1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30
ฝึกงาน..ในร้านอาหารฝรั่งเศส ที่เบลเยียม 4
มาว่ากันต่อนะคะ แล้ววันนั้นก็มาถึง...วันที่แม่บุญตกลงทำอาหารไทย เชฟลงโฆษณาล่วงหน้าสองอาทิตย์ ว่าจะมีวันอาหารไทยหนึ่งครั้งต่อเดือน ตามด้วยว่ามีสอนแกะสลักผักผลไม้ และรับสอนทำอาหารไทย งานนี้มีลงทางหนังสือพิมพ์ท้องถินด้วย ไม่เอารูปมาลงหรอกนะ เขิน.. แม่บุญต้องมานั่งถกกับเชฟใหญ่ เรื่องเมนู เชฟใหญ่เรียกเข้าไปคุยว่าอยากทำอะไร แม่บุญขอคิดและบอกว่า โดยที่ต้องทำคนเดียวทั้งหมด ขอทำเป็นเมนู ๆ เดียว ใคร ๆ มาก็กินเหมือนกันหมด เพราะแม่บุญไม่มีผู้ช่วย แกเห็นด้วยเพราะตอนค่ำที่ร้านคนจะเยอะ คนช่วยคงไม่มี พูดถึงเชฟใหญ๋...แกเคยกินอาหารไทยและบอกว่ามันเผ็ด แม่บุญบอกว่าที่ไม่เผ็ดก็มีตั้งมากมาย ทำไมไม่กิน แกว่าไม่รู้ว่าอันไหนเผ็ด ไม่เผ็ด เคยไปกินมันเผ็ดทุกที เลยเลิกกินมาหลายปีแล้ว ๆ เราก็ถกกันอีกตอนเห็นแม่บุญเขียนรายชื่ออาหารที่จะทำ แกก็ว่า อาหารจานแรกก็กินกับข้าว จานหลักหล่ะ ..มันก็ข้าว ก็คนไทยเรากินข้าวแบบไม่มีอาหารจานแรก จานหลัก อาหารเรียกน้ำย่อย เวลาจะกินก็สั่ง ๆ มาวางแล้วก็กินด้วยกัน พร้อมกันทุกอย่าง ใครชอบกินอะไรก็ตักอย่างนั้น ไม่ชอบก็ไม่กิน นี่ไง..ปัญหา เคยเห็นไหม ? ฝรั่งไปบ้านเรา เข้าไปในร้านอาหารทั่ว ๆ ไป เขาจะสั่งเครื่องดื่มก่อน เด็กเสริฟมักจะไม่คุ้นเคย อาจจะถามต่อว่าจะกินอะไร ? พอฝรั่งสั่งหมดทุกอย่างก็นั่งรอ.....แล้วอาหารก็มา แต่มาพร้อมกันหมด ไม่ว่าจะเป็น อาหารกินเล่น เรียกน้ำย่อย ปอเปี๊ยะเอย ขนมปังหน้าหมูเอ ฯลฯ ฝรั่งเขาไม่เคยกินแบบเรา เขาจะแปลกใจมาก อีกอย่างเขาจะกินอาหารที่ร้อน ๆ แต่หากกินที่ละอย่างเรียงตามลำดับ กว่าจะถึงจานหลักมันก็เย็นพอดี เป็นที่ถกเถียงกันว่าทำไมเสริฟมาทั้งหมดพร้อมกัน .. อีกเรื่อง ฝรั่งเขามีธรรมเนียมกินอาหารพร้อม ๆ กัน ไม่มีการใครมาก่อนกินก่อน มาทีหลังแล้วสั่งใหม่ กินกันได้ตลอด ฝรี่งเขาจะว่าเสียมารยาท..ร้านอาหารฝรั่งอีกแหละ อย่างที่ร้านที่แม่บุญไปฝึกงาน ที่ร้านที่ไปกินข้าวทั่ว ๆ ไป เวลาสั่งอาหารตั้งแต่อาหารกินเล่น เขาจะเสริฟพร้อม ๆ กัน จานแรกก็ต้องพร้อมกัน มาจนจบรายการ ชากาแฟ พร้อมกันหมด คนที่เดินโต๊ะ ดูแลแขกจะเป็นคนมาส่งสัญญานว่า อาหารจานต่อไปจะต้องออกภายในกี่นาที เชฟเองก็ต้องดูแล กะเวลาให้อาหารแต่ละจานออกพร้อม ๆ กัน นั่นเป็นระบบในครัว กลับมาเถียงกับเชฟใหญ่ต่อ แม่บุญก็ร่ายยาวว่า