เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
29 เมษายน 2552
 
 
ละคร ลูกไม้เปลี่ยนสี ตอนที่ 9 ต่อ

ตอนที่ 9 (ต่อ)
เมื่อประสพกับลูกสาวและตฤณพาน้ำทิพย์นั่งรถเข้าสู่โรงพยาบาลของชาตรี ต่างก็ชมให้ตฤณฟังว่า โรงพยาบาลนี้ใหญ่โตหรูหรามากเหมือนโรงแรมมากกว่า เป็นความสำเร็จในเวลารวดเร็วของพ่อตฤณ แต่ตฤณกลับบอกว่า คุณแม่ฤทัยมีส่วนอยู่มาก เพราะคุณพ่อชอบรักษาคนอย่างเดียว คุณแม่เลยจัดการเรื่องอื่นแทนหมด...น้ำทิพย์อดไม่ได้ จึงงึมงำออกมาคนเดียว "คนทะเยอทะยาน"
ตฤณนำหน้าพาน้ำหนึ่งกับแม่มาถึงหน้าห้องหมอชาตรี น้ำทิพย์กระวนกระวายตื่นเต้นที่จะได้ประจันหน้ากับชาตรีอีกครั้ง หลังจากไม่ได้พบกันมาหลายปีจนเกือบจะลืม ตฤณเคาะประตูเรียกพ่อ แล้วเปิดประตูพาเข้าไปเอง...ทุกคนผิดหวัง เมื่อหมอชาตรีไม่ได้อยู่ในห้อง พยาบาลบอกว่า เมื่อสักครู่คุณฤทัยเชิญคุณหมอไปถ่ายรูป
"แม่ลัดคิวจนได้" ตฤณบ่น แล้วบอกน้ำหนึ่งกับแม่ว่า เขาจะไปตามพ่อมาให้เร็วที่สุด...ตฤณไปแล้ว น้ำทิพย์หน้าเสีย ประสพแอบมองอย่างห่วงใย...
ส่วนหมอชาตรีจำใจต้องไปนั่งให้สัมภาษณ์และถ่ายรูปเพื่อประกอบการแนะนำหนังสือที่ฤทัยจะเขียน ชาตรีจึงกระวน กระวาย ถ่ายไปได้พอสมควรจึงขอตัวไปรับคนไข้ที่นัดไว้ ฤทัยจำต้องพาทีมช่างภาพเดินชมความทันสมัยของโรงพยาบาลแทน
ตฤณตามหาพ่อ เมื่อพบกันตรงทางเดิน จึงรีบบอกพ่อว่า แม่น้ำหนึ่งมาแล้ว...สองพ่อลูกจึงรีบมาที่ห้อง น้ำหนึ่งหันมาเห็น รีบไหว้ชาตรี
"สวัสดีจ้ะ น้ำหนึ่ง" ชาตรีหันไปทัก "ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้รอ" แล้วแทบผงะ เมื่อน้ำทิพย์กับประสพหันมาประสาน สายตาพอดี ทุกคนตะลึงจังงัง ชาตรีพึมพำ "ทิพย์...ประสพ"
"สวัสดีค่ะ คุณหมอชาตรี ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ"
น้ำทิพย์ทักทายด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็น จนหมอชาตรีกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก
"สวัสดีครับคุณหมอชาตรี ผมหมอประสพ หวังว่าคงจำกันได้นะครับ"
"อ๋อ...จำได้ จำได้แน่นอนครับ" หมอชาตรีบอกเสียงเบาหวิว
"พ่อรู้จักคุณอาทั้งสองแล้วหรือครับ" ตฤณซัก
"รู้จักสิ รู้จักดีทีเดียว" พ่อยืนยัน ตฤณยิ้มแล้วบอกทุกคน
"งั้นดีแล้วครับ เชิญตามสบายนะครับ ผมจะออกไปรอข้างนอก" ตฤณพาน้ำหนึ่งออกมา
ตฤณพยายามถามว่า คุณพ่อคุณแม่น้ำหนึ่งรู้จักพ่อเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำหนึ่งเองก็สั่นหัวไม่รู้ เพราะท่านไม่เคยเล่าอะไรให้ฟังเลย
ภายในห้อง ทั้งสามเพื่อนเก่าและคนเคยรักกัน จึงเริ่มต้นทักทายพูดจาอย่างขลุกขลักเคอะเขิน ชาตรียิ้มให้น้ำทิพย์ อย่างอ่อนโยน
"ไม่ได้พบกันนานมากเลยนะครับ ไม่นึกว่าน้ำหนึ่งจะเป็นลูกสาวน้ำทิพย์...แล้ว เอ้อ ถ้าเดาไม่ผิด...หมอประสพคือ..."
