Chicken Farm Baker's Project # 32: Life is always bittersweet : Opera

สวัสดีชาวเพื่อนพี่น้องจ้า การบ้านครั้งนี้ว่าจะไม่ส่งแล้วเพราะหาเวลาทำไม่ได้ซะทีแต่กลัวน้องเช้าจะน้อยใจ แหะๆ เจี๊ยบเลยต้องตัดธุระบางอย่างออก ทำดีกว่า เดือนนี้น้องเช้า @ Chibiasa เป็นโฮสท์ค่ะ โจทย์คือให้หาอะไรขมๆ มาทำขนม ... แต่เมื่อประกอบเป็นขนมแล้วไม่จำเป็นต้องขม ส่วนที่ว่างขมแบบแปลกๆที่น้องเขาแนะนำมามี บอระเพ็ด มะระ สะเดา ฯลฯ เจี๊ยบนึกแต่กาแฟขมอย่างเดียวเลยเลือกกาแฟดีกว่า ช็อคโกแลตก็ขมด้วยนะคะ :: ส่วนเค้กช็อคโกแลตอัลมอนด์ :: มาจากหนังสือ Chocolate Passion สำนักแสงแดดคะ 1. เนยสดชนิดจืดพักให้นุ่ม 30 กรัม 2. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1/4 ถ้วย 3. ผงโกโก้(ไขมัน 22-24 %) 2 ชต. 4. อัลมอนด์บดละเอียด 1+1/3 ถ้วย 5. น้ำตาลไอซิ่งร่อน 1 ถ้วย 6. ไข่ไก่(ฟองละ 65 กรัม) 3 ฟอง 7. ไข่ขาว(ฟองละ 65 กรัม) 3 ฟอง 8. น้ำตาลทรายละเอียด 1 ชต.
:: ส่วนบัตเตอร์ครีมกาแฟ :: 1. น้ำตาลทรายละเอียด 3/4 ถ้วย 2. น้ำ 3 ชต. 3. ไข่แดง (ฟองละ 65 กรัม) 3 ฟอง 4. ผงกาแฟสำเร็จรูป 1 ชต.(ละลายกับน้ำร้อน 1 ชต.) 5. เนยสดชนิดจืดพักให้นุ่ม 200 กรัม
:: ส่วนครีมดาร์กช็อคโกแลต :: 1. วิปปิ้งครีม 3/4 ถ้วย 2. ดาร์กช็อคโกแลต 130 กรัม 3. เนยสดชนิดจืดพักให้นุ่ม 30 กรัม
:: ส่วนน้ำเชื่อมกาแฟ :: 1. น้ำ 3/4 ถ้วย 2. น้ำตาลทรายละเอียด 2/3 ถ้วย 3. ผงกาแฟสำเร็จรูป 1+1/2 ชต. 4. เหล้าคาลัว(ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 2 ชต.
ส่วนเค้ก - อุ่นเตาอบ 200 องศาซี เตรียมถาดขนาด 10x13 นิ้ว 2 ถาดโดยทาเนยสดบางๆให้ทั่วทั้ง 2 ถาดแล้วปูกระดาษไขทับทุกรอบด้านเลย - ละลายเนยสดในเตาไมโครเวฟด้วยไฟแรงประมาณ 10 วินาทีจนละลายดี พักไว้(หรือจะละลายด้วยหม้อไฟอ่อนๆก็ได้คะ) - ร่อนแป้งสาลีกับผงโกโก้เข้าด้วยกัน พักไว้ - ใส่อัลมอนด์บดกับน้ำตาลไอซิ่งลงในอ่างผสมของเครื่องผสมอาหาร จากนั้นใส่ไข่ตีด้วยหัวตีใบพัดด้วยความเร็วปานกลางนานประมาณ 3 นาทีหรือจนขึ้นฟู - ในระหว่างนี้ให้ตีไข่ขาวในอ่างผสมอีกใบด้วยเครื่องตีไข่แบบถือด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟูเป็นฟองขาวเม็ดละเอียดแล้วค่อยๆใส่น้ำตาลทีละน้อยตีต่อจนไข่ขาวตั้งยอดแข็งแล้วพักไว้ - เมื่อตีส่วนอัลมอนด์ไอซิ่งนานครบ 3 นาทีหรือจนขึ้นฟูดีแล้วให้ลดความเร็วลง จึงใส่แป้งที่ร่อนไว้ ตีพอเข้ากัน ปิดเครื่อง แล้วตักส่วนไข่ขาวที่ตั้งยอดไว้ใส่ประมาณ 1/3 ของทั้งหมดใส่ลงในส่วนผสมที่ตี คนตะล่อมด้วยพายยางพอเข้ากัน จึงใส่ไข่ขาวส่วนที่เหลือ คนพอเข้ากันอีกครั้ง ใส่เนยละลายคนให้เข้ากัน - เมื่อผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำมาเทลงถาดที่ปูกระดาษไขรอไว้แล้ว ใช้สเปตูล่าเกลี่ยให้เสมอกัน เข้าเตาอบนานประมาณ 8 นาทีหรือจนเค้กสุก (ทดสอบโดยใช้นิ้วกดเบาๆแล้วเนื้อจะดีดตัวกลับขึ้นมาแสดงว่าสุก) ยกออกจากเตาอบ
