<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 มิถุนายน 2552
 
 
ละคร ดิน น้ำ ลมไฟ ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

เมื่อไฟรู้จากนรากรว่าสมาชิกในหน่วยสืบราชการลับกำลังตกอยู่ในอันตราย พวกเขาจึงเตรียมการรับมือกับเหล่าร้าย โดยมีดินกับลมให้ความร่วมมือด้วย ยกเว้นหมวดทองกับหมู่ไม้ที่หายไปตั้งแต่เมื่อคืน ลมพยายามติดต่อหมวดทอง แต่ที่บ้านบอกว่าเขาไปต่างจังหวัด ส่วนหมู่ไม้หายไปไหนไม่รู้ ซึ่งความจริงหมู่ไม้ไม่ได้ไปไหนไกล ยังป้วนเปี้ยนแอบดูความเคลื่อนไหวแถวๆหน่วยสืบราชการลับนี่เอง

ขณะเดียวกันนี้ นรากรที่ยังทำใจไม่ได้เรื่องไฟกับอัคคี คือคนคนเดียวกัน เธอกำลังรวมกลุ่มอยู่กับพวกปานศักดิ์ หลังจากทุกคนถูกเรียกมาประชุมด่วน เพราะปานศักดิ์ล่วงรู้ว่าทางหน่วยสืบราชการลับรู้ตัวแล้วว่าพวกเราจะโจมตีมันวันนี้ นั่นคือประเด็นที่ปานศักดิ์สงสัย พวกมันรู้ได้ยังไง

นิกกี้รู้อยู่เต็มอกแต่อยากให้นรากรเป็นคนตอบเรื่องนี้ นรากรจึงถูกปานศักดิ์คาดคั้นจนต้องพูดความจริงออกมาว่า พวกมันส่งไฟเข้ามาในแก๊งของเรา ปานศักดิ์กับเชาว์ตกใจคาดไม่ถึง โทนี่กับนิกกี้นั้นสงสัยไฟมาตลอด ที่สำคัญโทนี่เคยบอกหลายครั้งว่าไฟเป็นสายแต่โดนซิตี๋ปกป้องไว้ตลอด

เมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้ตัวแบบนี้แล้ว เชาว์อยากรู้ว่าแผนการวันนี้จะเอายังไง ปานศักดิ์สั่งเฉียบว่า ยังไงก็ต้องฆ่าพวกมันให้ได้ ห้ามล้มเลิก...แล้วตกเย็นปานศักดิ์ไปที่บาร์ เรียกซิตี๋

มาต่อว่าเรื่องที่คอยปกป้องไฟ ทั้งที่มันเป็นสายของตำรวจ ซิตี๋ ไม่เชื่อ และว่าปานศักดิ์ถูกโทนี่เป่าหูมา

"เลิกด่าไอ้โทนี่มันซะที สิ่งที่มันพูดถูกต้องทุกอย่าง แกเป็นคนเอาไอ้ไฟเข้าแก๊ง แกต้องรับผิดชอบ" ปานศักดิ์ขึ้นเสียงอย่างมีอารมณ์ ซิตี๋เองก็ตอบโต้ด้วยความน้อยใจ

"ตอนนี้ไอ้โทนี่มันพูดอะไร นายก็เชื่อมันหมด คอยดู นายจะหมดตัวเพราะมัน"

ปานศักดิ์โกรธมาก หาว่าซิตี๋สาปแช่ง เดี๋ยวนี้ไม่เห็นหัวกันแล้ว ซิตี๋เลยย้อนให้บ้างว่า นายก็ไม่เห็นหัวผมแล้วเหมือนกัน... พูดจบซิตี๋ก็เดินหนีออกไป ทิ้งปานศักดิ์ยืนกัดกรามแน่น หันไปคว้าแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาเขวี้ยงลงพื้นแตกกระจาย

ค่ำลงฟ้าฝนคะนองมา ผู้พันแสวงจึงบอกพวกอัคคีที่ยังระแวดระวังเกรงจะมีเหตุร้ายให้ยกเลิกภารกิจในวันนี้ แล้วให้ตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่งไปบอกทุกคนข้างล่างด้วย แต่ พอพวกอัคคีจะสลายตัว ก็เห็นหมวดทองวิ่งฝ่าสายฝนเข้ามา

"เอ้าหมวด ทำไมมาเอาป่านนี้" ผู้พันแสวงทัก

"พอดีผมรถเสียอยู่ต่างจังหวัด เลยเพิ่งมาถึง มีอะไรกันหรือเปล่าครับเนี่ย" หมวดทองมองดินกับลม เนื่องจากทั้งคู่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับที่นี่

"งั้นคุณกับผมไปด้วยกัน เดี๋ยวอธิบายให้ฟังในรถ" ขาดคำของผู้พันแสวง ไฟฟ้าในห้องดับพรึบ ส่วนด้านนอกฟ้าคะนองดังครืนๆน่ากลัว ทุกคนตกใจระวังตัว แต่มองไม่เห็นอะไรมากนัก ต้องอาศัยแสงจากฟ้าผ่าเป็นตัวนำทาง

เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง! โทนี่กับนิกกี้และลูกน้องอีกจำนวนหนึ่งกรูเข้ามาโจมตี สองฝ่ายปะทะกันดุเดือดท่ามกลางเสียง ฝนฟ้าคะนอง เชาว์ถือปืนรอจังหวะ แล้วยิงใส่ผู้พันแสวงจนร่างกระตุกเฮือก พวกอัคคีเห็นดังนั้นตะโกนก้องด้วยอารมณ์ บ้าเลือด เข้าชาร์จคู่ต่อสู้ของตัวเองอย่างไม่กลัวตาย จนคู่ต่อสู้ ต้องถอยหนีออกไปหมด

ฉับพลันไฟฟ้าในห้องสว่างขึ้น หมวดทองถลาไปประคองร่างผู้พันแสวงขึ้นมา แล้วร้องไห้อย่างไม่อายใคร บอกทุกคนว่าผู้พันตายแล้ว...อัคคี ดิน และลม ช็อกไปตามกัน...

ooooooo

หลังส่งศพผู้พันแสวงขึ้นรถพยาบาลไปแล้ว ทุกคนยังตกอยู่ในอารมณ์เครียดและเสียใจ หมวดทองอยากรู้ว่าไอ้พวกนั้นเป็นใคร แล้วเรื่องราวเป็นยังไง แต่อัคคียังไม่ทันจะอธิบาย ทั้งคู่มองออกไปเห็นใครบางคนกำลังเดินออกมาจากมุมมืด พอเห็นชัดเป็นหมู่ไม้ หมวดทองจึงระเบิดอารมณ์ใส่ทันที

"สะใจแล้วใช่มั้ย ที่ทำให้ผู้พันตายได้"

"ผมไม่ได้ทำ..." หมู่ไม้ตะเบ็งเสียงโต้

"ถึงหมู่ไม่ได้ลงมือเอง แต่แก๊งของหมู่มันก็ลงมือแทนแล้วนี่ ยังไงมันก็ไม่ต่างกันอยู่แล้ว"

"โอเคหมวด ยังไงผมก็ผิด" หมู่ไม้น้อยใจหันหลังจะเดินกลับ หมวดทองชักปืนออกมาทันที พร้อมกับตะโกนสั่ง "หมู่ไปไม่ได้"

อัคคีตกใจรีบเข้าห้ามหมวดทอง แต่หมวดทองดึงดันว่ายังไงต้องเอามันเข้าคุก...ขณะหมวดทองเล็งปืนใส่หมู่ไม้ที่วิ่งหนี จู่ๆมีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดโดนหมู่ไม้ล้มลงขาดใจตาย คนอื่นๆเข้าใจว่าเป็นกระสุนปืนของหมวดทอง แต่ความจริงแล้วเชาว์ยิงมาจากมุมมืด แล้วเชาว์ยังสั่งนรากรที่ยืนอยู่ด้วยกันให้ไปจัดการอัคคี งานจะได้เสร็จซะที

หมวดทองพยายามบอกพวกอัคคีว่าเขาไม่ได้ยิงหมู่ไม้ พูดพลางก็เหลียวมองหามือปืน ทันใดนั้น นรากรเดินออกมา ดินกับลมชักปืนเตรียมพร้อม แต่อัคคีรีบยกมือห้าม

"เธอเป็นคนยิงใช่มั้ย นรากร เธอเป็นอย่างที่หมู่ไม้พูดจริงๆ" หมวดทองคาดคั้น นรากรไม่พูดอะไร กลับวิ่งหนีออกไป อัคคีบอกทุกคนว่า เขาขอจัดการเอง

ขณะที่อัคคีวิ่งตามนรากรไปนั้น โทนี่กับอู๊ด และลูกน้องก็ปรากฏตัว ลมรู้ทันทีว่าพวกมันกำลังหลอกให้พวกเราแยกกัน พริบตานั้นเสียงปืนก็ดังสนั่นขึ้น พวกโทนี่ระดมยิงพวกลม ทั้งสามคนกระโดดหลบ แล้วยิงสวน ก่อนจะต่างคนต่างหนีแยกย้ายกันไป

อัคคีถือปืนวิ่งตามนรากรไปในซอย แล้วถูกนรากรเอาปืนจ่อ อัคคีไม่มีท่าทีหวาดกลัว ถอดอุปกรณ์ปลอมตัวออกกลายเป็นไฟ แล้วท้าให้ยิง เพราะมันเป็นอาชีพของเธออยู่แล้ว นรากรเห็นไฟยืนตรงหน้ายิ่งรู้สึกเสียใจ แค้นใจ "ฉันมันโง่จริงๆ ที่โดนคุณหลอก"

"แต่บางเรื่องผมพูดจริง จำเรื่องบ้านหลังเล็กๆของเราได้มั้ย เรื่องนั้นเป็นความจริง ผมรู้สึกกับคุณจริงๆ"

"โกหก!" นรากรตวาดเสียงแข็ง

"ยังไงคุณก็ฆ่าผมอยู่แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะโกหกกันอีกต่อไป" ไฟโยนปืนทิ้งลงพื้น ขณะที่นรากรหวาดระแวง เกรงไฟจะเล่นลูกไม้ แต่ไฟกลับเดินเข้าหา จนนรากรเริ่มลังเล สั่งให้เขาหยุดเดี๋ยวนี้

