Bloggang.com : Heavenworth : เรื่องย่อ คุณหนูฉันทนา

<<

ตุลาคม 2552

>>

				1	2	3
4	5	6	7	8	9	10
11	12	13	14	15	16	17
18	19	20	21	22	23	24
25	26	27	28	29	30	31

23 ตุลาคม 2552

เรื่องย่อ คุณหนูฉันทนา

เรื่องย่อ คุณหนูฉันทนา

บทประพันธ์โดย วัตตรา
เขียนบทโดย ปัทมา เคนผาพงศ์
กำกับโดย ชนะ คราประยูร
ออกอากาศ: จันทร์-ศุกร์ เวลา 19.15 น. เริ่มตอนแรก 15 ตุลาคม 2552

หลังจากที่ เนตรพธู เรียนจบแฟชั่นดีไซน์จากปารีส เธอก็ได้ตัดสินใจบอกเลิกกับ พีรพล แฟนหนุ่มที่คบกันมานาน เมื่อจับได้ว่าเขาแอบไปมีความสัมพันธ์กับเพื่อนชาวต่างชาติของเธออย่างลับๆ และทันทีที่ได้รับข่าวว่า ปกป้อง ผู้เป็นพ่อกำลังป่วยหนัก และคิดจะเปลี่ยนแปลงพินัยกรรมขึ้นใหม่ เธอจึงตัดสินใจกลับเมืองไทยทันที
เมื่อ นวลนรี เมียรักได้ตายจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ปกป้องก็เลี้ยงดูเนตรพธูอย่างตามใจมาตลอด เขาครองตัวเป็นม่ายอยู่นาน จนได้พบกับ วีรดา และได้ตัดสินใจแต่งงานใหม่อีกครั้ง เป็นเหตุให้ลูกสาวถึงกับประกาศก้องว่าจะไม่ยอมกลับมาเมืองไทยอีก ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่ตามใจ คอยส่งเงินทองไปให้เธอจับจ่ายใช้สอย หวังว่าเงินจะช่วยทดแทนความรักที่เขามีให้ลูกสาว แต่นั่นคือสิ่งที่เขาคิดผิด เขาจึงแกล้งป่วยเพื่อเรียกตัวลูกสาวกลับมา
เมื่อเนตรพธูกลับมาบ้าน เธอได้พบกับ น้องอาย เด็กน้อยวัยห้าขวบที่กำลังเล่นซนอยู่ริมสระว่ายน้ำ หญิงสาวรู้สึกถูกชะตาจึงเข้าไปชวนคุยด้วย แต่พอรู้ว่าเด็กน้อยเป็นลูกสาวของวีรดากับพ่อของตน ซึ่งเท่ากับเป็นน้องสาวของเธออีกคน ก็เลยไม่สนใจ ลุกเดินหนีโดยไม่ทันระวัง จนเป็นเหตุให้น้องอายที่พยายามฉุดมือหญิงสาวตกลงไปในสระ เนตรพธูรีบพุ่งตัวลงไปช่วยได้ทันท่วงที เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ปกป้องโกรธมาก เข้าใจว่าเนตรพธูเป็นต้นเหตุเพราะไม่ชอบวีรดา จนมีปากเสียงอย่างหนักกับลูกสาว เนตรพธูพาลโกรธวีรดาและลูกที่ทำให้เธอกับพ่อต้องผิดใจกัน ทั้งที่วีรดาพยายามจะทำดีด้วยตลอด จนปกป้องทนไม่ได้ ขู่จะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้วีรดา โดยเฉพาะโรงงานเย็บเสื้อส่งออกธุรกิจหลักของครอบครัว แต่เนตรพธูไม่ยอม เพราะโรงงานนั้นเป็นของแม่เธอมาก่อน ปกป้องจึงท้าให้ลูกสาวพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลโรงงานให้ได้เสียก่อน ด้วยการให้เธอไปสมัครเป็นสาวโรงงาน เพื่อให้ได้เรียนรู้งานทั้งหมด โดยมีข้อตกลงคือห้ามขอความช่วยเหลือจากใครๆ ทั้งสิ้น เขาจัดการอายัดบัตรเครดิต และยึดสมุดเงินฝากทั้งหมด รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ พร้อมทั้งทิ้งเงินให้เนตรพธูหนึ่งหมื่นบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และให้เธอไปสมัครเข้าทำงานเหมือนกับคนอื่นๆ หญิงสาวรู้สึกอยากเอาชนะพ่อ จึงตอบตกลงทันที คนที่หวั่นใจกับการตัดสินใจของเนตรพธูอีกคนคือ แม่ว่าน แม่บ้านใหญ่ กึ่งแม่นมที่ดูแลเนตรพธูมาตั้งแต่เธอเริ่มเข้าโรงเรียน

เพียงแค่เนตรพธูเดินเข้าไปสมัครงาน เธอก็เจอปัญหาทันที เมื่อ เจริญศรี ฝ่ายบุคคลของโรงงานกล่าวหาว่าเธอเป็นพวกแรงงานต่างด้าว เพราะเธอไม่สามารถจะเอาบัตรประชาชนในตัวมายืนยันตัวเองได้ตามกฎที่โรงงานตั้งไว้ แต่ปกป้องก็ได้เตรียมแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยสั่งให้นาย อนันต์ คนขับรถของตนไปแจ้งกับเจริญศรี ให้รับเนตรพธูเข้าทำงานโดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้สาวใหญ่นึกสงสัย แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง ได้แต่ระบายความคับข้องใจกับ ศิริวรรณ ผู้ช่วยที่ค่อนข้างตรงฉินของหล่อน เนตรพธูได้รู้จัก พรพนาสาวน้อยจากมุกดาหารที่มาสมัครทำงานพร้อมกัน พรพนารู้สึกถูกชะตาจึงชวนเนตรพธูไปพักที่ห้องของ ชมนาดสาวโรงงานบ้านเดียวกันที่มาทำงานในโรงงานแห่งนี้ได้สองปีแล้ว แต่เนตรพธูปฏิเสธความหวังดีของพรพนาเธอตั้งใจจะไปหาแมนชั่นดีๆ หรูๆ ราคาถูก แต่เงินที่ติดตัวก็ไม่พอกับค่ามัดจำ ในที่สุดเมื่อไม่มีที่พัก เธอก็จำต้องนั่งแท็กซี่ย้อนกับไปหาพรพนาตามที่อยู่ที่ได้ให้ไว้ แต่โชคร้ายเกิดไปเจอแท็กซี่หื่นกามเข้า ดีที่ ขวัญกฤษฎิ์ ดีเจหนุ่มของคลื่นลูกทุ่งคลาสสิค ขับรถผ่านมาเห็นเข้าพอดี จึงช่วยหญิงสาวไว้ได้ทัน ชายหนุ่มพาเนตรพธูไปส่งตามที่อยู่ที่เธอให้ พรพนารู้สึกดีใจมากที่ได้เจอตัวขวัญกฤษฎิ์ เพราะเธอเป็นแฟนรายการเหนียวแน่นของเขา ต่างจากเนตรพธูที่พอรู้ว่าชายหนุ่มเป็นแค่ดีเจลูกทุ่งเท่านั้น ความรู้สึกชื่นชมในตอนแรกก็เปลี่ยนเป็นดูแคลนทันที
เนตรพธูรู้สึกลำบากใจที่จะต้องอยู่ร่วมห้องกับพรพนาและชมนาด ในห้องเช่าไม่มีพวกเฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวก ที่นอนนุ่มๆ หรือโต๊ะเครื่องแป้งสักตัว ที่จะพอวางเครื่องสำอางจำนวนมากของตน เธอแทบจะร้องไห้ เมื่อต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับสองสาว จะหยิบจับอะไรก็กลัวสกปรกไปหมด จนชมนาดที่เป็นคนตรงๆ พูดจาขวานผ่าซากก็ตำหนิหญิงสาวอย่างไม่ไว้หน้า ดีที่พรพนาช่วยพูดขอร้อง เนตรพธูจึงสร้างละครหลอกเพื่อนใหม่ ว่าเธอเคยร่ำรวย แต่ถูกเมียน้อยของพ่อโกงเงินจนหมดตัว ทำให้ต้องเข้ากรุงเทพมาหางานทำ เพื่อให้ชมนาดหายแคลงใจ
วันแรกที่เนตรพธูเข้ามาในโรงงาน เธอก็รู้สึกผิดหวังที่โรงงานดูเก่า และจัดวางของรกไปหมด สภาพการทำงานแออัดไม่ได้เหมือนกับที่วาดภาพเอาไว้ เธอทำงานไม่ได้ราบรื่นนักเพราะเย็บจักรอุตสาหกรรมไม่เป็น ดีที่พรพนามาคอยช่วยสอนให้ จึงไม่ยากเท่าไหร่ แล้วยิ่งเรียนจบแฟชั่นดีไซน์มาทำให้เธอเรียนรู้ได้เร็ว อีกทั้ง รัตนา หัวหน้างานที่ดูแลเธออยู่ก็ช่วยสอนงานให้ แม้จะมีเสียงบ่นจากปากหล่อน ส่วน ปราณี หัวหน้าแผนกนั้น เมื่อรู้ว่าพนักงานใหม่คนนี้มาทำงานด้วยเส้นสาย อีกทั้งลักษณะหญิงสาวก็ดูดีกว่าใครๆ หล่อนจึงไมได้ตั้งแง่อะไร และด้วยหน้าตาผิวพรรณที่ดีกว่าคนอื่น เนตรพธูก็กลายเป็นที่สนใจของบรรดาหนุ่มๆ โรงงานโดยเฉพาะ บรรเจิด ยามหนุ่ม สร้างความไม่พอใจให้กับ วิไล สาวโรงงานจอมแสบคู่ควงของชายหนุ่ม ชมนาดได้แต่พยายามเตือนไม่ให้เนตรพธูกับพรพนาไปตอแยกับวิไลเป็นอันขาด