ส่วนบัตเตอร์ครีมกาแฟ - ใส่น้ำตาลกับน้ำลงในหม้อตั้งบนไฟอ่อน ใช้ช้อนคนเบาๆให้น้ำตาลละลาย อย่าให้มีน้ำตาลขึ้นมาติดขอบหม้อเพราะจะทำให้น้ำตาลตกผลึก พอน้ำตาลละลายหมดแล้วให้หยุดคน แล้วต้มจนเดือดจัดนานประมาณ 3-5 นาที - พอน้ำเชื่อมเริ่มเดือดเป็นฟองใหญ่ๆ จึงตีไข่แดงในอ่างผสมด้วยเครื่องผสมอาหารด้วยหัวตีตะกร้อ ตีด้วยความเร็วปานกลางจนไข่แดงขึ้นฟูและเมื่อน้ำเชื่อมมีฟองขนาดเล็กลงก็ตักน้ำเชื่อมขึ้นมาเล็กน้อยแล้วใส่ลงในน้ำเย็นจัด (น้ำใส่น้ำแข็ง) ถ้าปั้นน้ำเชื่อมเป็นก้อนนุ่มๆได้ก็แสดงว่าใช้ได้ แล้วค่อยๆใส่น้ำเชื่อมร้อนลงไปในไข่แดงที่ตีเบาๆ ตีต่อจนไข่แดงขึ้นฟูเป็น 2 เท่าและเย็นสนิท จึงใส่น้ำกาแฟ(ต้องให้หายร้อนก่อน)ตามด้วยเนยทีละน้อย ตีต่ออีก 1- 2 นาทีจนได้บัตเตอร์ครีมกาแฟที่เนื้อเนียนและขึ้นฟู
ส่วนดาร์กช็อคโกแลต - ใส่วิปปิ้งครีมลงในหม้อยกขึ้นตั้งบนไฟกลางจนเดือดจากนั้นนำวิปปิ้งครีมต้มมาเทใส่ในชามช็อคโกแลตพักนานประมาณ 5 นาที ใช้พายยางคนให้เข้ากันจนได้ครีมช็อคโกแลตเนื้อเนียน - ใส่เนยลงไปในครีมช็อคโกแลตอุ่นๆ คนให้เข้ากันและเนยละลายเข้ากันดี
ส่วนน้ำเชื่อมกาแฟ - ต้มน้ำ น้ำตาลทรายและผงกาแฟในหม้อด้วยไฟปานกลางจนละลายเข้ากันดีและเดือดทั่ว ปิดไฟเมื่อน้ำเชื่อมอุ่นๆจึงใส่เหล้าคาลัว คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นสนิท
การประกอบเค้ก - คว่ำเค้กช็อคโกแลตอัลมอนด์ที่อบทั้ง 2 ถาด ลอกกระดาษไขออก แล้วหั่นแบ่งครึ่งเค้กตามขวางก็จะได้ 4 ชิ้น(จาก2ถาด) วางเค้กชิ้นที่เรียบที่สุดเป็นชิ้นแรก(ฐาน)โดยวางด้านเนื้อที่เป็นก้นถาดลงด้านล่าง จากนั้นนำเค้กแต่ละชิ้นมาวางซ้อนกันแล้วตัดขอบด้านข้างให้มีขนาดเท่ากัน - ใช้แปรงทาน้ำเชื่อมกาแฟลงบนเนื้อชิ้นแรกให้ทั่ว ปาดบัตเตอร์ครีมกาแฟลงบนเค้กหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ปาดให้เรียบเสมอกัน วางเค้กชิ้นที่ 2 (ให้วางด้านหน้าเค้กคว่ำลง)แล้วทาน้ำเชื่อมบนเค้กชิ้นที่ 2 รอจนน้ำเชื่อมซึมเข้าเนื้อเค้กจึงปาดครีมดาร์กช็อคโกแลต แล้ววางเค้กชิ้นที่ 3 โดยคว่ำด้านบนของเค้กเช่นกัน (ระหว่างนี้ถ้าดาร์กช็อคที่ปาดแล้วเหลวให้นำเข้าแช่เย็นนานประมาณ 5 นาที ) ทาน้ำเชื่อมบนเค้กชิ้นที่ 3 ปาดบัตเตอร์ครีมวางเค้กชิ้นที่ 