<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
5 มิถุนายน 2552
 
 
ละคร ดิน น้ำ ลม ไฟ ตอนที่ 16

ตอนที่ 16

หลังจากเพื่อนร่วมทีมของดินกลับไปหมดแล้ว ดินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้นิอร แต่กลับเห็นท่าทีผิดปกติ ของเธอ...ที่สุดพอดินซักถามว่าเป็นอะไร นิอรจึงระเบิดมันออกมา

"ฉันรู้แล้วว่าเธอต้องการอะไร"

"คุณพูดอะไร"

"สิ่งที่พวกเธอพูดกัน ทำให้ฉันตาสว่าง"

"คุณได้ยิน?"

"ที่แท้พ่อฉันก็เลี้ยงคนผิดเอาไว้ เธอทรยศ เธอคิดจะฆ่าพ่อฉัน"

"ใช่ แต่มันก็สาสมแล้วกับฆาตกรอย่างพ่อคุณ"

"อย่ามากล่าวหาพ่อฉันนะ พ่อไม่ได้เป็นคนแบบนั้น"

"เจ้าของโรงงานยาเสพติด ถ้าไม่เรียกว่าฆาตกรแล้วจะให้เรียกว่าอะไร"

นิอรตบหน้าดินเต็มแรง ประกาศว่าเธอจะไม่ยอมให้ ใครมาใส่ร้ายพ่อของเธอเป็นอันขาด ดินอึ้ง มองหน้านิอร เขารู้สึกผิดที่ทำให้นิอรเสียใจในสิ่งที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จึงหันหลังเดินหนีออกไป ขณะที่นิอรก็รู้สึกหวั่นไหวกับความเป็นจริง เธอรับไม่ได้ที่พ่อของเธอจะเป็นอย่างที่ทุกคนกล่าวหา

แล้วค่ำนี้เอง นิอรก็วางแผนชวนดินออกไปดูงิ้ว ดูไปน้ำตาซึมไปเพราะเนื้อเรื่องที่แสดงโดนใจนิอร คล้ายกับปัญหาของเธอกับพ่อที่เผชิญอยู่ หลังจากงิ้วแสดงจบ สองคนเดินกลับไปตามทาง นิอรตัดสินใจหันมาขอร้องดินให้ปล่อยพ่อของเธอไป อย่าทำอะไรท่านเลย

"แต่พ่อคุณปล้นทุกอย่างไปจากผม"

"มันอาจจะจริงอย่างที่เธอพูด แต่มันก็เป็นอดีต เราเรียกทุกอย่างกลับคืนมาไม่ได้อีกแล้ว"

"แต่คนทำผิด ก็ต้องได้รับโทษ"

"แสดงว่าเธอต้องการที่จะฆ่าพ่อฉันจริงๆ"

นิอรน้อยใจที่ไม่สามารถทัดทานความคิดของดินได้ เธอหมดเรื่องที่จะพูดต่อจึงหันหลังเดินต่อไป แต่แล้วจู่ๆนรสิงห์ และเขียวโผล่มายืนขวางหน้า นิอรผงะตกใจ

"นิอร...ในที่สุด ผมก็เจอคุณ"

นรสิงห์เข้ามาคว้าข้อมือนิอร ดินรีบวิ่งตามมาช่วย แล้วเกิดชกต่อยกับนรสิงห์และเขียวอุตลุด นิอรละล้าละลังอยากจะหนี แต่ก็ห่วงดินที่กำลังจะเสียท่าสองคนนี้ พลันลมไม่รู้โผล่มาจากทางไหน โดดเข้ามาช่วยดินถลุงนรสิงห์และเขียว นิอรจึงฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีเข้าไปในซอยเล็กๆ

เมื่อสองฝ่ายไม่เห็นนิอร ก็หยุดแลกหมัด เที่ยววิ่งตามหา แต่ไม่มีใครพบเจอเพราะนิอรซ่อนตัวเงียบในซอยรอจนกระทั่งทุกคนผ่านเลยไป เธอจึงวิ่งออกไปที่ถนน โบกแท็กซี่กลับไปที่บ้าน กินรีเห็นสภาพนิอร ถึงกับร้องวี้ดว้ายตกใจ