เนตรพธูไม่พยายามปรับตัวเข้ากับชีวิตและคนในโรงงานเท่าไหร่ เธอไม่ยอมสุงสิงกับใคร พูดคุยอยู่กับพรพนาเท่านั้น ตกกลางวันเธอก็โทร.ไปสั่งพิซซ่าเข้ามากิน โดยไม่แคร์สายตาเพื่อนๆ ในโรงงาน พอตกเย็นก็จัดการใช้เงินที่มีติดตัวซื้อเครื่องนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะกระจกจนหมดเกลี้ยง จนในที่สุดเธอก็ต้องยืมเงินพรพนาแลกกับการสอนหญิงสาวแต่งหน้า ชมนาดไม่ชอบใจการกระทำของเนตรพธู ก็ได้แต่พูดว่าหญิงสาวที่ไม่รู้จักเจียมทำอะไรเกินตัว ทำให้เนตรพธูยิ่งนึกถึงคำสบประมาทของผู้เป็นพ่อ
วันต่อมาเนตรพธูยอมไปกินอาหารในโรงอาหารของโรงงานเหมือนคนอื่นๆ เฮียปิว พ่อค้าผูกขาดเจ้าเดียวในโรงอาหารนั้น ชอบใจในความสวยของเนตรพธู ก็คอยตักกับข้าวเอาใจหญิงสาวจนถูกวิไลเขม่น วิไลคอยพูดจาหาเรื่องแดกดันเนตรพธู จนอีกฝ่ายทนไม่ไหว แกล้งทำให้วิไลล้มคะมำจนหน้าทิ่ม พอวิไลจะลุกเข้าไปเล่นงาน ก็พอดีกับที่ อำพล ผู้จัดการโรงงานเข้ามาตรวจงานพอดี ทั้งสองจึงถูกเรียกไปสอบ ชมนาดช่วยเป็นพยานให้เนตรพธูว่าถูกวิไลหาเรื่องก่อน ทำให้วิไลถูกทำโทษด้วยการหักเบี้ยเลี้ยง และทำให้เธอยิ่งโกรธแค้นทั้งสามสาวมากขึ้น
ทุกคืนก่อนนอนพรพนาจะต้องฟังขวัญกฤษฎิ์จัดรายการ เธอโทรไปหาดีเจหนุ่มเหมือนแฟนรายการทั่วไป เล่าเรื่องวุ่น ๆ ในโรงงานให้ฟัง ขวัญกฤษฎิ์แนะนำให้พรพนาระวังเนตรพธูที่เป็นคนอารมณ์ร้อนออกอากาศ พอเนตรพธูได้ยิน เธอก็โมโหที่ถูกดีเจหนุ่มพาดพิงโดยไม่ได้รู้จักมักคุ้นด้วย แอบเพื่อน ๆ ออกไปโทร.ด่าชายหนุ่มกลางรายการ สร้างความสงสัยให้กับขวัญกฤษฎิ์ว่าตนไปสร้างศัตรูไว้ที่ไหน
พรพนาชวนชมนาดกับเนตรพธู ไปเป็นเพื่อนดูคอนเสิร์ตของ ศรลักษณ์ นักร้องลูกทุ่งชื่อดังที่คลื่นวิทยุลูกทุ่งคลาสสิคจัด และบนเวทีนั้นเนตรพธูก็ได้พบกับขวัญกฤษฎิ์ซึ่งมาทำหน้าที่เป็นพิธีกรอีกครั้ง ยิ่งเธอเห็นท่าทางพรพนาแสดงอาการปลื้มชายหนุ่มอย่างออกนอกหน้า ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหมั่นไส้ดีเจหนุ่มมากขึ้น ก่อนที่ศรลักษณ์จะออกมาร้องเพลงนั้น ก็ได้มีกิจกรรมร่วมกับแฟนเพลง โดยให้ขึ้นไปเต้นเป็นหางเครื่อง เพื่อแจกรางวัล ขวัญกฤษฎิ์เห็นเนตรพธูปั้นหน้าบึ้งใส่ตน ก็เลยคิดแกล้ง เรียกทั้งสามสาวขึ้นไปบนเวทีร่วมกิจกรรมด้วย เนตรพธูจึงต้องจำใจยอมขยับแข้งขยับขาตามเพื่อนๆ ทั้งสองด้วยความเขินอาย ก่อนที่งานจะจบลงด้วยดี
ศรลักษณ์รู้สึกถูกชะตากับชมนาดหลังจากคอนเสิร์ตเลิกเขาพยายามจะทำความรู้จักแต่กลับถูกชมนาดเข้าใจผิด คิดว่าเขาเห็นเธอเป็นพวกแฟนคลับที่คลั่งไคล้ศิลปินจนลืมขอบเขตการวางตัว ชายหนุ่มพยายามจะอธิบาย เลยถูกเธอต่อยเข้า แต่เขากลับไม่รู้สึกโกรธ กลับยิ่งรู้สึกชื่นชมในความคิดของหญิงสาวมากกว่า
ภาพหางเครื่องจำเป็นได้ออกรายการ “เก็บตก” ทำให้ปกป้องต้องเรียกเนตรพธูขึ้นมาอบรมเรื่องการวางตัวในห้องทำงาน เป็นเหตุให้วิไลและบรรดาสาวโรงงานต่างสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสอง ปกป้องต่อว่าเนตรพธูที่ไปเต้นโชว์อย่างนั้น ลูกสาวเลยถือโอกาสประชดว่าตนเป็นสาวโรงงานไม่ใช่ลูกเศรษฐี ยิ่งทำให้ปกป้องโมโหหนักขึ้นไปอีก วีรดาพยายามเตือนให้สามีใจเย็นๆ เพราะกลัวว่าอาการความดันจะกำเริบอีก แต่เนตรพธูกลับคิดว่าวีรดาแสร้งเอาใจพ่อของตน ก็ยิ่งพาลเกลียดแม่เลี้ยงมากขึ้น