4 ทำแบบเหมือนเดิม พอปาดครีมบนชิ้นสุดท้ายเสร็จ นำเข้าแช่เย็นนานประมาณ 5-10 นาที เพื่อให้ครีมแข็งตัว (ไม่ควรแช่นานกว่านี้ เพราะจะทำให้บัตเตอร์ครีมแข็งเกินไป เมื่อนำไปราดดาร์กช็อคแล้วจะไม่สวย) - นำเค้กออกจากตู้เย็นแล้วนำมาราดครีมดาร์กช็อคบนหน้าเค้กแล้วเอียงยกถาดให้ครีมดาร์กช็อคไหลให้ทั่วเพื่อให้หน้าเรียบเสมอกัน นำเข้าแช่เย็นอย่างน้อย 1 ชม. ก่อนนำไปเสิร์ฟ - ส่วนดาร์กช็อคที่เหลือ ตักใส่กรวยกระดาษเล็ก ตัดปลายเล็กน้อย แบ้สเขียนหน้าเค้กว่า Opera
** ถ้าครีมดาร์กช็อคข้นไป ให้นำอ่างใส่ครีมวางบนหม้อน้ำร้อนประมาณ 10 วินาที หรือนานกว่านั้นเล็กน้อย ไม่ควรวางนานเกินไปเพราะจะทำให้ครีมละลายคืนตัว











ถ่ายเก็บไว้นานแล้ว







|
Create Date : 28 มีนาคม 2554 |
Last Update : 28 มีนาคม 2554 1:03:16 น. |
|
21 comments
|
Counter : 9346 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: babybeeh วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:1:28:34 น. |
|
|
|
โดย: kittscake วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:1:54:54 น. |
|
|
|
โดย: Pla fisken (Cherrys mamma ) วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:2:36:22 น. |
|
|
|
โดย: NokJbz วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:8:16:40 น. |
|
|
|
โดย: TheBlue_in วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:9:05:46 น. |
|
|
|
โดย: aromahappy วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:16:48:34 น. |
|
|
|
โดย: auau_py วันที่: 28 มีนาคม 2554 เวลา:17:01:26 น. |
|
|
|
โดย: vekalover วันที่: 30 มีนาคม 2554 เวลา:23:21:02 น. |
|
|
|
โดย: aammttaa (coat armor ) วันที่: 28 เมษายน 2554 เวลา:16:52:13 น. |
|
|
|
โดย: birdfriday วันที่: 16 กันยายน 2554 เวลา:3:06:27 น. |
|
|
|
โดย: pamay วันที่: 30 กันยายน 2554 เวลา:12:29:27 น. |
|
|
|
โดย: pamay วันที่: 15 ตุลาคม 2554 เวลา:12:47:52 น. |
|
|
|
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:3:55:02 น. |
|
|
|
โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 16 ตุลาคม 2554 เวลา:3:56:11 น. |
|
|
|
โดย: pamay วันที่: 25 ตุลาคม 2554 เวลา:21:40:00 น. |
|
|
|
โดย: jaratse วันที่: 27 พฤศจิกายน 2554 เวลา:16:04:58 น. |
|
|
|
โดย: wHiTe ShOEs วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:10:29:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|