"นี่...นี่หนีออกมาเหรอ"

"พ่อฉันอยู่ไหน"

"คุณคะๆ นิอรมาแล้ว" กินรีตะโกนลั่นบ้าน ปานศักดิ์ ก้าวพรวดออกมาแล้วโผเข้ากอดลูกสาวเต็มรัก กวางตามหลังมา ยิ้มดีใจที่คุณนิอรกลับมาแล้วจริงๆ

"หนึ่งเป็นอะไรหรือเปล่า มันทำอะไรลูกหรือเปล่า"

"ไม่ค่ะพ่อ เขาไม่ได้ทำอะไรหนู"

"แล้วหนึ่งกลับมาได้ยังไง"

"พอดีเจอกับนรสิงห์ ดินเขาช่วยขวางไว้ หนูก็เลยหนีกลับบ้าน"

"ต่อไปจะไม่มีใครทำอะไรลูกได้อีกแล้ว พ่อสัญญา"

"พ่อคะ หนูมีเรื่องจะคุยกับพ่อ...สองต่อสอง"

กินรีหน้าม้าน พอปานศักดิ์พานิอรเดินเข้าไปข้างใน กินรีก็ขยับปากทันที

"ทำเป็นลับลมคมใน สงสัยจะเรื่องลูกในท้องนั่นแหละ"

"คุณนิอรเพิ่งกลับมา คุณอย่าเพ้อเจ้อสิคะ"

"เดี๋ยวเหอะนังกวาง เดี๋ยวจะตบให้กลายเป็นตัวกินมดหรอก ปากดีนัก" กินรีเงื้อง่า ค้อนกวางปะหลับปะเหลือก...

สองพ่อลูกเข้าไปคุยในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ปานศักดิ์ถูกนิอรคาดคั้นเรื่องที่รู้มาจากดินและเมื่อพ่อไม่ตอบ นั่นยิ่งตอกย้ำว่ามันคือเรื่องจริง นิอรถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่

"มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหมคะ พ่อฆ่าเพื่อนของพ่อเพื่อจะฮุบเอาที่ดินของเขาทำโรงงานยาเสพติด ที่แท้พ่อก็เป็นพ่อค้ายา พ่อทำผิดกฎหมาย"

"แต่ที่พ่อทำไป พ่อทำเพื่อหนึ่งนะ"

"ไม่จริง พ่อไม่ได้ทำเพื่อหนู ถ้าพ่ออยากให้หนูภูมิใจ พ่อต้องไม่ทำแบบนี้"

"แกคงจำไม่ได้ซินะ ว่าตอนเด็กๆ ข้าวแต่ละมื้อจะกินก็แทบไม่มี ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ แกคงไม่สุขสบายอย่างทุกวันนี้หรอก หยุดร้องไห้ แล้วไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับฉันอีก" ปานศักดิ์ขึ้นเสียงแล้วเดินหนีไป นิอรถึงทรุดตัวลงร้องไห้กระซิก...กินรีที่รอท่าอยู่แล้ว แถเข้ามาจีบปากกระแนะกระแหน

"ต๊าย อินโนเซ้นท์ เพิ่งจะมารู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร โง่จริงๆนะเธอเนี่ย"

"ออกไปนะ อย่ามายุ่งกับฉัน" นิอรตวาดใส่กินรี

"บอบบาง รับไม่ได้ นึกว่าลูกผู้ดีตีนแดงมาจากไหน ที่แท้กำพืดก็มาจากชุมชนแออัด มิน่าใกล้เธอทีไรสาบคนชั้นต่ำมันระเหยออกมาให้ฉันได้กลิ่นอยู่บ่อยๆ"

"แล้วคุณล่ะคะคุณกินรี" กวางตามเข้ามาหน้าตาเอาเรื่อง "คุณเป็นผู้ดีตีนแดงมาจากไหน ถึงมาลอยหน้าว่าคุณนิอรแบบนี้"