วิไลปล่อยข่าวว่าเนตรพธูเป็นเมียเก็บของประธาน แต่เนตรพธูก็ไม่ยอมแก้ข่าว ปล่อยให้คนอื่นเข้าใจผิด และได้โอกาสวางท่าข่มบรรดาเพื่อนร่วมงานคนอื่น ไม่ให้มาวุ่นวายกับตนมากเกินไป โดยมีเพื่อนร่วมห้องทั้งสองเท่านั้นที่เธอยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรกับปกป้อง แต่เนตรพธูก็ตั้งใจจะสั่งสอนวิไลที่ปากเสีย ด้วยการแสร้งทำดี เอาใจบรรเจิดเพื่อยั่วให้วิไลโกรธจัด จนวิไลมีเรื่องทะเลาะกับแฟนหนุ่ม พรพนาไม่อยากให้เนตรพธูใช้วิธีนี้เล่นงานวิไล ผิดกับชมนาดที่ถึงแม้จะทำเป็นไม่ใส่ใจก็ตาม แต่ก็แอบสะใจที่เห็นวิไลถูกสั่งสอนเสียบ้าง
วิไลแค้นใจเนตรพธูที่เป็นต้นเหตุให้ตนกับบรรเจิดต้องทะเลาะกัน เลยพาลไปถึงพรพนาหญิงสาวฉวยโอกาสตอนที่พรพนาอยู่คนเดียว เข้ามาข่มขู่จะเล่นงานพรพนาจนพรพนารู้สึกกลัวคิดจะลาออกจากงาน พอเนตรพธูรู้เข้าก็ไม่ยอม ออกหน้าบุกเข้าไปรายงานเรื่องนี้ให้ทรงพลรู้ และคาดคั้นให้ชายหนุ่มจัดการกับวิไล ทรงพลคิดว่าเนตรพธูมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับท่านประธานจึงเรียกวิไลมาอบรม และขู่จะไล่ออกหากเกิดเรื่องกับพรพนา ทำให้วิไลต้องพยายามอยู่อย่างสงบ ไม่เข้าไปวุ่นวายกับทั้งสามสาว เนตรพธูเริ่มจะปรับตัวเข้ากับพรพนาและชมนาดได้มากขึ้น เธอพยายามตื่นก่อนเพื่อนทั้งสองเพื่อที่จะได้เข้าห้องน้ำสะอาดเป็นคนแรก และเริ่มคุ้นกับส้มตำและอาหารอีสานมากขึ้น เมื่อทุกเย็นเพื่อนร่วมห้องจะคอยกินยั่วน้ำลายตนเสมอ
โรงงานจะจ่ายเงินทุกๆ สิบห้าวัน ทันทีที่เงินค่าแรงงวดแรกออกเนตรพธูก็ชักชวนพรพนากับชมนาดให้ไปกินอาหารอิตาเลี่ยนในโรงแรมสุดหรู ด้วยความอร่อยของอาหารทำให้ทั้งสามเพลินกับการกินมากไปหน่อย พอถึงเวลาเก็บเงินเนตรพธูก็มีเงินไม่พอเลี้ยง ทั้งสามจึงจำเป็นต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าอาหารจนหมดตัว แต่ก่อนจะกลับนั้น เนตรพธูก็เหลือบไปเห็นวีรดากำลังร่วมโต๊ะอยู่กับขวัญกฤษฎิ์ ทำให้เธอเกิดความสงสัย และเข้าใจว่าทั้งสองคงจะกำลังสวมเขาให้พ่อของตนเองอย่างแน่นอน คืนนั้นพอชายหนุ่มกลับไปจัดรายการ เนตรพธูก็โทรเข้าไปก่อกวน เหน็บแหนมว่าเขาเป็นพวกชอบตีท้ายครัว จนชายหนุ่มนึกว่าเธอเป็นพวกโรคจิต
ก่อนหน้าที่วีรดาจะแต่งงานกับปกป้อง หญิงสาวเคยคบหาอยู่กับขวัญกฤษฎิ์ และมีโครงการจะแต่งงานกัน แต่ชายหนุ่มเอาแต่ทำงาน จนไม่มีเวลาให้ พอดีกับที่ปกป้องเข้ามาในชีวิต และเพราะความดีของปกป้อง ก็ทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานด้วย ถึงแม้ขวัญกฤษฎิ์จะต้องใช้เวลาทำใจกับเรื่องนี้อยู่นาน แต่เขาก็ยังไม่เคยลืมวีรดา และยังคงคบหากับเธออย่างเพื่อนสนิทสนม
เนตรพธูแอบกลับไปที่บ้านเพื่อหวังจะเปิดโปงวีรดา แต่ปกป้องไม่เชื่อ เพราะรู้มาก่อนอยู่แล้วว่าขวัญกฤษฎิ์เป็นแฟนเก่าของวีรดา เนตรพธูยืนยันว่าจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงให้ได้ เธอจึงแกล้งยุให้พรพนาไปหาขวัญกฤษฎิ์ที่สถานีวิทยุ พรพนาหลงกลก็ชวนเธอไปเป็นเพื่อนด้วย
โชคดนัย เพื่อนดีเจของขวัญกฤษฎิ์ เห็นพรพนามาหาชายหนุ่มบ่อยๆ และแสดงออกว่าปลื้มขวัญกฤษฎิ์มาก จึงยุให้เพื่อนลองจีบดู แต่ขวัญกฤษฎิ์เห็นเนตรพธูดูมีมาดและสวยกว่าพรพนาจึงคิดจะลองจีบเธอเล่นๆ ตามคำของเพื่อนสนิทดู หลังจากจัดรายการเสร็จทั้งสองหนุ่มก็ชวนสองสาวไปเที่ยวผับต่อ แต่เนตรพธูรู้ทันความคิดของดีเจทั้งสองออก เธอแกล้งเมาและหาเรื่องหนุ่มโต๊ะข้างๆ จนทำให้เกิดเรื่องวิวาท ทั้งสองดีเจหวิดถูกรุม แต่ก็พากันหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด เนตรพธูพยายามเตือนพรพนาให้ระวังผู้ชายอย่างขวัญกฤษฎิ์ แต่พรพนาไม่คิดว่าขวัญกฤษฎิ์จะเป็นผู้ชายแบบที่เนตรพธูกล่าวหา
ศรลักษณ์นักร้องหนุ่มรู้สึกสนใจชมนาดจึงขอร้องให้ขวัญกฤษฎิ์ช่วยเหลือ ดีเจหนุ่มเลยต้องขอความร่วมมือจากพรพนา พรพนาอยากเห็นชมนาดมีความสุข ก็ให้ที่อยู่กับขวัญกฤษฎิ์ไป ทันทีที่ศรลักษณ์ได้ที่อยู่นั้นเขาก็หลบชาวคณะพรางตัวใส่แว่นดำ สวมหมวก มาดักรอพบหญิงสาว แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ชมนาดก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนร้ายโรคจิต คว้าไม้ที่ตกอยู่ใกล้ๆ ตัวเข้าเล่นงานชายหนุ่ม กว่าจะรู้ว่าเป็นศรลักษณ์ นักร้องหนุ่มก็ถึงกับหัวแตกเลือดอาบ ชมนาดรีบพาเขาไปทำแผลที่คลินิกใกล้ๆ แต่ก็ไม่วายบ่นใส่เขาไปตลอดทาง ทำให้ศรลักษณ์รู้ว่าชมนาดเป็นคนปากร้ายใจดี ก็ยิ่งทำให้เขาพอใจ หลังจากวันนั้นศรลักษณ์ก็เขียนจดหมายมาหาชมนาดจนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจ แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจด้วยกลัวเพื่อนๆ จะล้อตน พรพนาแอบเล่าให้เนตรพธูฟังเรื่องที่ศรลักษณ์ให้ความสนใจชมนาดทำให้เนตรพธูพลอยนึกสนุกที่ได้เห็นผู้หญิงห้าว ๆ ขี้บ่นอย่างชมนาดจะมีคนสนใจ
เนตรพธูเริ่มอึดอัดกับการต้องใช้เงินอย่างจำกัดจำเขี่ย เธอเริ่มพบว่าค่าแรงของสาวโรงงานนั้นน้อยไป จึงพยายามจะเรียกร้องขอเพิ่มค่าแรงกับเจริญศรีแต่ไม่เป็นผล เธอจึงเข้าไปคุยเรื่องนี้กับทรงพลโดยตรง ข้ามหน้าข้ามตาเจริญศรี ทำให้สาวใหญ่ไม่พอใจทรงพลได้แต่โยนความผิดเรื่องค่าแรงไปให้ปกป้องรับผิดชอบ ทำให้เนตรพธูรู้สึกลำบากใจ เธอเข้าไปคุยเรื่องนี้กับปกป้องในฐานะสาวโรงงานคนหนึ่ง และก็ถูกปฏิเสธข้อเสนอกลับมา โดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฐานะของบริษัทนั้นไม่ได้มั่นคงเหมือนเดิม กิจการโรงงานนั้น ถึงจะดูภายนอกว่าใหญ่โต แต่สถานการณ์ทางการเงินกำลังตึงเครียด บรรดานักธุรกิจต่างชาติเลือกไปลงทุนในจีน ด้วยค่าแรงที่ถูกกว่า ทำให้ปกป้องต้องเอาโรงงานไปจำนองไว้ เรื่องนี้นอกจากเขาแล้ว ก็มีแต่วีรดาซึ่งดูแลเรื่องบัญชีที่โรงงานเท่านั้นที่รู้เรื่องทั้งหมด

