<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 มิถุนายน 2552
 
 
ละคร ดิน น้ำ ลมไฟ ตอนที่ 15

ตอนที่ 15

หลังจากหลับยาวตลอดคืนเพราะทั้งเพลียทั้งอักเสบแผลที่แขน เช้านี้นิอรตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องเล็กๆ พอลุกเดินออกไปมองด้านนอก เห็นดินนั่งเล่นกีตาร์อยู่คนเดียว

เมื่อนิอรต้องการให้ดินพาเธอกลับบ้าน ดินจึงตั้งคำถามว่า

"คุณอยากแต่งงานกับนรสิงห์เหรอ" นิอรปฏิเสธทันที "ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งกลับ"

"ทำไมต้องพาฉันหนี เป็นแผนของพ่อหรือเปล่า"

"ไม่...ผมทำเอง"

"ทำไม" ดินนิ่งไม่ตอบ นิอรสีหน้าหวั่นวิตก "พ่อคง โกรธเธอมาก"

ดินสังเกตเห็นแผลที่แขนนิอรมีเลือดซึมออกมา จึงลุกไปหยิบกล่องยาจะทำแผลให้ใหม่

"เดี๋ยวฉันทำเอง" นิอรรีบบอก

"อยู่เฉยๆ อย่าดื้อ" ว่าแล้วดินกุลีกุจอทำแผลให้เธอ ทั้งคู่อยู่ในระยะใกล้ชิด ต่างคนต่างแอบมองกันและกัน ครั้งใดที่ หันมาสบตากันจังๆ ต่างฝ่ายก็ต่างรีบหลบตา แต่เมื่อฝ่ายใดเผลอ อีกฝ่ายก็จะแอบมอง

"เอาละ เสร็จแล้ว ไปนอนนะ"

"แต่ว่า..."

"แผลจะได้หายเร็วๆ" ดินประคองนิอรกลับไปยังที่นอน และเปิดพัดลมให้ก่อนจะออกจากห้อง แล้วล็อกประตูทันที ป้องกันนิอรเกเรไม่พักผ่อน หรือหนีกลับไปบ้าน

ขณะนั้น นรสิงห์ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามถนนย่านเยาวราช มองสำรวจตามข้างทางไปเรื่อย กระทั่งไปถึงมุมหนึ่งแถวซอยบ้านพักคนงาน เห็นน้ำกำลังเดินออกจากบ้าน นรสิงห์จอดรถทัก ถามน้ำว่าอยู่แถวนี้เหรอ พอน้ำพยักหน้ารับ นรสิงห์ก็ซักต่อทันทีว่า น้ำเห็นนิอรหรือเปล่า

น้ำชะงักน้อยใจ นรสิงห์มาเพื่อตามหานิอรนี่เอง ครั้นน้ำบอกไม่เห็น นรสิงห์ทำท่าจะออกรถ น้ำเลยตัดสินใจถามเขาตรงๆ
"นิอรเขาไม่ได้รักเธอ เธอยังจะไปยุ่งกับเขาทำไม"

"ฉันก็ไม่ได้รักเธอ แต่เธอก็ยังจะมายุ่งกับฉันตลอดเวลา" น้ำอึ้ง นึกไม่ถึงว่านรสิงห์จะยอกย้อนเธอรุนแรงแบบนี้ ซ้ำนรสิงห์ ยังหยาบคายกับน้ำอีกว่า "เธอต้องการฉันใช่มั้ย" ว่าแล้วกระชากน้ำเข้าไปในบ้าน

"นี่ อย่าทำอะไรบ้าๆนะ" น้ำพยายามขัดขืน

"มาซิ จะมัวเล่นตัวทำไม"

"ปล่อยฉันนะ นรสิงห์ ปล่อย"

นรสิงห์ไม่ฟัง อาการเหมือนคนเมายา ฉุดน้ำเข้ามาในบ้านแล้วปลุกปล้ำ น้ำดิ้นรนสุดชีวิต ทั้งด่าทั้งปัดป้อง แต่ ไม่เป็นผล จึงหันไปคว้าขวดฟาดหัวนรสิงห์จนเลือดอาบ นรสิงห์ เลยยิ่งบ้า ผลักน้ำล้มลงแล้วตามเข้าประกบ

ขณะที่น้ำกำลังจะเสียทีอยู่นั้น จู่ๆก็มีไม้ฟาดลงที่ท้ายทอยของนรสิงห์ นรสิงห์สะดุ้งเฮือกแล้วแน่นิ่งหมดสติทันที น้ำตกใจ ร้องห้ามลมที่เงื้อไม้ขึ้นจะฟาดนรสิงห์ซ้ำอีก "อย่า..."

