ตามปกติต้องไปพบแพทย์ตามนัด
เริ่มตั้งแต่ทุกเดือน ทุกสองเดือน สามเดือน
จนสุดท้ายล่าสุดทุกสี่เดือน ครั้ง
ด้วยสาเหตุความดันสูงไขมัน เช่นเคย
จากเริ่มแรกอายุ50 น้ำหนัก 51 กก.
จวบจนวันนี้น้ำหนักพุงเฉียด 70 กก.
หมอสั่งห้าม หวานมันเค็ม
ก็ลดละเลิกตามหมอแนะนำ
แต่ก็มีบ้างละ ที่ใจเผลออยาก
เช่นหน้าทุเรียนสด ทุเรียนกวน ทุเรียนเชื่อม
ขนุนที่บ้านสุก อะไรแบบนี้
ก็กินบ้าง!!!
อดน้ำ อาหารหลังสองทุ่มตั้งแต่เมื่อคืน
ไปถึงโรงพยาบาลแต่เช้ามืด ตี5
จับบัตรคิวได้เป็นคนที่ 11
รอเรียกซักถาม แล้วจับบัตรคิวเจาะเลือดอีกครั้งเป็นคนที่ 33
แต่ระหว่างนั้น ต้องให้คิวลัด
กับคนไข้อายุ75ปีขึ้นไป
เพื่อให้คนไข้เหล่านี้ ได้กลับไปกินและนอนพักผ่อนก่อน
แล้วค่อยมาใหม่ตอนบ่ายอีกที
ดังนั้นเราจึงต้องเป็นคนที่เท่าไหร่ก็ไม่ต้องไปนับ
รอฟังเขาเรียกชื่อก็แล้วกัน
เสียงเรียกชื่อก็เช้าไปเจาะเลือด 1 หลอดเต็มๆ
เจ้าหน้าที่มือเบามาก แทบไม่รู้สึกเลย
เอ่ยปากชมเธอด้วย
เจาะเลือดเสร็จก็รีบบึ่งไปกินอาหารเช้า กินยาที่บ้าน
กินข้าวเที่ยงเสร็จ ประมาณเที่ยงนิดๆ เผ่นมาโรงพยาบาลอีกแล้ว
มายื่นใบนัด เป็นคนแรกๆ
แล้วก็วัดความดันรอไว้
วัด5ครั้งสูงทั้ง5ครั้ง
แต่ผลสุดท้าย เหลือคนไข้หน้าห้อง5คน
พยาบาลจึงเรียกเรา ไม่รู้เหตุผล ลืมถามพยาบาล
พยาบาลก็เลือกเอาที่น้อยที่สุดแปะไว้ในสมุด
พอหมอเห็นความดันที่พยาบาล แปะไว้
ในOPD card
พูดว่า...ความดันไม่ลดเลย
เราก็เถียงหมอว่า
วัดที่บ้าน ปกติทุกอย่าง
เครื่องวัดที่โรงพยาบาลน่าจะไม่เสถียร สูงทุกที
หมอมองหน้า... ถามจริงรึป้า ป้าวัดประจำรึเปล่า
บอก... จริงค่ะ ป้าจดไว้ด้วยนะคะ
ยื่นใบที่จดความดันมาจากบ้าน
หมอเหลือบมองนิดนึง...ป้าจดเวลาไหนบ้าง
บอก...วัดความดันตอนตื่นเช้า ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
กับตอนก่อนนอน
หมอถาม...แล้วจดบันทึกไว้ทุกวันรึเปล่า
ทุกวันค่ะ มีสมุดด้วย แต่ไม่ได้เอามาทั้งเล่ม
...ป้ากล่าว
ผ่านจากความดัน ก็มาดูใบรายงานผลเลือด
หมออ่านๆๆๆๆ
ไขมันสูง ไตรกีเซอร์ไรด์ก็สูง ป้ากินยาลดไขมันทุกวันป่ะเนี่ย
ตอบว่า... กินทุกวันค่ะ แต่ป้าลืมมื้อก่อนนอนบ่อย
เลยเอามากินรวมกันหมดตอนหลังอาหารเช้า
ฮ้า!!!!!....หมออุทาน จ้องหน้าป้า
ยาลดไขมันกินก่อนนอน เพราะกระบวนการสร้างไขมันจะเกิดตอนกลางคืน
ถ้ามากินรวมกันหมด ผลที่ได้ก็น้อย
ต่อไปนี้ ป้าต้องกินยาตามเวลาที่กำหนดไว้หน้าซองนะครับ
ได้ค่ะ ได้ค่ะคุณหมอ...ป้ารีบบอก
หมอเริ่มขมวดคิ้ว (คงนึกในใจว่า ป้าอยากหายใจต่อด้วยตัวเอง หรือพึงเครื่องช่วยหายใจ)
หมอไม่ดุ แต่สั่งว่า ต้องงดหวานเค็มมันให้เข้มงวดด้วย
ออกกำลังด้วย เพราะน้ำหนักก็ไม่ลด เอวก็ไม่ลด
ทำได้มั๊ยครับ ถ้าไม่ได้ หมอจะให้ยาเพิ่มอีก2 ตัว
โอ๊ย...หมอ ไม่เอายาเพิ่มค่ะ ไม่อยากไตวาย
อิป้าเริ่มโวย
พอโดนหมอขู่ฟ่อๆ ป้าก็บอกมาคราวหน้า ทุกอย่างจะโอเค
หมอยิ้มอ่อน พิมพ์ใบสั่งยาออนไลน์
ป้ารีบบอก...ขอยานวดแก้ปวดเมื่อยด้วยนะคะหมอ
เพราะต้องไปขี่จักรยานเพิ่มอีกหลายกิโล
หมอบอก...ได้ๆๆๆ และก็พิมพ์ครีมนวดทาถูเพิ่มให้ป้า
รับใบสั่งยาแล้วก็มาห้องยาจับคิวต่อ
นั่งรอยา
ระหว่างทางไปห้องยา
ได้ชมวิวเขียวๆของต้นไม้สูงใหญ่อายุเป็นร้อยปี
เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้สร้างบนเขา
ต้นไม้ต้นใหญ่ๆยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ทั่ว
เป็นที่สดชื่น แก่ผู้ที่มาพบเห็น
บางมุมก็ชวนนั่ง ชวนดู
ให้คนไข้และญาติได้พักผ่อนหย่อนใจ
นั่งรอคิวเรียกชื่อรับยา
ได้ซักถามเภสัชกรเรื่องกินยาอีกหลายกระบวน
จนป้าถึงบางอ้อ
รับยาใส่ถุงผ้าที่เอาไปเอง
(โรงพยาบาลงดให้บริการถุงพลาสติกมานานแล้ว)
ได้เวลากลับบ้านเมื่อเกือบ 4 โมงเย็น
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
พึ่งยา พึ่งหมอ คือปลายเหตุ
เหมือนขอยืมจมูกคนอื่นมาหายใจ
ทีพึ่ง ที่พึ่งได้ดีที่สุด คือ พึ่งตนเอง
ให้แข็งแรงปลอดภัย
ทำได้ด้วยตนเอง
สวัสดี
โจทย์ถนนสายนี้มีตะพาบครั้งต่อไป หลักกิโลเมตรที่ 219
อ่านแล้วอดนึกถึงตอนพา สว. ที่บ้านไปหาหมอไม่ได้
จะมีบทสนทนาระหว่างคุณหมอกับคนไข้ประมาณนี้เลยค่ะ 555
เป็นกำลังใจให้แม่ตะลีสุขภาพแข็งแรงนะคะ