คิดไปเขียนไปตามสไตส์...แม่บุญ.....
Welcome to my little world .....
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
13 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
ฝึกงาน..ในร้านอาหารฝรั่งเศส ที่เบลเยียม 3





ฝึกงานภาคสอง


หลาย ๆ คนคงมึนกับการอ่านฝึกงานภาคแรกที่แม่บุญเกิดอาการมันในอารมณ์ เขียนซะยาวเป็นกิโลเมตร เวลาอารมณ์มันมาแล้วเบรคไม่อยู่ เพราะหากเขียนต่อวันอื่น กลัวมันไม่ต่อเนื่องในอารมณ์เดียวกัน ศิลปินไปหน่อยหรือเปล่าไม่รู้ ? แต่มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ


มาต่อ...ฝึกงานร้านที่สอง ที่มาที่ไปก็คือ เพื่อนซี้ของมิเชล ที่เรียนโรงเรียนทำอาหารมาด้วยกัน แกชอบตระเวนกินอาหารตามร้านมีชื่อ กินแล้วก็จะมาเล่าว่าที่ไหนอร่อย ที่ไหนแย่ แกเป็นลูกค้าอาหารไทยของแม่บุญด้วย เมื่อปีที่ผ่านมาพึ่งไปทำอาหารเลี้ยงครบรอบหกสิบปีให้แก อาหารไทยนั่นแหละ งานนั้นแขกขอห่อกลับบ้าน แบบไม่มีการเขิน พอดีกล่องหมดเลยชวดไปหลายคน


วันหนึ่ง..แกไปกินข้าวที่ร้านอาหารของอดีตนักเทนนิสชาวเบลเยียม ที่พึ่งลาวงการเพราะหมอสั่งห้าม เธอ..เคยเป็นมือหนึ่งของโลกด้วยนะ ที่เบลเยียมไม่ไกลจากบ้านแม่บุญ มีคลับเทนนิสไฮโซของเธอเปิดรับสมาชิกมีกะตังค์ทั้งหลาย พร้อมลูกหลานที่ชอบเล่นเทนนิส เทรนกันตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบก็มี นอกจากจะมีสนามฝึก เล่น แล้วยังมีร้านอาหารอีกด้วย


เพื่อนของมิเชล ชอบไปกินเพราะรู้จักกับเชฟลูกครึ่งเบลเยียม อิตาเลียโน ที่มีฝีมือในการทำอาหารอร่อยไม่แพ้เชฟชื่อดังคนอื่น ๆ เชฟคนนี้เขาชอบการแกะสลักผัก ผลไม้ของไทย ไม่รู้คุยกันท่าไหน เพื่อนซี้มิเชลบอกแกว่า แม่บุญ..แกะสลักผักได้สวยงาม แถมทำอาหารไทยได้เสียด้วยนะ เชฟ..ได้ยินก็หูผึง ไปเรียกตัวมาคุยกับฉันหน่อย ..


ช่วงนั้นแม่บุญกำลังเล็งหาร้านอาหารสำหรับฝึกพอดี เข้ากันราวกับนัดเอาไว้ ตกลงเลยไปคุยกับเชฟ..บอกแกว่าไปฝึกมาจากร้าน...แล้ว แกบอก..ฉันรู้จักดี เพราะฉันนี่แหละเป็นเชฟคนแรกที่นั่น และเป็นคนวางแผนผังครัวทั้งหมด อ้าว..จุดใต้ตำตอ..จนได้ แกว่า..บางทีห้องจัดเลี้ยงที่นี่ไม่พอ ยังไปขอเช่าสถานที่ร้านแรกที่แม่บุญไปฝึกอีกด้วย งานนี้เข้าล็อค แกโทรไปคุยกับเจ้าของร้าน และเชฟรูปหล่อ พอได้รับการการันตี..แกก็รับแม่บุญให้ไปฝึกงานด้วยทันที..