"ปล่อยมันไว้ทำไม"

"อย่าไปยุ่งกับเขา"

ลมนิ่งงัน มองน้ำที่เข้าไปประคองนรสิงห์ด้วยความห่วงใย

"ไปช่วยมันทำไม"

"เธอไม่เข้าใจหรอก"

"มันทำร้ายเธอขนาดนี้ แต่เธอก็..."

"ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น" น้ำตัดบททั้งน้ำตา ไม่เข้าใจ ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงตัดใจจากคนร้ายๆอย่างนรสิงห์ไม่ได้ ทั้งๆที่โดนเขาทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า

จากนั้นลมต้องช่วยน้ำพานรสิงห์ที่ยังไม่ฟื้นกลับไปส่งถึงห้องพัก แล้วน้ำแอบเก็บกุญแจห้องของนรสิงห์เอาไว้ กับตัวเอง...

ooooooo
ดินหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมโจ๊กและเสื้อผ้า สำหรับนิอร ซึ่งดินเห็นว่านิอรควรจะอยู่ที่นี่อีกหลายวัน แต่นิอรยังอยากจะกลับบ้าน จึงพยายามหว่านล้อมดินว่าไม่ต้องกลัวพ่อของเธอ เธอจะบอกพ่อไม่ให้ทำอะไรเขา

"คุณห้ามพ่อคุณไม่ได้หรอก" ดินมั่นใจ

"แต่พ่อเชื่อฉัน"

"ไม่จริง เขาไม่เคยเชื่อคุณเลย คุณจำมันไม่ได้หรือไง"

"นี่เธอพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ"

"คุณลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว" ดินตัดพ้ออย่างฉุนๆ ยิ่งทำให้นิอรอยากรู้ บังคับดินต้องเล่ามาเดี๋ยวนี้ว่าเธอลืมอะไร แต่ดินกลับลุกหนีไปนั่งหน้าห้อง ไม่พูดไม่จา...

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ นิอรพยายามหาทางหนีออกจากที่นี่ พอเห็นดินนั่งหลับ นิอรค่อยๆย่องออกไป แต่ทันใดดินลุกพรวดไปดักหน้าเธอไว้

"จะไปไหน"

"เธอจะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้"

"คุณยังไม่แข็งแรง รออีกสองสามวันผมจะพาคุณออกไปเที่ยว"

"แต่ฉันไม่ใช่นักโทษ"

"กลับเข้าไปข้างใน"

"ไม่" นิอรดึงดัน ดินเลยอุ้มนิอรกลับเข้าไปวางที่เตียงนอน กำชับให้นอนพักซะ จะได้หายเร็วๆ นิอรสีหน้าไม่พอใจ สั่งห้ามไม่ให้เขามายุ่งกับเธอ

"ผมขอโทษที่ทำแบบนี้"

"ออกไป ฉันอยากอยู่คนเดียว" นิอรตวาดไล่ ดินหน้าจ๋อยเดินออกไปนั่งเงียบๆตรงหน้าประตู

ooooooo

ที่สนามยิงปืน ไฟกับโรซี่ซ้อมยิงปืนด้วยกัน ไฟทึ่งในความแม่นของโรซี่ ถึงกับออกปากชมว่าเยี่ยมมาก โรซี่จึงบอกว่า เธอเล่นกับปืนมาตั้งแต่เด็กแล้ว

"พ่อคุณสอนเหรอ"

"ใช่ พ่อเอาฉันไปด้วยทุกครั้งที่ทำงาน"

"ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงเซ็กซี่อย่างคุณจะยิงปืนได้แม่นขนาดนี้ แล้วตอนนี้คุณรับจ๊อบอะไร"

"ก็แค่หาข้อมูลให้นายน่ะ"

"เป็นสาย ว่างั้น"

"อย่าถามมากสิ เรื่องแบบนี้ฉันไม่ควรบอกใคร"

"แม้แต่ผม"

"ใช่ เพราะฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าคุณเป็นใคร"

ออกจากสนามยิงปืน ไฟชวนโรซี่มาที่ห้องพักของเขาภายในอพาร์ตเมนต์ของปานศักดิ์ โรซี่จึงถือโอกาสนี้แสดงฝีมือการทำไข่เจียวสูตรใส่กระเทียมหอมฉุย ไฟเห็นแล้วอดนึกถึงนรากรไม่ได้ เพราะเธอเคยคุยอวดเรื่องทำไข่เจียวใส่กระเทียมเหมือนกัน

แล้วครู่ต่อมา โรซี่ต้องแปลกใจเมื่อลงมือกินข้าวกับไฟ เห็นไฟมีอาการคล้ายอัคคีหลังกินอาหารเผ็ดๆที่เธอซื้อมาเพิ่ม

"กินเผ็ดไม่เก่งเหรอ"

"อืม ผู้หญิงนี่ชอบกินเผ็ดนะ"

"หูแดง ตาแดงเลย ท่าทางคุณเหมือน..."