ถึงแม้เนตรพธูจะเรียกร้องค่าแรงเพิ่มไม่สำเร็จ แต่การกระทำของเธอก็ทำให้บรรดาสาวโรงงานรู้สึกชื่นชมที่ช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้ และยิ่ง สมพร สาวโรงงานช่างเจรจา สมาชิกขายตรงสินค้าพวกเครื่องสำอางประจำโรงงานเกิดไส้ติ่งอักเสบจนต้องเข้าผ่าตัดโดยด่วน แต่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลของประกันสังคมตกหล่น เนื่องจากการทำงานผิดพลาดของเจริญศรี ทำให้ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง เนตรพธูจึงช่วยเรี่ยไรเงินจากเพื่อน ๆ ในโรงงานด้วยกัน เพื่อสำรองไปใช้เป็นค่ารักษาแต่ก็ยังไม่พอ เธอถึงกับเอาโทรศัพท์มือถือของตนที่เพิ่งซื้อเงินผ่อนมาเข้าโรงรับจำนำ และพยายามเร่งรัดให้เจริญศรีดำเนินการ แต่เจริญศรีกลับไม่สนใจ ทำให้เนตรพธูและเพื่อนต้องบุกไปที่สำนักงานประกันสังคมเพื่อดำเนินการด้วยตัวเอง และเธอก็พบกับขวัญกฤษฎิ์ที่กำลังมาติดต่อหน่วยงานประกันสังคมพอดี ชายหนุ่มรู้เรื่องทั้งหมดก็ช่วยเดินเรื่องให้ จนทุกอย่างเรียบร้อย
ขวัญกฤษฎิ์รู้สึกชื่นชมในความมีน้ำใจของเนตรพธูที่มีต่อเพื่อนร่วมงาน แต่ก็รู้สึกว่าหญิงสาวเป็นคนพูดจาฉะฉาน เหมือนคนมีการศึกษาไม่น่าจะเป็นสาวโรงงานเหมือนกับเพื่อนอีกสองคน และยิ่งสงสัยในตัวเธอมากขึ้น เมื่อหลังจากวันนั้นเนตรพธูได้แอบสะกดรอยตามเขาไปตั้งแต่ออกจากสถานีวิทยุ จนไปถึงโรงเรียนอนุบาลนานาชาติ ชายหนุ่มซึ่งตั้งใจจะมารับน้องอายตามที่วีรดาขอความช่วยเหลือเอาไว้ พอดีเนตรพธูเกิดเจอผู้ปกครองชาวต่างชาติเข้ามาชวนคุย เธอจึงจำเป็นต้องคุยตอบ โดยไม่ทันคิดว่าขวัญกฤษฎิ์จะเห็น ชายหนุ่มจึงตั้งใจอยากจะรู้ให้ได้ว่าเนตรพธูเป็นใครกันแน่ ตั้งใจจะไปสืบที่โรงงาน กลับได้ข้อมูลจากวิไลว่าหญิงสาวเป็นเมียใหม่ของปกป้อง ทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงวีรดามากขึ้น ทำให้เขาตั้งใจจะแยกหญิงสาวออกจากปกป้องขวัญกฤษฎิ์มาดักพบเนตรพธู และทำทีว่าสนใจหญิงสาว โดยใช้พรพนาบังหน้า เนตรพธูกลับรู้สึกเป็นห่วงพรพนาเมื่อเห็นสาวบ้านนอกดูจะหลงใหลชายหนุ่มมากขึ้นทุกวัน เธอพยายามจะเตือนชายหนุ่มให้เลิกมาวุ่นวาย แต่ขวัญกฤษฎิ์กลับไม่สนใจ เปิดเพลงยั่วเธอในรายการวิทยุเสียอีก จนเนตรพธูรู้สึกขัดใจแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้
พีรพลกลับมาเมืองไทย ตั้งใจจะมาขอคืนดีกับเนตรพธู ชายหนุ่มไปหาเธอที่บ้าน แต่ก็ไม่พบ และเพราะความสนิทสนมของทั้งสองครอบครัว และพีรพลก็เป็นคนที่ปกป้องเห็นว่าเหมาะสมกับลูกสาวตนที่สุด หนุ่มใหญ่รู้สึกเป็นห่วงลูกสาว เมื่อพบว่าเธอเริ่มสนิทสนมกับเพื่อนร่วมงาน จนอาจจะทำให้เสียการปกครองต่อไปได้ จึงเล่าเรื่องที่ตนคิดสอนบทเรียนลูกสาวให้ชายหนุ่มฟัง และขอความร่วมมือจากพีรพลให้ช่วยไปง้อลูกสาวตน เพื่อให้เธอเลิกเป็นสาวโรงงานเสียที ตนเองก็จะได้ไม่แพ้พนันลูกสาว
พีรพลแอบไปดูที่โรงงาน จนพบเนตรพธูกำลังเดินตลาดนัดเป็นเพื่อนพรพนาพอเนตรพธูเห็นพีรพล เธอก็วิ่งหนีจนทำให้เกือบถูกรถชน พีรพลพยายามจะขอโทษ แต่เนตรพธูไม่ยอมฟังคำแก้ตัว และไล่ชายหนุ่มกลับไป พรพนาสงสัยว่าพีรพลเป็นใคร เนตรพธูจึงเล่าให้ฟังแต่ว่าเป็นแฟนเก่า ที่ปันใจจากตนเท่านั้น
หลังจากได้พบพีรพล เนตรพธูก็รู้สึกเศร้า ไม่กระฉับกระเฉง จนแม้แต่ชมนาดก็อดที่จะเห็นใจไม่ได้ พรพนาโทร.ไปหาขวัญกฤษฎิ์ขอเพลงปลอบใจเนตรพธู พอได้ฟังเพลงปลอบใจก็ช่วยทำให้เนตรพธูรู้สึกดีขึ้น และแอบชอบใจที่ขวัญกฤษฎิ์พูดปลอบใจให้ในรายการ พีรพลยังคงตามมาคอยดูแลเนตรพธูที่โรงงาน โดยไม่ได้แสดงฐานะที่แท้จริง จนทำให้สาวโรงงานคนอื่นสงสัย ชมนาดจึงออกหน้าไล่ชายหนุ่มแทนเนตรพธู เรียกยามให้มาจัดการลากพีรพลออกไป
ระหว่างที่เนตรพธูคิดหนักเรื่องพีรพล เธอก็ไปทำงานทั้งที่ไม่สบายใจ พอถึงวันสงกรานต์ที่มีวันหยุดติดกันหลายวัน พรพนาก็ชวนเนตรพธูไปเที่ยวที่มุกดาหารบ้านของตน โดยมีชมนาดช่วยสนับสนุน เนตรพธูอยากหนีพีรพล จึงตัดสินใจที่จะไปด้วย ทั้งสามนั่งรถผ้าป่ากลับไป บรรยากาศในรถทำให้เนตรพธูพลอยคึกคักตามไปด้วย เมื่อมาถึงที่พัก ซึ่งเป็นบ้านของพรพนาเนตรพธูก็รู้สึกอึดอัดกับสภาพบ้านนอก แต่พอเห็น เชิด กับ นุ่ม พ่อแม่ของพรพนาให้การต้อนรับอย่างดี ก็ทำให้เธอยิ้มออก และนึกสะท้อนถึงครอบครัวของตนที่ถึงจะมีเงินแต่ก็ไม่มีความสุข ยิ่งได้ไปเห็นสภาพครอบครัวของชมนาดที่มีพ่อขี้เมาไม่สนใจลูกๆ ทำให้ชมนาดต้องรับผิดชอบดูแลน้องๆ อีกหลายชีวิตเพียงคนเดียว ก็ทำให้เนตรพธูรู้สึกว่าตนโชคดีกว่าคนอื่นอีกหลายเท่า
เนตรพธูได้เที่ยวเล่นสงกรานต์อย่างสนุกสนานกับพรพนาและชมนาดตกกลางคืนพรพนาก็คะยั้นคะยอชวนเพื่อนทั้งสองไปดูคอนเสิร์ตของศรลักษณ์ที่วัดใกล้บ้าน โดยมีขวัญกฤษฎิ์มาเป็นพิธีกรด้วย ชมนาด รู้ตัวว่าเสียรู้เพื่อนรุ่นน้อง แต่เธอเองก็เริ่มใจอ่อนกับจดหมายหลายสิบฉบับที่นักร้องหนุ่มเขียนเล่าเรื่องราวประจำวันมาถึงตนไม่ว่าจะเดินสายไปไหน ระหว่างที่ทุกคนกำลังสนุกกับการแสดงบนเวที สามสาวถูกนักเลงเจ้าถิ่นเกี้ยวพาราสี จนเนตรพธูทนไม่ได้ออกหน้าด่าพวกนักเลงกลับไป จนเกิดเรื่อง ขวัญกฤษฎิ์รู้จากพรพนาว่าเนตรพธูกำลังมีปัญหาหัวใจ ก็อดที่จะพูดปลอบใจไม่ได้ ทำให้เนตรพธูเริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มก็เป็นคนใช้ได้คนหนึ่ง แต่ยังติดที่เรื่องของแม่เลี้ยงตนที่ยังไม่กระจ่าง เธอก็ไม่แสดงท่าทีชื่นชมชายหนุ่ม ในขณะที่ศรลักษณ์ก็พยายามจะหาทางจีบชมนาดแต่หญิงสาวไม่ยอมแสดงออก ถึงแม้ว่าเนตรพธูกับพรพนาจะคอยช่วยลุ้นอยู่ก็ตาม และเพราะอยากจะช่วยให้ทั้งคู่ได้สมหวัง พรพนากับเนตรพธูจึงขออาศัยติดรถของคณะลูกทุ่งของศรลักษณ์กลับกรุงเทพฯ ด้วย เพื่อให้ศรลักษณ์กับชมนาดได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน และระหว่างการเดินทางนั้นศรลักษณ์ก็คอยเอาใจใส่ชมนาดและให้เกียรติเธอต่อหน้าชาวคณะ ไม่แสดงหรือพูดจาเกี้ยวพาราสีจนออกนอกหน้า ทำให้ชมนาดรู้สึกประทับใจ