ร้านอาหารขนาดสามสิบห้าที่ภายในห้อง และด้านนอกระเบียงรับได้อีกรวมแล้วเกือบ ร้อยที่ ใหญ่กว่าร้านแรก ที่ร้านนี้เขาทำอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ฝรั่งเศส..และไทย ตอนแม่บุญไปฝึกงาน เพื่อเป็นการทดลองว่ามันจะเป็นยังไง


วันแรกที่ไปถึง เชฟ..แนะนำให้รู้จักกับ เบน..เชฟหนุ่ม ร่างสูงโปรง เป็นคนฝรั่งเศส เรียนจบด้านอาหารมาจาก Marseille และตระเวนออกหาประสบการณ์จากร้านอาหารหลาย ๆ แห่ง เชฟเบน..ไม่ค่อยยิ้ม พูดน้อย แต่ใจดีมาก วันแรกที่ไปถึง เชฟเบนบอกว่า เชฟใหญ่..บอกมาแล้วว่าแม่บุญจะมาฝึกงาน และยินดีให้ความรู้เท่าที่จะให้ได้ ให้แม่บุญเรียนรู้ด้วยตัวเอง ทั้งจากการดู การทำ แล้วแต่หัวสมองของแม่บุญจะรับไหว


ในครัว..มีลูกมือเชฟอีกสองคน คนอ้วน..พูดเสียงดัง ชอบข่ม เอาเสียงเข้าว่า ผิดหรือถูกเสียงดังไว้ก่อน อีกคนช่วยทั่ว ๆ ไป เหมือนแม่บุญทำที่ร้านแรก เชฟเบน.เรียกแม่บุญไปอยู่หน้าเตากับเชฟ..โอ้ ลันลา ..อะไรจะให้โอกาสกันปานนั้น แม่บุญอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ ที่โชคดีเสียนี่กระไร ขนาดฝึกงานยังให้ไปอยู่ใกล้ ๆ ดูว่าเชฟทำอะไร ยังไง เพราะร้านอาหารส่วนมาก เขาไม่ให้เด้กฝึกงานเข้าใกล้เตาหรอก


เชฟคนแรก..แกจะเข้าครัวเฉพาะเวลามีงานสำคัญ ๆ เพราะแกมีงานมากมาย เลยเน้นไปกับการติดต่อลูกค้า รับจัดงานเลี้ยง เสนอเมนูต่าง ๆ ให้ลูกค้าเลือก เพราะชั้นบนโรงฝึกเทนนิส ยังแบ่งออกเป็นห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ กลาง เล็ก อีกสามห้อง


เหมือนถูกลองของอีกครั้ง เชฟอ้วน..ให้แม่บุญไปช่วยทำอาหารจานแรก เป็นพวกสลัดต่าง ๆ มากมาย บางครั้งก็ทำถูก บางครั้งก็งง ว่าอะไรวะ ? ไม่เคยได้ยิน เวลาทำถูกก็ดีหรอก แต่เวลาทำผิด เชฟอ้วน..แกจะพูดดัง ๆ ให้คนในครัวทุกคนได้ยินว่า ที่โรงเรียน..เขาไม่สอนเหรอ ? หรือ เธอเรียนมายังไง ? โถ.พ่ออ้วนจ๋า ..อยากให้ไปเรียนภาษาไทย ที่เมืองไทย แล้วไปเรียนทำอาหารไทย แล้วก็ฝึกงานในร้านไทยดูบ้างจัง พ่อจะทำยังไงกับอาหารไทยมากมายหลายอย่าง ที่เรียนมามันก็แค่เรียนเบื้องต้น จะให้รู้ลุกซึ้งไปเสียหมดทุกอย่าง ก็คงสอบได้เกินร้อยแล้วแหละ


เชฟเบน..ฟัง ๆ ๆ อย่างเดียว ที่สุดเชฟเบนบอกว่า มาทำกับฉันนี่ดีกว่า ฉันมีงานเยอะแยะ ปลายังไม่ได้ย่าง เนื้อยังไม่ได้หั่น ซอสยังไม่ได้เคี่ยว ฯ ตกลงแม่บุญก็เดินไปอยู่หน้าเตากับเชฟเบน อย่างที่บอกว่าร้านนี้ เขาทำอาหารหลายอย่าง บางครั้งต้องย่างพวกผักต่าง ๆ ไว้ก่อนให้สุกครึ่งหนึ่ง เวลาแขกสั่งจะเอามาย่างต่อ จะได้เร็วขึ้นและไม่เสียเวลา เชฟเบนชอบให้แม่บุญหั่นผัก ย่างผัก แกบอกว่าทำสวย แม่บุญมาสังเกตุทีหลังว่า เชฟ..แกช่วยแม่บุญ ไม่อยากให้ถูกเชฟอ้วนว่า คงกลัวหอบผ้ากลับบ้านก่อนฝึกจบ ..ใจดีแบบไม่พูดไม่จา..