"เหมือนอะไร"

"เปล่าๆ ไม่มีอะไรค่ะ"

"แต่ผมชอบไข่เจียวของคุณนะ เด็ดจริงๆ" ไฟยกนิ้วให้...โรซี่หรือความจริงก็คือนรากร นิ่งมองเขาเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในใจ

แล้ววันรุ่งขึ้น นรากรเข้าไปทำงานที่หน่วยสืบราชการลับ และได้กินข้าวกับอัคคีอีกครั้ง นรากรแกล้งตักของเผ็ดให้อัคคีกิน ปรากฏว่าอัคคีมีอาการเหมือนกับที่ไฟเป็นทันที ทำเอานรากรจ้องมองอย่างสงสัย อัคคีกลับรู้สึกเขิน รีบยิ้มกลบเกลื่อน...

ตกเย็น นรากรรีบขอตัวกลับก่อน แต่ความจริงเธอออกไปแอบรอสะกดรอยตามอัคคีอยู่ข้างนอก นรากรตามอัคคีไปจนถึงบ้านที่เขาอยู่กับลุงหมึก แต่เธอยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม ยืนมองจนอัคคีหายเข้าไปในบ้าน แล้วสำรวจกุญแจบ้านอย่างถี่ถ้วนก่อนจะถอยกลับออกมา

กว่านรากรจะกลับไปถึงห้องพักก็ค่ำมืด เธอรีบเปิดหนังสือเกี่ยวกับการทำกุญแจผี แล้วหารูปกุญแจแบบเดียวกับบ้านอัคคีมาเปรียบเทียบ ก่อนจะลงมือทำกุญแจด้วยเครื่องมือที่มีอยู่

จู่ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น นรากรชะงัก รีบเก็บเครื่องมือแล้วเดินไปหน้าประตู ร้องถามว่าใคร แต่ไม่มีเสียงตอบ เธอหันไปคว้าปืนทันที แล้วเปิดประตูออกไป ปรากฏว่าไม่มีใคร ยืนอยู่สักคน แต่พอเธอปิดประตู เดินกลับเข้ามาในห้อง กลับเห็นโทนี่ยืนยิ้มอยู่ที่ระเบียง พร้อมยื่นกุหลาบช่อใหญ่มาให้เธอ

นรากรไม่รับ แถมยังปัดมันทิ้งเมื่อเขายังตื๊อจะให้เธอรับ แล้วเธอเล็งปืนใส่ ไล่เขาออกไปจากห้อง โทนี่ไม่พอใจ ตรงเข้าล็อกตัวนรากรแล้วกอดรัดพยายามจะจูบ แต่นรากรดิ้นรนสุดฤทธิ์ และตบหน้าโทนี่ดังฉาด ทำให้โทนี่ยิ่งโมโห ผลักเธอลงบนเตียงพยายามปลุกปล้ำ

ทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังระรัว โทนี่ชะงักหันไปมอง นรากรจึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ พร้อมกับทุบเข้าที่แผลเก่าของโทนี่ ก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูห้อง...อัคคียืนจังก้า ปาระเบิดควันลงพื้น แล้วฉุดมือนรากรวิ่งหนีออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว แต่ยังไปไม่พ้นอาคารที่พัก โทนี่ก็โผล่ไปดักหน้าทั้งคู่ไว้ อัคคีจึงใช้อุปกรณ์เสริมหลายอย่างต่อสู้กับโทนี่ จนโทนี่ท่าจะแย่ ต้องเป็นฝ่ายหลบหนีไป

เมื่อกลับมาที่ห้องของนรากรอีกครั้ง อัคคีเดินไปป้วนเปี้ยนแถวภาพถ่ายชบาแม่ของนรากร แล้วแอบถ่ายรูปเอาไว้ นรากรไม่ทันสังเกต มัวแต่เคร่งเครียดไม่พอใจการกระทำของโทนี่ พออัคคีสอบถามนรากรว่า รู้จักผู้ชายคนเมื่อกี้ ด้วยหรือ นรากรรีบปฏิเสธทันที "ไม่...ไม่รู้จัก"

"แล้วทำไมมันมาทำร้ายคุณ"

"ฉันก็แปลกใจอยู่เหมือนกัน เคยเห็นแต่รูปในแฟ้มประวัติที่หมวดทองเคยเอามาให้ดู ทำไมจู่ๆวันนี้มันโผล่มาให้เห็นตัวจริงได้ ว่าแต่คุณเหอะ มาช่วยฉันได้ยังไง"

"เอ้อ...ผม...ผมรู้สึก..."

