Bloggang.com : Heavenworth : ละคร ดิน น้ำ ลม ไฟ ตอนที่ 6 ต่อ

<<

พฤษภาคม 2552

>>

					1	2
3	4	5	6	7	8	9
10	11	12	13	14	15	16
17	18	19	20	21	22	23
24	25	26	27	28	29	30
31

17 พฤษภาคม 2552

ละคร ดิน น้ำ ลม ไฟ ตอนที่ 6 ต่อ

ตอนที่ 6 (ต่อ)

หลังจากทำหมางเมินกับดินมาตลอดทั้งวัน ค่ำนี้ นิอรก็ตัดสินใจบอกกล่าวปานศักดิ์ว่าต่อไปนี้เธอขอขับรถไปทำงานด้วยตัวเอง ปานศักดิ์ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของลูกนักแต่ก็ไม่อยากขัดใจ แต่พอรุ่งขึ้นดินรู้จากปานศักดิ์ว่าเขาหมดหน้าที่นี้แล้ว เขาถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน

ปานศักดิ์มอบหมายหน้าที่ใหม่ให้ดินไปส่งเขาที่อพาร์ตเมนต์ แล้วจากนั้นจะให้ดินไปเก็บเงินที่โต๊ะมวย พอไปถึงอพาร์ตเมนต์ที่สมุนทั้งหมดพักอาศัย ปานศักดิ์เข้าไปในห้องทำงานขนาดใหญ่ซึ่งจัดอย่างหรูหรา มีเอกสารมากมาย มุมหนึ่งจัดเป็นโต๊ะประชุม ซิตี๋ โทนี่ และนิกกี้มานั่งรออยู่ก่อนแล้ว

ดินเดินไปนั่งรออยู่มุมหนึ่งตามที่ปานศักดิ์สั่ง จากนั้น ซิตี๋ก็เริ่มรายงานปานศักดิ์ว่าลูกค้าจีไอของเราของดซื้อของ เพราะกวนอูส่งให้มันราคาถูกกว่า ปานศักดิ์โกรธแค้นที่กวนอู บังอาจตัดราคาอีกแล้ว และพยายามตีเสมอตนตลอดเวลา จึงสั่งซิตี๋และโทนี่จัดการพวกมันได้เลย ซึ่งซิตี๋วางแผนไว้แล้วเช่นกันว่าวันเสาร์นี้พวกเขาจะปล้นชิงของก่อนที่มันจะถึงสนามบิน นิกกี้ฟังแล้วคันมือคันไม้เอ่ยปากขอไปด้วยคน ซิตี๋ ทำท่าจะขัด แต่เห็นปานศักดิ์นิ่งไม่ว่าอะไร ซิตี๋เลยเงียบไป

อู๊ดเพิ่งมาถึง ปานศักดิ์ให้อู๊ดพาดินไปรู้จักพวกโต๊ะมวย ต่อไปดินจะเป็นคนไปเก็บเงิน อู๊ดรับทราบและพาดินออกไปทันที แล้วไม่นานนักดินก็ได้ทำความรู้จักกับพวกโต๊ะมวยที่อยู่ในความดูแลของปานศักดิ์ ก่อนจะเก็บเงินใส่กระเป๋าแล้วย้อนกลับมายังอพาร์ตเมนต์อีกครั้ง เพื่อส่งมอบเงินให้ปานศักดิ์ ที่ประชุมลูกน้องเสร็จพอดี

หลังจากทำหน้าที่ครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว ดินแอบไปโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะเพื่อส่งข่าวให้ไฟรู้ว่าแก๊งปานศักดิ์กำลังจะดักปล้นของจากพวกกวนอูในวันเสาร์นี้ แต่เมื่อดินโทร.เข้ามา ที่หน่วยสืบราชการลับตามเบอร์ที่ไฟให้ไว้ นรากรนั่งทำงานอยู่ในห้องนั้นด้วย ไฟซึ่งอยู่ในรูปลักษณ์ของอัคคีจึงคุยกับดินเบาๆ พอวางสายเขาก็รีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้พันแสวง โดยมีสายตาของนรากรมองตามด้วยความสงสัย