ในขณะที่รถของคณะลูกทุ่งเดินทางใกล้กรุงเทพฯ เข้าทุกที ก็มีรถตู้ของนักท่องเที่ยวต่างชาติประสบอุบัติเหตุข้างทาง เนตรพธูรีบเรียกให้จอดแล้วลงไปช่วยเหลือ เพราะนึกถึงตอนที่แม่ของตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยมีขวัญกฤษฎิ์ตามลงไปช่วยด้วย หญิงสาวจัดการสั่งให้ทุกคนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างฉะฉานและเด็ดขาด และที่สำคัญเธอลืมตัว ไปพูดปลอบใจนักท่องเที่ยวเป็นภาษาอังกฤษ จนขวัญกฤษฎิ์ที่กำลังชื่นชมเธออยู่นั้น เริ่มรู้สึกแปลกใจขึ้นมาอีกครั้ง เนตรพธูรู้สึกโล่งใจที่ได้ช่วยชีวิตคน แต่เธอก็ต้องลำบากใจกับการตอบคำถามขวัญกฤษณิ์เกี่ยวกับภาษาฝรั่งเศสที่เธอโต้ตอบเมื่อครู่ เธอแกล้งเพลียแล้วนั่งหลับไปตลอดทาง เพื่อไม่ให้ใครถามข้อสงสัยจากเธอ
กิจการของโรงงานเริ่มจะกระเตื้องขึ้น เมื่อมีออเดอร์รายใหญ่เข้ามา แต่ทรงพลซึ่งคิดไม่ซื่อ คอยแอบติดต่อลูกค้าหวังรับออเดอร์ไปทำที่โรงงานของตนเอง แต่ไม่สำเร็จ จึงคิดหาทางทำทุกวิถีทางที่ไม่ให้ออเดอร์เสร็จทันกำหนดเวลา ชายหนุ่มแอบไปทำจักรเสียหลายตัว ทำให้งานล่าช้า บรรดาสาวโรงงานที่กลับมาเริ่มงาน หลังจากหยุดยาว ก็รู้สึกแปลกใจ โดยเฉพาะเนตรพธู เธอพุ่งเป้าไปที่วิไลเป็นคนแรก แต่วิไลก็ได้บรรเจิดยืนยันอย่างอายๆ ว่าทั้งสองอยู่ด้วยกันตลอดเวลา กว่าจักรจะแก้ไขได้เสร็จก็กินเวลาหลายวัน
เนตรพธูมาดักเจอน้องอาย ที่โรงเรียนเพื่อสอบถามความจริงเรื่องขวัญกฤษฎิ์ แต่เธอกลับเจอกับชายหนุ่มเข้าพอดี ขวัญกฤษฎิ์พยายามจะซักหญิงสาวว่าเธอเป็นใคร และคิดจะทำอะไรกันแน่ เนตรพธูก็อ้างว่าปกป้องให้ตนช่วยสืบพฤติกรรมของวีรดากับขวัญกฤษฎิ์ เธอพยายามจะจับพิรุธให้ได้ แต่ขวัญกฤษฎิ์ก็ไม่ได้แสดงอะไรให้เห็น ชายหนุ่มตัดสินใจเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับวีรดาให้เนตรพธูฟัง แม้เนตรพธูจะยังไม่เชื่อใจชายหนุ่มทั้งหมด แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เช่นเดียวกับชายหนุ่มที่ถึงแม้จะไม่มั่นใจ ว่าสิ่งที่เนตรพธูเล่าให้ตนฟังว่าจะเป็นความจริง แต่เขาก็รู้สึกดีที่หญิงสาวยืนยันว่าไม่ได้เป็นเมียน้อยของปกป้องตามที่ตนได้ยินมา ทั้งสองต่างไม่รู้เลยว่าความขัดแย้งที่มีมาตลอดนั้นได้เริ่มก่อตัวเป็นความรักเสียแล้ว
วีรดาเริ่มพบความผิดปกติในบัญชี เธอกำลังสงสัยว่าทรงพลยักยอกเงินของโรงงาน แต่ไม่มีหลักฐาน อำพลนั้นไหวตัวทันก็คิดจะจ้างคนมาลอบวางเพลิงโรงงาน แต่โชคดีที่พรพนาลืมวิทยุไว้ที่โรงงานพอดี จึงชวนเนตรพธูกับชมนาดย้อนกลับมาเอา ทั้งสามเห็นวิไลกับบรรเจิดแอบมาพลอดรักกันที่โรงงาน ก็ทำเป็นไม่สนใจ รีบเข้าไปเอาวิทยุที่ลืมไว้ ช่วงเวลานั้นก็พอดีกับพวกคนร้ายเข้ามา และจับวิไลกับบรรเจิดมัดเอาไว้ เตรียมจะเผาไปพร้อมกับโรงงาน แต่ด้วยสามสาวที่เกิดอยากรู้อยากเห็น ย้อนกลับไปแอบดูวิไลกับบรรเจิด จนได้เห็นคนร้าย ทั้งสามจึงสวมวิญญาณนางฟ้าชาลีเข้าเล่นงานคนร้ายอย่างทุลักทุเล ของใกล้มือถูกใช้เป็นอาวุธเล่นงานคู่ต่อสู้ จนต่างก็บาดเจ็บสะบักสะบอมไปตามๆ กัน ก่อนที่จะปล่อยให้คนร้ายหนีไปได้ จนเมื่อทุกอย่างสงบทั้งสามก็พบว่าออเดอร์ที่เตรียมจะส่งนั้น ล้วนแต่เลอะไปด้วยน้ำมัน ที่คนร้ายหวังจะเอามาใช้วางเพลิง
เนตรพธู พรพนาและชมนาดรวมทั้งบรรเจิดและวิไล ถูกตำรวจเรียกไปสอบสวน เนตรพธูช่วยรักษาหน้าวิไล จึงให้การว่าทั้งสองช่วยพวกตนเล่นงานคนร้ายด้วย แต่วิไลก็วางท่าไม่เห็นความดีของเนตรพธู และรีบพาบรรเจิดกลับบ้าน ปกป้องมาที่โรงพักด้วยความเป็นห่วงลูกสาว แต่เนตรพธูก็ยังคงทำเป็นไม่สนใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อ เธอกลับไปพร้อมเพื่อนๆ ที่ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ที่แท้จริงของคนทั้งสอง
ปกป้องเครียดเรื่องลูกสาว และยังเรื่องโรงงานที่กำลังถูกทางลูกค้าปรับเงินหลายล้านบาท จนอาการความดันกำเริบ ต้องรีบส่งเข้าโรงพยาบาล วีรดาไปตามเนตรพธูให้มาเยี่ยมพ่อ หญิงสาวโทษตัวเองที่ทำร้ายปกป้อง วีรดาเล่าปัญหาโรงงานให้เนตรพธูฟัง หญิงสาวยิ่งรู้สึกผิดที่ตนเอาแต่ใจตัว และคิดกอบกู้กิจการกลับคืนมาให้ได้
เนตรพธูตัดสินใจเข้าบริหารงานแทนปกป้อง โดยไม่ให้พนักงานคนใดได้เห็นหน้าตา ในขณะเดียว
กันเธอก็ยังไปทำงานที่โรงงาน เป็นสาวโรงงานตามปกติ เพื่อหาหลักฐานมัดทรงพลให้ได้ แต่อีกใจหนึ่งก็เพราะหญิงสาวรู้สึกผูกพันกับเพื่อนๆ ที่โรงงาน ที่ถึงแม้จะมีปัญหากันบ้าง แต่เธอก็พบมิตรแท้อย่างชมนาดและพรพนาและที่สำคัญก็คือขวัญกฤษฎิ์ ดีเจหนุ่มที่เธอเริ่มรู้สึกดีด้วย
พีรพลเจอเนตรพธูที่โรงพยาบาล ก็พยายามจะขอคืนดีด้วย แต่เนตรพธูไม่สนใจ พยายามจะเดินหนี จนมาพบกับขวัญกฤษฎิ์ที่ตั้งใจมาเยี่ยมปกป้อง เนตรพธูรีบดึงขวัญกฤษฎิ์ออกไป เพราะกลัวชายหนุ่มจะรู้ว่าตนไม่ได้เป็นสาวโรงงานธรรมดา เนตรพธูจำเป็นต้องหลอกชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อให้เขาตายใจ เธอเริ่มรู้สึกผิดที่ต้องหลอกขวัญกฤษฎิ์ตลอดเวลา ด้วยกลัวว่าหากวันหนึ่งชายหนุ่มรู้ความจริง เรื่องก็อาจจะไม่จบลงด้วยดี
เนตรพธูเริ่มงานบริหาร และพบว่าทุกอย่างนั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เธอตรวจดูบัญชีทั้งหมดด้วยตัวเอง เธอพบว่ากิจการต้องแบกหนี้โอดีไว้นับสิบล้าน และสภาพคล่องในบริษัทก็กำลังแย่กว่าที่คิดไว้จนเธอแทบจะท้อ แต่เธอก็ได้กำลังใจจากขวัญกฤษฎิ์ที่ส่งผ่านทางคลื่นวิทยุ หญิงสาวมักจะแกล้งดัดเสียงโทรไปเล่าปัญหาให้ดีเจหนุ่มฟังในรายการ และขวัญกฤษฎิ์ก็ให้คำปลอบใจเธอ จนเธอมีแรงฮึดสู้ สิ่งแรกที่เนตรพธูจะต้องรีบทำก็คือหาเงินทุน เธอตัดสินใจเข้าไปคุยกับธนาคาร เพื่อขอวงเงินกู้เพิ่ม หญิงสาวคิดโปรเจ็คทำโรงงานผลิตเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ไทยเพื่อการส่งออก แทนเสื้อยืดที่รับออเดอร์จากต่างชาติ สนับสนุนโครงการกรุงเทพเมืองแฟชั่น และหญิงสาวก็ได้รับการอนุมัติอย่างง่ายดาย โดยไม่รู้เลยว่าพีรพลได้แอบยื่นมือเข้ามาช่วยพูดและรับรองกับผู้จัดการธนาคารให้
เนตรพธูไม่รู้จักวิธีบริหารเงิน เธอเอาเงินมาแบ่งเป็นสองก้อน ก้อนแรกก็จัดการซ่อมแซม และปรับปรุงโรงงาน รวมทั้งสวัสดิการต่างๆ ให้ดีขึ้น ตามที่เธอเคยเสนอผู้เป็นพ่อแต่ไม่ผ่าน จนคนงานในโรงงานรู้สึกชื่นชมในตัวลูกสาวปกป้องที่ไม่เคยมีใครเห็นหน้าสักที เนตรพธูจัดการเอาเงินส่วนที่เหลือไปชำระหนี้จนหมดสิ้น ทำให้เงินที่แบงค์ปล่อยให้หมดลงไปอย่างรวดเร็ว ปกป้องรู้เรื่องที่ลูกสาวจะเข้าไปปรับเปลี่ยนโรงงานก็ยิ่งเครียดหนักขึ้น อาการที่เริ่มดีขึ้นก็ทรุดลงไปอีก เนตรพธูต้องการพิสูจน์ตัวเองให้ผู้เป็นพ่อเห็นว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูกต้อง แม้จะไม่มีเงินทุนแล้วก็ตาม
เนตรพธูรู้สึกสับสน ในตอนกลางวันที่เธอต้องสวมบทเป็นสาวโรงงาน เธอพบว่าทุกคนเริ่มรู้ปัญหาของโรงงาน โดยการปล่อยข่าวของทรงพล ทุกคนต่างกลัวจะตกงาน เนตรพธูพยายามให้กำลังใจช่วยพูดให้ทุกคนเข้าใจ แต่มันก็ไม่ง่ายนัก เพราะทุกคนเห็นว่าเธอเป็นแค่สาวโรงงานเหมือนกัน ยิ่งทรงพลดึงเจริญศรี และคนงานลาออกไปหลายสิบคนรวมทั้งวิไลเพื่อทำโรงงานแข่ง ก็ยิ่งทำให้เนตรพธูรู้สึกกดดันกับปัญหามากขึ้น พรพนากับชมนาดพยายามช่วยกันกล่อมเพื่อนๆ สาวโรงงานให้อยู่กันต่อ ทำให้เนตรพธูยิ่งรักและซึ้งใจเพื่อนทั้งสอง โดยเฉพาะชมนาดที่ถึงแม้จะขัดคอเธอตลอด แต่ในสถานการณ์อย่างนี้ หญิงสาวก็ยืนอยู่ข้างเดียวกับเธอ