"อย่าบอกนะว่าคิดจะมาทำอะไรฉันเหมือนกัน"

"บ้า ไม่ได้คิดขนาดนั้น ผมแค่อยากจะมาทำอะไรโรแมนติกๆให้คุณบ้าง"

นรากรแปลกใจที่คนอย่างอัคคีมีอารมณ์โรแมนติกกับเขาด้วย จึงให้เขายกตัวอย่างมาหน่อย พออัคคีบอกว่าร้องเพลง เธอถึงกับร้องเสียงหลง

"จะมาร้องเพลงให้ฟังเนี่ยนะ"

"อืม ทำไมเหรอ"

"ไม่เอา ฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ เดี๋ยวอ้วก" อัคคีนิ่วหน้า บ่นพึมพำว่าเอาใจยาก "ไม่ยากหรอก ถ้าอยากเอาใจฉันน่ะ ก็แค่บอกมาหน่อยว่าไอ้อาวุธลับต่างๆที่คุณใช้เมื่อกี้ เอามาจากไหน"

"จริงซิ คุณสนใจเรื่องพวกนี้ งั้นเอาไว้วันหลังผมจะเล่าให้ฟังนะ"

นรากรยิ้มกริ่ม พอใจ...

ทันทีที่กลับมาถึงบ้านตัวเอง อัคคีหรือไฟก็รีบนำรูปของชบาที่แอบถ่ายจากห้องนรากรมาล้าง ลุงหมึกเฝ้ามองด้วยความสงสัยว่าคุณหนูของตนจะทำอะไร พอแกซักถาม ไฟก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน แต่
สัญชาตญาณบางอย่างบอกให้เขาจับตาดูนรากร

"คุณหนูไม่ไว้ใจเธอเหรอครับ"

"มันไม่ใช่แบบนั้น แต่ว่า...เธอมีอะไรบางอย่างที่ลึกลับ ผมเลยอยากตรวจสอบ...."

ooooooo

เช้าวันต่อมา ลมพยายามวาดแผนที่เส้นทางไปโรงงานเฮโรอีนของปานศักดิ์ แต่ช่วงท้ายๆ ลมจำไม่ค่อยได้ เพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีป้ายอะไรเลย ดินให้ลมค่อยๆนึก แต่ลมก็บอกได้แต่ว่ามันเป็นภูเขา ว่าแล้วก็ส่งกระดาษแผนที่ฝากไว้กับดิน

นิอรเพิ่งตื่นนอน เธอมองไปนอกห้องเห็นดินกำลังล้างหน้า พอเธอจะหันกลับ สายตาไปสะดุดเข้ากับกระดาษแผนที่ และรูปวาดเด็กผู้หญิงที่กองอยู่แถวกระเป๋าเสื้อผ้า ขณะที่นิอรหยิบรูปเด็กผู้หญิงขึ้นมาพิจารณา ดินเดินกลับเข้ามาเห็น จึงถูกนิอรซักว่า รูปนี้คือใคร มีปานที่หูเหมือนกับเธอด้วย

ดินตอบเลี่ยงๆว่าเป็นเพื่อน ส่วนเรื่องปานคงจะบังเอิญ นิอรยังซักอีกว่า เขาชื่ออะไร คราวนี้ดินเลยตัดบทว่าจำไม่ได้ แล้วเดินหนีทันที

จากนั้นนิอรพยายามจะติดเตาถ่านเพื่อทำกับข้าว แต่ด้วยความไม่เคย เธอเกือบทำไฟไหม้ เดือดร้อนดินต้องมาช่วยดับไฟ จนเนื้อตัวมอมแมมไปด้วยกันทั้งคู่...หลังจากล้างหน้าล้างตัวกันแล้ว ดิน
ออกไปซื้อข้าวห่อใบบัวมาสองห่อ แบ่งกับนิอรคนละห่อ ไปนั่งกินกันที่ริมน้ำอย่างเอร็ดอร่อย พอค่ำลงดินพานิอรไปดูงิ้ว แม้จะดูไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่นิอรก็ตื่นตาตื่นใจ บอกว่าสนุกดี ดินเองก็ดูผ่อนคลาย รอยยิ้มมีผุดขึ้นมาบ้างเหมือนกัน ซึ่งนิอรไม่เคยเห็นอาการแบบนี้ของดินมาก่อน ขณะเดินกลับที่พัก นิอรเลยกระเซ้าดินว่า น่าจะยิ้มบ่อยๆ จะได้มีความสุขกับเขาบ้าง

"ผมเหมือนคนไม่มีความสุขเหรอ" ดินย้อนถาม
"ไม่รู้ซิ เธอไม่ค่อยยิ้ม ดูเหมือนมีอะไรในใจ..."