"ใช่...น้ำหนึ่งเป็นลูกสาวของเรา" ประสพรีบรับ โอบไหล่ น้ำทิพย์ทันที น้ำทิพย์ปรามด้วยสายตา ประสพจึงลดมือลง "ผมยินดีเป็นผู้ช่วย ถ้าคุณจะตรวจอาการของทิพย์"
"ไม่เป็นไรครับ ผมต้องทำหน้าที่ของผมอย่างดีที่สุด รับรองผมจะดูแลทิพย์อย่างดี ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนี่นา" ชาตรียิ้ม น้ำทิพย์มองเขาอย่างรู้สึกแสลงใจในคำว่าเพื่อน...
ooooooo
เมื่อประสพเดินออกมาจากห้องตรวจของชาตรี ตฤณกับน้ำหนึ่งรีบมาหา น้ำหนึ่งป้อนคำถามที่อยากรู้ ทันทีว่า เราสองคนกำลังอยากรู้ว่าพ่อกับแม่รู้จักอาหมอตั้งแต่เมื่อไหร่ ประสพบอกตามตรงว่ารู้จักกันมานาน ตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือที่เดียวกัน มันนานจนไม่น่าจะมีใครจดจำอะไรได้แล้ว ประสพบอกแล้วเดินเลี่ยงไป ไม่อยากตอบคำถามใดๆอีก...
ส่วนในห้องตรวจ พยาบาลหลายคนกำลังเตรียมเครื่อง เคราทางการแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน ขณะที่หมอชาตรีกำลังตรวจให้น้ำทิพย์ ซักถามอาการปวด เริ่มมานานแค่ไหน
"เท่าที่จำได้...นับแต่ชีวิตล้มเหลว พอคิดอะไรขึ้นมาก็จุกแน่นหน้าอก นานเข้ามันเลยเจ็บจี๊ดๆ พอทำงานหนัก อาการก็เริ่มหนักขึ้นจนทนไม่ไหว มันมักจะมาพร้อมกับความเครียดและความเศร้า" ชาตรีฟังแล้วถึงสะอึก เข้าใจในน้ำเสียงเสียดสีนั้น "ทำไมคะคุณหมอ หนักใจในอาการของฉันมากเลยหรือคะ"
"ผมต้องตรวจคุณอย่างละเอียดอีกครั้ง อาจเสียเวลาสองสามชั่วโมงนะครับ"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอได้ ฉันทนทุกข์ทรมานตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนรออีกสักหน่อยจะเป็นไรไป"
ชาตรีอึ้งไปอีก ก่อนจะสั่งพยาบาล พาคนไข้ไปตรวจวัดคลื่นหัวใจก่อน พยาบาลพาน้ำทิพย์ออกจากห้องไป ชาตรียืนเครียดอยู่คนเดียว...
ทางฤทัยที่พาทีมงานช่างภาพเดินชมมาถึงห้องตรวจคลื่นหัวใจ ฤทัยบรรยายถึงห้องตรวจคลื่นหัวใจที่ลงทุนให้ทันสมัยเทียบเท่าโรงพยาบาลใหญ่ๆในสหรัฐอเมริกา...ขณะช่างภาพกำลังถ่ายภาพกันพรึ่บพรั่บ...พยาบาลพาน้ำทิพย์ผ่านไป ฤทัยมองผ่านแล้วรู้สึกเป็นคนคุ้นๆ แต่ยังไม่ทันเห็นหน้า
"น้ำทิพย์" ฤทัยพึมพำ กำลังจะตามไปดูหน้าให้ชัด แต่ ถูกอีกคนทักไว้ ขอเธอถ่ายรูปอีกมุม ฤทัยจึงหันมายืนโพสท่าให้ถ่ายอีกหลายท่า...พอจะตามไป ก็ไม่รู้หายไปไหนแล้ว...
ooooooo
หลังจากพยาบาลพาน้ำทิพย์ไปตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจอัลตราซาวด์ กระทั่งตรวจเลือด...หลังจากผลจากห้องแล็บและห้องอื่นกลับมายังหมอชาตรีแล้ว ชาตรีนั่งอ่านผลการตรวจอย่างเคร่งเครียด แล้วส่งให้ประสพและน้ำทิพย์ดู เพราะประสพก็เรียนหมอมาจนจบ ยกเว้นน้ำทิพย์ที่หมดกำลังใจเสียก่อน
"โรคหัวใจของทิพย์ เกิดจากลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดหัวใจเส้นนี้ ผมจะรักษาด้วยยาก่อน ดูอาการอีกสองสามเดือน ถ้ายังไม่ดีขึ้น หรือมีเหตุฉุกเฉินก่อนเวลานั้น ผมอาจจะผ่าตัด... แต่ถ้าทิพย์ดูแลตัวเอง อย่าเครียดหรือกังวล แค่รักษาด้วยยาก็น่าจะได้ผล" สิ้นคำชาตรี น้ำทิพย์ตอบทันที