"หุบปากนะนังกวาง"

"ไม่หุบ คุณนั่นแหละอย่าได้มาแตะต้องคุณนิอรอีก ไม่งั้นกวางไม่ยอมแน่ๆ"

"แกจะทำไมฉัน มาซิมา คอยดูว่านายแกเขาจะเลือกใคร"

"คุณพ่อจะเลือกใครก็แล้วแต่ แต่กวางเป็นคนของฉัน กรุณาอย่ามายุ่งกับเรื่องของคนอื่น" ว่าแล้วนิอรก็สะบัดไป กวางรีบตามติด กินรีเบ้ปากหมั่นไส้ทั้งนายทั้งบ่าว

"เชอะ วางท่าเป็นเจ้าหญิง ที่แท้ก็ยาจก คอยดู ฉันเข้าวงการเมื่อไหร่ ฉันจะดังกว่าแกแน่นอน นังนางเอกตกกระป๋อง"

ooooooo

ที่สถานีตำรวจ พิษณุกำลังเปิดเอกสารคดีเก่าๆเพื่อสืบหาประวัติของไฟและพ่อ นิคมเดินมามองๆ สงสัยว่าพิษณุจะรื้อคดีสารวัตรปฐมหรืออย่างไร ถึงได้ ค้นข้อมูลมาเยอะแยะ

"เปล่าหรอก แค่อยากจะศึกษาเรื่องของพ่อลูกคู่นี้"

"มีอะไรน่าสนใจ"

"ครั้งที่แล้วผมกำลังจะถูกไอ้โทนี่ยิง แต่ไอ้ไฟมันมาขวาง มันชกผม แล้วผมก็สลบไป"

"โชคดีที่ผู้กองรอดมาได้"

"คุณรู้มั้ย ก่อนที่ผมจะสลบ ไอ้ไฟมันบอกว่ามันกำลังช่วยผม"

"มันจะช่วยผู้กองทำไม"

"นั่นสิ แต่ผมต้องรู้ให้ได้"

นิคมหยิบรูปศพใบหนึ่งขึ้นมาดู สงสัยว่าเข้าคือใคร?

"หมวดประทาน สุขขจร สายสืบที่โดนสารวัตรปฐมฆ่าตาย" พิษณุตอบอย่างชัดเจน นิคมยิ่งอยากรู้รายละเอียด พิษณุจึงเริ่มลำดับเรื่องราวให้ฟัง

"หมวดประทานทำงานเป็นสายสืบคอยรายงานความเคลื่อนไหวของแก๊งยาเสพติดให้กับกรมตำรวจ มีผลงานดีเด่นมากมาย แต่หลายครั้งข่าวที่ส่งมาถูกบิดเบือน การเคลื่อนไหวของตำรวจถูกดัดหลัง ทำให้ทางเราสงสัยว่าพวกเรากันเองอาจเป็นหนอนบ่อนไส้"
และเมื่อหมวดประทวนรายงานเรื่องการส่งยาเสพติดลอตใหญ่ที่อู่ตะเภามา สารวัตรปฐมกับสารวัตรนาวินนำกำลังไปซุ่มจับกุม แต่เราพบว่าสารวัตรปฐมคือหนอนบ่อนไส้พยายาม ขัดขวางการจับกุม ฆ่าหมวดประทวนทิ้ง แล้วกลบเกลื่อนหลักฐาน แต่ที่สุดก็หนีคดีไม่พ้น สารวัตรปฐมเลยชิงฆ่าตัวตายไปก่อน"

ขณะที่พิษณุกำลังเล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้นิคมฟัง...ไฟอยู่ที่บ้านของตัวเอง กำลังดูรูปศพหมวดประทวนอยู่เช่นกัน

"ครอบครัวหมวดประทวนตอนนี้ยังอยู่มั้ย" ไฟหันมาถามลุงหมึกที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ ลุงหมึกสีหน้าปวดร้าว ตอบด้วยเสียงค่อนข้างเบา

"ถูกเก็บหมดแล้วครับ"

"ฝีมือพ่อใช่มั้ย"