นิอรพูดไม่ทันขาดคำก็ถูกดินกระตุกแขนให้รีบวิ่ง เพราะดินมองไปเห็นนรสิงห์กับเขียวกำลังเดินตรงมาทางนี้ ดินพานิอรวิ่งเข้าไปหลบในมุมมืด และรอจนกระทั่งสองคนนั้นผ่านเลยไป ถึงค่อยพากันกลับที่พัก...

ส่วนที่บาร์ ปานศักดิ์กระวนกระวายใจไม่น้อยที่ป่านนี้ลูกน้องยังตามหานิอรไม่พบ นิกกี้จึงรับปากว่าเธอกับโทนี่จะพยายามอย่างเต็มที่ ระหว่างนี้เอง นิกกี้หันไปเห็นน้ำเดินเข้ามา จึงหาเรื่องใส่ร้ายป้ายสีน้ำให้ปานศักดิ์ฟัง
"วันนี้มาทำงานได้ซะที"

"ทำไม"

"นิกกี้ไม่อยากพูด แต่ไม่พูดก็ไม่ได้ พนักงานคนเนี้ยค่อนข้างเฟิร์สค่ะนาย เดี๋ยวไปกับจีไอ เดี๋ยวไปกับแขก แล้วแต่ว่าใครกระเป๋าหนัก บางวันก็เบี้ยวงานไปซะเฉยๆ"

"เธอไปเรียกมาคุยกับฉันหน่อย"

"ได้ค่ะ"

นิกกี้หายไปครู่เดียว น้ำก็เดินเข้ามาหาปานศักดิ์และลงนั่งใกล้ๆตามที่เขาบอก นิกกี้ยืนเหยียดยิ้มมองมา แล้วต่อสายไปหากินรีที่บ้าน ให้กินรีรีบมาที่บาร์ด่วน ตอนนี้ปานศักดิ์ กำลังอยู่กับเด็กใหม่ ถ้าไม่รีบมารับรองต้องตกกระป๋องแน่ๆ

แม้ไม่รู้ว่าใครโทร.มา แต่กินรีก็รีบร้อนออกจากบ้านไปทันที...

ปานศักดิ์พอใจรูปร่างหน้าตาน้ำอยู่แล้ว คุยไปคุยมาเขาเริ่มโลมเลียน้ำด้วยคำพูดและสายตาจนน้ำรู้สึกอึดอัด พยายามจะขอตัวไปทำงาน แต่ปานศักดิ์ไม่ยอม อ้างความเป็นเจ้าของบาร์ จะให้ใครทำหรือไม่ทำงานก็ได้

น้ำไม่รู้จะหาทางออกยังไงให้ตัวเอง หันซ้ายหันขวา แล้วเห็นซิตี๋ยืนมองมา จึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือ อึดใจนึงซิตี๋ก็เดินเข้ามาบอกปานศักดิ์ว่า เขามีเรื่องเกี่ยวกับสุชลจะคุยด้วย ปานศักดิ์เลยต้องให้น้ำออกไปก่อน

"อีกสองวัน ไอ้สุชลมันจะต้องไปรับตำแหน่งใหม่ที่กระทรวง ผมคิดว่าน่าจะเป็นวันนั้น"

"ดีๆ งานนี้พลาดไม่ได้เลยนะ" ปานศักดิ์กำชับซิตี๋ สีหน้ามุ่งหวังเต็มที่ว่าคราวนี้ศัตรูตัวฉกาจอย่างสุชลต้องสิ้นชื่อแน่

ในมุมหนึ่ง กินรีค่อยๆถอยออกไป หลังจากมายืนแอบมองปานศักดิ์กับน้ำอยู่ครู่หนึ่งแล้ว...กินรีตามไปเล่นงานน้ำที่กำลังจะกลับบ้าน โดยพาสมุนสองคนออกไปช่วยด้วย แต่ ก่อนที่น้ำจะถูกทำร้าย ซิตี๋ออกมาช่วยไว้ทัน ทั้งยังคาดโทษสมุนสองคนที่ให้ความร่วมมือกับกินรี...

