ละคร วนิดา ตอนอวสาน
ตอนอวสานประจักษ์ไปถึงบ้านวนิดา สมหมายรีบออกมารับหน้าบอกวนิดาไม่อยู่ นายดาวก็ไม่อยู่ ประจักษ์บอกว่าถ้าอย่างนั้นตนจะเข้าไปรอ สมหมายผายมือตามความเคยชิน แต่พอนึกได้รีบบอกว่าเข้าไม่ได้ พอประจักษ์ ถามหน้าขึงขังว่าทำไมไม่ได้ สมหมายประหม่าโพล่งออกไปว่า "คุณนิดสั่งไว้" พอนึกได้ก็รีบเอามือปิดปากตัวเองประจักษ์หรี่ตาถามอย่างรู้ทันว่าว นิดาอยู่แต่ไม่อยากพบตนใช่ไหม สมหมายจนแต้มอ้อนวอนว่าอย่าทำให้ตนต้องลำบากใจเลย ประจักษ์ไม่สนใจเดินเข้าไปในบ้านทันที สมหมายวิ่งตามไปหน้าตาตื่นปรากฏ ว่าประจักษ์เข้าไปเจอจวงเข้า จวงตกใจ พอประจักษ์ ถามว่าวนิดาอยู่ไหน จวงตอบเร็วปรื๋อว่าอยู่บนห้องค่ะ ประจักษ์ เดินขึ้นไปทันที สมหมายเพิ่งตามมาถึงเอ็ดจวงเบาๆว่าบอกทำไม จวงหน้าจ๋อยเสียงอ่อยว่าลืมไปประจักษ์ ขึ้นไปเคาะประตูห้องวนิดาร้องเรียกเธอ "นิด... นิด..." วนิดาผงะตกใจที่เสียงเขามาร้องเรียกอยู่หน้าห้องประตูนี่เอง ละล้าละลังไม่รู้จะทำอย่างไรดี ประจักษ์ร้องถามว่า"เปิดประตูให้ฉันเข้าไปหน่อยได้ไหม""คุณกลับไปเถอะค่ะ แล้วฉันจะให้คุณพ่อโทร.ไปนัดวันหย่ากับคุณนะคะ" วนิดามายืนพูดตรงประตู"ไม่ ฉันไม่กลับ แล้วฉันก็ไม่ยอมหย่าด้วย ฉันมีบางอย่างต้องพูดกับเธอนะนิด"วนิดา ยืนพิงประตูจะร้องไห้ขอร้องเขาว่าอย่าทำให้ตนลำบากใจเลย ขอให้กลับไปเสียเถิด ประจักษ์เงียบไปนาน จึงตอบไปด้วยน้ำเสียงเศร้ามากว่า"ก็ได้...ฉัน จะกลับ แต่ขอให้เธอรู้ไว้นะนิด ว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจฉันได้ ถึงตอนนี้ฉันจะยังบอกคำสามคำนั้น" ประจักษ์เว้นไว้อย่างเข้าใจกันว่าคือคำ ฉัน-รัก-เธอ "กับเธอไม่ได้ เพราะฉันต้องรับผิดชอบคำพูดที่ให้ไว้กับคนคนหนึ่งก่อน แต่เมื่อถึงวันที่ทุกอย่างเรียบร้อย ฉันจะมาหาเธอ รอฉันวนิดา อย่าเพิ่งหย่ากับฉัน รอฉันนะ..."น้ำเสียงสุดท้ายของประจักษ์นั้น เว้าวอน...เศร้า...จนวนิดาต้องรีบเอามือปิดปากไม่ให้เสียงร้องไห้ดังออกมา เธอร้องไห้กลั้นสะอื้นจนสะท้านไปทั้งตัวเมื่อประจักษ์เดินออกจาก บ้าน วนิดามายืนมองจากทางหน้าต่างน้ำตาไหลพราก และเมื่อเขาหยุดค่อยๆหันกลับมองขึ้นมาที่หน้าต่าง เธอก็ทรุดตัวลงนั่งใต้หน้าต่างร้องไห้ สะอึกสะอื้นประจักษ์เข้าไปนั่งในรถด้วยความเศร้าเสียใจอย่างที่สุด...oooooooส่วน ประจวบไปหาชุมศรีที่บ้านเช่า เล่าเรื่องของพี่ชายให้ฟัง ชุมศรีตกใจถามว่าแล้วพิสมัยจะทำอย่างไร ประจวบบอกว่านั่นคือปัญหา แต่ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือคุณแม่ ถ้าพี่ชายรักวนิดาคุณแม่ไม่ยอมแน่ บางทีอาจถึงกับบ้านแตกเลยก็ได้"แล้วเรื่องของเราจะทำให้บ้านคุณแตกรึเปล่าคะ" ชุมศรีกังวลมาก"ไม่ ต้องห่วงนะชุมศรี ฉันจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ด้วยกัน" พูดให้กำลังใจชุมศรีอย่างนั้น แต่ประจวบเองก็หน้าเครียดด้วยความกังวลอีก คนที่เกี่ยวข้องอย่างมากคือมนตรี วันนี้เขามาที่บ้าน มหศักดิ์อย่างร่าเริง ประจวบเข้ามายกมือไหว้บอกว่ามีเรื่องอยากเจอพอดี มนตรีถามว่าอะไรหรือ"ผมอยากถามเรื่องพี่ใหญ่กับคุณนิด พี่มนตรีรู้รายละเอียดทุกอย่างดีแน่ๆ""ไอ้จักษ์กับคุณนิด? ทำไม?""เขาสองคนรักกันพี่ไม่รู้เหรอ" ประจวบถามเหวอๆแต่ทำเอามนตรีหน้าเจื่อนสนิทoooooooจน เมื่อประจักษ์กลับจากบ้านวนิดามาถึงบ้าน มนตรีไม่พูดพร่ำทำเพลงตรงเข้าชกเปรี้ยงเดียวเลือดกบปาก ประจักษ์ไม่ชกตอบแต่ถามว่าเป็นบ้าอะไร ส่วนประจวบรีบเข้ารั้งตัวมนตรีไว้บอกให้ใจเย็นๆ เมื่อประจักษ์ถามว่าต่อยตนทำไม มนตรีโพล่งออกไปอย่างรับไม่ได้ว่า"ฉัน รู้เรื่องทุกอย่างจากเจ้าเล็กหมดแล้ว นายคิดจะบอกฉันเรื่องความรู้สึกของนายที่มีต่อคุณนิดเมื่อไหร่" เมื่อประจักษ์รู้ว่าเพื่อนชกเรื่องอะไรก็หันไปมองหน้าน้องชาย ประจวบยิ้มเจื่อนๆอย่างรู้สึกผิด มนตรีถามต่อว่า "เนี่ยเหรอวะเพื่อน...ปล่อย...