เนตรพธูไปขอคำปรึกษาขวัญกฤษฎิ์ในฐานะเป็นสาวโรงงาน ชายหนุ่มสงสัยว่าทำไมเธอถึงคิดช่วยเหลือโรงงานถึงขนาดนี้ หญิงสาวได้แต่เลี่ยงคำตอบ พอดีกับที่เธอได้ฟังข่าวในสถานีวิทยุเรื่องการจัดการประกวดแฟชั่นดีไซน์เพื่อการส่งออก ชิงเงินรางวัล และผู้ชนะก็จะได้ผลิตงานส่งออกตลาดต่างประเทศ ทำให้เนตรพธูเกิดไอเดีย คิดจะเข้าร่วมการประกวด จนชายหนุ่มสงสัย พอถามเข้า หญิงสาวก็อ้างว่าลูกสาวปกป้องเก่งทางด้านแฟชั่นดีไซน์ เธอจะเอาข่าวนี้ไปบอกเธอก็เท่านั้นเอง
เนตรพธูตั้งใจจะชนะรางวัลนี้ให้ได้ เธอเริ่มออกแบบงานด้วยตัวเอง จนอดหลับอดนอน ช่วงเวลานี้พีรพลก็มาคอยเป็นกำลังใจถึงที่ทำงานเสมอ ทำให้เนตรพธูเริ่มใจอ่อน ยอมพูดดีด้วย และรู้ว่าชายหนุ่มตั้งใจจะกลับมาหาตนจริงๆ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกหนักใจ เมื่อพบว่าตนไม่ได้รักชายหนุ่มอีกต่อไปแล้ว
วีรดาซึ่งกลับจากดูแลปกป้องเห็นเนตรพธูทำงานดึก ก็ต้มน้ำซุปมาให้ เนตรพธูเริ่มรู้ตัวว่าเธอดูหญิงสาวผิดไป วีรดานั้นรักพ่อของตนจริง เฝ้าดูแลและไม่เคยทอดทิ้ง ทำหน้าที่ทุกอย่างได้ดีมากกว่าตนที่เป็นลูกแท้ๆ เสียอีก ทำให้เนตรพธูยอมเปิดใจพูดดีกับวีรดา วีรดาได้โอกาสพูดกับเนตรพธูในฐานะผู้หญิงด้วยกัน บอกว่าตนกับขวัญกฤษฎิ์เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ทำให้เนตรพธูรู้สึกดีใจ วีรดาเล่าเรื่องเนตรพธูให้ปกป้องฟัง ทำให้ปกป้องรู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาว และอาการก็เริ่มดีขึ้น
ขวัญกฤษฎิ์กับศรลักษณ์อยากจะช่วยเหลือเนตรพธูกับเพื่อน ศรลักษณ์ให้ชุดหางเครื่องของตนกับเนตรพธู เพื่อให้เธอไปปรึกษากับลูกสาวปกป้อง ส่วนขวัญกฤษฎิ์ก็คอยส่งข้าวส่งน้ำเลี้ยงสาวๆ ในโรงงาน ความเอาใจใส่ของศรลักษณ์เริ่มทำให้ชมนาดพอใจ เธอยอมพูดดีกับนักร้องหนุ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเนตรพธูและขวัญกฤษฎิ์นั้นก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยที่พรพนาเริ่มรู้สึกผิดสังเกต
พรพนาเริ่มปลีกตัวออกจากกลุ่ม ทำให้เนตรพธูสงสัย พรพนาคาดคั้นความจริงว่าเนตรพธูคิดอย่างไรกับขวัญกฤษฎิ์ เนตรพธูถูกบีบจนต้องยอมรับว่ารักชายหนุ่ม ขวัญกฤษฎิ์ซึ่งได้ยินก็พอใจ แต่พรพนารับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอตัดสินใจตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเนตรพธู โดยไม่ฟังคำทัดทานของใคร หรือแม้แต่ชมนาดเก็บข้าวของกลับต่างจังหวัดทันที
ขวัญกฤษฎิ์รู้ว่าตนเป็นต้นเหตุให้เพื่อนรักต้องบาดหมาง ชายหนุ่มจึงตามพรพนาไปเพื่อปรับความเข้าใจ ทำให้เนตรพธูเข้าใจผิด คิดว่าชายหนุ่มเลือกพรพนาหญิงสาวเสียใจ แต่ก็ต้องฝืนทน เพื่องานสำคัญที่รออยู่
ในที่สุดชุดที่เนตรพธูออกแบบก็เสร็จทัน แต่ก็ไม่มีเงินเหลือพอจะไปจ้างนางแบบดังๆ ให้มาเดินได้ เนตรพธูจึงตัดสินใจจะให้เพื่อนๆ สาวโรงงานเดินแบบเสียเอง หญิงสาวต้องสอนทุกคนเดินแบบ และพยายามเรียกความมั่นใจ ในขณะที่ตนเองก็รู้ตัวว่าคงไม่มีทางสู้บริษัทอื่นได้ แต่เนตรพธูก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจทุกคน จึงได้แต่พูดชมให้กำลังใจ
และเมื่อถึงวันประกวดปกป้องให้วีรดาพามาร่วมงาน โดยมีพีรพลตามมาด้วย เนตรพธูรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งได้เห็นชุดของบรรดาคู่แข่งก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกกังวล แต่พอเห็นเพื่อน ๆ สาวโรงงานใจสู้ และดีใจที่จะได้แต่งตัวสวยๆ ไปยืนบนเวที ก็ทำให้เธอรู้ว่ากังวลไปก็ไม่มีประโยชน์ ขอให้สนุกกับสิ่งที่ได้ทำก็พอ ในที่สุดบรรดาสาวโรงงานก็ได้ออกไปเดินโชว์บนเวที ด้วยลีลาลูกทุ่ง ต่างคนต่างวาดลวดลาย ประดิษฐ์ท่าทางประกอบเพลงลูกทุ่งเต็มที่ เรียกเสียงหัวเราะจนทั่วทั้งห้องจัดงาน ทรงพลได้โอกาสเข้ามาเยาะเย้ยปกป้อง แต่เนตรพธูซึ่งร่วมเดินแบบด้วยไม่ได้สนใจ ตอนนี้เธอรู้สึกดีใจที่ได้เห็นพรพนาเข้ามาอยู่ในงานนี้ด้วย
ระหว่างทางที่พรพนาเดินทางกลับบ้านนั้น เธอก็ได้ทบทวนเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ที่ได้พบเนตรพธู เรื่องราวสนุกสนานที่เคยหัวเราะด้วยกัน เรื่องเนตรพธูคอยออกหน้าช่วยตนไม่ให้ถูกวิไลรังแก และอีกหลายประสบการณ์ที่ทั้งสองได้ทำด้วยกัน ยิ่งได้ยินเพลงแทนความรู้สึกขอโทษ ที่ขวัญกฤษฎิ์เปิดให้เธอในรถทัวร์ ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกถึงมิตรภาพ และบรรยากาศที่แสนอบอุ่นในโรงงาน ทำให้เธอคิดได้และย้อนกลับมาหาเพื่อนๆ อีกครั้ง
ในที่สุดบริษัทของเนตรพธูก็แพ้การประกวด บรรดาสาวโรงงานต่างพากันกอดคอร้องไห้ เพราะต่างรู้ว่าหากไม่ชนะ บริษัทก็คงต้องปิดตัว เพราะไม่มีทุนมาลงอีกแล้ว ในขณะที่ทรงพลซึ่งก็พ่ายแพ้ในงานนี้เช่นกัน ถูกตำรวจบุกเข้ามาจับกุมในข้อหาพยายามวางเพลิงโรงงานของปกป้อง หลังจากที่ตำรวจพยายามหาหลักฐานจนได้ตัวคนร้าย และซัดทอดมาถึงตัวชายหนุ่ม วีรดาจึงได้โอกาสแจ้งข้อหายักยอกให้ทรงพลอีกข้อหาหนึ่ง
หลังจากการประกวดเสร็จสิ้น ขณะที่เนตรพธูกับเพื่อนๆ กำลังจะกลับโรงงานนั้น เธอก็ได้พบกับนักธุรกิจชาวต่างชาติที่สนใจงานของเธอ และอยากจะร่วมผลิตงานด้วย ทำให้เนตรพธูดีใจมาก ลืมตัวพูดภาษาอังกฤษโต้ตอบอย่างคล่องแคล่ว จนบรรดาเพื่อนๆ สาวโรงงานต่างพากันตะลึง ในที่สุดหญิงสาวจึงจำเป็นต้องเปิดเผยความจริงว่าตนเป็นใคร โดยมีปกป้องกับวีรดาเข้ามาช่วยยืนยัน ขวัญกฤษฎิ์ที่มาไม่ทันร่วมงาน เข้ามาได้ยินทุกอย่างก็รู้สึกว่าตนถูกเนตรพธูหลอก ยิ่งเห็นพีรพลแสดงตัวว่าเป็นคนรักของหญิงสาวก็ยิ่งทำให้เขาเข้าใจผิด หลบออกไปโดยไม่มีใครเห็น

เมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยเนตรพธูก็เข้าทำงานในฐานะประธานคนใหม่ ท่ามกลางความยินดีของสาวโรงงานทุกคน เธอเลื่อนให้พรพนาขึ้นมาเป็นผู้ช่วย คอยสอดส่องดูแลสวัสดิการของสาวโรงงานโดยเฉพาะ และตั้งใจจะให้ชมนาดเป็นหัวหน้าคิวซี แต่ชมนาดปฏิเสธ เธอขอลาออกเพราะตัดสินใจที่จะแต่งงานกับศรลักษณ์ โดยจะขอจัดงานแต่งที่โรงงานด้วย เป็นข่าวดีที่ทำให้บรรดาสาวโรงงานยิ้มปลื้ม แต่เนตรพธูกลับนึกสะท้อนใจถึงความรักของตัวเอง ที่หลังจากวันนั้นแล้ว เธอก็ไม่ได้เจอหน้าขวัญกฤษฎิ์อีก นอกจากคำต่อว่าผ่านมาทางสายโทรศัพท์เท่านั้น
เนตรพธูพยายามติดต่อไปหาขวัญกฤษฎิ์เพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง หญิงสาวพยายามโทรเข้าไปในรายการเพื่อขอเพลงแทนคำขอโทษ แต่กลับถูกชายหนุ่มเล่นเพลงต่อว่าว่าเธอเป็นคนหลอกลวง ทำให้เนตรพธูรู้สึกน้อยใจหนักขึ้น พีรพลพยายามจะเอาใจเนตรพธู แต่หญิงสาวก็ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจ จนชายหนุ่มรู้ตัวว่าไม่มีทางได้หัวใจหญิงสาวแน่นอน เขาจึงขอถอนตัวกลับไปเมืองนอก ปกป้องเองก็เริ่มเห็นใจในความรักของลูกสาว ถึงกับยอมออกปากให้วีรดาไปช่วยพูดกับขวัญกฤษฎิ์
ขวัญกฤษฎิ์พยายามเลี่ยงที่จะยุ่งเกี่ยวกับเนตรพธูในทุกเรื่อง แต่เมื่อวีรดาไปหาและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟัง รวมทั้งความรู้สึกที่เนตรพธูมีต่อขวัญกฤษฎิ์ด้วย แต่ชายหนุ่มกลับทำปากแข็ง ปฏิเสธว่าตนไม่ได้คิดอะไรกับเนตรพธู และไม่จำเป็นที่จะต้องสนใจ ทำให้วีรดาโมโห ตำหนิชายหนุ่ม และบอกว่าเพราะเขาเป็นคนอย่างนี้ จึงทำให้เธอตัดสินใจแต่งงานกับปกป้อง ก่อนจะกลับไปด้วยความฉุนเฉียว ทำให้ขวัญกฤษฎิ์ต้องกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง
ในวันแต่งงานของชมนาดกับศรลักษณ์ที่จัดกันเฉพาะคนในโรงงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและมิตรภาพที่ทุกคนมีต่อกัน ขณะที่เนตรพธูกำลังกล่าวคำอวยพรให้คู่บ่าวสาว ขวัญกฤษฎิ์ก็ปรากฏตัวขึ้นในงาน ชายหนุ่มขึ้นไปขอโทษหญิงสาวบนเวที เนตรพธูต่อว่าขวัญกฤษฎิ์ ก่อนที่ทั้งสองจะสารภาพว่ารักกัน ท่ามกลางรอยยิ้มของทุกคนในโรงงาน