หลังจากนั้น ซิตี๋ชวนน้ำไปแวะที่ห้องพักของเขา น้ำรอโอกาสนี้อยู่แล้วจึงไม่ปฏิเสธ

"นี่เฮียอยู่คนเดียวเหรอคะ"

"อืม ห้องรกหน่อยนะ"

"ไม่หรอกค่ะ น่าสบายออก"

น้ำเดินไปที่กองกระดาษหนังสือพิมพ์มุมห้อง เห็นแล้วแทบผงะ เพราะเป็นข่าวบุคคลที่ถูกฆ่าตายทั้งนั้น

"ทำไมมีแต่ข่าว..."

"อ๋อ เฮียเก็บไว้เฉพาะข่าวที่น่าสนใจ"

"น่าสนใจยังไง มีแต่ข่าวฆ่ากันตาย หรือว่าคนพวกนี้ เฮียเป็นคนสั่งเก็บ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า"

น้ำหยิบปึกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาพลิกดู แล้วเจอข่าวครูแก่ น้ำต้องสะกดอารมณ์แค้นอย่างเต็มที่

"แล้วคนนี้ล่ะคะ"

"อ๋อ ครูแก่"

"ใครเป็นคนฆ่าคะ" น้ำไม่อาจซ่อนความรู้สึกได้ ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเธอทำเอาซิตี๋แปลกใจ

"ทำไมต้องทำหน้าตายังงั้นด้วย"

น้ำได้สติ แกล้งถามกลบเกลื่อน "มีอะไรเหรอคะ"

"ก็หน้าเธอดูเครียดมาก มีอะไรหรือเปล่า"

"เปล่าค่ะ น้ำก็แค่ถามไปงั้น"

ซิตี๋หยิบหนังสือพิมพ์ออกจากมือน้ำ ชวนคุยกันเรื่องอื่นดีกว่า...ว่าแล้วเขาจับมือน้ำมากุมไว้ น้ำเริ่มใจไม่ดี ดูออกว่าซิตี๋กำลังจะทำอะไร

"เอ่อ เฮียคะ น้ำมาทำงานที่นี่ เฮียเป็นที่พึ่งเดียวของน้ำ เป็นผู้ใหญ่ที่น้ำวางใจ น้ำนับถือและเคารพเฮียมาก น้ำขอบคุณนะคะที่เฮียไม่ทำร้ายน้ำใจน้ำ เหมือนผู้ชายคนอื่นทำ"

"เฮียรู้สึกดีๆกับน้ำนะ"

"แต่น้ำอยากให้มันค่อยเป็นค่อยไป รอจนเราแน่ใจในความรู้สึกของเราได้ไหมคะ"

ซิตี๋จนมุม...ยอมรับในเหตุผลของน้ำ

ooooooo

รุ่งขึ้น น้ำนัดพบไฟกับลมที่โรงงิ้ว แต่ลมมาช้า น้ำใจร้อนจึงบอกไฟไปก่อนว่า เมื่อคืนเธอได้ยินพวกปานศักดิ์ปรึกษากันเรื่องคนที่ชื่อสุชล และน่าจะเป็นเรื่องสำคัญ

"หรือว่าจะเป็นท่านรัฐมนตรี อืม...เอาไว้เดี๋ยวผมจะรีบรายงานผู้พัน"

ลมเพิ่งมาถึง ไฟถามหาแผนที่โรงงานเฮโรอีนทันที ลมบอกว่าเขียนไว้แล้วแต่ยังไม่ครบ ช่วงทางเข้าโรงงาน

จำไม่ค่อยได้ แล้วตอนนี้แผนที่ก็ฝากไว้กับเฮียดิน

อีกครู่ต่อมา ทั้งสามคนไปหาดินที่ห้องพัก แล้วนั่งสุมหัวกันตรงหน้าห้อง ดูแผนที่อย่างขะมักเขม้น...ทำไปทำมา กลายเป็นว่าดินรู้จักที่ตั้งโรงงานเฮโรอีนเป็นอย่างดี เพราะที่ดินผืนนั้นเคยเป็นของพ่อดินมาก่อน

จากนั้นดินเริ่มลำดับความหลังเมื่อครั้งเขายังเด็กให้ เพื่อนร่วมทีมฟัง

"ตอนผมยังเด็ก พ่อผมกับปานศักดิ์เป็นเพื่อนกัน บ้านเราอยู่ในชุมชนแออัดแถวชานเมือง ปานศักดิ์มีลูกผู้หญิงชื่อว่าหนึ่ง ผมกับหนึ่งไปโรงเรียนด้วยกัน เล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนสนิทกัน..."