"เหลืออีกสามก้าว คุณฆ่าผมเถอะ ถ้าคุณไม่ทำ คุณคงกลับไปที่แก๊งคุณไม่ได้"

"คิดว่าฉันไม่กล้าเหรอ"

ไฟไม่กลัวตาย เดินเข้าหาพร้อมกับนับหนึ่ง สอง... นรากรเตรียมยิง แต่พอไฟก้าวมายืนเผชิญหน้า นรากรก็ทำไม่ลง แล้วต่างคนต่างโผเข้ากอดกันด้วยความรัก

"ผมรักคุณ...เลิกเถอะนรากร เราทำฝันของเราให้เป็นจริงได้"

"เป็นไปไม่ได้..." นรากรสะอื้นน้ำตาไหลพราก

ทันใดเชาว์ปรากฏตัว สั่งนรากรฆ่ามันเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ฆ่า พ่อจะฆ่ามันเอง นรากรตกใจผลักไฟให้รีบหนีไป แล้วพุ่งตัวไปปัดปืนในมือเชาว์ จังหวะนั้นดินวิ่งผ่านมา จึงดึงไฟให้วิ่งหนีไปด้วยกัน เชาว์แม้จะโกรธนรากรมาก แต่ก็ไม่ลงมือ พอเห็นนิกกี้โผล่ออกมาตบหน้านรากรฉาดใหญ่ ทั้งด่าซ้ำว่า "นังคนทรยศ" เชาว์นิ่งมองนิกกี้ รู้สึกไม่ชอบใจ...
ดินกับไฟวิ่งไปสมทบกับลมและหมวดทอง ก่อนจะพากันหนีการไล่ล่าของพวกโทนี่ วิ่งหายไปทางโรงงิ้วของเฮียเพ้ง ซึ่งลมรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดี จึงพาทุกคนเข้าไปซ่อนตัวในห้องลับ พวกเฮียเพ้ง เฮียเก้า เฮียอู๋เห็นเข้าก็รู้ทันทีว่าเกิดเรื่อง ทั้งสามเฮียจึงช่วยกันยืนยันกับพวกโทนี่ที่วิ่งกรูตามมาว่า ไม่เห็นมีใครผ่านมาทางนี้ โทนี่กับอู๊ดยังมองไปรอบทิศ ก่อนจะกลับออกไปด้วยความเจ็บใจ

จากนั้นทั้งสามเฮียรีบเข้ามาบอกพวกลมว่า ไอ้พวกนั้นไปแล้ว ส่วนพวกลื้อก็พักที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวพวกอั๊วจะไปหาเสบียงมาให้

"พวกเฮียระวังไว้ด้วยนะ อย่ามีพิรุธให้มันสงสัย" ลมกำชับ สามเฮียพยักหน้ารับรู้แล้วพากันออกไป
ครู่ต่อมา ไฟใช้โทรศัพท์ในโรงงิ้วโทร.ไปหาอธิบดีจิระเพื่อส่งข่าวผู้พันแสวงตาย แต่อธิบดีกลับบอกว่ารู้แล้ว พอไฟปรึกษาว่าเขาไม่รู้จะทำยังไงต่อ ท่านรีบบอกให้มอบตัว เพราะไฟถูกกล่าวหาว่าเป็นคนฆ่าผู้พันแสวง

"ไม่จริงนะครับ" ไฟรีบยืนยัน

"ผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่หน่วยสืบราชการลับของพวกคุณไม่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ เกิดเรื่องแบบนี้พวกคุณก็เป็นคนเถื่อน ผมช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ"

ท่านจิระพูดแค่นั้นแล้ววางสายทันที นาวินนั่งอยู่ใกล้ๆ ยิ้มพอใจ

"ขอบคุณครับที่เชื่อผม ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว"

ส่วนไฟนิ่งอึ้งชาไปทั้งตัว ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น กำหมัดแน่นด้วยอารมณ์กดดันบีบคั้น แล้ววิ่งออกไปชกกำแพงไม่ยั้ง จนมือแตกเลือดไหลเปรอะ

ในเวลานั้นเอง นรากรถูกนิกกี้ลากตัวไปให้ปานศักดิ์ชำระความ ปานศักดิ์โกรธจนฟิวส์ขาด ทั้งตบหน้าทั้งด่านรากรที่ใจอ่อนไปรักศัตรูของตน แล้วปานศักดิ์ยังจะฆ่านรากรทิ้งตามที่นิกกี้ยุยง แต่เชาว์ขอไว้ ปานศักดิ์เลยด่าเชาว์อีกคน ก่อนจะเผยความจริงที่ปกปิดมาตลอดว่านรากรไม่ใช่ลูกของเชาว์

นรากรตะลึงลาน ร่ำร้องว่าไม่จริง...เชาว์เหมือนเจอทางตัน จำต้องบอกเล่าเรื่องราวในอดีตอันขมขื่น...ชบาแม่ของนรากรคือผู้หญิงที่เชาว์รัก เชาว์กับชบาสัญญาต่อกันไว้ว่าจะแต่งงานกันหลังจากเชาว์หมดหน้าที่ทหารเกณฑ์กลับมา แต่แล้วชบากลับไปได้เสียกับสังเวียนจนมีนรากรขึ้นมา เชาว์โกรธแค้นอย่างยิ่ง ยิงสังเวียนตาย แล้วจะปล่อยชบากับลูกน้อยไป แต่พอเชาว์หันหลัง ชบาก็ดึงปิ่นปักผมออกมาแทงเข้าเบ้าตาของเชาว์ที่หันกลับมาตามเสียงเรียกของเธอ