ปรากฏว่าผู้พันแสวงรู้จากลมมาก่อนหน้านี้แล้วว่ากวนอูจะส่งของให้ลูกค้าที่อู่ตะเภา แต่เพิ่งรู้จากอัคคีเดี๋ยวนี้ว่าสมุนของปานศักดิ์จะดักปล้น สองคนจึงวางแผนกันอย่างเร่งด่วน นรากรจับตามองทั้งคู่ผ่านห้องที่เป็นกระจก แน่ใจว่าต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล

ดังนั้นในตอนค่ำ นรากรจึงปลอมตัวเป็นโรซี่เข้าไปที่บาร์ของปานศักดิ์ เตือนพวกซิตี๋ว่าทำอะไรอย่าประมาท เธอเห็นพวกสายสืบพูดคุยเหมือนวางแผนอะไรบางอย่าง ซิตี๋นึกถึงเรื่องที่จะปล้นกวนอูขึ้นมาทันที และสงสัยว่าข่าวจะรั่วอีก แต่เดี๋ยวเขาจะหาทางแก้เอง

โทนี่ยืนมองโรซี่อยู่มุมหนึ่ง เช่นเดียวกับไฟที่จับตาดู เธออย่างพึงพอใจ พอเห็นเธอลุกเดินออกไป ไฟจึงก้าวตามไปทักและอยากทำความรู้จักเพราะเจอกันสองครั้งแล้ว โรซี่รู้แกวว่าเขาจะจีบเลยทำดุดัน บอกไปว่าเธอมีผัวแล้ว อย่ามายุ่ง ไฟยิ้มแหยๆ กล่าวขอโทษแล้วหันหลังกลับทันที โรซี่ หันมองตาม ใจหนึ่งเธอรู้สึกเสียดายโอกาส แต่อีกใจซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าบอกเธอว่าอย่าอ่อนไหว ผู้หญิงอย่างเธอไม่ควรจะรักใคร...

ooooooo

ถึงวันเสาร์ ลูกน้องของกวนอูซึ่งนำโดยอาสี่นำทีมขนเฮโรอีนที่แอบยัดใส่ลูกมะพร้าวมุ่งหน้าไปส่งลูกค้าที่อู่ตะเภา แต่แล้วระหว่างทางต้องเจออุปสรรคจนไปไม่ถึงจุดหมาย เมื่อพวกซิตี๋ปลอมตัวเป็นตำรวจดักตรวจเพื่อถ่วงเวลา แล้วให้นิกกี้เป็นเหยื่อล่อ ก่อนที่โทนี่จะปรากฏตัวต่อสู้กันและสามารถชิงรถขนมะพร้าวไปได้

ขณะโทนี่ขับรถหนีไปนั้น เจอด่านตรวจของหมวดพิษณุ ที่รับข้อมูลมาจากหน่วยเหนือ จึงเกิดการไล่ล่าจนโทนี่ต้องเลี้ยวรถหลบเข้าป่าข้างทาง แล้วโทนี่ก็โดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ที่นิกกี้ขับตามมาหนีรอดไปได้ทั้งคู่

ด้านอาสี่และลูกน้องบาดเจ็บคนละเล็กละน้อย แล้วรีบกลับไปรายงานกวนอูว่ารถขนของถูกปล้น ซึ่งอาสี่มั่นใจว่าต้องเป็นพวกปานศักดิ์ กวนอูโวยวายด้วยความเจ็บใจ และเสียดายเงินที่สูญไปไม่ใช่น้อย

ขณะเดียวกัน ปานศักดิ์ก็กำลังประชุมลูกน้องอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ ปานศักดิ์สงสัยว่าตำรวจรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ซิตี๋เดาว่าข่าวน่าจะรั่ว โทนี่เลยระเบิดอารมณ์ขึ้นมาด้วยภาษาอังกฤษ ที่ตัวเองถนัด แต่ปานศักดิ์ฟังไม่รู้เรื่อง โวยวายใส่ทั้งโทนี่กับซิตี๋ที่ทุ่มเถียงกัน สองคนเลยหยุดชะงัก ส่วนนิกกี้จับตามองทุกคนเงียบๆ

"อย่างน้อยเราก็ทำให้ไอ้กวนอูมันส่งของไม่ได้นะนาย" ซิตี๋เอ่ยขึ้น

"เออ" ปานศักดิ์กระแทกเสียงแล้วลุกเดินหนีออกไป หงุดหงิดที่แผนไม่สำเร็จอย่างที่ต้องการ...ซิตี๋หันมาเขม่นโทนี่ ที่พูดจาหักหน้า โทนี่จ้องตอบอย่างไม่กลัว...

