สำรวจเขา(รอบแรก)
วันนี้หลังจากหม่ามี๊ออกไปทำงาน ก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยออกไปเดินเล่นรอบๆบ้านเสียหน่อย เพราะปีที่แล้วที่มาก็ไม่ได้เดินสำรวจที่ไหนไกล โชคดีที่หม่ามี๊ย้ายมาอยู่แถวเขตเมืองใหม่ ที่นี่อากาศดีมาก ทิศใต้ติดทะเล ทิศเหนือเป็นภูเขา (ฮวงจุ้ยช่างดีนัก) ลมดี อากาศเย็นสบายกว่าตัวเมืองนักเชียว ถ้าเลือกทะเล กับภูเขา ใจจริงชองเดินริมทะเลมากกว่า (แต่ก็ยังไม่ได้ไปเหมือนกัน) แต่อะไรดลใจไม่ทราบ ก็ลองออกเดินไปทางฝั่งภูเขา เดินไปสักพัก เจอบันไดขึ้นเขา พร้อมท่อส่งน้ำ ดูท่าทางเปลี่ยวมาก (แต่ก็ดูเชิญชวนให้ไปอย่างน่าประหลาด) 
ด้วยความซน แกมอยากรู้อยากเห็น มองดูป้ายแล้ว เขาก็เขียนบอกว่า ที่เก็บน้ำของเขต Tiu Keng Leng กับ Wilson Trail เราก็เอะใจ เส้นทางวิลสัน จะเป็นหนทางแสวงบุญอะไรรึไงกัน ก็ไม่รอช้า เดินขึ้นไปทันที ทางขึ้นตอนแรกเป็นบันไดสลับกับขั้นพัก พร้อมกับป่าไม้ที่รายล้อมเรา สวยงามมาก ต้นไม้ตระกูลยูคาลิปตัส (ยังไม่ทราบว่าต้นอะไร จะไปค้นมาให้) ออกดอกเหลืองสะพรั่งอย่างกับฉากหนัง 
ตะกายบันไดไปเรื่อยๆ (ซึ่งมันเยอะมาก) ก็มาเจอกับโรงเก็บน้ำบนเขา จากรูปข้างล่างจะเห็นกำแพงยาวเหยียดทางฝั่งซ้าย 
กว่าจะเดินขึ้นไปจนสุดได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะบันไดชันมาก 
มองออกไปก็คิดว่าสูงเหมือนกันนะเนี่ย 
แต่มันยังไม่สุดเท่านี้ ยังมีทางลาดขึ้นไปอีก ซึ่งตอนแรกดูเปลี่ยว และวังเวงมาก ที่สำคัญตั้งแต่เดินขึ้นบันไดมา ยังไม่เจอคนเลยสักคน ผีน่ะไม่กลัวหรอก กลัวโดนซุ่มตีหัวปล้นมากกว่า ไม่ก็หลุดมิติไปเมืองลับแลเลย โดยเฉพาะทางลาดที่จะไปต่อเนี่ย วังเวงนัก 
แต่พอเดินลอดทางแคบๆ (ซึ่งยาวไม่น้อยทีเดียว) ออกมาได้ ก็พอกับลานโล่ง มีคนอยู่สี่ห้าคน เป็นลานกว้างๆเหมือนกับที่ให้แคมป์ปิ้ง แต่ดุจากสภาพแล้วก็ไม่ค่อยมีคนมาสักเท่าไหร่ 
พร้อมกับหลืบเล็กๆที่แอบมีเจ้าแม่กวนอิมประทับอยู่ (ประมาณว่าเป็นที่ปกปักรักษาคนเดินเขา) 
หลังจากนี้แหละ จะเป้นการเดินเขาของจริง เพราะทางที่ขาทำไว้นั้น ออกจะน่ากลัวไม่น้อย เป็นบันไดชันๆ แคบๆ ไม่มีรั้วให้เกาะ บางครั้งก็อยู่ชิดขอบเหวบ้าง ขอบหินบ้าง ถ้าล้มลงไป ก็กลิ้งลงป่าหาศพไม่เจอกันไปเลย 
กล้องก็ไม่ได้เอามาด้วย มีแต่มือถือนี่แหละ แถมอากาศยังอึมครึม ทำให้ถ่ายได้ไม่ชัดอีก (แต่อีกนัยหนึ่งก็ดี ที่ไม่มีแดดมาคอยเผาหัว) 
ส่วนนี่ภูเขาลูกข้างๆ 
พอตะกายไปถึงยอดเขา ก็พบว่ามันยังมีทางต่อไปอีก ไปยังลูกที่สองซึ่งสูงกว่าลูกแรกอีก!!! ใจนึงก็อยากไปต่อ แต่ดูฟ้าแล้วกลัวว่าขากลับจะมืดซะก่อน เพราะถ้ามืดแล้วจะมืดสนิทแน่ๆ เพราะไม่มีไฟฟ้าเลย ฉะนั้นพรุ่งนี้จะออกเร็วขึ้น จะได้ไปจนถึงเขาลูกที่สอง (ซึ่งดูจากยอดลูกแรกแล้ว ทางขึ้นชันน่าดูทีเดียว) 
นั่งพักสักพัก พอถึงขาลงเขานี่แหละ ถึงได้ทราบว่ามันทรมานกว่าขาขึ้นมากทีเดียว ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะมันน่าหวาดเสียวนัก ทางแคบก็แคบ ชันก็ชัน ไม่มีอะไรให้เกาะเลย กลัวจะกลิ้งลงเขามากๆ 
ส่วนนี่ เป็นชื่อของเส้นทางสายนี้ จะมีหินที่ถูกลงสีแบบนี้อยู่เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เราหลง 
เดินลงมาจนถึงถนนใหญ่ ก็ประหลาดใจนักเชียว ว่าเดินออกจากบ้านไม่ไกล ก็เจอทางเดินป่าอยู่หลังบ้านตัวเองนี่เอง เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้จะเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ แล้วจะเดินไปให้ไกลกว่าวันนี้ให้ได้! แล้วจะกลับมารายงานที่นี่เช่นเคย คนส่วนมากคิดว่าฮ่องกงมีแต่เมืองไปหมด ก็คิดใหม่เสียนะ ใจจริงอยากพาเพื่อนๆคนไทยไปเที่ยวพวกสถานที่ประวัติศาสตร์บ้าง ป่าเขาบ้าง ทะเลบ้าง ที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประสัติศาสตร์บ้าง แต่คนส่วนมากก็คิดแต่ว่ามาฮ่องกงก็ต้องมาชอปปิ้ง กับกินเท่านั้น น่าเศร้าใจ... Free TextEditor
Create Date : 26 เมษายน 2551 | | |
Last Update : 26 เมษายน 2551 22:51:46 น. |
Counter : 634 Pageviews. |
| |
|
|
|