เชาว์ทั้งเจ็บทั้งโกรธ ยิงชบาล้มลงขาดใจตายไปอีกคน จากนั้นเชาว์ก็นำนรากรที่ยังแบเบาะมาเลี้ยง ทั้งที่ตอนแรกจะฆ่าทิ้ง แต่คิดอีกทีถ้าสามคนพ่อแม่ลูกตายหมด มันก็ไม่สมกับความแค้น ดังนั้นเชาว์จึงตั้งใจเลี้ยงนรากรให้เป็นแบบเดียวกับตน ต้องถูกสาปไม่ให้มีความรัก มันถึงจะสาสมกับความแค้นที่เชาว์มีต่อพ่อกับแม่ของนรากร

นรากรเสียใจและผิดหวัง น้ำตาไหลพรากกับความจริงในอดีตจากปากของเชาว์ ผู้ชายที่เธอเคารพนับถือเรียกเขาว่าพ่อมาตลอด ขณะที่เชาว์ยืนนิ่งไม่แสดงความรู้สึก บอกกับปานศักดิ์ให้ขังนรากรไว้ก่อน เสร็จเรื่องแล้วเขาจะฆ่ามันเอง

นิกกี้สะใจ ลากนรากรไปขังรวมไว้กับนิอรในห้องตามคำสั่งของปานศักดิ์ แถมนิกกี้ยังข่มขู่นรากรก่อนกลับออกไปว่า ถ้าคิดจะหนี แกไม่รอดแน่...เมื่ออยู่กันลำพังสองคน นรากรบอกนิอรว่า ยังไงเราก็ต้องหนีออกจากที่นี่...จากนั้นสองสาวก็ช่วยกันคิดหาหนทาง

ด้านไฟ หลังจากตั้งสติคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาเพิ่งสะดุดใจนึกถึงนรากรที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ป่านนี้เธอจะเป็นยังไง ปานศักดิ์คงไม่ปล่อยเธอไว้แน่...ไฟไม่อาจนิ่งเฉยได้ เขาผลุนผลันออกไปพร้อมกับดิน

ooooooo

อู๊ดกับโทนี่กลับมารายงานเหตุการณ์ที่พวกเขาตามกลุ่มของไฟไปถึงโรงงิ้วแถวเยาวราชแต่ไม่เจอ ปานศักดิ์บอกไม่เป็นไร ตนมีพวกอยู่ในกรมตำรวจ ยังไงพวกมันก็ไม่รอดแน่ จากนั้นปานศักดิ์ก็เอาแผนที่โรงงานเฮโรอีนจากนิกกี้ให้อู๊ดดู เพราะต่อไปอู๊ดจะเป็นคนเดียวที่ต้องขับรถไปมา ไม่ต้องเปลี่ยนเวรเหมือนก่อน อู๊ดเลยเป็นปลื้มที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้านาย

หลังจากแต่ละคนแยกย้ายกลับไปพักผ่อน ปานศักดิ์ก็เตรียมเข้านอนเหมือนกัน แต่กินรียังเห่อความเป็นดาราไม่เลิก หยิบเสื้อผ้าชุดโน้นชุดนี้มาลองอยู่นานสองนาน จนกระทั่งไฟกับดินแอบเข้ามาช่วยนรากรกับนิอร ซึ่งสองสาวกำลังปีนป่ายลงทางหน้าต่างพอดี

กินรีโวยวายเอ็ดอึงเมื่อเห็นทั้งสี่คนวิ่งออกไปหน้าตึก ทำให้ปานศักดิ์สะดุ้งตื่นออกไปสั่งการลูกน้องให้ตามจับพวกมันให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จ ถูกไฟยิงสกัดแล้วพากันหนีรอดไปได้ด้วยรถของนิอร

ส่วนที่บาร์ น้ำยังทำงานอยู่เหมือนเดิม และพยายามตีสนิทซิตี๋ต่อไป แต่ซิตี๋ดูเหมือนจะระแวงน้ำพอสมควร หลังจากเสียรู้ให้ไฟไปคนหนึ่งแล้ว เมื่อน้ำเกิดให้ความสนใจหนังสือพิมพ์ ที่ลงข่าวครูแก่ถูกฆ่าตายด้วยมีดลักษณะประหลาด ซิตี๋ก็ยิ่งจับผิด

"ดูน้ำจะสนใจเรื่องนี้มากเลยนะ"

"ใช่ค่ะ น้ำอยากรู้ว่าคนร้ายคือใคร"

"ไอ้ไฟลูกน้องที่เฮียไว้ใจ แท้จริงมันเป็นสายตำรวจปลอมมา เฮียจะรู้ได้ยังไงว่าน้ำไม่ใช่"

"น้ำชอบมวย รู้จักนักมวยทุกค่าย ข่าวครูแก่ตายมันมีเงื่อนงำ น้ำอยากรู้มานานแล้ว"