อาหารการกินแต่ละชาติมันไม่เหมือนกัน บ้านยูกินสปาเก็ตตี้เป็นหลัก เพราะเชฟเป็นลูกครึ่งเบลเยียม บวกอิตาเลียน ส่วนคนฝรั่งเศสกินขนมปังบาเก็ต ก็ไม่ได้กินข้าว เหมือนบ้านเรา ทีนี้หากจะกินอาหารไทยมันก็ต้องปรับตัวตามน้ำ จะกินต้มยำกับขนมปังมันก็กระไรอยู่ ตกลงแม่บุญเลยหาทางออก พบกันครึ่งทาง โดยทำ อาหารกินเล่น เป็น ปอเปี๊ยะสด กับ กุ้งห่มผ้า ตามด้วย ต้มยำกุ้ง อาหารจานแรก ยำส้มโอ อาหารจานหลัก คือ แกงมัสมั่นเนื้อ อันนี้พิเศษ คือจะกินกับข้าว หรือจะเลือกเส้นสปาเก็ตตี้ก็ได้ ส่วนของหวาน ทิรามิสุ..ของร้านจ้า แต่แม่บุญเป็นคนทำ เพราะฝรั่งเขาไม่ค่อยกินของหวานแบบไทย จะมีกินก็ ข้าวเหนียวมะม่วง ส่วนสังขยาโรยหอมเจียว เขาไม่กินหาว่าเป็นของหวานผสมของคาว ตัดปัญหาไป ไม่ทำเลยดีกว่า เรื่องจะทำบัวลอยไข่หวาน หรือ ถั่วเขียวต้มน้ำตาล หรือนำเอาพืชใต้ดินมาทำขนม แม่บุญไม่รู้ว่าประเทศอื่นฝรั่งเขากินไหม แต่ที่เบลเยียม ...ไม่กินจ้า ทำจัดเลี้ยงมาเข้าปีที่เจ็ดนี่แล้ว ยังไม่มีใครสั่งสักที เอารูปให้ดู อาหารหวานไทย เขาจะถามว่ามันมีส่วนผสมอะไรบ้าง พออธิบาย เขาจะบอกเลยว่า ขอเปลี่ยนเป็นขนมฝรั่ง...ไม่ว่ากันเนาะ ลางเนื้อชอบลางยา วันที่จะทำอาหารไทย แม่บุญตื่นเต้นสุด ๆ หัวใจมันเต้นระบำแข่งกัน เพราะลุ้นว่าจะมีคนสั่งไหม ? หลังจากทำงานรอบเช้าเสร็จบ่ายสอง แม่บุญไม่กลับบ้าน เอาไก่มาต้มน้ำซุปไว้ หั่นเนื้อเอาไปเคี่ยวกับหางกะทิ เปิดไฟอ่อน ๆ ให้เนื้อมันค่อย ๆ สุก ส่วนกุ้งก็แกะเปลือก แยกใส่ตู้เย็นไว้เป็นส่วน ๆ อย่างอื่นก็ทำไปตามบอกเชฟไว้ เชฟไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยู่เตรียม เออเนาะ..ถามได้ ไม่เตรียมเองแล้วใครจะมาทำให้ ไม่ใช่อาหารเมดิเตอร์เรเนียน ที่เพียงแต่เอาปลา เอากุ้งออกมาย่าง มาปิ้ง โรยด้วยน้ำมันมะกอก กับสลัดก็เสริฟได้แล้ว ตกลงทุกคนกลับบ้านกันหมด ปล่อยแม่บุญอยู่เตรียมอาหารคนเดียว ชอบนะเหมือนทำสมาธิเลย ใจมันจดจ่ออยู่กับงานที่ทำ จนไม่ได้คิดเรื่องอื่น ตกลงมัสมั่นเนื้อเสร็จไปแล้ว หั่นผักทุกอย่างเตรียมไว้หมดแล้ว เตรื่องเคราครบ หกโมงเย็นวันนั้น แม่บุญออกไปมองบนโต๊ะ ที่เขามีเมนูอาหารไทยเสียบไว้เป็นพิเศษ นอกเหนือจากเมนูอาหารตามปกติ นึกเสียดายอยู่ในใจว่าไม่ได้เอากล้องมาถ่ายภาพไว้ แต่ไม่เป็นไร ยังฝึกงานอีกนาน เขาอาจจะให้ทำอีกก็ได้ ที่เบลเยียมคนเขาจะเริ่มข้าร้านอาหารกันประมาณตั้งแต่หนึ่งทุ่มเป็นต้นไป ดื่มเครื่องดื่มคุยกันแล้วค่อยทานอาหาร ซึ่งจะเริ่มก็เกือบสองทุ่ม ก่อนหน้านั้นก็มีอาหารที่แขกสั่งกันตามปกติ และแล้ว...