อายุปูนนี้แล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาว
ผ่านทุกข์โศกเศร้าเหงารักมามากมาย
ซึ่ง บางครั้งทุกข์นั้นหนักหนาสาหัส
........ยากจะลบลืม
แต่....ความรู้สึก เวลา วัย
สามารถผ่อนคลายทุกข์เหล่านั้นให้เลือนลบได้
บางครั้งนึกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยทุกข์เรื่องใด
ลืมไปแล้ว
มีความทุกข์หนึ่งที่ไม่เคยลบลืมไปจากใจ
พอแวบมา น้ำตาไหลพรากๆทุกครั้ง
>>>>>>
คือเมื่อแม่ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการแน่นอกหายใจเหนื่อย
ตรวจพบว่าเส้นเลือดหัวใจอุดตัน ๔ เส้น
เป็นเส้นใหญ่ ทำบายพาสไม่ได้
แม่อายุ ๘๘ ปี ย่าง๘๙
เดินไม่ได้ เพราะเส้นกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
พอเข้าโรงพยาบาล แม่กินอาหารไม่ได้
กินอะไรไปก็อาเจียนออกหมด
จนต้องให้อาหารทางสายยาง
เวลาหลับแม่ก็จะเผลอดึงออก
ใส่ใหม่ยิ่งยาก แม่ช่วยกลืนไม่ค่อยได้
พยาบาลก็ฉุน ดุ ... แม่บอก
แล้วก็สอดลงใหม่
>>>>>>>>>
สภาพร่างกายแม่ไม่พร้อมจะทำบายพาส
ต้องออกจากห้องกึ่งวิกฤต
เพราะหมอให้ออก บอกว่ามีผู้ป่วยที่วิกฤตกว่าทั้งที่แม่ก็อาการไม่ดี
ให้แม่ไปอยู่ห้องรวมโรคหัวใจ
>>>>>
ก่อนใส่ท่ออาหาร แม่พูดคุยยิ้มได้ หัวเราะได้กับลูกหลานและคนมาเยี่ยม
แต่พอถูกส่งไปที่ห้องคนไข้รวม
แม่อาการทรุด ต้องใส่ท่ออาหาร ท่อช่วยหายใจ
เวลาแม่หลับแม่พยายามดึงสายต่างๆออกโดยไม่รู้ตัว
แม่โดนมัดมือทั้งสองข้างกับเตียง
>>>>
แม่พูดไม่ได้ แต่ทำเสียงพอฟังออก....แม่น้ำตาไหล
ปากแม่แห้งเพราะต้องใส่ท่อช่วยหายใจทางปาก
หมอห้ามให้น้ำ .....แม่ทำปากออกเสียงว่าหิวน้ำ
แต่พยาบาลห้ามไม่ให้เราให้
>>>>
แม่ส่ายหน้าตลอด....จับมือทุกคนที่ไปเยี่ยม...น้ำตาไหล
น้ำ....น้ำ...แต่ไม่มีใครกล้าให้ .....เพราะหมอห้าม
เพียงสองสัปดาห์ จากคนแก่ที่พูดเก่งหัวเราะได้
ก็สิ้นใจด้วยคราบน้ำตา และคำว่า.....หิวน้ำ

คนที่ยังร้องไห้อยู่จนถึงวันนี้
คือ.....เราเอง
ที่นึกถึงคราใด
ทุกข์นั้นไม่เคยลบลืม

แก่ตัวเองครับ แหะ ๆ ผมเองก็ยังมีอยู่บ้าง พยายามอยู่
v