ซิตี๋ไม่ทันพูดอะไรต่อ เหลือบเห็นอู๊ดเดินเข้ามา จึงบอกน้ำว่าไว้วันหลังจะเล่าให้ฟัง น้ำเลยผละไปก่อนที่อู๊ดจะเดินมาถึง

"เฮีย...รู้เรื่องไอ้ไฟกับไอ้ดินมันไปพานิอรกับนรากรหนีหรือยัง"

"ไม่มีใครบอกข้า"

"นั่นสิ นายเขาสั่งให้โทนี่ให้ออกตามล่ามันแล้ว"

"ข้านี่มันโง่ยิ่งกว่าควายเลยใช่มั้ยไอ้อู๊ด ที่ดันเอาสายตำรวจมาเป็นพวก"

"ของมันพลาดกันได้"

"เสร็จงานแล้ว ไอ้โทนี่มันคงไม่ปล่อยข้าไว้แน่"

"คิดมากไปหรือเปล่าเฮีย"

"ตอนนี้ข้ามันก็เหมือนหมาตัวนึง แต่เอ็งคอยดูหมาอย่างข้าไม่จนตรอกง่ายๆหรอก"

"เฮียมีอะไรให้ผมช่วย บอกมาเลยนะ ผมอยู่ข้างเฮีย"

ซิตี๋มองอู๊ดแล้วยิ้มให้ ซาบซึ้งในมิตรภาพยามยากที่อู๊ดอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

ooooooo

ดึกสงัด ดินกำลังขับรถมุ่งหน้าออกนอกเมืองอย่างไม่มีจุดหมาย กระทั่งนิอรเสนอให้ไปทะเลที่เธอเคยไปเที่ยวกับดิน แถวนั้นมีบ้านเช่า และไม่ค่อยมีคนรู้จัก ดินจึงเห็นด้วยทันที

เมื่อไปถึงจุดหมาย ทั้งสี่คนไปติดต่อป้าศรีเจ้าของบ้านเช่า ซึ่งแกบ่นนิดหน่อยว่ามากันซะดึกดื่น ก่อนจะไปเปิดบ้านให้ พร้อมรับเงินค่าเช่าล่วงหน้าจากไฟไปด้วย

เช้าแล้ว นิอรลงมาเดินที่ชายหาด อีกครู่ดินตามลงมา ทีแรกดินนึกว่านิอรตื่นเช้า แต่เธอกลับบอกเขาว่าเธอนอนไม่หลับ

"กลัวหรือเปล่า" ดินถามอย่างอาทร

"เราไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ตั้งแต่เด็กจนโตเราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้"

"ตั้งแต่เราก้าวเข้ามา ชีวิตหนึ่งก็เปลี่ยนไป"

นิอรชะงัก หันมามองหน้าดิน "เธอหมายความว่าอะไร"

"ถ้าเราไม่กลับเข้ามาในชีวิตหนึ่ง ทุกอย่างก็คงจะยังเหมือนเดิม หนึ่งก็ยังจะมีความสุข เงินที่พ่อ..."

"หยุดนะ ถึงพ่อฉันจะทำผิด แต่ฉันก็ไม่ชอบที่จะให้ใครมาดูถูกพ่อของฉัน"

"ใครๆก็รักพ่อด้วยกันทั้งนั้น"

"ใช่ ถ้าเราจะคุยกันก็อย่าพูดเรื่องนี้อีก" นิอรไม่พอใจเดินหนีไป ปล่อยดินยืนมองตามด้วยความไม่สบายใจ ต่างจากคู่ของไฟกับนรากรที่อยู่ในครัว สองคนกระเซ้าเหย้าแหย่กันไปมา เมื่อนรากรมาเห็นไฟทำแซนด์วิชสำหรับมื้อเช้า เสร็จแล้วไฟบอกนรากรว่าจะไปตลาด ไปหาซื้อของมาตุน แล้วก็สืบข่าวด้วย นรากรจึงขอไปด้วยคน

ขณะที่สองคนออกมาขึ้นรถ ไฟเห็นดินนั่งซึม จึงหยิบกีตาร์ในรถมาส่งให้ดินเล่นแก้เหงา ดินเล่นกีตาร์อยู่พักหนึ่งก็เอะใจ ทำไมนิอรถึงเงียบนัก เขาเดินหาทั้งหน้าบ้านหลังบ้านก็ไม่พบ จึงกลับขึ้นไปสำรวจบนบ้าน ก็ไม่มีแม้แต่เงา

ดินใจคอไม่ดี รีบวิ่งตามหานิอรไปทั่ว แล้วไปเจอเธอกำลังพยายามโบกรถคันแล้วคันเล่า ดินตรงเข้าไปถามนิอรว่า ทำไมต้องหนีด้วย

"เราคงไปด้วยกันไม่ได้"

"หนึ่งอยากกลับไปที่บ้านใช่มั้ย"

"ไม่ เราไม่กลับ"

"ถ้างั้นก็คงจะไปหานรสิงห์"

นิอรโกรธที่ดินประชดแบบนี้ จึงย้อนให้ว่า อย่างน้อยนรสิงห์ก็คงไม่ทำให้เธออึดอัดใจ

"แสดงว่าเราทำให้หนึ่งอึดอัด"

"ใช่ ดินฝังใจกับอดีตมากจนไม่เคยคิดจะเริ่มต้นใหม่"

