จะจ้างคน มึงต้องคิดแบบผู้บริหารซิ.. ไอ้กระจอก
งานที่บริัษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ช่วงงานเร่งๆ ช่างทำงานมีไม่เพียงพอ แม้จะอัดโอและสิ่งล่อใจแต่ก็ช่วยไม่ได้มากนัก จึงคุยกันเรื่องอัตตราจัดจ้างคนใหม่เพิ่ม ซึ่งผมก็ยังอึกอักเพราะเมืองานจบคนเหล่านั้น ก็จะว่างลงและต้องปลดออก (ผมคิดในใจ รึจะจ้างเด็กพวกนี้เป็นโปรเจ็คๆ จบงานก็จบเรื่อง แต่คงยากหน่อยเพราะใครก็อยากได้อะไรทีมั่นคง แต่จะไปหลอกว่าจ้างทดลองงานก็ไม่แฟร์)
รุ่นพี่จึงพูดว่า "มึงคิดแบบไหน ข้างนายจ้างรึลูกจ้างละ" ผมมอง งงๆ แกจึงต่อว่า "กูจ้างมึงมาอยู่ข้างกูนะ มึงจะอยู่ข้างลูกจ้างเหรอ" ผมถาม "แล้วพี่จะเอาไงกับเด็กพวกนี้ละครับ" แกตอบ "มึงก็จ้างมันมาทำงาน พอจบงานก็บอกว่าไม่พ้นโปร" "อ่าว ไม่ใจดำไปหน่อยเหรอครับพี่ แบบนี้ก็เหมือนหลอกเด็กซิ" ผมพูดเสียงเจ็ปปวด แกจึงถามย้ำ "จะจ้างคน มึงต้องคิดแบบผู้บริหารซิ.. ไอ้กระจอก"
สิ่งที่แกคิดไม่ใช่ผมคิดไม่ทัน แต่ผมไม่กล้าทำ แต่โดยหน้าที่ผมก็ต้องทำ เพียงแต่ผมก็พิจารณาตนเอง ยอมว่างงานหลังจากจบงานนั้นเช่นกัน เพราะผมรู้ตัวว่าผมเป็นผู้บริหารในอุดมคติพี่แกไม่ได้แน่ๆ มันมีแต่คำว่า เหตุผล(ประโยชน์) แต่มันขาดคำว่าน้ำใจหรือความรู้สึกเกินไป
ทุกวันนี้ผมก็ยังกระจ๊อก ต๊อกต๋อยไปเรื่อยๆ แต่กับเด็กพวกนั้นก็ยังมีติดต่อกันบ้าง นัดสังสรรค์กันบ้าง บริษัทพี่แกก็เจริญรุ่งเรืองดี ต่างคนต่างก็มีทางเลือกของตน จะเป็นอีการึหญาเหยี่ยวก็อยู่ที่คนจะเลือกให้ความสำคัญ แต่ผมก็ว่านกกระจกออย่างผมมีความสุขเพื่อนฝูงเยอะดีเนาะ
Create Date : 04 กรกฎาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2553 21:47:48 น. |
Counter : 775 Pageviews. |
|
|
|
มีวิธีที่เลวร้ายมากกว่านี้อีก