อาหารเมดิเตอร์เรเนียน จะเน้นที่ความสดของอาหารทะเลต่าง ๆ จะใช้การย่างเป็นส่วนมาก ผักก็ย่าง แล้วราดด้วยน้ำมันมะกอก มีบ้างที่เอาใบโหระพาฝรั่งมาปั่นรวมกับผักชนิดอื่น ๆ ผสมกับน้ำมันมะกอก พริกไทย เกลือ น้ำส้มสายชูนิดหน่อย เอาไว้ราดรอบ ๆ จานให้สีสวย เป็นอาหารจานสุขภาพที่ผู้หญิงชอบสั่ง เพราะไม่หนักกระเพาะเกินไป


ส่วนอาหารพวกเนื้อสัตว์อื่น เขาก็ทำ ซอสที่ทำมีทั้งทำจากไวน์ขาว ไวน์แดง ขึ้นอยู่กับชนิดของเนื้อสัตว์ที่จะใช้ แต่ร้านนี้เขาจะใช้เนื้อเป็นชิ้น ๆ ไม่มีการยัดไส้ ม้วนไปม้วนมาเหมือนร้านแรก ดู ๆ ว่าจะง่ายกว่าที่ร้านแรกด้วยซ้ำไป มีแตกต่างก็ที่การทำอาหารจากสัตว์ป่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่จะมีเนื้อกวาง เนื้อไก่ฟ้า เก้ง ฯลฯ แต่แม่บุญไม่ชอบกินเลย เพราะกลิ่นแรง เหม็นสาบ ๆ อาหารพวกนี้ส่วนมากจะทำซอสจากไวน์แดง เพื่อให้กลบกลิ่นสาบต่าง ๆ


เวลาทำอาหาร เชฟเบน จะเรียกไปยืนใกล้ ๆ แล้วแกจะอธิบายหมดไส้หมดพุง ไม่มีการอมความรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น แกบอกว่าถ้าแม่บุญทำได้ แกจะภูมิใจกับการสอนของแก นั่นคือรางวัล ..คิดได้ไงนะ เราทำงานกันด้วยดี เข้ากันเป็นปี่กับกลอง วันหนึ่งเชฟใหญ่..เข้ามาในครัว เห็นแม่บุญยืนย่างเนื้อ แกแแปลกใจ ถามว่า เชฟเบนให้มายืนหน้าเตาเลยรึ ? แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก


เวลามีงานจัดเลี้ยง ...งานช้าง เพราะไหนจะภัตตาคาร ไหนจะห้องจัดเลี้ยง ภายในครัวแคบไปถนัดตา งานนี้เชฟใหญ่ จะลงมาลุยด้วย แม่บุญเรียนรู้เรื่องการทำงานแข่งกับเวลา เพื่อที่จะเสริฟอาหารให้ร้อน จนถึงปากแขก อุปกรณ์ครัวมากมาย โต๊ะ ..ตู้ ที่สามารถปรับระดับความร้อนที่ต้องการ เพื่ออุ่นจานให้ร้อนตลอด ราวไฟฟ้าที่ส่องมายังจานอาหารเวลาจัดเสริฟ หากไม่ระวังก็โดนดาดกันเป็นแถว


ในห้องครัว..เวลามีแขกเยอะ ๆ เครียดอย่าบอกใคร เพราะไหนจะฟังคำสั่งจากเชฟ ไหนจะต้องดูอาหารจานที่เราทำ เตรียมจานต่อไป กระโดดไปช่วยคนอื่น มันส์เป็นบ้า แต่เหนื่อยสุด ๆ เวลากลับถึงบ้าน ทำงานรอบเช้าไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นรอบเย็น ช่วงเทศกาลคนเยอะ ๆ เหงื่อไม่รู้มันมาจากไหน ร้อนไปหมด มือไม้..ใครรักสวยรักงาม อย่ามาทำเลย มันไม่เหลือความสวยหรอก เครื่องประดับต่าง ๆ ต้องถอดออกหมด ยกเว้นแหวนแต่งงาน เพราะฝรั่งเขาเคร่งครัดเรื่องอนามัย เดี๋ยวแหวนเพชร ตกใส่ในชามซุปแขก มันจะไม่สะอาด เพราะเชื้อโรคจากแหวน..ว่าไป ตำราเรื่องนี้หนาปึีก ..แม่บุญยังเก็บไว้หมด สักวันหากมีเวลามากกว่านี้ว่าจะแปลเป็นไทย พิมพ์ออกขายเสียหน่อย ..ความคิดดีไหม ??