"อดีตของหนึ่งมันก็แค่ความทรงจำที่ลืมเลือน ไม่มีค่าพอที่หนึ่งจะจดจำอีกต่อไป แต่อดีตของเรามันมีแต่ความเจ็บปวด คนอย่างหนึ่งไม่มีวันเข้าใจหรอก"

"ใช่ เราไม่เข้าใจ เพราะไม่มีใครกลับไปแก้ไขอดีตได้ ทำไมดินไม่อยู่กับปัจจุบัน แล้วลืมเรื่องที่ผ่านมาให้หมด"

"เพื่อที่พ่อของหนึ่งจะได้ลอยนวล หนึ่งจะได้กลับไปมีความสุขกับกองเงินกองทองอย่างที่หนึ่งต้องการใช่มั้ย"

นิอรสุดทนตบหน้าดินฉาดใหญ่ เนื่องจากดินกำลังดูถูกตัวตนของเธอ ดินเองก็โกรธ กระชากแขนนิอรทันที

"อย่าคิดว่าเราจะปล่อยเธอไปง่ายๆ กลับไปกับเราเดี๋ยวนี้"

"ปล่อยนะ...ปล่อย เราไม่ไป ปล่อย..."

ดินไม่สนใจ กระชากนิอรให้เดินตามไป พอถึงบ้านเช่าก็ผลักเธอลงที่เก้าอี้รับแขก

"โอ๊ย...เราเจ็บนะ" นิอรร้อง

"แต่มันคงจะน้อยกว่าความเจ็บปวดของเรา"

"ก็ได้ งั้นเธอก็แก้แค้นเราซิ จะให้เราตายไปเลยก็ได้ แต่ ขอร้อง...อย่าทำอะไรพ่อของเรา"

"เราจะยังไม่ฆ่าพ่อเธอหรอกหนึ่ง จนกว่า..."

"จนกว่าอะไร"

"จนกว่าเราจะทำให้พ่อเธอรู้ว่าการสูญเสียคนที่รักมันเป็นยังไง"

"ใจร้าย...ดินใจร้าย" นิอรปล่อยโฮ แล้วลุกหนีเข้าห้อง ดินมองตาม ท่าทีโหดร้ายเมื่อกี้หายไปสิ้น น้ำตาคลอขึ้นมาด้วยความสงสารเธอ...

ทางด้านไฟกับนรากรที่ออกไปตลาด พอเจอตู้โทรศัพท์ ไฟรีบติดต่อไปยังหมวดทอง จึงได้รับคำเตือนจากหมวดทองให้ไฟระวังตำรวจไว้บ้าง เพราะเขารู้สึกตงิดๆว่าพวกปานศักดิ์คงต้องดึงตำรวจเข้ามาเป็นเครื่องมือแน่...หลังจากวางสายแล้วไปเดินซื้อของกับนรากร ไฟจึงระวังตัวแจ เห็นจ่าคนหนึ่งเดินผ่านไปมา ไฟรีบเอาหนังสือพิมพ์บังหน้าตัวเองและนรากร แล้วพากันไปขึ้นรถ มุ่งหน้ากลับบ้านพักที่ไม่มีคนพลุกพล่าน

จากนั้นเวลาแห่งความสุขของทั้งคู่ก็กลับคืนมาอีกครั้ง เขาและเธอวิ่งเล่นหยอกล้อกันที่ชายหาด แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ยังต้องเผชิญ นรากรก็อดเศร้าหมองขึ้นมาอีกไม่ได้ ถึงกับออกปากกับไฟว่า เธออยากให้เวลาหยุดหมุน อยากให้โลกมีแค่เราสองคน ไม่อยากให้มีวันพรุ่งนี้...

"ถ้างั้นตั้งแต่วินาทีนี้ไป เราจะมีแต่ความสุข ห้ามคิดถึงคนอื่น ห้ามคิดถึงโลก แล้วก็ห้ามคิดถึงวันพรุ่งนี้"

"แต่ว่า..." นรากรหยุดชะงัก เพราะไฟใช้นิ้วแตะปากเธอไว้

"เราไม่รู้ว่าพรุ่งนี้อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเราห้ามเคราะห์กรรม หรือว่าโชคร้ายที่กำลังจะมาไม่ได้ ทำไมเราไม่ทำทุกวินาทีที่เราอยู่ด้วยกันให้ดีที่สุดล่ะ"

"ค่ะ ทำทุกวินาทีให้ดีที่สุด"

หนุ่มสาวสบตากันหวานซึ้ง ค่อยๆโน้มหน้าเข้าหากัน...

ooooooo

ตกเย็น ปานศักดิ์ต้อนรับนาวินที่บาร์เพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องที่ไฟกับดินพานิอรกับนรากรหนีไป นาวินรับปากแข็งขัน เขาจะส่งภาพสเกตช์

พวกมันไปทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ รับรองพวกมันไม่รอด ปานศักดิ์สะใจ ถ้าจับตัวมันได้เมื่อไหร่ เขา ไม่ปล่อยมันไว้แน่

"แล้วเรื่องเอเย่นต์ใหญ่ที่ชื่อเจสันล่ะ" นาวินเปลี่ยนประเด็น

"มันกำลังจะบินมาดูสินค้าเราเร็วๆนี้ครับ"