ช่วงหนึ่งปานศักดิ์ตกงาน ลูกเมียจึงเดือดร้อน หนำซ้ำปานศักดิ์ยังกินเหล้าเมายา ทะเลาะตบตีเมียบ่อยๆ จนสิงห์พ่อของดินต้องยื่นมือเข้ามาช่วย โดยเฉพาะลูกสาววัยไล่เลี่ยกับดิน ได้รับการดูแลจากสิงห์และดินเป็นอย่างดี

แต่อยู่มาวันหนึ่ง สิงห์ได้รับโทรเลขจากทางบ้านว่าปู่ของเขาตายแล้ว สิงห์กับลูกชายจึงต้องเตรียมตัวย้ายกลับไปอยู่เขาสมิงซึ่งเป็นบ้านเกิด ขณะเดียวกันปานศักดิ์ก็ได้พบกับเฮียวิทย์โดยบังเอิญ เฮียวิทย์กำลังหนีการตามล่าของศัตรู เขาแทบเอาชีวิตไม่รอดถ้าไม่ได้ปานศักดิ์ช่วยไว้

หลังจากนั้นเฮียวิทย์จึงตอบแทนปานศักดิ์ด้วยเงิน ก้อนหนึ่ง ทั้งยังให้เข้ามาช่วยงานที่บ่อน จนปานศักดิ์กลายเป็นคนโปรด ทำให้ไช้ ลูกน้องที่เคยมีบทบาทถูกลดระดับความสำคัญลงไป ไช้จึงแค้นปานศักดิ์และพยายามจะกำจัดให้พ้นทาง

ก่อนที่ดินจะเดินทางกลับเขาสมิงพร้อมพ่อ ดินกับหนึ่งลูกสาวของปานศักดิ์ได้พากันไปสลักชื่อของพวกตนไว้ที่ต้นไม้ในโรงเรียน...จากนั้นในตอนค่ำ สองพ่อลูกก็ขนสัมภาระขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง แต่ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุร้ายขึ้นที่บ้านของปานศักดิ์ ไช้ดักลอบยิงปานศักดิ์ แต่พลาดไปถูกเมียของปานศักดิ์ตายคาที่ และกระสุนอีกชุดที่ไช้ระดมยิงเข้ามาเฉี่ยวแขนปานศักดิ์จนเลือดโชก

ปานศักดิ์เห็นท่าไม่ดี รีบอุ้มหนึ่งหรือนิอรหลบหนีไปทางหลังบ้าน แล้วแอบซ่อนตัวไปในท้ายรถกระบะของสิงห์ ที่ออกเดินทางพอดี กระทั่งรถแล่นไปถึงจุดหมายคือเขาสมิง สิงห์กับดินจะขนของลง จึงเห็นปานศักดิ์กับลูกสาวนอนคุดคู้ อยู่ท้ายรถ

สิงห์รีบทำแผลให้ปานศักดิ์ พร้อมกันนี้สิงห์ก็บ่นไม่ เห็นด้วยที่ปานศักดิ์ไปทำงานกับพวกนักเลง ถึงจะได้เงินเยอะ แต่มันเสี่ยงอันตราย

"คนอย่างข้า ไม่ตายง่ายๆหรอก" ปานศักดิ์ยังปากดี แล้วลุกเดินออกมายืนที่ระเบียงบ้าน มองบรรยากาศรอบๆอย่างถูกใจ ยิ่งเมื่อรู้ว่าสิงห์เป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ ปานศักดิ์นึกถึงเฮียวิทย์ขึ้นมาทันทีเพราะก่อนหน้านี้เฮียวิทย์เคยให้ ปานศักดิ์ช่วยหาที่ดินเพื่อสร้างโรงงาน

เมื่อปานศักดิ์แอบโทรศัพท์ติดต่อไปยังเฮียวิทย์ที่กรุงเทพฯ เฮียวิทย์รับปากทันทีว่าจะไปดูที่ดินด้วยตัวเอง แต่เมื่อเฮียวิทย์พร้อมลูกน้องกลุ่มหนึ่งไปถึงเขาสมิง สิงห์ยืนยันไม่ยอมขายที่ดินผืนนี้อย่างเด็ดขาด เฮียวิทย์โกรธมาก สั่งลูกน้องรุมซ้อมสิงห์อย่างโหดเหี้ยม ดินวิ่งเข้าไปช่วยพ่อ แต่ก็สู้แรงผู้ใหญ่ไม่ได้ ขณะที่นิอรก็พยายามรบเร้าปานศักดิ์ให้ไปช่วยลุงสิงห์