มีอยู่วัน ต้องทำจัดเลี้ยงกว่าร้อยคนคน จัดในห้องจัดเลี้ยงใหญ่ เป็นเนื้อกวาง..ทำเลี้ยงคนสูงอายุ เนื่องในงานอะไรสักอย่าง วันนั้น แม่บุญกับเชฟเฉพาะกิจ ดาร์วี่ ..เชฟสำหรับงานจัดเลี้ยงโดยเฉพาะ เราจัดเตรียมข้างของ อาหารจานแรก ยันของหวาน ที่โรงงานซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้าน จริง ๆ ไม่ใช่โรงงานแบบบ้านเรา แต่เป็นห้องครัวขาดใหญ่มาก ๆ อุปกรณ์ครบครัน ห้องเย็นขนาดใหญ่ ก็อยู่ที่นั่น เราเริ่มเตรียมอาหารกันตั้งแต่สิบโมงเช้า กว่าจะเสร็จล่อไปเกือบสี่โมงเย็น จากนั้นขนอาหารทั้งหมดไปที่ร้าน ที่ห้องจัดเลี้ยง


ตอนที่เตรียมเนื้อกวาง แม่บุญคิดในใจแล้วว่า ทำไม เชฟดาร์วี่ ไม่ทำให้สุกก่อน 50% พอใกล้เวลาค่อยเอาไปเข้าตู้อบ ๆ ต่อ มันจะใช้เวลาน้อยกว่า เพียงแต่คิดไม่กล้าพูด กลัวเขาหาว่ารู้ดี...เสือก.อะไรทำนองนั้น หลังจากเสริฟอาหารจานแรก เชฟดาร์วี่ บอกให้แม่บุญเอาเนื้อใส่เตาอบครั้งละ 50 ชิ้น อุณหภูมิ เตาอบเปิดไว้ที่ 250 °c แต่เพราะเนื้อมีปริมาณมาก และพึ่งเอาออกมาจากตู้เย็น งานนี้อุณหภูมิเตาอบมันลดฮวบ แม้ว่าจะเป็นเตาใหญ่แบบเคลื่อนที่ อบกันเข้าไป จะถึงเวลาเสริฟแล้ว เนื้อยังไม่สุก แม่บุญนึกในใจ...ว่าแล้วเชียว งานนี้มีลุ้น


เชฟดาร์วี่ เริ่มหน้าเสีย เหงื่อแตก เนื้ออีกมากมายหลายชิ้น ยังนอนเลือดเยิ้มในถาด กับเวลาที่จะต้องเสริฟอีกไม่ถึงสิบห้านาทีข้างหน้า มือไวเท่าความคิด แม่บุญบอกว่ารอไม่ได้แล้ว เอาเตา Induction ที่มีห้าอันในห้องเก็บของมาตั้ง กะทะห้าอันเรียง ใส่เนย เร่งไฟ ..จับเนื้อใส่ ทอดกันในห้องเตรียมนั่นแหละ เชฟไวไม่แพ้กัน ใช้มือหยิบเนื้อลงทอด เสียงน้ำเลือด กับเนย ร้อน ๆ ฉ่า ๆ ๆ ดังไม่ขาดระยะ งานนี้ไม่มีการคุย ลุยกันสองคน ลูกมืออีกสองคน คอยตักใส่จาน ที่เตรียมผักต่าง ๆ ลงไว้ก่อนแล้ว ระหว่างนั้นก็คอยเร่งไฟเตาอบ ๆ ส่วนที่เหลือ งานนี้เสร็จทันเวลาแบบเส้นยาแดง…เชฟมองแม่บุญ..แม้ไม่ได้เอ่ยออกมาก็รู้ว่า ..เชฟขอบคุณ ที่หัวไว มือไว เหมือนลิง แก้สถานการณ์ไปได้ บอกแล้วไง…ไทย..จงเจริญ