รายชื่อนักแสดง คุณหนูฉันทนา

มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล รับบทเป็น เนตรพธู
ณัฐพล ลียะวณิช ดีเจขวัญกฤษฎิ์
ดนัย จารุจินดา โชคดนัย
เพชรดา เทียมเพ็ชร พรพนา
ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ ศรลักษณ์
แอนนี่ บรู๊ค ชมนาด
สันติสุข พรหมสิริ ปกป้อง
อัญชิสา เลี่ยวไพโรจน์ วีรดา
อดิศร อรรถกฤษณ์ พีรพล
กรุณพล เทียนสุวรรณ อำพล

ข้อมูลจาก : tv.gmember.com

Create Date : 23 ตุลาคม 2552

Last Update : 23 ตุลาคม 2552 0:14:57 น.

3 comments

Counter : 860 Pageviews.

ขอบคุณค่ะ

โดย: ีui IP: 117.47.53.134 วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:13:35:34 น.

โหย!

ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคร่ะ

ขอบคุนคร่ะ

โดย: bell IP: 115.87.86.120 วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:18:11:49 น.

ขอบคุณค่ะ

โดย: วุ้น IP: 124.122.159.185 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:41:14 น.

Heavenworth

Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ

Webmaster - BlogGang

[Add Heavenworth's blog to your web]

Bloggang.com