ปล่อยฉันเจ้าเล็ก"ประจวบถามว่าถ้า ปล่อยแล้วเขาจะทำร้ายประจักษ์ไหม มนตรีพูดเครียดๆว่าไม่ทำแล้วเจ็บมือ พลางเอามือข้างที่ต่อยประจักษ์ขึ้นดูอย่างรู้สึกเจ็บจริงๆ"มนตรี...ฉัน..." ประจักษ์กระอักกระอ่วนใจ"ไม่ ต้องพูด!!" มนตรีเข้ากระชากคอเสื้อประจักษ์จนเขาตกใจนึกว่าจะชกอีก แต่กลายเป็นพูดว่า "ถ้านายรักคุณนิดจริง ฉันจะเอาใจช่วย แต่นายต้องสัญญากับฉันว่านายจะดูแลทะนุถนอมเอาใจใส่รักคุณนิดให้มากๆ นายสัญญากับฉันได้ไหมไอ้จักษ์ ว่านายจะทำตามที่ฉันพูด"ประจักษ์พยักหน้าอึ้งๆก่อนตอบว่า "ฉันสัญญา แต่คงต้องรอดูว่านิดเขาจะรับรักฉันรึเปล่า""คนดีอย่างนาย ผู้หญิงที่ไหนไม่รักก็โง่แล้ว จำไว้นะไอ้จักษ์ ถ้านายทำให้คุณนิดของฉันเสียใจเมื่อไหร่ ก็ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันอีก!!"มนตรี รีบปล่อยมือจากประจักษ์เพราะกำลังจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ประจักษ์ตบบ่าขอบใจเพื่อนด้วยความซึ้งใจ มนตรีเมินหน้าจากประจักษ์ไปแล้ว แต่ยังเอี้ยวตัวยกมือขึ้นอย่างเท่บอกว่า"ไม่ต้องขอบใจ อะไรที่ทำให้คุณนิดมีความสุข ฉันก็ควรยินดีไม่ใช่เหรอ"มนตรีจากไปอย่างพระเอกสุดเท่ ประจักษ์ถอนใจโล่งอกหันมองประจวบที่ถอนใจและยิ้มให้พี่ชายอย่างโล่งอกเช่นกันoooooooความเสียใจทำให้มนตรีเดินไปนั่งพิงประตูเหล็กหน้าร้านสองอนงค์โดยไม่รู้ตัว อำไพมาพบร้องทักอย่างตกใจ "คุณมนตรี คุณเป็นอะไร" แล้วพาเข้าไปนั่งในร้าน มนตรีจึงเล่าเรื่องที่เกิดกับประจักษ์และวนิดาให้ฟัง เล่าไปร้องไห้ไปอย่างเสียใจมากอำไพให้กำลังใจจับไหล่เขาเรียก "คุณมนตรี..." ทำให้ มนตรีรู้สึกอบอุ่นขอกอดเธอได้ไหม อำไพมองนิ่งๆอย่างสงสาร มนตรีโผเข้ากอดเธอร้องไห้อย่างหนัก เธอให้กำลังใจว่า"คุณมนตรีคะ ฉันรู้ว่าคุณเสียใจ แต่อย่าลืมว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตคุณ คุณเป็นคนดี และฉันก็เชื่อว่าคนดีๆอย่างคุณต้องเจอคนที่เขารักในความเป็นคุณแน่นอน"คำพูดดีๆ การให้กำลังใจอย่างอบอุ่นของอำไพ ทำให้ มนตรีซาบซึ้งมีกำลังใจจับมือเธอไว้ ขออยู่ที่นี่กับเธอสักพักได้ไหม ในภาวะนี้อำไพไม่อาจปฏิเสธได้ สองมือกุมกันไว้อย่างอบอุ่นoooooooคืนนี้ ประจักษ์ตัดสินใจจะคุยขั้นสุดท้ายกับพิสมัย เมื่อเธอเข้าไปหาขณะเขายืนอยู่คนเดียว ประจักษ์ รวบรวมกำลังใจขอโทษเธอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาที่ทำให้เธอเสียใจหลายครั้งพิสมัยใจหายเดาได้ว่าเขาจะพูดอะไรอีก รีบบอกเขาว่าตนไม่เคยโกรธเขาเลยสักนิดเดียว ประจักษ์บอกว่าเขาโกรธตัวเอง โกรธที่คำสัญญาของตนปิดโอกาสของเธอไว้ ไม่เช่นนั้นเธออาจจะได้เจอคนที่ดีกว่าตนไปแล้ว"คุณพี่คือคนที่ดีที่สุดในชีวิตของน้อง ไม่มีใครในโลกนี้ อีกแล้วที่จะดีเท่ากับคุณพี่" พูดแล้วรีบเปลี่ยนเรื่อง "น้องรู้ค่ะว่าคุณพี่รู้สึกผิดที่ทำให้น้องต้องรอคุณพี่ แต่น้องไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ น้องเต็มใจรอคุณพี่เสมอ เพราะหัวใจของน้องมอบให้คุณพี่คนเดียว อย่ารู้สึกผิดอีกเลยนะคะ... น้องขอตัวก่อน"ประจักษ์เรียกเธอไว้ พูดตรงๆว่า "พิสมัย...เราเลิกหลอกตัวเองสักที ไม่มีประโยชน์ที่จะยื้อความสัมพันธ์นี้ต่อไปอีกแล้ว เธอกับฉันรู้อยู่แก่ใจว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ความรู้สึกของฉันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฉันอยากให้เธอเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนที่เขาดีกับเธอ ดีกว่าฉัน ฉันเสียใจนะพิสมัยที่ไม่อาจทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอได้ โปรดเข้าใจและให้อภัยฉันด้วย"พิสมัยยืนนิ่งไม่หันมาแต่น้ำตาไหลพราก ประจักษ์ ตัดสินใจหันหลังเดินไปเงียบๆoooooooพิสมัยเจ็บปวดแทบขาดใจ รุ่งขึ้นเธอไปหาปราณี ที่บ้านเล่าให้ฟังว่าประจักษ์บอกเลิกตนแล้ว ปราณีตกใจถามว่าแล้วเธอบอกไปอย่างไร