มีเนื้อกวางบางส่วนที่ถูกทิ้งเหลือกลับมา เนื่องจากบางคนไม่กินเนื้อที่ยังแดงอยู่ อีกอย่างคนแก่ เขาไม่กินดิบ ๆ เหมือนหนุ่ม ๆ สาว ๆ ของหวานที่ทำมีสามอย่างในจานเดียวกัน จานนี้ไม่เหลือร่องรอย เพราะคนแก่ชอบกินของหวานอยู่แล้ว อยากจะบอกว่า ประสบการณื..สำคัญมาก เพราะเมื่อต้องทำอาหารเลี้ยงคนจำนวนมาก มันไม่เหมือนกับเตรียมให้คนสองสามคนกิน อะไร ๆ มันต้องคำนวนแม้แต่เวลาที่ใช้ในการปรุงอาหาร ต้องให้พอดีกับระยะเวลาการเสริฟ


ตอนทำงานโรงแรม..งานเอกสารทั้งนั้น ทั้งรายงาน ฯลฯ แม่บุญต้องขอขอบคุณอาชีพเก่าที่ทำ ที่ทำให้ต้องคิดวางแผนล่วงหน้าในหัวสมองอยู่เสมอ งานสำคัญ งานด่วน ต้องแยกให้ออก การวางแผนงานทำอะไรก่อนหลัง ทั้งหมดแม่บุญนำมาประยุกต์ใช้กับการวางแผนการจัดเลี้ยง การบริหารเวลาให้ลงตัว ฝรั่งไม่กินอาหารแบบไทย อาหารไทยไม่ได้ปรุงแบบฝรั่ง มันต้องหาความลงตัวให้ได้ ระหว่างความแตกต่างของสองสิ่ง หากขาดประสบการณ์แล้ว..กลับไปนอนนับดาวที่บ้านได้เลย



ในงานจัดเลี้ยงอีกหลายงาน แม่บุญ..ถูกเรียกไปช่วยงานเชฟ ดาร์วี่ เสมอ ๆ กับเชฟเบน ..เวลาไม่มีงานเลี้ยง แม่บุญชอบทำกับเชฟเบนเช่นกัน แต่กับเชฟอ้วน แม่บุญจะพยายามเลี่ยงให้มากที่สุด โรงงานที่ว่า เป็นส่วนหนึ่งของร้านที่ไม่สามารถทำอาหารมากมายสำหรับงานจัดเลี้ยงทั้งหมดได้ เขาเลยไปเช่าสถานที่ ไม่ไกลจากร้านอาหาร ทำครัวขนาดใหญ่พร้อมห้องเย็นขนาดยักษ์ และมีเชฟเฉพาะกิจชื่อ ดาร์วี่ ที่ว่านั่นแหละ เราจะเจอกันเวลามีงานจัดเลี้ยงเท่านั้น บางครั้งแกจะให้แม่บุญทำผัดก๋วยเตี๋ยวด้วยหมี่เหลือง ครั้งหนึ่ง..แม่บุญหมักเนื้ออกไก่ ด้วยน้ำปลา พริกไทย ทิ้งไว้นานครึ่งวัน แล้วเอาไปย่างพอให้สุก เนื้อไก่ยังคงนุ่มใน เอามาหั่น ใส่ลงใปในสลัด ดาร์วี่..ถามในเวลาต่อมาว่า ...ทำยังไง ?? อร่อยมาก ขอสูตรหน่อย อิ อิ ตกหลุมเราอีกตามเคย


แล้ววันหนึ่ง เชฟใหญ่…เดินมาบอกว่า ให้เตรียมเมนูอาหารไทย ไว้ เราจะทำกันอาทิตยืหน้า…โอ้..ลันลา เอาจริงหรือนี่ ..เล่นเอาแม่บุญนอนแทบไม่หลับ…
จะทำอะไรดี .. ???






Create Date : 13 มิถุนายน 2554
Last Update : 28 ธันวาคม 2556 0:11:41 น. 26 comments
Counter : 1937 Pageviews.