รีเชฟชั่นสาวซึ่งก็คือ ภรรยาของเชฟใหญ่ เดินเข้ามาบอกว่า มีออเดอร์อาหารไทยสามที่ แม่บุญหูผึ่ง เชฟเบนอมยิ้ม เชฟอ้วนมองหน้าแล้วเหล่ตา ทำหน้าแปลก ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ฮากันว่าเอาแล้วไง..อาหารไทยโดยเชฟไทย....แม่บุญรีบจัดของว่าง ส่งไปรับแขก จัดเสียสวยงามสุดฝีมือ ไม่นานหลังจากนั้น พนักงานเสริฟเข้ามาบอกว่า แขกบอกว่าอร่อยมาก ว้าวววว...อย่าพึ่งหน้าบานไปแม่บุญ อย่าลืมต้มยำจ้า ..กุ้ง..แม่บุญใส่หลังสุดตอนน้ำเดือดจัด ต้มพอให้กุ้งสะดุ้งน้ำก็ยกลง กว่าจะถึงปากแขกกุ้งจะยังร้อนอยู่ แต่ไม่สุกมาก เพราะกุ้งจะแข็งไม่อร่อย ชามนี้...แขกถามว่าใครทำ ?? อันนี้เด้กเสริฟเข้ามาเล่าให้ฟัง อาหารจานแรก ยำส้มโอ...ตามด้วย มัสมั่นเนื้อสปาเก็ตตี้ แม่บุญเดินหน้าบานมือเป็นระวิงเพราะหลังจากนั้นแขก...สั่งมาเรื่อย ๆ สิบสามที่ เดินเป็นลิงขาแทบขวิดเพราะทำเองทุกอย่าง ทุกครั้งพนักงานจะเข้ามาบอกตลอดว่า..แขกชม ของขวัญของคนทำอาหาร..ไม่มีใครไม่ชอบหรอก แม้จะตามมารยาทหรือไม่ก็ตาม สุดท้าย พนักงานเสริฟเดินนำ...คาร์ลอส เทรนเนอร์ของนักเทนนิสหญิง จัสจิน..เข้ามาจับมือกับแม่บุญ เขาบอกว่า อร่อยตั้งแต่อาหารกินเล่น เขาเป็นคนบอกให้เพื่อน ๆ เปลี่ยนมากินอาหารไทยหลังจากชิมก่อนหน้านั้น เขาขอแสดงความยินดีที่ทำได้ดีมาก เหมือนกินอยู่เมืองไทย ถึงได้ขอเข้ามาดูว่าใคร..ทำอาหารไทย เพราะที่นี่ทำแต่อาหารฝรั่ง เชฟเบนยิ้มกว้างเป็นครั้งแรก หอมแก้มแม่บุญแสดงความยินดี ส่วนคนอื่น ๆ ยืนปรบมือให้ จนคุณคาร์ลอส เดินออกไปพร้อมรอยยิ้ม ค่ำนั้นแม่บุญไม่ได้กินข้าวเย็น....เพราะความเหนื่อย มิเชลมารอรับตามเคย คำถามแรกที่ถามคือ เป็นไง ? แต่แกคงพอจะเดาออกตั้งแต่เห็นแม่บุญเดินหน้าบานมาขึ้นรถ ยิ่งพออธิบายให้แกฟังว่า เทรนเนอร์ของจัสตินมากินและพูดว่าอะไรบ้าง แม่บุญได้ยินมิเชลหัวเราะดังลั่นรถ บอกว่า คาร์ลอส..ตกกับดักของแม่บุญอีกคนแล้ว แม่บุญคิดในใจ...ใช่ ให้มันรู้มั่ง ว่าอาหารไทยอร่อยแค่ไหน ?มีมากมายหลายรสชาติยังไง ? ไม่ลองไม่รู้หรอก มีลูกค้าใหม่อีกคน แม่บุญไม่ได้เจอมานานเป็นหลายปี หมอ..