พอรู้ว่าพิสมัยไม่ได้ พูดอะไร ปราณีชี้แนะทันที"พิสมัย ตราบใดที่คุณใหญ่ยังไม่ได้พูดคำว่าไม่รักเธอ เธอก็ยังมีหวัง เธอจะปล่อยให้เรื่องระหว่างเธอกับคุณใหญ่จบลงไม่ได้ ถ้าจบเท่ากับว่านังวนิดาแย่งคุณใหญ่จากเธอได้สำเร็จ"ปราณีวางแผนให้พิสมัยต้องยอมทอดกายให้ประจักษ์ เชื่อว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยไม่มีใครรอดแผนนี้สักคน ย้ำว่า "ถ้าเธอรักคุณใหญ่อยากได้คุณใหญ่กลับมา เธอต้องทำ"สุดท้ายพิสมัยรับปากว่าจะลองดู สองสาวยิ้มให้กันอย่างให้กำลังใจกันเต็มที่แล้วโอกาสทองก็มาถึง เมื่อประจวบจะไปสังสรรค์กับเพื่อนและกลับดึก พิสมัยอาศัยจังหวะนี้ใส่ชุดนอนวาบหวิวมีเสื้อคลุมไปเคาะประตูห้องประจักษ์ขอเข้าไปคุยด้วย พอประจักษ์เปิดประตูเห็นเธอในชุดนอนจึงยืนกันไว้ชวนไปคุยกันข้างนอกดีกว่าเพราะถ้าใครมาเห็นเข้าคงดูไม่ดีเมื่อเตรียมจะมาทอดกายแล้ว พิสมัยรุกเต็มที่เดินตรงไปที่เตียงชวนเขามานั่งคุยกันตรงนี้"พิสมัย ฉันคิดว่าเราพูดกันเข้าใจแล้วเสียอีก" ประจักษ์ พูดอย่างไม่พอใจ"น้องเข้าใจค่ะ เข้าใจทุกอย่าง แต่น้องทำตามที่คุณพี่ บอกไม่ได้" แล้วเธอก็คร่ำครวญว่าตนละทิ้งทุกอย่างจากในวัง มาอยู่บ้านมหศักดิ์เพราะมั่นใจว่าจะได้แต่งงานกับเขา พูดแล้วก็เข้าเล้าโลมลูบไล้หน้าอกเขาอย่างเย้ายวน อ้อนขอว่า"น้องขอแค่คุณพี่แต่งงานกับน้องเท่านั้น แต่งงานแต่ ในนามก็ได้ คุณพี่แต่งกับน้องนะคะ"ประจักษ์มองหน้าพิสมัยอย่างนึกไม่ถึงว่าเธอจะกล้าถึงเพียงนี้แนะให้เธอกลับไปอยู่ในวังเสีย"น้องกลับไปไม่ได้แล้ว น้องอยากมีครอบครัวกับคุณพี่ น้องไม่อยากรับใช้ใครอีก คุณพี่แต่งงานกับน้องนะคะ...น้องขอร้อง" พลันก็โผเข้ากอดประจักษ์ไว้ ถูกเขาผลักออก เธอกลับถอดเสื้อคลุมออกโชว์ชุดนอนที่เซ็กซี่จนประจักษ์ตกใจถอยห่างร้องห้ามว่าอย่าทำแบบนี้พิสมัยรุกหนักผลักเขานอนบนเตียงแล้วล้มทับเขาทันทีซุกไซ้เขาอย่างกระสัน"อย่าทำให้ฉันรังเกียจเธอมากไปกว่านี้เลยพิสมัย" ประจักษ์ดันตัวเธอออกแล้วลุกขึ้น พิสมัยกำมือแน่นด้วยความแค้นใจ เมื่อเขาขอให้เธอออกไปจากห้องนี้เสียเพราะทุกอย่างมันจบแล้ว พอเธอปึงปังออกไป ประจักษ์ก็ปิดประตูอย่างโล่งอกoooooooวันต่อมา ป้าทองกับไปล่ก็ไปร้องเรียกวนิดาที่หน้าบ้านเธอ ไม่ไกลจากนั้นนักประจักษ์ยืนพิงรถจ้องมองอย่างรอคอย แต่คนที่ออกมากลับกลายเป็นจวงกับสมหมาย ประจักษ์รีบเดินสวนเข้าไป สมหมายวิ่งตามร้องบอกว่าวนิดาไม่อยู่ ประจักษ์ไม่หยุดบอกว่าไม่อยู่ตนก็จะเข้าไปนายดาวออกมาพอดี พอเห็นประจักษ์ก็ถามว่ามาทำไม ประจักษ์ตอบชัดเจนว่า "ผมมาหาเมียผม" พูดแล้วเดินดุ่ยเข้าไป นายดาวรีบตามไป เมื่อประจักษ์เข้าไปร้องเรียกวนิดา นายดาวบอกว่าตนบอกแล้วว่าวนิดาไม่อยู่ มีธุระอะไรคุยกับตนก็ได้ประจักษ์บอกว่าเป็นเรื่องระหว่างตนกับวนิดา ตนจะมารับเธอกลับไปอยู่ด้วยกัน ถูกนายดาวท้วงติงว่าให้เขาไปแก้ปัญหาของตัวเองก่อนดีกว่า ซึ่งประจักษ์ก็เดาได้ว่านายดาวหมายถึงเรื่องของมณฑา แล้วนายดาวก็สาธยายว่า"ผมกับลูกสาวไม่เคยเรียกร้องอะไรจากคุณ บางสิ่งที่ยัยนิดอยากให้คุณเปิดปาก แต่คุณกลับทำเฉย แค่นี้ผมก็เห็นแล้วว่าคุณไม่สามารถปกป้องลูกสาวผมได้ จัดการอะไรไม่ได้ ผมจะจัดการตามวิธีของผม" ประจักษ์รีบชี้แจงว่าตอนนี้ปัญหาระหว่างตนกับพิสมัยชัดเจนแล้วตนมีเรื่องสำคัญต้องบอกวนิดา นายดาวจึงตัดบทว่าแล้วตนจะบอกวนิดาเองว่าเขามาหาแต่ตอนนี้ "เชิญ" เขากลับไปก่อนพอกลับถึงบ้าน ประจักษ์นั่งทบทวนความหวังและความเชื่อใจของวนิดาที่มีต่อตน หวังว่าเขาจะเป็นคนเปิดเผยเรื่องของย่ามณฑาของเธอ แต่จนบัดนี้เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยคุณนายน้อมเข้ามาถามว่าพิสมัยหายไปไหน มองหน้าลูกแล้วถามว่าเป็นอะไรหย่ากับวนิดาแล้วใช่ไหม พอเขานิ่งคุณนายย้ำว่า"อย่าปล่อยให้นังวนิดามันจูงจมูกได้เหมือนตอนที่ย่าของมันจูงจมูกคุณลุงนะ"นี่เองทำให้ประจักษ์ฉุนขึ้นมาแย้งว่าให้เลิกพูดถึงป้ามณฑาในแง่นี้เสียที