|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
สตรีวัดระฆัง
ส.ร.
โรงเรียนสตรีวัดระฆัง สถานที่นี้แต่เดิมกระทรวงทหารเรือ ได้รับอนุญาตจากวัดให้สร้างอาคารไม้จำนวน 3 หลัง เป็นโรงพยาบาลทหารเรือชั่วคราว เมื่อกระทรวงทหารเรือสร้างโรงพยาบาลทหารเรือถาวรที่ปากคลองมอญเรียบร้อยแล้ว จึงยกอาคารเดิมให้แก่วัด และ ได้รายงานไปยังกระทรวงธรรมการ
ในครั้งนั้นขุนวรเวทย์พิสิฐเป็นพนักงานจัดการแขวงตะวันตกเฉียงเหนือ เห็นชอบด้วยในการจัดตั้งโรงเรียนสตรีของรัฐบาลขึ้นในสถานที่แห่งนี้ จึงได้นำความกราบเรียนท่านเจ้า กรมศึกษาธิการและได้กราบเรียนท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ เจ้าคุณพระพิมลธรรม (สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์) ท่านเจ้าอาวาสเห็นชอบด้วย อนุญาตให้ใช้อาคารและสถานที่ เป็นโรงเรียนสตรี กระทรวงธรรมการ จึงได้แล้วจึงประกอบพิธีทางศาสนา เปิดโรงเรียนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457 จึงถือว่าวันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นวันสถาปนาโรงเรียน
ประธานในพิธีคือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร เมื่อครั้งดำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ผู้แทนเจ้ากรมศึกษาธิการ มีนางธนากรภักดี (สว่าง อมรสิงห์) เป็นครูใหญ่คนแรก มีนักเรียน ชั้น ป.1 - ป.3 มีจำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 75 คน ครู 4 คน พ.ศ. 2463 เปิดสอนจนถึงชั้นม. 6 และเปิดสอนชั้นเตรียมอุดมศึกษา ปีที่ 1 แผนกอักษรศาสตร์และแผนกวิทยาศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. 2489
ปัจจุบัน สตรีวัดระฆัง เป็นโรงเรียนสตรีสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดสอนชั้น ม. 1 - ม.6 โดยจัดระดับละ 8 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 48 ห้องเรียน มีนางอารีย์ ชินสุวรรณ เป็นผู้อำนวยการคนปัจจุบัน
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย
Create Date : 06 เมษายน 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 15 เมษายน 2554 13:26:49 น. |
Counter : 3116 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 66 คน [?]
|
ความตั้งใจในการทำบล็อกเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เริ่มต้นด้วยการเขียนถึงถิ่นที่อยู่ในวัยเด็ก ต่อมาเป็นเรื่องเครื่องหมายต่างๆ เรื่องศิลปะ ภาพถ่ายในยุคก่อนๆ อาหารการกิน และอะไรต่อมิอะไรที่ประสบพบเห็น สนใจอะไรขึ้นมาก็อยากรู้ให้มากขึ้น กลุ่มเนื้อหาจึงแตกแขนงไปเรื่อยๆ
|
|
|
|
|
|
|
|