สูตินารีแพทย์ ที่ผ่าตัดมดลูกให้แม่บุญ เธอมาทานข้าวกับเพื่อนและชอบอาหารไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เธอบอกว่า วันนั้นนัดเพื่อนไปกินอาหารที่ร้านนั้น เพราะเป็นสมาชิกคลับเทนนิสอยู่แล้ว แม่บุญอดแปลกใจไม่ได้เพราะบ้านเธอไกลมาก แต่ขยันขับรถมาถึงที่คลับเพื่อตีเทนนิสกับเพื่อน คุณหมอมีเทรนเนอร์ประจำตัว และเล่นได้ดีมากทีเดียวแม่บญเคยยืนดูอยู่บนร้าน แม่บุญเคยคุยกับคุณหมอ เล่าให้ฟังว่าทำอาหารไทย รับทำจัดเลี้ยงนอกสถานที่ แต่หมอติดรสมือร้านอาหารไทยที่หนึ่งและยังไม่เคยไปกินที่ร้านอื่น วันนั้นคณรหมอเลือกเมนุอาหารไทยกับเพื่อน กินกันจนอิ่มแล้วถามว่าใครทำอาหารไทย เชฟใหญ่ที่คุ้นเคยกันดีบอกว่า แม่บุญ.เป็นคนทำ คุณหมอร้อง..ว้าย..ตายแล้วคนไข้ฉันเอง มีฝีมือขนาดนี้เลยหรือ แล้วจะมาทำอีกหรือเปล่าจะจองโต๊ะไว้ล่วงหน้า อันนี้เชฟใหญ่เล่าให้ฟังจ้า หลังจากนั้นแม่บุญได้มีโอกาสทำอาหารไทยอีกสองครั้ง ๆ สุดท้าย เพื่อน ๆ ของมิเชลสิบกว่าคน ทำให้แปลกใจโดยการจองโดยไม่บอกแม่บุญสักคำ พอกินกันเสร็จถึงขอให้เขาเชิญเชฟอาหารไทยมาคุยกันหน่อย แม่บุญก็แปลกใจว่าใครกัน บอกว่ารู้จักแม่บุญ ? หลังจากออกไปพบถึงรู้ว่าพวกเขามาชิมและมาให้กำลังใจแม่บุญนั่นเอง น่ารักกันจริง ๆ หลาย ๆ คนที่มาก็คือลูกค้าที่แม่บุญทำจัดเลี้ยงให้พี่บ้านทั้งนั้นจึงรู้จักกันเป็นอย่างดี ถัดจากโต๊ะเพื่อน ๆ ของมิเชล ก็คือโตีะของคุณหมอ มาอุดหนุน และเรียกไปหอมแก้มอีกตามเคย เล่นเอาแขกในร้านมองและยิ้มกันเป็นแถว ภาพเหล่านั้นยังอยู่ในความทรงจำของแม่บุญ และไม่เคยลืมเลย ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าคะแนนภาคสนามของแม่บุญได้มากหรือน้อย ??? เพราะเกี่ยวกับการปฏิบัติจริง การคำนวณอาหารให้ออกมาพอดีกับแขก และไม่เหลือทิ้งมาก รวมถึงระยะเวลาในการทำ การเสริฟ ที่ต่อเนื่อง ลักษณะอาหารที่ทำ อะไรต่ออะไรอีกมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นประสบการณ์ตรง ที่ผู้คนมากมายต้องมานั่งเรียน ก่อนจะนำไปปฏิบัติจริง ซึ่งบางอย่างต้องอาศัยไหวพริบ ประสบการณ์ มาช่วยด้วย วันเกิดครบรอบหกสิบปีของมิเชล มีแขกที่มาในงาน 75 คน เราต้องเช่าห้องจัดเลี้ยงห่างไปจากบ้าน เพราะที่อพาร์เม้นท์ไม่พอใส่คนทั้งหมด แม่บุญทำอาหารต่าง ๆ ดังนี้ ของว่าง ปอเปี๊ยะทอด ปอเปี๊ยะสด ทอดมันปลา ขนมปังหน้าหมู กุ้งห่มผ้า อาหาร แกงเขียวหวานเนื้อ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผัดไทยกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวไก่ กุ้งผัดผงกะหรี่ ของหวาน ทับทิมกรอบ และ ทิรามิสุ อาหารทุกอย่างหมด ไม่มีเหลือ แม่บุญทำอาหารเองทั้งหมดยกเว้นก๋วยเตี๋ยวไก่ ที่ให้รุ่นพี่มาช่วยทำ ช่วยเสริฟ นอกนั้นทำคนเดียวทั้งหมด จะมีคนมาช่วยก็ตอนอุ่นอาหารออกเสริฟแขกเท่านั้น นี่คือผลที่ได้จากการเรียนรู้เรื่องการจัดการ การบริหารเวลา การคำนวณอาหาร การวางแปลนโต๊ะ แผนผังห้อง ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เรียนมาจากโรงเรียน และเราสองคนมานั่งคิด วางแผนว่าจะทำยังไง หากรู้ขั้นตอนที่ว่ามาทั้งหมดแล้ว รับรองว่าจะไม่มีของเหลือทิ้งมากแน่นอน ที่สำคัญ ต้องทำด้วยใจ คนกินเขารับรู้ได้ถึงความตั้งใจของคนทำจ้า ปล. คุณหมอ..มาเป็นลูกค้าประจำของแม่บุญ จัดงานเลี้ยงที่บ้านทุกครั้ง จะให้แม่บุญไปทำอาหารให้ตลอด ที่น่ารักสุด ๆ ก็คือ แม่บุญนัดตรวจภายในได้ทุกเวลาไม่ต้องจองล่วงหน้าครึ่งปีเหมือนคนอื่น ๆ บางครั้งยังตรวจฟรี เสียแต่ค่าเครื่องมือห้องแล้ปที่ส่งตรวจเท่านั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่าหมอมีฝีมือมาก ค่าผ่าตัดภายในครั้งล่าสุดที่พึ่งผ่าให้ภรรยาเก่าของมิเชลคือ 2500 ยูโร หนาวไหม ?? ขอบคุณอาหารไทย ที่ทำให้เรื่องยาก กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น..แต่คราวหน้า หากต้องผ่าตัดอีกครั้ง ต้องเสียตังค์แพงขนาดนี้ แม่บุญ.คงคิดหนัก ..
Create Date : 16 มิถุนายน 2554
29 comments
Last Update : 28 ธันวาคม 2556 0:14:36 น.
Counter : 1899 Pageviews.
โดย: kamaron 16 มิถุนายน 2554 2:31:49 น.
โดย: Tristy 16 มิถุนายน 2554 5:19:24 น.
โดย: Maeboon 16 มิถุนายน 2554 13:42:06 น.
โดย: jeab IP: 80.201.64.177 16 มิถุนายน 2554 14:35:24 น.
โดย: Maeboon 16 มิถุนายน 2554 21:59:53 น.
โดย: เนินน้ำ 17 มิถุนายน 2554 6:35:58 น.
โดย: multiple 17 มิถุนายน 2554 7:38:50 น.
โดย: กุ้ง (kungviyada ) 17 มิถุนายน 2554 8:53:59 น.
โดย: ทิพย์ IP: 122.105.236.40 17 มิถุนายน 2554 11:26:12 น.
โดย: ทิพย์ IP: 122.105.236.40 17 มิถุนายน 2554 19:44:29 น.
โดย: Maeboon 17 มิถุนายน 2554 21:46:55 น.
โดย: IndyLand 18 มิถุนายน 2554 2:41:08 น.
โดย: quilt 18 มิถุนายน 2554 4:55:27 น.
โดย: Maeboon 18 มิถุนายน 2554 22:00:54 น.
โดย: LoveOnly 18 มิถุนายน 2554 22:42:29 น.
โดย: xyz IP: 119.46.16.28 22 มิถุนายน 2554 14:53:35 น.
โดย: ณี IP: 80.60.189.81 29 พฤศจิกายน 2554 15:08:50 น.
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [? ]
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