แต่เขาก็ไม่กล้าพูดความจริงออกมาอยู่ดีoooooooเพราะนายดาวต้องไปงานเลี้ยงกลับดึกจึงฝากจวงให้บอกวนิดาว่าประจักษ์มาหา จวงพูดไม่ทันไรสะอิ้งก็เข้ามาบอกว่าพิสมัยมาขอพบเมื่อออกไปพบ พิสมัยขอร้องวนิดาให้คืนประจักษ์ให้ตน คร่ำครวญว่าความรักที่ตนมีต่อประจักษ์นั้นมากมายจนเอาชีวิตเข้าแลกได้ เล่าชีวิตในวัยเด็กให้ฟังหมายเรียกความสงสารจากวนิดาว่าแม่เอาตนมาทิ้งไว้หน้าวัง เสด็จท่านมาพบจึงเลี้ยงไว้ ชีวิตจึงอยู่ในระเบียบที่เสด็จวางไว้อย่างเข้มงวดไม่เคยมีความเบิกบานหรือความรื่นรมย์ใดๆเลย"จนกระทั่งฉันได้เจอคุณพี่ฉันถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่จะมาเติมเต็มชีวิตของฉัน ถ้าฉันไม่มีคุณพี่ชีวิตก็ไม่เหลืออะไร ฉันขอร้องนะวนิดาโปรดช่วยฉัน ทำยังไงก็ได้ให้คุณพี่หย่ากับเธอแล้วกลับมาหาฉัน""ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จะช่วยคุณยังไง เชิญคุณกลับไปเถอะ" วนิดาตอบเรียบๆทันใดนั้นพิสมัยปัดแก้วตกแตกแล้วคว้าเศษแก้วมา กรีดข้อมือตัวเองจนเป็นลมหมดสติไป วนิดากับจวงต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล จนเมื่อพิสมัยฟื้นขึ้นมาคร่ำครวญถามว่า "ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย""ถ้าคุณตายแล้วใครจะดูแลคุณประจักษ์ ฉันจะช่วยคุณ แต่คุณต้องรับปากกับฉัน ห้ามทำให้คุณประจักษ์เสียใจเด็ดขาด คุณต้องรักและดูแลเขาให้ดีที่สุด" วนิดาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ทำให้พิสมัยดีใจสุดชีวิตขอบคุณเธอครั้งแล้วครั้งเล่า โผเข้ากอดวนิดาไว้แต่แววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจนัก!วนิดาห้ามจวงเล่าเรื่องพิสมัยมาหาและเกิดเรื่องให้ใครฟังเด็ดขาด เธอรอจนนายดาวกลับมาจึงชวนพ่อว่าพรุ่งนี้ไปบ้าน มหศักดิ์กันให้พาทนายไปด้วยตนจะไปหย่ากับประจักษ์oooooooรุ่งขึ้นนายดาว วนิดา และสุธีทนายความก็ไปที่บ้านมหศักดิ์ เจอคุณนายและพิสมัยนั่งอยู่จึงแจ้งจุดประสงค์พร้อมกับมอบสัญญาที่เขียนไว้ก่อนแต่งงานกับวนิดามอบให้ประจักษ์เซ็นเพื่อจะได้เสร็จสิ้นการหย่ากันปรากฏว่าจวงทนไม่ได้เล่าให้ป้าทองกับไปล่และสมหมายฟัง ป้าทองบอกจวงว่าต้องเล่าให้ประจักษ์ฟังเพราะบางทีอาจจะทำให้ประจักษ์กับวนิดากลับมาคืนดีกันก็ได้ในที่สุดจวงยอมเสี่ยงตายดักพบและเล่าให้ประจักษ์ฟัง ดังนั้นเมื่อเขาเจอพิสมัยเขาถามอย่างเอาเรื่องว่า เมื่อวานเธอไปหาวนิดาทำไม พิสมัยอึกอัก เขาพูดต่ออย่างโกรธจัดว่า"ฉันนึกว่าเราคุยกันเข้าใจแล้วเสียอีก ไม่นึกเลยว่าเธอจะใช้วิธีสกปรกอย่างนี้ เธอทำแบบนี้ทำไมพิสมัย เธอทำทำไม!"พิสมัยอ้างว่าตนทำเพราะรักและไม่อยากเสียเขาไป ถูกประจักษ์พูดใส่หน้าอย่างดุดันว่า"แต่ฉันไม่ได้รักเธอแล้วพิสมัย!"คุณนาย ได้ยินเสียงเอะอะรีบมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พิสมัยโกหกว่าไม่มีอะไร คุณนายเลยเร่งว่าถ้าอย่างนั้นก็รีบจัดการตามที่ทนายบอกเสีย นายดาวแย้งขึ้นว่าตนขอถามอะไรประจักษ์ก่อน แล้วถามว่า"คุณแน่ใจนะคุณประจักษ์ ว่าคุณจะหย่ากับลูกสาวผมจริงๆ""ผม ไม่หย่า! ผมไม่มีวันยอมให้นิดไปจากผม" ประจักษ์ประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าทุกคนย้ำว่า "นิดแต่งงานเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม ฉะนั้นนิดต้องอยู่กับผมที่นี่" แล้วหันไปบอกวนิดา "ฉันรักเธอวนิดา...