"ใครๆเขาว่ากันอย่างนั้น"

ไฟรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องมารับรู้ความไม่ดีของพ่อตัวเอง เขาปัดกองหนังสือพิมพ์ตรงหน้ากระจาย "แล้วนี่ผมจะรู้ไปทำไม"

"บางทีสิ่งที่เราเห็น ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด"

"ลุงพูดเหมือนแม่"

"ผมก็แค่พูดไปอย่างงั้นเอง ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอกครับ"

"ผมอยากได้รูปของหมวดประทวน ลุงหาให้ผมหน่อย"

ลุงหมึกชะงักเล็กน้อยก่อนรับคำ แล้วเดินออกไป สีหน้าคิดหนัก...

ส่วนที่สถานีตำรวจ พิษณุกำลังรื้อค้นแฟ้มคดีและแฟ้มประวัติต่างๆ แล้วแปลกใจทำไมในแฟ้มประวัติไม่มีรูปของหมวดประทวนรูปอื่น นอกจากรูปตอนเป็นศพ แม้นิคมท้วงขึ้นว่า มัน
นานหลายปีมาแล้ว พิษณุก็ยังย้ำว่า จะกี่ปีมัน

ไม่ควรหาย นิคมเลยบอกว่า ถ้าหาไม่ได้จริงๆ คงต้องพึ่งหมู่ไม้อีกแล้ว

หลังได้รับการติดต่อจากพิษณุ...หมู่ไม้ก็จัดการให้ในเย็น วันนี้เลย โดยหมู่ไม้ไม่รู้ว่าขณะที่ตัวเองกำลังรื้อค้นตู้เอกสาร อยู่ในหน่วยสืบราชการลับนั้น หมวดทองผ่านมาเห็นโดยบังเอิญ
แล้วสะกดรอยตามหมู่ไม้ไปถึงร้านอาหารที่นัดกับพิษณุ

หมวดทองเห็นการกระทำของหมู่ไม้ทุกอย่าง รู้สึกผิดหวัง อย่างมาก พอหมู่ไม้เสร็จธุระผละมาจากพิษณุ ก็ต้องตกใจเมื่อเจอหมวดทองยืนมองเขาอยู่ แต่หมวดทองไม่พูดอะไร นอกจากทักถามเป็นปกติว่า "มาไง" หมู่ไม้รีบกลบเกลื่อนว่ามาหาเพื่อน แต่สงสัยยังไม่มา...หมวดทองรับไม่ได้ หันหลัง จะกลับ หมู่ไม้ถามว่าจะไปไหน เขาก็ไม่ตอบ รีบเดินหนีไป ทำเอาหมู่ไม้เป็นกังวล รู้สึกตงิดๆว่าหมวดทองน่าจะระแคะระคาย

เดินหนีหมู่ไม้มาแล้ว หมวดทองร้อนใจจนอยู่เฉยไม่ได้ รีบนัดพบอัคคีเพื่อเล่าความเป็นไปของหมู่ไม้ให้ฟัง อัคคีซึ่งรู้เห็นพฤติกรรมแบบนี้ของหมู่ไม้มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่อัคคีไม่บอกหมวด
ทอง ได้แต่บอกว่า ดีแล้วที่หมวดมาเล่าให้เขาฟัง

"ผมเคยบอกเรื่องนี้กับผู้พัน แต่ว่าท่านไม่สนใจ"

"ไม่เป็นไร เราเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับแล้วจับตาดูหมู่ไม้ต่อไป"

"ผมผิดหวังจริงๆ ที่มองหมู่ไม้ผิดไป"

มุมหนึ่ง หมู่ไม้นั่งแอบฟังอยู่เงียบๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความกลัดกลุ้ม

ooooooo

ด้านนรากร คืนเดียวกันนี้เธอปลอมตัวในชุดนินจาสาวแอบเข้าไปในบ้านอัคคีด้วยกุญแจผี ซึ่งจุดมุ่งหมายคือห้องทำงาน เธอเห็นหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวสารวัตรปฐมหลายฉบับ หยิบมา
อ่านอย่างรวดเร็วแล้ววางมันลงที่ตู้หนังสือ แต่บังเอิญมือไปดันตู้เข้า รู้สึกเหมือนมันขยับ เกิดสงสัยว่าน่าจะมีประตูกลหลังตู้ จึงพยายามจะเปิด