 
มาเจิมเอง ดูว่ายาวววววว..อีกแล้ว แต่ถ้าตัดออก มันไม่ต่อเนื่อง ทน ๆ อ่านหน่อยนะคะ ทุก ๆ ท่าน


โดย: Maeboon วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:1:50:08 น.  

 
เจิมมั่ง อิอิ


โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:2:29:26 น.  

 
โห..อ่านเที่ยวนี้เสร็จ ไม่อยากทำอาหารแระ มันไม่เหมือนทำกินเอง หรือทำกินกันแค่เป็นกลุ่มๆเนอะ

ต้ิิองคิดเผื่อเอาไว้ทู๊กอย่างเลยนั่น และแม่บุญต้องชิมเนื้อทุกอย่างด้วยป่าวคะ และถ้าเป็นเนื้อที่ไม่ชอบทำไงอ่ะ



โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:2:32:40 น.  

 
อ่าว...ยาวต่อเนื่องรู้เรื่อง รู้ราวดีคครับแม่บุญ
อรุณสวัสดิ์์ครับแม่บุญ


โดย: panwat วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:7:54:51 น.  

 
แหงะ เห็นไปชวนมาอ่านบาหลี แต่ไม่ได้ตั้งหน้าหลักเหรอคะ? ขอลิงก์หน่อยจิคะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:8:29:28 น.  

 
แม่บุญเสียอย่างสบายไปแปดอย่างฮิฮิฮิ แล้วอย่างลืมพักผ่อนบ้างน่ะค่ะ และได้มีแรงไปสู้กับเชฟอ้วนต่อคงต้องผอมเพราะแรงต้านกับแม่บุญแน่ ๆ ๆ 555


โดย: กุ้ง (kungviyada ) วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:8:47:50 น.  

 
แค่อ่านยังเหนื่อยแทนค่ะ และลุ้นระทึกตอนพี่ไก่ไปช่วยเชฟดาร์วี่ ขนาดเชฟดาร์วี่ยังพลาดได้ ถ้าไม่ได้พี่ไก่ช่วยแก้สถานการณ์ให้เชฟดาร์วี่คงได้ตกงาน นึกถึงนิทานอีสปเรื่องหนูกับราชสีห์ เพราะปฎิภาณไหวพริบของพี่ไก่แท้ๆ ทำให้แก้ปัญหาทำอาหารได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปดจริง

มิน่าเวลาไปทานอาหารที่ร้าน เวลาสั่งสเต๊ก ยังคิดว่าทำไมถึงทำอาหารได้เร็วจริงๆ เพราะเขาทำเนื้อให้สุก 50% ก่อนนี่เอง

บุคคลิกของเชฟอ้วน ทำให้นึกถึง Gordon Ramsay จัง

เห็นด้วยอย่างยิ่งเรื่องการจัดลำดับความสำคัญของงาน สามารถนำไปใช้ได้กับทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งงานบ้าน+55


โดย: ทิพย์ IP: 122.105.236.118 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:10:08:51 น.  

 
มาแล้วค่ะแม่บุญ
ชอบอ่านเรื่องเล่าของแม่บุญนะคะ ทั้งสนุก น่าติดตาม และน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกันค่ะ
ฝรั่งไม่ได้เก่งทุกเรื่องค่ะแม่บุญ บล๊อกนี้อ่านแล้วก็รู้ว่าคนไทยไม่น้อยหน้าใครในโลกนะจ๊ะ


โดย: เนินน้ำ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:10:45:31 น.  

 
อ่านประสบการณ์แม่บุญสนุกจังเลยค่ะ เชฟเบนน่ารัีกอ่ะ ส่วนเชฟอ้วนเค้าคงกลัวคนอื่นไม่รู้ว่าตัวเองเก๋าหรือเปล่า แต่แม่บุญเก่งจังค่ะ หัวไวด้วย มิน่าล่ะเชฟเบนถึงให้ไปยืนหน้าเตาเลย เย้ๆ คนไทยก็เก่งแบบนี้แหละ


โดย: Close To Heaven วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:11:13:18 น.  