ฉันรักเธอ"พิสมัยแทบคลั่งลุกพรวดไปตบหน้าวนิดา แต่ประจักษ์ลุกขึ้นขวางเลยถูกตบแทน ประจวบลุกไปรวบตัวพิสมัยลากออกไป ส่วนคุณนายหน้าตาเหลอหลาทำอะไรไม่ถูกoooooooพอตั้งหลักได้ คุณนายก็ประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมรับวนิดาเป็นสะใภ้เด็ดขาด เมื่อนายดาวขอให้เป็นการตัดสินใจของประจักษ์กับวนิดา คุณนายก็ประกาศอย่างอาฆาตว่าถ้าวนิดาอยู่ที่บ้านมหศักดิ์ต่อไป ตนก็จะแกล้งให้เลือดตากระเด็นเลยทีเดียว"ไม่ต้องกลัวนะนิด ฉันจะปกป้องเธอให้พ้นจากทุกสิ่งที่จะทำให้เดือดร้อน ฉันเป็นสามีของเธอ ฉันรักเธอด้วยใจจริง ฉันขอรับประกันภัยที่จะเกิดกับเธอด้วยชีวิตและเกียรติยศของฉัน เธอไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เราจะสู้ด้วยกันนะนิด"คุณนายยังหา เรื่องด่าประจักษ์ว่าไอ้ลูกโง่ ไม่รู้หรือว่าวนิดาเป็นเชื้อสายของมณฑาที่ต้องการจองล้างจองผลาญเรา ต้องการทำลายมหศักดิ์ของเรา!ทั้งประจักษ์และวนิดาเถียงไปทันทีพร้อม กันว่าไม่จริง คุณนายคาดคั้นว่าให้พูดมาเดี๋ยวนี้เลยว่าไม่จริงอย่างไร ประจักษ์ยังไม่กล้า บอกว่าตนยังไม่พูดตอนนี้ ทำให้วนิดาผิดหวังที่แค่นี้เขาก็ไม่กล้าแล้ว วนิดาวิ่งออกไป นายดาวพูดขึ้นกับประจักษ์และคุณนายว่าแค่ประจักษ์บอกรักวนิดาต่อหน้าทุกคนตน ก็นับถือเขาแล้ว บอกประจักษ์ว่า "เรื่องนี้ต้องใช้เวลา ผมจะเข้าข้างคุณช่วยเหลือคุณทุกอย่าง"ประจักษ์ยกมือไหว้ขอบคุณนายดาวเป็นครั้งแรก นายดาวจับมือรับไหว้แล้วชวนสุธีกลับพอนายดาวกับสุธีไปแล้ว คุณนายหันมาพูดกับประจักษ์ด้วยความเสียใจอย่างที่สุดว่า"ยังไงแม่ก็จะจัดงานเปิดตัวพิสมัยกับปราณี สองคนนี้เท่านั้นที่จะเป็นสะใภ้มหศักดิ์ ไปตาเล็กพาแม่ไปพักผ่อนที แม่ดีใจนะที่มีตาเล็กเป็นลูกหัวแก้วหัวแหวน ไม่งั้นแม่ขาดใจตายแน่ๆ"ประจวบฟังแล้วเครียดกับชะตากรรมที่ตนต้องเผชิญต่อไปoooooooเมื่อกลับถึงบ้าน นายดาวปลอบใจวนิดาว่าอย่าโมโหประจักษ์เลย ถ้าเกิดเรื่องอย่างนี้กับตน ลูกก็คงทำแบบเดียวกับประจักษ์ ย้ำกับวนิดาว่า"ชีวิต คู่ ย่อมต้องมีอุปสรรค แต่ถ้าเรามีรักแท้ เราก็จะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทุกอย่างไปได้ คุณประจักษ์เขาเป็นคนดี เป็นคนกตัญญู เขาถึงต้องปกป้องแม่ของเขา เมื่อเรารู้ว่าคุณประจักษ์เขารักลูกและลูกก็รักเขา ถ้าอย่างนั้นลูกต้องให้เวลาเขา บางทีพ่ออาจจะต้องยื่นมือหาทางช่วยเพื่อให้เรื่องมันจบเร็วขึ้น"วนิดามองหน้านายดาวอย่างสงสัยว่าพ่อจะทำอะไร นายดาวได้แต่ยิ้มอำๆกับเธอส่วน ที่บ้านมหศักดิ์ ประจวบพาคุณนายขึ้นไปพักผ่อนพอคุณนายหลับเขาก็ลงมา ประจักษ์ถามว่าเขาจะจัดการอย่างไรกับเรื่องชุมศรีเพราะคุณแม่ฝากความหวัง ทั้งหมดไว้กับเขา"การที่วันนี้ผมเห็นพี่กล้าบอกรักคุณวนิดาต่อหน้า คุณแม่ มันทำให้ผมศรัทธาในความรักมากขึ้นและเชื่อว่ารักแท้มีอยู่ในโลก ผมจะทำตามหัวใจตัวเองครับพี่ใหญ่""ทำในสิ่งที่แกคิดว่าดีที่สุดสำหรับแกและชุมศรีเถอะตาเล็ก" ประจักษ์ให้กำลังใจน้องชายoooooooเมื่อ ประจักษ์ประกาศชัดเจนเช่นนั้น วันต่อมาพิสมัยก็ขนของออกจากบ้าน คุณนายให้ประจักษ์ไปรั้งไว้ แต่เขากลับบอกว่าเมื่อเธอจะไปก็อย่าให้อนาคตของเธอมาพังเพราะเราเลย ในที่สุด พิสมัยก็ไปแต่ไม่วายพูดอาฆาตไว้ว่าถ้าวันไหนที่เขาถูกวนิดาทิ้งวันนั้นตนจะ มีความสุขมากพิสมัยไปหาปราณี ปราณีปลอบใจว่าไม่ต้องกลัวตนจะหาคนที่ดีกว่าประจักษ์ให้เอง และบอกให้พิสมัยพักอยู่กับตนที่บ้านนี้แต่ คุณนายก็ยังไม่ยอมรับความจริง บอกให้ประจวบไปตามพิสมัยกลับมา ประจวบอ้างว่าตนไม่ว่าง คุณนายคิดว่าเขาจะไปหาปราณีเพื่อขอแต่งงานแน่ๆ รำพึงว่ามีแต่ประจวบเท่านั้นที่ทำให้ตนมีความสุขหารู้ไม่ว่า ประจวบไปหาปราณีเพื่อจะบอกเธอว่าเขาจะแต่งงาน หลังแต่งงานจะย้ายไปอยู่ทางใต้ ปราณีดีใจมากแต่เอะใจว่าทำไมต้องย้ายไปอยู่ทางใต้ ประจวบบอกว่าเพราะเจ้าสาวของตนชื่อชุมศรีเท่านั้นเองปราณีก็เปลี่ยน เป็นคนละคน เกรี้ยวกราดด่าว่าเขาว่าหลอกตน ประจวบโต้ว่าเธอต่างหากที่หลอกตนให้หลงเชื่อคำสัญญาลมๆแล้งๆ จดหมายจากเธอฉบับเดียวที่เขาได้รับนับแต่ไปอยู่ทางใต้ก็เป็นจดหมายที่ทำร้าย เขาอย่างเจ็บปวดที่สุดปราณีโกรธแค้นประณามว่ามหศักดิ์เป็นตระกูลที่ มีแต่เปลือก การที่ตนยอมลดลงไปแต่งงานด้วยก็ถือว่าเป็นบุญคุณ ท่วมหัวแล้ว แต่เมื่อเขายังโง่ก็จงโง่ต่อไปเถิด แล้วไล่ประจวบให้ออกจากบ้านตนไปเดี๋ยวนี้ประจวบหัวเราะสะใจก่อนเดิน ออกไป ครู่เดียวพิสมัยก็เข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น พอปราณีบอกว่าประจวบทิ้งตนไปแล้ว สองสาวก็กอดกันร้องไห้ด้วยความเห็นใจกันและกันoooooooหลังจากบอกปราณีอย่างชัดเจนแล้ว ประจวบกลับมาพาชุมศรีไปไหว้คุณนายที่บ้านแนะนำว่าชุมศรีคือน้องของคุณชวนและ เป็นคู่หมั้นตน เท่านั้นเอง เป็นเรื่องทันที คุณนายรับไม่ได้บอกประจวบว่า"แม่ไม่ยอม คนที่เราต้องแต่งงานมีคนเดียว คือปราณี!!"