ครั้นปานศักดิ์กลับไปถึงบ้านได้ไม่นาน ก็ต้องแปลกใจ ที่อยู่ๆนิกกี้ก็โทร.มาหา นิกกี้แจ้งว่าเธอมีเรื่องในห้องประชุมจะบอกให้นายรู้ ปานศักดิ์ย้อนถามทันทีว่ามีอะไร?

"ก็ที่โทนี่และซิตี๋พูดภาษาอังกฤษกัน"

"เออ ว่าไง"

"โทนี่เขาพูดว่า ซิตี๋รู้อยู่แล้วว่าข่าวที่เราจะปล้นรั่วไปถึงตำรวจ แต่เฮียซิตี๋กลับไม่ยอมทำอะไร"

"จริงเหรอ"

"นิกกี้ไม่ช่วยคนผิดหรอกค่ะ ถึงนิกกี้กับเฮียซิตี๋จะเป็นอะไรกัน แต่ถ้าเขาทำผิดกับนาย นิกกี้ก็ไม่ยอมเหมือนกัน"

"ขอบใจมากนิกกี้" ปานศักดิ์วางสาย หงุดหงิดที่ซิตี๋ทำงานพลาด...ด้านนิกกี้ยิ้มมีเลศนัย เธอกำลังจะทำลายเครดิตซิตี๋แล้วยกโทนี่ขึ้นมาแทน

ooooooo

ที่หน่วยสืบราชการลับ เช้าวันนี้นรากรยังจับตามองผู้พันแสวงกับอัคคีที่มักพูดคุยกันตามลำพังในห้องทำงาน กระทั่งทั้งทีมมากันครบ ผู้พันแสวงจึงนำเข้าห้องประชุม

หมวดทองฉายสไลด์ภาพของโทนี่ พร้อมให้ข้อมูลว่า โทนี่ จาง เป็นลูกครึ่งไทยเวียดนาม เกิดที่เวียดนามแต่ไปเติบโตในเขตไชน่าทาวน์ย่านนิวยอร์ก และเข้าร่วมแก๊งค้ายาตั้งแต่ วัยรุ่น เข้ามาเมืองไทยเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อเป็นที่ปรึกษาการทำโรงงานเฮโรอีนให้ปานศักดิ์

หมู่ไม้มีข้อสงสัยว่าปานศักดิ์มีโรงงานอยู่แล้ว ยังจะต้องทำอะไรกันอีก หมวดทองจึงอธิบายว่าโรงงานเก่าเป็นโรงงาน แบบบ้านๆ พื้นๆ กำลังการผลิตน้อย ถ้าปรับเปลี่ยนเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรผลิต จะทำให้ได้ผลผลิตมากกว่าเดิม 5 เท่า

"ถ้าปล่อยให้โรงงานนี้สำเร็จ เมืองไทยจะเป็นยังไง" ผู้พันแสวงตั้งคำถาม อัคคีตอบว่าคนคงติดยาทั้งประเทศ นรากร โพล่งขึ้นมาทันทีว่าเกินจริง

"แต่...แต่มันก็เป็น...ไปได้" อัคคีแกล้งเถียงตะกุกตะกัก นรากรเบ้หน้าใส่ แล้วหันไปดูสไลด์ภาพต่อไปซึ่งเปลี่ยนเป็น ภาพของนิกกี้

"นิกกี้ อรินทิรา เกิดเมืองไทยแต่ติดตามแม่คนไทยซึ่งแต่งงานใหม่กับฝรั่งไปอยู่ที่อเมริกา ทำงานในแก๊งยาเสพติดที่ชื่อ 4k ของอเมริกา จนสุดท้ายทำหน้าที่ประสานงานระหว่างแก๊งของปานศักดิ์กับแก๊ง 4k ก่อนที่จะกลับมาเมืองไทยแล้วทำงานกับปานศักดิ์โดยตรง"