ที่หน้าบ้าน อัคคีเพิ่งกลับมา เขารู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ประตูบ้านไม่ได้ล็อก เพียงแต่ปิดเอาไว้เฉยๆ เขาชักปืนเตรียมพร้อมแล้วพุ่งตรงไปยังห้องทำงาน แต่แล้วลุงหมึกเดินมาจากด้าน
หนึ่ง ร้องทักคุณหนู อัคคีรีบจุ๊ปากห้ามทันที

นรากรได้ยินเสียงหน้าห้อง รีบทิ้งทุกอย่างแล้วพุ่งไปที่หน้าต่าง กระโดดหนีหายไปในความมืด อัคคีวิ่งมาเห็นหลังไวๆ ส่วนลุงหมึกรีบสำรวจสิ่งของในห้อง

"มันไม่ได้เอาอะไรไปครับ คุณหนู"

"มันไม่ใช่ขโมยธรรมดา" พูดแล้วอัคคีก็นึกถึงใครบางคนที่เขาสงสัย

ลุงหมึกเดินไปหยิบเอกสารปึกหนึ่งมาส่งให้อัคคี พร้อมชี้แจงว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่อชบา...ตามใบแจ้งเกิด นรากรมีแม่ชื่อชบา พ่อชื่อสังเวียน แต่พ่อแม่ตายตั้งแต่เธออายุได้ประมาณ 2 ขวบ

"เป็นอะไรตาย" อัคคีซัก

"โดนฆ่าตาย สาเหตุคาดว่ามาจากคดีชู้สาว ส่วนใครฆ่า คดีนี้ไม่มีข้อสรุปครับ แต่หลังจากนั้นนรากรก็เป็นเด็กกำพร้า ถูกเลี้ยงดูโดยผู้ชายคนหนึ่ง"

"ชื่ออะไร"

"ผมไม่มีข้อมูล รู้แต่ว่าผู้ชายที่เลี้ยงดูนรากรไม่ใช่ญาติพี่น้อง ไม่มีความเกี่ยวข้องเป็นญาติ"

อัคคีฟังแล้วกระตือรือร้นเปิดเอกสารตรวจสอบอีกที... ข้างฝ่ายนรากรที่หนีกลับออกไปได้อย่างปลอดภัย พอถึงห้องพักได้สักครู่ เชาว์มาปรากฏตัว นรากรถึงกับสะดุ้งที่พ่อมาเงียบๆ ที่สำคัญดึกมากแล้วด้วย...เมื่อเชาว์พูดถึงแฟนนรากรขึ้นมาอีก นรากรรู้สึกไม่ชอบใจ ต่อว่าพ่อทำไมไม่เลิกยุ่งกับชีวิตของเธอสักที

"เอ็งมันโตแล้ว ต่อไปข้าคงหมดหน้าที่" ว่าแล้วเชาว์หันหลังเดินออก นรากรหน้าเสีย เรียกพ่อ...แต่เชาว์ตัดบทว่า "ข้ามีงาน" แล้วเดินออกไปทันที...

เช้าขึ้น นรากรรีบเข้ามาที่ออฟฟิศก่อนใคร รื้อค้นแฟ้มคดีของสารวัตรปฐมแล้วแอบถ่ายรูปเพื่อเก็บข้อมูลไปอ่านที่บ้าน ระหว่างนี้เอง หมู่ไม้เดินเข้ามาหยุดแอบมองโดยที่นรากรไม่รู้ตัว เมื่อนรากรถ่ายรูปเสร็จก็รีบเก็บแฟ้มเข้าที่ จากนั้นทำตัวปกติ นั่งทำงานไป จนหมวดทองและอัคคีมาทำงาน หมู่ไม้ซึ่งหลบมุมมองนรากรอยู่ จึงเดินยิ้มเข้ามาทักทั้งคู่ แต่ทั้งคู่กลับไม่พูดด้วย คว้าเอกสารเดินเข้าห้องประชุมไปหน้าตาเฉย