ชุมศรีไม่สบายใจชวนประจวบกลับ แต่ประจวบยืนยันว่าวันนี้ทุกอย่างต้องจบ แล้วหันไปบอกคุณนายให้เลิกบังคับจิตใจคนอื่นเสียที เพราะตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโตตนกับพี่ชายไม่มีโอกาสคิดทำอะไรอย่างที่ใจ ต้องการเลย ต้องทำทุกอย่างตามความรู้สึกและต้องการของคุณแม่แต่เพียงคนเดียวเท่านั้นคุณนาย โกรธผิดหวังอย่างมากบอกประจวบว่าถ้าเห็นผู้หญิงคนนี้ดีกว่าแม่ก็ไม่ต้องมา เรียกตนว่าแม่อีก อยากไปไหนก็ไปเลย ประจวบตัดใจกราบลาแม่แต่ย้ำว่าให้แม่รู้ไว้ด้วยว่าตนยังรักและห่วงคุณแม่ เสมอพอประจวบกราบลาแล้ว คุณนายยืนช็อกอยู่ครู่หนึ่งก็เป็นลมจนถมเข้ามาประคองรับแทบไม่ทัน เมื่อประจักษ์รับรู้การตัดสินใจของน้องชาย เขาแสดงความยินดีด้วยและฝากชุมศรีช่วยดูแลประจวบด้วยแต่ครั้งนี้ก็ ไม่ทำให้คุณนายเปลี่ยนความตั้งใจลดทิฐิ หากแต่ยังเตรียมการที่จะให้ลูกชายทั้งสองแต่งงานกับผู้หญิงที่ตนหาให้ ทิฐิว่า ตนคนเดียวเท่านั้นที่จะบอกให้ใครทำหรือไม่ทำอะไรก็ได้oooooooคุณนายเรียกพิสมัยกับปราณีมาพบที่บ้านมหศักดิ์ สองสาวมาตามนั้นแต่ไม่ได้มาเพื่อจะเป็นสะใภ้ของมหศักดิ์ เธอมาเพื่อจะกล่าวโทษตำหนิต่อว่าคุณนายที่หลอกตนทั้งสองตลอดมาทำเหมือนว่า คุณนายทำเพื่อตนทั้งสองคนแต่ที่แท้ "คุณแม่ไม่ได้ทำเพื่อเราสองคน แต่คุณแม่ทำเพื่อตัวเอง คุณแม่เห็นแก่ตัว!!" ปราณีสรุปพิสมัยยัง เสริมอย่างรู้ลึกถึงแก่นใจของคุณนายว่า "เพราะวนิดาเป็นหลานของมณฑา คุณแม่ก็เลยกลัวเสียหน้าถ้าต้องมีสะใภ้เป็นหลานของศัตรู คุณแม่ถึงพยายามใช้เราสองคนเป็นเครื่องมือแก้แค้นแทนตัวเอง"ทั้งสองว่าคุณนายจนสะใจแล้วพากันกลับ ทิ้งคุณนายให้นั่งจมอยู่กับความโกรธแค้นเสียใจโดดเดี่ยวคนเดียวoooooooแล้ว โอกาสที่จะยื่นมือเข้าช่วยวนิดาของนายดาวก็มาถึง เมื่อมีงานเลี้ยงวันเกิดของพระยาศิริรัตน์ นายดาว ขอให้วนิดาไปงานด้วยกัน บอกวนิดาว่าชื่อเดิมของท่านคือนายเจริญ ทำให้วนิดาชะงักจำได้ว่าจดหมายของท่านเจ้าคุณได้เอ่ยถึงชื่อนี้ส่วนคุณนายเมื่อได้รับการ์ดเชิญก็ชวนประจักษ์ไปด้วยกัน เปรยๆว่าท่านกลับจากเมืองนอกแล้วหรือ ประจักษ์ถามว่าท่านเป็นใคร"ท่านเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกับคุณลุง แม่นึกว่าเขาจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เราไปงานด้วยกันนะลูก แม่อยากลบคำสบประมาทของนังปราณีที่บอกว่าเราเป็นพวกจอมปลอม แม่จะใช้งานนี้ทำให้มหศักดิ์กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง" คุณนายยังหวังดิ้นเฮือกสุดท้ายต่อไปเมื่อถึงวันงาน นายดาวพาวนิดาไปแนะนำให้รู้จักท่านเจ้าของงาน ครู่หนึ่งคุณนายมากับประจักษ์ คุณนายอวยพรท่านว่า "สุขสันต์วันเกิดนะคะท่าน" ท่านยิ้มรับบอกว่าเรียกว่าเจริญเหมือนเดิมก็ได้ ทำให้ประจักษ์สะดุดหูกับชื่อนี้เช่นเดียวกับที่วนิดารู้สึกและจำได้เมื่อประจักษ์เจอนายดาวจึงรู้ว่านายดาวเป็นคนส่งการ์ดเชิญไปให้คุณนายน้อมเอง เพราะเมื่อเขาไม่กล้าทำอะไรตนก็จะจัดการให้เอง ย้ำกับเขาว่า"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย อย่าได้กังวลว่าคุณจะเป็นลูกอกตัญญู ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น"ระหว่างงานเลี้ยงนั่นเอง ด้วยความเห็นชอบของพระยาศิริรัตน์ นายดาวขึ้นพูดบนเวทีประกาศความบริสุทธิ์ล้างมลทินที่ถูกใส่ร้ายให้มณฑาผู้เป็นป้าของตนว่าพระยาศิริรัตน์คนนี้คือคุณเจริญที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับป้ามณฑาของตน ถูกหาว่าป้าขโมยเครื่องเพชรให้ชายชู้ จากนั้น พระยาศิริรัตน์ขึ้นมาเล่าด้วยตัวเองว่าตนเป็นรุ่นน้องของมณฑา อยู่ในวัยฉกรรจ์และติดการพนัน เล่นเสียจนเป็นหนี้สินรุงรังเกือบถูกฆ่าตาย แต่โชคดี ที่มณฑาช่วยไว้ โดยเอาเครื่องเพชรที่ท่านเจ้าคุณให้ไว้เอาให้เขาไปใช้หนี้ก่อน เขาจึงเอาไปจำนำและใช้หนี้จนหมด เวลานั้นเขายังพูดกับมณฑาว่ามากมายเกินไปคงรับไว้ไม่ได้ แต่มณฑาพูดอย่างเปี่ยมด้วยความรักและเมตตาว่า "มันไม่มากหรอก ถ้าได้แลกกับชีวิตของเธอ""ขอบคุณมากนะครับพี่มณฑา" เขายกมือไหว้กุมมือมณฑาไว้แน่นด้วยความซึ้งใจก่อนโผเข้ากอด เวลานั้นคุณนายน้อมมาเห็นถึงกับอ้าปากค้าง แอบดูจนเห็นพระยาศิริรัตน์ถือกล่องเครื่องเพชรออกไปข้อสรุปเกิดขึ้นในสมองคุณนายทันที ไปฟ้องท่านเจ้าคุณว่ามณฑาเป็นชู้กับพระยาศิริรัตน์และขโมยเครื่องเพชรให้ชายชู้พระยาศิริรัตน์เล่าอีกว่าหลังจากนั้นคุณพ่อก็เร่งส่งท่านไปต่างประเทศโดยไม่ทันได้ล่ำลาใครเลยแม้แต่มณฑาผู้มีพระคุณ ตนไม่รู้เลยว่าต่อมามณฑาถูกตราหน้าว่าเป็นชู้กับตนจนถูกสังคมประณามต่อมาเมื่อหาเงินได้ไถ่เครื่องเพชรทั้งหมดจึงได้นำมาคืนท่านเจ้าคุณฯที่กำลังป่วยหนักเพราะตรอมใจ คิดว่ามณฑามีชู้จริง เมื่อท่านเจ้าคุณฯรู้ความจริง ท่านร้องไห้พยายามจะพูด อะไรแต่ก็เบามาก ถูกคุณนายน้อมมาเรียกให้ออกไปเสีย อยากให้ท่านเจ้าคุณฯพักผ่อน ก่อนกลับได้ถามถึงมณฑา คุณนายบอกว่าไม่อยู่ แล้วพามาส่งที่รถเล่าความจริงทั้งหมดแล้ว พระยาศิริรัตน์เอ่ยอย่างผิดหวังเสียใจมากว่า"ผมนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนใช้วิธีสกปรก ใส่ร้ายป้ายสีพี่มณฑาเพราะต้องการสมบัติของมหศักดิ์" ท่านตำหนิตัวเองว่าถ้าตอนนั้นระแวงสักนิดพี่มณฑาคงไม่ต้องตายโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง"คุณนายฟังจบก็โวยลั่นว่าไม่จริง ทุกคนอย่าไปเชื่อตนไม่ได้ทำอย่างนั้น พยายามจะให้ประจักษ์ช่วยแก้ต่างให้ แต่ประจักษ์กลับรับรองว่าสิ่งที่พระยาศิริรัตน์พูดมานั้นเป็นความจริง คุณนายแทบจะคลั่ง ถามว่ามีหลักฐานไหม พระยาศิริรัตน์บอกวนิดาว่าให้เอาจดหมายของท่านเจ้าคุณฯที่พบในวิหารพระออกมาเลยยืนยันว่า "เพราะข้อความในจดหมายที่ท่านเจ้าคุณฯเขียนระบุชัดเจนว่าใครเป็นคนใส่ร้ายพี่มณฑา"คุณนายโต้เสียงลั่นว่าเป็นจดหมายปลอม ประจักษ์ ยืนยันว่าเป็นของจริงที่ตนกับวนิดาพบที่ใต้ฐานพระที่เก็บอัฐิของคุณลุง นายดาวหันบอกวนิดาให้เอาจดหมายออกมาอ่านดังๆเลยวนิดานิ่งไปอึดใจก่อนจะพูดอย่างชัดเจนว่า "ไม่มีจดหมายค่ะ ฉันทำลายมันไปแล้ว คุณย่าคงไม่คิดอาฆาตพยาบาทใครคนนั้นเช่นเดียวกับดิฉันแล้วค่ะ"ประจักษ์มองวนิดาอย่างแปลกใจ ถามว่าเธอต้องการแค่นี้เองหรือ เธอยิ้มให้เขา ยืนยันว่าต้องการแค่นี้ ให้ความ บริสุทธิ์ของคุณย่าไม่ใช่ตนรู้แค่คนเดียวก็พอแล้ว"ขอบใจนะนิด ขอบใจมาก" ประจักษ์กุมมือวนิดาไว้ด้วยความซาบซึ้งใจมากคุณนายสุดจะทนกับสายตาของแขกในงานที่มองตนเป็นตาเดียว ค่อยๆหลบเลี่ยงออกไปวนิดาตามออกไปบอกคุณนายว่าตนไม่โกรธไม่อาฆาตอีกแล้ว ความจริงที่คุณพ่อได้บอกแก่ทุกคนวันนี้ ตนกับคุณพ่อก็พอใจแล้ว ไม่ได้ต้องการทำลายคุณนายเลยคุณนายสำนึกยอมรับความผิดของตัวเองและขอโทษวนิดา บอกว่าต่อไปสิ่งแรกที่จะทำได้ดีที่สุดคือ จะทำตัวเป็นแม่สามีที่ดีของเธอ ขอให้วนิดาเรียกตนว่าแม่ วนิดาจึงเรียก ด้วยความเต็มใจ ยังความปลื้มปีติแก่คุณนายยิ่งนักoooooooวันต่อมาคุณนายเอาพวงมาลัยมาขออโหสิที่เก็บอัฐิของมณฑา บอกกล่าวแก่มณฑาว่า"ความดีของวนิดาหลานสาวของเธอทำให้ฉันสำนึกผิด อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะมณฑา"ต่อมาก็มีข่าวดีเมื่อประจักษ์ได้รับโทรเลขจากประจวบว่าไปถึงที่แล้วโดยสวัสดิภาพและฝากกราบคุณแม่ด้วย