"เฮโรอีนบริสุทธิ์แบบนี้ ที่อเมริกาหาไม่ได้หรอก ที่ไหนๆก็หาไม่ได้ นอกจากเมืองไทยที่เดียว"

"ไอ้โทนี่มันเก่ง ที่ช่วยให้ฝรั่งยอมรับสินค้าเรา"

"แสดงว่าคราวนี้ลอตใหญ่เลยสิ"

"ใหญ่ครับท่าน ถ้าลอตนี้ผ่าน สินค้ากระจายทั่วทั้งเอเชีย แล้วก็ทั่วอเมริกาเลย ได้เงินเหนาะๆเหยียบร้อยล้านแน่"

"ติดเฮโรอีนงอมแงมกันทั้งโลกเลยน่ะสิ ฮ่ะๆ"

"โง่มาเสพเอง ช่วยไม่ได้ ฮ่ะๆ"

สองวายร้ายประสานเสียงหัวเราะ น้ำค่อยๆถอยห่างออกมา หลังจากได้ยินชัดทุกถ้อยคำของพวกมัน จากนั้นน้ำแอบออกจากบาร์มุ่งหน้าไปที่โรงงิ้ว ในขณะที่นาวินก็นำรูป สเกตช์ของไฟ ดิน นิอร และนรากรไปเสนอต่อท่านจิระ

"ถ้าเป็นไปได้ ผมว่าเราน่าจะกระจายภาพสเกตช์ของพวกมันไปทุก สน. คาดว่าไม่นานก็น่าจะพบตัว"
"ทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้" ท่านจิระข้องใจ

"คือผมอยากจะตัดไฟแต่ต้นลมครับท่าน เพราะทราบมาว่าพวกมันกำลังวางแผนส่งเฮโรอีนลอตใหญ่กับเอเย่นต์ อเมริกาอยู่"

"แต่เราไม่มีหลักฐานนะรองนาวิน รวมทั้งเรื่องฆ่าผู้พันแสวง ผมก็ยังไม่อยากจะปักใจว่ามันจะเป็นอย่างที่คุณบอก"

"ผมทำงานรับใช้กรมตำรวจมานานเรื่องในทางลึกบางอย่างผมทราบดี ตอนนี้หลักฐานอาจจะยังไม่มี แต่ถ้าเราจับตัวพวกมันได้เมื่อไหร่รับรองว่าท่านได้หลักฐานแน่ ผมขอเอาเกียรติเป็นประกันครับท่าน"

"ก็ได้ ผมเชื่อคุณ แต่ถ้าเมื่อไรที่มีข้อสงสัยแม้แต่ นิดเดียวว่าพวกเขาบริสุทธิ์ ผมก็จะปล่อยตัวทันทีเหมือนกัน ตกลงมั้ย"

"ไม่มีปัญหาครับ" นาวินยิ้มมั่นใจ ข้างฝ่ายน้ำที่โรงงิ้ว เธอกำลังรายงานเรื่องราวที่ได้ยินปานศักดิ์กับนาวินคุยกันที่บาร์ให้หมวดทองกับลมฟัง จู่ๆเฮียเก้าวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมภาพสเกตช์ของพวกไฟ เฮียเก้าเล่าว่าตนไปส่งน้ำแข็งที่สถานีตำรวจ เห็นตำรวจติดรูปพวกนี้ทั่วไปหมด ได้ยินเขาคุยกันด้วยว่าผู้ใหญ่สั่งให้ตามล่าตัวด่วน

"ว่าแล้วเชียว" หมวดทองอุทานขึ้นมา ลมจึงถามหมวดทองที่วันก่อนโทร.คุยกับไฟ พอจะรู้ไหมว่าเขาอยู่ที่ไหนกัน "ไม่รู้ เขาไม่ได้บอกไว้"

"ป่านนี้จะเป็นไงมั่งก็ไม่รู้" ลมบ่นสีหน้าเป็นกังวล

ooooooo

แต่เวลาเดียวกันนี้ ไฟกับนรากรกำลังปิ้งย่างอาหารทะเลกินกันอย่างเอร็ดอร่อย ขณะที่ดินพยายามเอาใจนิอรที่นั่งเงียบเชียบ เขาแกะกุ้งใส่จานให้แล้ว นิอรก็ยังเฉยเมย นรากรเลยต้องมาช่วยคะยั้นคะยอ แต่ดินกลับทำวงแตกอย่างไม่ตั้งใจ

"ลองสิครับ ไม่มียาพิษหรอก"

"ฉันไม่หิว" นิอรกระแทกเสียงใส่ดิน แล้วลุกออกไปทันที ไฟเห็นดินหน้าจ๋อย ตบไหล่ให้กำลังใจเพื่อน ดินนิ่งเหมือนคิดตัดสินใจก่อนลุกตามนิอรไป นิอรหันมามองดินแวบหนึ่ง แล้วตั้งคำถามโดยไม่มองหน้าเขา
"ถามจริงๆเถอะ เธอต้องการอะไร"

"เราต้องการปรับความเข้าใจกับหนึ่ง"

"เลิกพูดถึงหนึ่งได้แล้ว...จำเอาไว้ เราคือนิอร"

"นี่หนึ่ง..."