หมู่ไม้หน้าเจื่อนๆ หันไปเห็นนรากรส่งยิ้มมา แต่เขารู้สึกไม่ค่อยแน่ใจกับรอยยิ้มของเธอ จึงหันกลับมาทางห้องประชุม แล้วตัดสินใจก้าวตามอัคคีกับหมวดทองเข้าไป สนใจจะฟังว่าพวกเขาประชุมอะไรกัน หมวดทองกลับตอกหน้าซะหมู่ไม้สะอึก รับรู้อารมณ์ของหมวดทองที่กำลังไม่ไว้ใจตน

"ไม่เป็นไรหมู่ งานนี้หมู่ไม่ต้องรู้ก็ได้"

"กลัวความลับรั่ว?" หมู่ไม้ตั้งคำถาม หมวดทองตอบทันทีว่าใช่ "หมวดไม่ไว้ใจผม"

"ถ้าหมู่ทำตัวให้น่าไว้ใจ ก็ไม่น่าจะเดือดร้อน"

"ถ้าจะสงสัยผมน่ะ สงสัยอีกคนดีกว่า"

"หมู่หมายถึงใคร" อัคคีซัก

"ไม่มีอะไรหรอก ผมก็พูดไปงั้นแหละ เอาไว้สักวันทุกคนก็รู้เอง" หมู่ไม้พูดเป็นปริศนา แล้วกลับออกไปทันที...

ตกบ่าย อธิบดีจิระเรียกผู้พันแสวงและอัคคีเข้าพบที่กรมตำรวจเพื่อกำชับเรื่องที่ทั้งคู่รายงานเมื่อวันก่อนว่าอาจเกิดเหตุร้ายกับรัฐมนตรีสุชล ซึ่งอธิบดีจิระได้รายงานให้ ทส. ของท่านทราบ
แล้ว ท่านเลยขอให้เขาวางแผนอารักขาให้ ผู้พันแสวงบอกไม่มีปัญหา เรื่องนี้เขาจัดการได้

"มันจะลงมือในวันที่ท่านเข้ารับตำแหน่งใหม่ที่กระทรวง ครับ ถ้าท่านเลื่อนหมายกำหนดการได้ก็จะดีมาก" อัคคีเสริมขึ้นมา

"เป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกำหนดเดิม" อธิบดีจิระเน้นย้ำ ผู้พันแสวงจึงรับปากแข็งขันว่า เขากับไฟจะช่วยกันดูแลท่านสุชลอย่างดีที่สุด อธิบดีจิระจึงเบาใจลุกออกไป

จากนั้นอัคคีรีบขอตัว เพราะซิตี๋นัดให้ไปที่บ่อน คง จะคุยเรื่องท่านสุชล...ผู้พันแสวงให้อัคคีรีบไป แต่อย่าลืมเปลี่ยน เป็นไฟเสียด้วย...แต่เมื่อไฟไปถึงบ่อนที่เยาวราช ปรากฏว่าซิตี๋รอไม่ไหว มอบหมายให้อู๊ดทำงานใหญ่นี้แทนไปแล้ว ส่วนไฟให้อยู่ช่วยซิตี๋ดูบ่อน

ooooooo

เช้าวันนี้เองที่หน่วยสืบราชการลับต้องปฏิบัติภารกิจสำคัญ ผู้พันแสวงจึงวางแผนแยกหมู่ไม้ออกจากกลุ่มเพื่อป้องกันข่าวรั่ว โดยมอบหมายให้หมู่ไม้ไปดูหนังเรื่องหนึ่ง ดูแล้วให้มารายงานว่าพระเอกในเรื่อง ร้องเพลงจริงหรือเปล่า ซึ่งหมู่ไม้รู้ดีว่าหัวหน้าทำเช่นนี้ เพื่ออะไร แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง รับเงินค่าตั๋วหนังกลับ ออกจากห้องมาด้วยความน้อยใจ