 
ตามมาอ่านต่อจ้าแม่บุญ อ่านสนุกค่ะ จะเขียนยาวแค่ไหนก็จะมาอ่านค่ะแม่บุญ เชฟเบน น่ารัก เหมือนที่คุณบุ๊งพูดจริงๆค่ะส่วนเชฟอ้วนก็นะ อิอิ
ปล.วันนี้ เอาเอแคร์มาฝากแม่บุญด้วยจ้า สดๆใหม่ๆจากเตาจ้า


โดย: phunsud วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:13:58:36 น.  

 
ตามมามันส์ + ฮากับภาคสอง
อ่านไม่ทันไร ว๊าาาา จบซะละ
ไหวพริบกับความสามารถไม่ใช่ว่าจะมีกันทุกคน อันนี้ขอปรบมือให้ค่าาาาา

มาต่อเร็ว ๆ น๊าแม่บุญ เดี๋ยวคนรอจะรอไม่ไหว


โดย: Yui IP: 203.144.211.51 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:14:26:07 น.  

 
ท่าทางภาคสองเชฟเบนหนุ่มโสดจะเป้นพระเอก โดยมีเชฟอ้วนเป็นตัวร้าย แต่นางเอกดันไม่ใช่แม่บุญ...นั่นสิ มันน่านะ

เชฟเขาไม่ได้ชิมเนื้อทุกชิ้นค่ะ ชิมเฉพาะซอสต่าง ๆ เวลาย่างเนื้อเขาจะย่างให้สุกตามที่ลูกค้าต้องการ สุกมาก น้อย แล้วแต่คนชอบ ย่างเสร็จยกใส่จานโลด

เรื่องไหวพริบในครัว..มันจะเพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ค่ะ ทำมากก็รู้มาก แก้ไขสถานการณ์ได้มาก บางทีจับแพะชนแกะได้เมนูใหม่อีกก็มี อันนี้แม่บุญลองบ่อย ๆ อิ อิ


โดย: Maeboon วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:15:20:40 น.  

 
ตามมาอ่านบันทึกฝึกงานของแม่บุญต่อค่ะ
ได้ความรู้ดีมากๆ เป็นประสบการณ์ชีวิตจริงๆ
โอ้โห เชฟใหญ่เดินมาบอกให้เตรียมเมนูอาหารไทย
ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ งานนี้จะได้โชว์ฝีมือนะคะ

สุดสัปดาห์ทีผ่านมาไม่ได้เข้าเน็ตเลย เพราะไปเที่ยวนอกเมือง
วันนี้มีดอกไม้มาฝากแม่บุญค่ะ



โดย: diamondsky วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:15:28:19 น.  

 




สุขสันต์จันทร์แจ่มใสค่ะแม่บุญ
*****แม้วันนี้มิใช่วันของเรา....พรุ่งนี้คงใช่ *****





โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:15:38:37 น.  

 
แวะมาทักทายยามค่ำค่ะ

อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลยนะคะ


ขอบคุณที่แวะไปทักทายนะคะ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ


โดย: luckyfarm6662 วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:19:49:04 น.  

 
ลืม..ต้องแก้ความเข้าใจกับน้องทิพย์เรื่องการย่างเนื้อก่อน จริง ๆ แล้วเนื้อทำสเตีกที่เสริฟแขกชิ้นไม่ใหญ่ และไม่ได้ย่างจำนวนมาก ๆ เหมือนเวลามีงานเลี้ยง จึงไม่ได้ย่างไว้ก่อน เขาจะย่างเฉพาะเวลามีออเดอร์เท่านั้น เพราะหากย่างไว้แล้วไม่มีแขกสั่ง เก็บไว้ในตู้เย็น น้ำจากเนื้อจเซึมออกมาจากความรัอนที่ปรุง หลังจากนั้นหากนำมาทำขาย มันจะแข็ง กินแล้วจะรู้ทันทีว่าเนื้อเก่า ไม่ใช่เนื้อใหม่ ๆ จ้า ที่เขาเสริฟได้เร็วเพราะการย่างสเต๊ก ต้องไม่ย่างนาน เนื้อจะเหนียว
เนื้อเป็ดก็เช่นกัน หากปรุงสุกมากเกินไปเนื้อจะเหนียว ให้มีสีแดงนิด ๆ จะอร่อยกว่า อันนี้ว่ากันแบบฝรั่งนะ ไม่เกี่ยวกับการปรุงแบบไทยจ้า


โดย: Maeboon วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:23:37:13 น.  