ปานศักดิ์ยืนข้างเฮียวิทย์ ไม่ยอมทำตามที่ลูกสาวขอ ยิ่งนิอรรบเร้าไม่เลิก ปานศักดิ์รำคาญจับตัวนิอรเหวี่ยงเซไปกระแทกต้นไม้ถึงสลบ...แล้วเฮียวิทย์ก็ส่งปืนให้ปานศักดิ์สังหารสิงห์

"อยากก้าวหน้าไม่ใช่เหรอ"

"แต่ว่า..." ปานศักดิ์ลังเล

"จะเป็นนักเลงใจต้องมาก่อน ถ้าลื้อไม่ทำ ก็แสดงว่าใจลื้อไม่ถึง...คนเราน่ะนะ ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ มันก็ต้องมีความกล้า ลองคิดเอาเองนะ"

เฮียวิทย์หันหลังเดินหนีไป ปล่อยให้ปานศักดิ์ยืนเล็งปืนมาที่สิงห์และดินที่โดนซ้อมสะบักสะบอม ส่วนลูกน้องของเฮียวิทย์กำลังกระชับปืนเตรียมพร้อม บรรยากาศกดดันปานศักดิ์ สุดๆ สิงห์เงยหน้าขึ้นมองปานศักดิ์อย่างอ้อนวอน แต่หาได้ ทำให้ปานศักดิ์เปลี่ยนใจ

"สิงห์...ข้า...ขอโทษ" ปานศักดิ์ลั่นไกด้วยมืออันสั่นเทา

เสียงปืนดังกึกก้อง ร่างสิงห์ทรุดลงจมกองเลือด ดินตกใจสุดๆ แล้ววิ่งหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต เฮียวิทย์จะให้ ลูกน้องตามดินไป ปานศักดิ์ขอไปจัดการเอง แล้วเขาแกล้งยิงปืนขึ้นฟ้าหนึ่งนัดทำเหมือนกับว่ายิงดินทิ้งเรียบร้อยแล้วตรงบริเวณน้ำตก แต่ความจริงเขาปล่อยดินกระโดดลงน้ำหนีไป ซึ่งไม่รู้ว่าดินจะเป็นตายร้ายดียังไง...

ดินเล่าเหตุการณ์มาถึงตรงนี้ด้วยความรู้สึกที่เศร้าสลด น้ำ ลม และไฟ ต่างสงสารในชะตากรรมของดินกับพ่อ

"จากนั้นก็มีคนไปพบผมนอนสลบอยู่ริมถนน แล้วผมก็ถูกส่งตัวไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า"

"ส่วนไอ้ปานศักดิ์..." ไฟเสริมขึ้นมา "มันก็ไต่เต้าขึ้นมาจากคนสนิทเจ้าพ่อ สุดท้ายมันก็หักหลังเฮียวิทย์ แล้ว

กลายมาเป็นเจ้าพ่อซะเอง ยึดกิจการทุกอย่างของเฮียวิทย์ รวมทั้งสมุนมาเป็นของมัน โดยมีซิตี๋เป็นที่ปรึกษา แล้วดำเนินกิจการบ่อนพนัน ขายเฮโรอีนให้พวกจีไอจนร่ำรวย"

"มันร่ำรวย แต่ผมเป็นเด็กกำพร้า พ่อผมถูกมันฆ่าตาย ป่าเขาสมิงที่ดินของพ่อกลายเป็นโรงงานเฮโรอีน ส่วนผมไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว แม้แต่หนึ่ง...เขาก็ไม่เคยจำผมได้เลย" ดินระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจออกมา...โดยดินไม่รู้ว่า หลังผนังกั้นห้องนั้นนิอรยืนน้ำตาคลอ รับรู้ความจริงทุกอย่าง และไม่อาจยอมรับมันได้

"ถ้าเราทลายโรงงานเฮโรอีนแล้ว ที่ดินป่าเขาสมิงก็คงกลับมาเป็นของนาย" ไฟว่าต่อ

"ผมไม่ต้องการที่ดิน แต่ผมต้องการชีวิตไอ้ปานศักดิ์!" ดินประกาศหนักแน่นเหี้ยมเกรียม...นิอรตกใจและหวาดกลัว ถอยหลังไปนั่งเนื้อตัวสั่น

ooooooo

จบตอนที่ 15

เครดิต //www.thairath.co.th


Create Date : 03 มิถุนายน 2552
Last Update : 3 มิถุนายน 2552 13:13:39 น. 0 comments
Counter : 271 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com