"สวยนะครับ" หมู่ไม้ชม หมวดทองเลยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สวยแต่ดุ เธอคลั่งไคล้มาร์เชี่ยลอาร์ตมาก ถ้าจะล้มเธอ คงไม่ใช่เรื่องง่าย

"เอาละ ขอบใจมากหมวดทอง ข้อมูลที่คุณได้มามีประโยชน์มาก ถ้าไงขอให้ส่งข้อมูลพวกนี้ไปที่หน่วยงานที่ดูแลเรื่องยาเสพติด แล้วบอกให้พวกเขาจับตาคนพวกนี้ด้วย" ผู้พันแสวงสั่งการ หมวดทองรับคำทันที

"หัวหน้าคะ" นรากรแทรกขึ้นมา "ถ้าฉันมีข้อมูลบางอย่างที่ต้องการซักถามพวกสายสืบของเรา ฉันจะขอพบกับพวกเขาบ้างได้ไหมคะ"

"คงไม่ได้ ทุกอย่างต้องผ่านอัคคี ผมให้เขาเป็นเซ็นเตอร์แล้ว"

"แต่ว่า..."

"คุณนรากรมีอะไร ถามผมได้ ผมยินดีช่วย" อัคคียิ้มหวานให้ นรากรจำใจต้องขอบคุณเขา จากนั้นผู้พันแสวงก็ขอปิดประชุม...

ส่วนนรากรเริ่มเกาะติดอัคคีเพื่อค่อยๆล้วงความลับที่เธอต้องการ เขาไปไหนเธอขอไปด้วย และสุดท้ายอาสาไปส่งเขาที่บ้าน ในขณะที่นั่งรถไปด้วยกัน เธอพยายามซักเรื่องครอบครัวของเขา พอเขาท้วงว่าจะสอบประวัติกันหรือ เธอก็ปัดว่าไม่มีอะไร แค่ชวนคุยเฉยๆ อัคคีเลยแหย่ว่า คุณคงไม่ค่อยได้คุยกับใคร นรากรไม่พอใจชักสีหน้าใส่ทันที

"ทำไม?"

"ลักษณะการคุย มัน...มัน..." อัคคีทำเป็นอึกอักอย่างกลัวๆ นรากรเลยปรับสีหน้าท่าทีใหม่

"โทษที แค่อยากเป็นเพื่อน"

"แล้วที่พูดในห้องประชุม ว่าอยากจะถามอะไรสายสืบ ของเราหรือครับ"

"ตอนนี้ยัง เอาไว้แล้วจะบอก"

"เลี้ยว...เลี้ยวซอยหน้า"

นรากรเลี้ยวรถตามที่อัคคีบอก แล้วไปหยุดเข้าข้างทาง ถามเขาว่า บ้านอยู่แถวนี้เหรอ พอคำตอบคือเขามาหาเพื่อน นรากรถึงกับร้องอ้าว...

"อยากไปบ้านผมเหรอ แน่ะ...คิดจะยื่นใบสมัครล่ะซิ"

หญิงสาวทำหน้างงๆ ถามว่าใบสมัครอะไร "ก็ใบสมัครเป็นแฟนน่ะสิ" เธอหมั่นไส้เขา กระชากรถออกทันทีที่เขาลงไป อัคคียืนโบกมือรอจนรถเธอไปไกลสุดตา จากนั้นเขารีบเดินเลี้ยวไปอีกทาง แต่อีกครู่นรากรก็ขับรถกลับมาจุดเดิม กวาดตามองรอบทิศแต่ไม่เจออัคคี จึงลงจากรถเดินตามหา

ooooooo
อ่านต่อ

เครดิต //www.thairath.co.th

Create Date : 17 พฤษภาคม 2552

Last Update : 17 พฤษภาคม 2552 20:54:35 น.

0 comments

Counter : 251 Pageviews.

Heavenworth

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

Webmaster - BlogGang

[Add Heavenworth's blog to your web]

Bloggang.com