คุณนายดีใจมากบอกประจักษ์ให้เอากระดาษปากกามาแม่จะเขียนจดหมายหาตาเล็กพอได้กระดาษปากกามาปรากฏว่าคุณนายไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี ต้องอาศัยป้าทองที่บัดนี้คุณนายมองด้วยสายตาที่ต่างจากเดิมให้ช่วยคิดให้ที แล้วคุณนายก็เขียนตามคำบอกของป้าทองที่สั้นแต่ได้ใจความตรงประเด็นจนเอ่ยปากขอบใจป้าทองที่ตลอดมาไม่ทิ้งตนไปไหนจากนั้นสั่งป้าทองให้พาพวกคนรับใช้ในบ้านให้ทำความสะอาดห้องของประจักษ์เผื่อเขาจะพาวนิดากลับมาอยู่oooooooเมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ประจักษ์ไปขอแต่งงานครั้งที่สองกับวนิดา โดยแหวนแต่งงานครั้งนี้เขาเป็นคนเลือกเองและขอสวมให้ด้วยหัวใจที่เกิดจากความรักไม่ใช่การแต่งงานที่เกิดจากการถูกบังคับการแต่งงานครั้งที่สองจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเอิกเกริกเปี่ยมไปด้วยความยินดีความสุขของทุกคนที่มาร่วมงานนอกจากนี้มนตรีกับอำไพยังควงกันมาในงาน ไปล่ก็ทำกะลิ้มกะเหลี่ยกับจวงอย่างเปิดเผยประจักษ์ผ่านด่านประตูเงินประตูทองมาอย่างราบรื่น จนมาถึงด่านนายดาว"เดี๋ยวก่อน ก่อนจะเข้าไปรับยัยนิด ผมต้องพูดอะไรกับคุณสักหน่อย...ผมมีลูกสาวคนเดียว...ยัยนิดเปรียบเสมือนเป็นชีวิตของผม ผมเคยยกชีวิตของผมให้คุณครั้งหนึ่งและมันทำให้ผมรู้ว่าผมคิดไม่ผิด แต่ครั้งนั้นกับครั้งนี้ต่างกัน คุณกับยัยนิดมีหัวใจดวงเดียวกัน โปรดดูแลเอาใจใส่และปกป้องยัยนิดทำให้ยัยนิดมีความสุข" พูดถึงตรงนี้นายดาวร้องไห้ออกมาจนประจักษ์ตกใจ "รักลูกสาวผมให้มากๆนะคุณประจักษ์ ฮือๆๆ"นายดาวโผเข้ากอดประจักษ์ร้องไห้เสียงดัง ประจักษ์ อยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก ตบหลังนายดาวดังอั้กบอกว่า "คุณไม่ต้องห่วง นิดอยู่กับผม นิดจะไม่รู้จักคำว่าเสียใจเลย"งานที่มีความสุขนี้ ทำให้คุณนายคิดถึงประจวบพึมพำว่าอยากให้มาอยู่ที่นี่ด้วยกันจังเลย ปรากฏว่าประจวบมายืนอยู่ตรงหน้าแล้วพร้อมกับชุมศรี คุณนายดีใจมากโผเข้ากอดประจวบและเรียกชุมศรีเข้าไปกอดพร้อมกับขอโทษที่ครั้งแรกที่เจอกันไม่ได้ให้โอกาสเธอ จากนั้นชวนให้รีบเข้าไปในงานกันฉลองงานกันอย่างสนุกสนานแล้ว ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอ นายดาวยังอวยพรให้ลูกทั้งสองรักและเข้าใจกันให้คิดเสมอว่าเราต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมายมาขนาดไหน ส่วนคุณนายอยากอุ้มหลานเร็วๆoooooooเมื่ออยู่กันตามลำพังในห้องหอ ประจักษ์เข้าสวม กอดวนิดาจากข้างหลังอย่างอ่อนโยน แต่วนิดาก็ตกใจถามเขินๆว่าจะทำอะไร"รีบมีหลานให้คุณแม่อุ้มเร็วๆไงล่ะ" ประจักษ์กระซิบเมื่อเธอเขิน เขาออดอ้อนว่า "นิดจ๋า...โปรดรู้ไว้นะว่าเธอคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันรักเธอจนหมดทั้งหัวใจของฉันที่มี...นิด...ฉันขออะไรเธออย่างได้ไหม""อะไรคะ" เสียงประหม่าเพราะตื่นเต้น"ฉันอยากได้ยินเธอบอกว่ารักฉัน บอกให้ฉันชื่นใจหน่อยได้ไหม" วนิดาอิดออดว่าก็รู้อยู่แก่ใจแล้วยังต้องพูดอีกทำไม "ถ้าเธอไม่พูด ฉันจะบอกรักเธอไปเรื่อยๆจนถึงเช้า คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ" แล้วประจักษ์ก็พูดเป็นจังหวะไปเรื่อยๆอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดว่า "ฉันรักเธอ...ฉันรักเธอวนิดา...ฯลฯ""พอได้แล้วค่ะ" วนิดาเขินจนทนไม่ได้ บอกเขาด้วยหัวใจ "ฉันรักคุณค่ะ พันตรีประจักษ์ มหศักดิ์ คะ ฉันรักคุณ รักคุณคนเดียว พอใจหรือยังคะ"ประจักษ์ส่ายหน้า วนิดาถามว่าอะไรอีกหรือ"ถ้าอยากให้ฉันพอใจก็..." เขายื่นหน้าเข้ามาจูบอย่างอ่อนหวานด้วยความรักแล้วผละออกมามองหน้าเธอเต็มตา พูดจากหัวใจที่เปี่ยมสุขว่า"วนิดา เธอจะเป็นยอดรักของฉันตลอดไป"ทั้งคู่กอดและยิ้มให้กันด้วยความปลื้มปีติ...ooooooo'อวสาน'เครดิต ไทยรัฐ