 
สวัสดีค่ะแม่บุญ...เข้ามาตามอ่านย้อนหลังๆๆๆ นิวัยคนไม่มีเวลาเท่าไหร่..งไอ้หมี่เหลืองที่แม่บุญเอามาผัดนี่เค้าเรียกหมึ่อะไรหน่ะ อยากรู้ๆๆ ขอภาพปลากรอบด้วยนะคร๊ะ?
ขอบคุณค่ะ


โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ วันที่: 13 มิถุนายน 2554 เวลา:23:58:49 น.  

 
หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่ว ๆ ไปค่ะ ไม่มช่มาม่า แน่นอน ที่ซื้อมาแม่บุญไปซื้อมาจากร้านจีน มันไม่มียี้ห้อค่ะ จะลองหาดูเผื่อมีเหลือ รอนะคะ


โดย: Maeboon วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:1:38:55 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย เกือบเข้าใจผิดไปแล้วเรา สบายใจขึ้นด้วยได้ทานอาหารที่ปรุงใหม่ๆ


โดย: ทิพย์ IP: 122.105.236.188 วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:5:34:59 น.  

 


โดย: Maeboon วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:20:58:20 น.  

 
ตามมาฝึกงานกับแม่บุญค่ะ
แค่อ่านอย่างเดียวก็เหนื่อย(แทน)แล้ว
ให้ทำเองจริงๆคงตายไปเลยค่ะ


โดย: AdrenalineRush วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:5:50:58 น.  

 
หนูหนึ่งมีใจชอบทำอาหารและสามารถทำได้หลาย ๆ อย่าง อันนี้เป็นข้อดีอันแรก แต่ไม่รู้ว่าหากต้องทำทุกวันและทำให้คนเยอะ ๆ กินจะไหวไหม? เหนื่อยจริง ๆ จ้า


โดย: Maeboon วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:12:31:25 น.  

 
มาอีกรอบค่ะแม่บุญ มาช้าไปหน่อยเพิ่งโงหัวขึ้นมาได้ค่ะ แพ้อากาศอย่างแรง

ป้าโอเป็นแฟนเทนนิสนะคะ ใช่ร้านของเอแน็งรึเปล่าคะ ข่าวว่าเธอมีสถาบันสอนเทนนิส แต่ไม่เคยได้ยินว่าเปิดร้านอาหารด้วย เมื่อปีก่อนก็แขวนแรกเก็ตไปแล้วแต่เมื่อต้นปีก็กลับมาเล่นอีกแต่ข่าวว่าเจ็บค่ะเลยถอนตัว คราวนี้คงจะแขวนแร็กเก็ตไปเลยก็ได้เนอะ



โดย: เนินน้ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:13:54:05 น.  

 
ฟ้าแวะมาทักทาย และส่งยิ้มพร้อมกำลังใจให้แม่บุญคนเก่ง..ฟ้ายินดีที่ได้รู้จัก..มีความสุขมากๆนะคะแม่บุญ



โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:14:01:25 น.  

 
ขอบคุณ ๆ พิรุณร่ำ ที่เอาดอกกุหลาบสวย ๆ มาฝากค่ะ

ใช่ค่ะป้าโอ..เขามีร้านอาหารด้วยค่ะ เชฟใหญ่..ถึงได้ทำอะไรมากมาย เพราะธุระกิจเธอเยอะมาก ตอนนี้กำลังมีความรักกับช่างภาพคนเบลเยียม อีกไม่นานเราคงได้รับข่าวดีกัน


โดย: Maeboon วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:22:37:43 น.  

 
เส้นทางแห่งคุณภาพจริงๆ เลยค่ะ พี่ไก่ใจดีแชร์ความรู้ และประสบการณ์ ที่มันเป็นรูปธรรมแก่น้อง และผู้ที่สนใจจะเลือกเดินสายนี้จริงๆ ขอขอบคุณมากๆ ค่ะ


โดย: ณี IP: 80.60.189.81 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:55:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Maeboon
Location :
กรุงเทพฯ Belgium

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]




แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ


ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ

free counters
New Comments
Friends' blogs
[Add Maeboon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.