"บอกว่าเราคือนิอร เราไม่มีอดีต ไม่มีความทรงจำ"

"แล้วก็ไม่มีเพื่อนชื่อดินด้วยใช่มั้ย"

"ใช่...เราจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าเธอไม่ปลอมตัวเข้ามาเป็นคนขับรถในบ้าน"

นิอรไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องคนขับรถซึ่งมีฐานะต่ำกว่า แต่ดินเข้าใจผิดคิดว่านิอรต้องการตอกย้ำว่าเขากับเธอฐานะต่างกัน จึงเปลี่ยนสรรพนามใหม่ทันที

"จริงซิ ผมมันก็แค่คนขับรถ ฐานะผมกับคุณมันห่างกันราวฟ้ากับดิน ที่ผ่านมาผมคิดว่าเด็กผู้หญิงจนๆที่ชื่อหนึ่งจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงที่ชื่อนิอร แต่ผมคิดผิดไป"

ดินมองนิอรด้วยความเสียใจแล้วเดินหนีหายไปในความมืด นิอรน้ำตาเอ่อ เธอรู้ตัวว่ากำลังทำลายน้ำใจและความรู้สึกดีๆระหว่างกัน...ในมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก จ่าตำรวจที่ได้เบาะแสมาจากเพื่อนป้าศรีเจ้าของบ้านเช่ากำลังแอบมองมา สลับกับมองภาพสเกตช์ในมือด้วยสีหน้ามั่นใจ...

นรากรไม่สบายใจที่เห็นนิอรวิ่งร้องไห้กลับเข้าไปในห้องพัก แต่ไม่รู้จะปลอบยังไงเหมือนกัน นอกจากเดินตามเข้ามาบอกนิอรให้หยุดร้องไห้

"เราก็ไม่อยากอ่อนแอแบบนี้หรอก" นิอรเสียงสั่นเครือ

"มีอะไรที่เราช่วยได้บ้าง"

"คงไม่มีใครช่วยเราได้หรอก" นิอรยิ่งสะอื้น นรากรสงสาร ขยับเข้ามากอดและให้กำลังใจ

"เธอต้องยืนอยู่ด้วยตัวเองให้ได้ ปัญหานี้ถ้านิอรไม่เป็นคนแก้ ก็ไม่มีใครจะช่วยได้ เข้มแข็งนะ"

ทางหน้าบ้าน ไฟพยายามจะช่วยประสานรอยร้าวระหว่างดินกับนิอรอยู่เหมือนกัน แต่กลายเป็นว่าไฟยิ่งพูด ยิ่งทำให้ดินไม่พอใจ แล้วลุกลามเป็นทุ่มเถียงกันอย่างมีอารมณ์ โดยเฉพาะดินที่ยอมรับว่าเขาแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ออก เพราะเป้าหมายของเขาคือการกำจัดคนที่ฆ่าพ่อของเขา ไฟจึงเตือนว่า ถ้าดินเอาแต่โมโหอย่างนี้ จะทำให้ทุกอย่างพังหมด

"ผมไม่สน ยังไงชีวิตผมมันก็มาจากดิน พังยังไงมันก็ยังเป็นดิน"

"ไม่สนแม้แต่เรื่องของชาติบ้านเมืองหรือไง"

ดินกระชากคอไฟด้วยโทสะ "ประเทศชาติให้อะไรผมบ้าง ชีวิตนี้มีใครหยิบยื่นอะไรให้ผมบ้าง ทุกคนเห็นแก่ตัวเอง ความยุติธรรมมันไม่มีจริง"

"ความยุติธรรมของนายก็คือการได้ฆ่าศัตรูให้มัน

ตายตกไปตามกัน ฆ่ากันไปฆ่ากันมาแบบนี้ ชีวิตนายจะมีความสุขได้ยังไง"

ดินจ้องหน้าไฟ ทั้งโกรธทั้งคับแค้นที่ไฟไม่ยอมเข้าใจในความแค้นที่เขามีต่อปานศักดิ์ จึงระบายออกด้วยการถีบไปที่เก้าอี้ล้มครืนแล้วเดินหนีไปทันที ไฟยังเป็นห่วงวิ่งตามดินไปเพื่อจะปรับความเข้าใจ แต่ดินหงุดหงิดเกินกว่าจะฟังอะไรทั้งนั้น หันมาตะบันหน้าไฟจนล้มลง

"มายุ่งเรื่องของกูทำไม ยุ่งทำไม"

ไฟเหลืออดตอบโต้ดินเข้าให้บ้าง เลยกลายเป็นซัดกันนัว นรากรกับนิอรต้องวิ่งออกมาห้ามเสียงหลง แล้วนิอรก็สยบความบ้าคลั่งของดินด้วยการตบหน้าเขาเต็มแรง ดินถึงกับยืนอึ้ง

"อันธพาล ไปนะ ไปให้พ้น ออกไป"

ดินไม่พอใจนิอรแต่ไม่พูดอะไรสักคำ เดินหนีหายไปในความมืด...นรากรกับไฟมองหน้ากันอย่างกลัดกลุ้ม...

ooooooo

จบตอนที่ 18

เครดิต //www.thairath.co.th


Create Date : 09 มิถุนายน 2552
Last Update : 9 มิถุนายน 2552 12:37:29 น. 0 comments
Counter : 257 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com