"ความเครียดมันสะสมมานานยี่สิบกว่าปีแล้ว จู่ๆจะให้เลิกคิดเลิกเครียดคงไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก"
"ค่อยๆเลิกก็ได้นี่ทิพย์ ผมรู้ว่าคุณทำได้" ประสพปลอบ จับมือให้กำลังใจ น้ำทิพย์ดึงมือออก หันไปทางชาตรี
"ถ้าฉันทำได้ ก็ทำไปนานแล้ว คุณก็รู้ว่าทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้"
"เดี๋ยวผมเขียนใบสั่งยาให้" ชาตรีไม่สบตาน้ำทิพย์ "แล้วนัดมาดูอาการอีกครั้งนะครับ"
น้ำทิพย์มองชาตรี ทั้งรักเต็มหัวใจ และแค้นเต็มอก... ประสพแอบมองด้วยความปวดร้าว
จากนั้นไม่นาน น้ำทิพย์ก็ถูกพามารับยา หลังจากได้แล้ว ตฤณพยายามให้กำลังใจว่าพ่อเขาคงรักษาคุณน้ำทิพย์ให้หายได้ ก่อนจะพากันกลับ น้ำทิพย์ชะงัก เมื่อเห็นแวบๆว่าฤทัยผ่านไป... แต่แล้วก็ไม่ยอมบอกใคร ยอมให้ประสพกับน้ำหนึ่งพากลับไป
ooooooo
ตอนที่ 10
ชาตรีเอาแฟ้มประวัติของน้ำทิพย์มาดูอาการและผลการตรวจอีกครั้ง...มีเสียงที่น้ำทิพย์พูดถึงสาเหตุในโรคหัวใจของเธอมาเสียดแทงใจชาตรีตลอด... แล้วเขาต้องรีบเก็บประวัตินั้นทันทีที่ตฤณเข้ามาหาพ่อ ถามถึงอาการของคุณน้ำทิพย์ พ่อจะรักษาให้หายขาดได้ไหม
"อาการไม่หนักเท่าไหร่ แต่สภาพจิตใจเขานี่สิ น่าหนักใจกว่า" เห็นตฤณยิ่งสงสัย ชาตรีรีบเลี่ยง "แต่ยังไงพ่อก็จะพยายามรักษาให้ดีที่สุด ลูกอย่าบอกเรื่องนี้ให้แม่เรารู้นะ"
"อ้าว ทำไมล่ะครับ"
"ถ้าแม่เรารู้ว่าพ่อลัดคิวมาดูแลคนไข้พิเศษของลูก แม่ เขาจะว่าพ่อน่ะสิ เขาไม่รู้หรอกว่าบางทีเราต้องดูอาการคนไข้ ด้วยว่า ใครอาการหนักเบา ใครรอได้ รอไม่ได้"
"อ๋อ เข้าใจละครับ คุณพ่อไม่อยากให้คุณแม่มาวุ่นวายเรื่องงาน"
ชาตรีบอกลูกชายว่า เข้าใจก็ดีแล้ว...ตฤณอุทานเรียกแม่ เมื่อฤทัยเปิดประตูเข้ามา ถามว่าลูกมาทำอะไรอยู่นี่ ชาตรีแก้แทนว่า ลูกมาทำงานแถวนี้เลยแวะมาหาพ่อ ฤทัยจึงสั่งอีก จะมาตามไปถ่ายรูปต่อ แล้วหันไปดึงตฤณไปถ่ายด้วยกันเสียเลย...พ่อลูกจึงหมดอิสรภาพในนาทีนั้น
ฤทัยไม่อาจจะห้ามความรู้สึกนึกคิดของชาตรีได้ เมื่อกลับถึงบ้าน ชาตรีขึ้นนอนแล้ว...จากการได้พบน้ำทิพย์อีกครั้ง ทำให้เขาเอาอัลบั้มรูปสมัยเรียนหนังสือมาดู เห็นภาพชาตรีกับน้ำทิพย์แล้ว ชาตรีอดที่จะเสียใจและสำนึกผิดที่กระทำต่อเธอไม่ได้ วันนั้นน้ำทิพย์น้ำตาพรั่งพรู เสียใจที่สุดในชีวิต
"อย่ามายุ่งกับฉันอีก จากนี้ชีวิตฉันจะไม่มีคนชื่อชาตรีกับฤทัยอีกต่อไป"
น้ำทิพย์สลัดแขนจากชาตรี ตบเขาอีกหนึ่งฉาด...ดึงแหวนหมั้นออกมาจากนิ้วโยนใส่หน้าชาตรี แล้ววิ่งหนีออกไป...
ชาตรีดึงความคิดกลับมาสู่ปัจจุบัน เขาครางออกมาอย่างสำนึกผิด
"ทิพย์...ผมขอโทษ ผมขอโทษ" ชาตรีหลับตาลง พยายามหนีภาพอันร้าวรานนั้น...
ฤทัยเปิดประตูเข้ามา ถามว่าขึ้นมานานแล้ว ยังไม่นอนอีกหรือ ชำเลืองเห็นชาตรีเก็บอัลบั้ม จึงถามอีกว่า นึกยังไงเอาอัลบั้มสมัยเรียนมาดู...ชาตรีบอกนอนไม่ค่อยหลับ เลยเอามาดูให้ง่วง ว่าแล้วล้มตัวลงนอน ฤทัยชำเลือง ซ่อนความสงสัยไว้ที่หางตา...

เครดิต หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


Create Date : 29 เมษายน 2552
Last Update : 29 เมษายน 2552 10:28:05 น. 0 comments
Counter : 530 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com