แต่แล้วคนที่ไม่มีใครสงสัยอย่างนรากรกลับได้ร่วมปฏิบัติภารกิจ ระหว่างที่พวกผู้พันแสวงเจรจานัดแนะกับทีมอารักขาของท่านสุชลด้วยเครื่องมือไฮเทค นรากรแอบโทร.ไปหาปานศักดิ์แล้วยกหูโทรศัพท์วางไว้นอกเครื่อง เพื่อให้ปานศักดิ์ กับซิตี๋ได้ยินแผนการของตำรวจ

หลังจากเชาว์ลงมือสังหารท่านสุชลด้วยปืน ท่ามกลางข้าราชการที่มารอต้อนรับหน้ากระทรวงจำนวนมาก เชาว์ก็รีบวิ่งหนีไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่ทินสตาร์ตเครื่องรออยู่แล้วบิดหนีออกไป
พวกตำรวจรีบไล่ตาม มุ่งหน้าไปตามที่อัคคีรายงานเส้นทางมา แต่ทินกับเชาว์ก็หลบหลีกหนีไปได้ เพราะซิตี๋ได้ยินคำพูดของอัคคีทุกอย่าง แล้วแจ้งให้ทินกับเชาว์หนีไปทางอื่น

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ผู้พันแสวงข้องใจ คาดเดาว่ามันอาจจะรู้แผนของเรา อัคคีบอกเป็นไปไม่ได้ พลางก็มองไปรอบห้อง นรากรจึงรีบเลื่อนแฟ้มมาบังโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ นอกเครื่อง นึกลำพองในฝีมือของตน แต่แล้วนรากรต้องอึ้งงัน เมื่อได้ยินอัคคีกับผู้พันแสวงพูดกันว่า ให้ท่านรัฐมนตรีตัวจริงออกมาได้แล้ว คนที่โดนยิงเมื่อกี้เป็นตัวปลอมซึ่งมีเสื้อเกราะป้องกัน ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย
นรากรนึกไม่ถึงว่าจะมีการซ้อนแผน...แต่ที่สุด ท่านสุชลตัวจริงก็ถูกนิกกี้ที่ยังปะปนอยู่ในกลุ่มข้าราชการลอบยิงในระยะเผาขน แล้วนิกกี้ก็อาศัยความชุลมุนของผู้คนวิ่งหลบเข้าในรถตู้ที่อู๊ดจอดรออยู่ พริบตาเดียว ทั้งนิกกี้และอู๊ดก็กลับออกมายืนรวมกับพวกข้าราชการที่ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เมื่อท่านสุชลถูกยิงตายคาที่ ผู้พันแสวงกับอัคคีเครียดจัด ไม่เข้าใจว่าพวกมันรู้ได้ยังไงว่ามีตัวปลอม หมวดทองก็งุนงง เพราะเขาเองก็เพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เอง

"หรือว่าเป็นเรื่องบังเอิญคะ" นรากรโพล่งออกมา

"อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น" ผู้พันแสวงไม่เชื่อ

ทันใด อัคคีก็สะดุดตากับโทรศัพท์ที่ถูกวางไว้นอกเครื่อง แต่เขาไม่กระโตกกระตาก...แล้วอีกครู่ ผู้พันแสวงก็เรียกอัคคีไปคุยในห้องตามลำพัง

"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมกันหมู่ไม้ออกไปแล้วนะ"

อัคคียืนยันทันทีว่าไม่ใช่หมู่ไม้ ทำให้ผู้พันแสวงยิ่งอยากรู้ว่าเป็นใคร แต่อัคคียังไม่ชี้ชัด

"ผมสงสัยแต่ยังไม่แน่ใจ...ขอเวลาผมอีกหน่อย"

ooooooo

จบตอนที่ 16

เครดิต //www.thairath.co.th


Create Date : 05 มิถุนายน 2552
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 13:46:16 น. 1 comments
Counter : 181 Pageviews.

 
ดดีดีดีดีดีดี


โดย: thawit007 IP: 222.123.172.32 วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:19:10:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com