปืนออกไปหลายนัดในความมืด...

รุ่งขึ้น นิกกี้ที่ยังอยู่รอดปลอดภัยได้นำเทปทั้งสามม้วนมาให้ปานศักดิ์ แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่เทปที่ปานศักดิ์ต้องการ

"เหลว...ไม่ได้เรื่อง นี่เอาเทปอะไรมา นิกกี้"

"ขอแก้ตัวได้ไหมคะ"

"ยังไม่ต้อง เกิดเรื่องขนาดนี้ใครมันจะโง่เก็บเทปไว้ รอให้ขโมยอีก" ปานศักดิ์ฉุนเฉียวเดินออกไป ซิตี๋เข้ามาตบไหล่นิกกี้เพื่อปลอบใจ แต่นิกกี้ไม่มีอารมณ์ สะบัดมือซิตี๋ แล้วเดินออกจากห้อง โทนี่ยืนมองยิ้มๆ ซิตี๋หันไปเห็นเลยไม่พอใจ ถามเสียงขุ่นว่า "มีปัญหาอะไร"

โทนี่ไม่ตอบ แต่เดินยิ้มเยาะออกไป ซิตี๋ยิ่งไม่พอใจ รับรู้ได้ถึงร่องรอยของการดูแคลน

ข้างฝ่ายสุชล พอรู้ข่าวจากสมชายว่าลูกน้องทั้งสามคนถูกยิงตายหมด สุชลโกรธจัด ขณะที่สมชายเองก็โกรธไม่แพ้กัน และทั้งคู่ก็มั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือของพวกปานศักดิ์

"ลูกน้องฉันสามคนตายหมด เป็นพวกที่ไปจับลูกสาวมันทั้งนั้น"

"แสดงว่าขโมยเมื่อคืนก็เป็นคนของมัน คงจะมาหาเทปที่ผมแอบอัดเสียงไว้"

"ไอ้นี่มันกำแหง ทำอะไรไม่เห็นหัวกันเลย"

"ถ้าทำอะไรตอนนี้คงจะยาก เพราะเพิ่งเกิดเรื่อง"

"งั้นมันเผลอเมื่อไหร่ก็จัดการมันเลย ฉันจะช่วย"

มีกองหนุนดีๆแบบนี้ ความอำมหิตของสมชายฉายแววเด่นชัด

ooooooo

เนื่องจากนรากรอยู่กับเชาว์มาแต่เล็ก เชาว์ทำงานเป็นมือปืนรับจ้าง นรากรจึงเห็นเชาว์ฆ่าคนตายต่อหน้าต่อตาหลายครั้ง หนำซ้ำเชาว์ก็เลี้ยงดูปลูกฝังความดิบเถื่อนให้นรากรมาอย่างเต็มเปี่ยม นรากรจึงเข้มแข็งและแข็งกร้าวไม่ต่างจากผู้ชายอกสามศอก เธอทำทุกอย่างที่ผู้ชายทำได้ ไม่ว่าจะเตะต่อยหรือยิงปืน

คืนนี้เชาว์เข้ากรุงเทพฯมาพบนรากร ด้วยอยากรู้ว่างานที่สั่งนรากรฆ่าผู้ชายที่เธอเผลอใจแอบหลงรักเสร็จสิ้นไปหรือยัง เมื่อนรากรในคราบของโรซี่และเชาว์เข้าไปที่บาร์ของปานศักดิ์ เธอจึงพยายามอยู่ห่างไฟเพื่อไม่ให้เชาว์รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือเขา นรากรแกล้งไปตีสนิทกับชายคนหนึ่ง เพื่อไม่ให้ ไฟเข้ามาตอแย โดยเธอไม่คาดคิดว่าเชาว์จะถึงกับยิงชายคนนั้นทิ้งต่อหน้าต่อตาเธอด้วยปืนเก็บเสียง

"สมใจพ่อแล้วใช่มั้ย" นรากรโพล่งขึ้นมา

"ข้ากำลังช่วยเอ็ง"

"พ่อไม่มีหัวใจ พ่อไม่เคยรักใคร"

"ความรักทำให้เอ็งอ่อนแอ"

"หัวใจพ่อมีแต่ความว่างเปล่า"

"ถ้าตัดความรักออกไป เอ็งจะเป็นนักฆ่าที่ดีที่สุด"

"ก็ได้ ฉันจะเป็นนักฆ่าอย่างที่พ่อต้องการ" นรากรรีบหันหลังเดินออกไป ก่อนที่น้ำตาที่กลั้นเอาไว้จะไหลเอ่อออกมาให้เชาว์เห็น...

ooooooo

คืนเดียวกัน นิกกี้กับน้ำต้องขึ้นประลองฝีมือบนเวทีมวยภายในบาร์ ลมที่เริ่มมีใจให้น้ำคอยแวะเวียนมาดูน้ำอยู่ไม่ขาด คืนนี้ก็เช่นกัน พอรู้ว่าน้ำจะขึ้นชกกับนักมวยฝีมือดีอย่างนิกกี้ ลมอดเป็นห่วงน้ำไม่ได้ ยิ่งเมื่อเห็นน้ำพลาดท่าเสียเปรียบนิกกี้บ่อยๆ ลมยิ่งกระวนกระวาย

แม้น้ำจะสู้ยิบตา แต่ในยกสุดท้ายเธอก็ถูกนิกกี้โค่นลง จนได้ ทำให้นิกกี้ยิ่งลำพอง ลงจากเวทียังตามไปเยาะหยันถากถางน้ำอีก น้ำโกรธจัดจะวางมวยกันอีกรอบ แต่คราวนี้นิกกี้มีมีดเป็นอาวุธด้วย ลมที่แอบมองดูจึงรีบวิ่งไปตามไฟมาช่วยน้ำ

ไฟโผล่เข้ามาทันเวลา บอกนิกกี้ว่าเฮียซิตี๋เรียก นิกกี้จึงผละไปด้วยความเสียดาย...ลมยังซ่อนตัวอยู่แถวนั้น รีบออกมาหาน้ำ ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง กลับถูกน้ำตวาดไม่ให้ มายุ่ง ลมถึงกับอึ้งไป ไฟมองออกว่าลมคิดยังไงกับน้ำ จึงเข้ามาตบไหล่ลมเบาๆ

"อาฟง ปล่อยน้ำเขาอยู่คนเดียวบ้าง"

ลมยอมกลับออกไปพร้อมไฟ น้ำยังหงุดหงิดไม่หายที่แพ้นิกกี้ แล้วยังดูเหมือนอ่อนแอในสายตาคนอื่นอีก แต่สำหรับเรื่องแก้แค้นให้พ่อ น้ำยังคงตั้งมั่นเดินหน้าต่อ เธอตัดสินใจจะตีสนิทซิตี๋ที่มีอำนาจรองจากปานศักดิ์ เพื่ออะไรๆที่เธอต้องการจะได้ง่ายขึ้น โดยเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้มารยาหญิงทำให้ซิตี๋ ไว้เนื้อเชื่อใจ...

จบตอนที่ 12

เครดิต //www.thairath.co.th


Create Date : 27 พฤษภาคม 2552
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 13:27:09 น. 0 comments
Counter : 428 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com