Wisdom is in any soul
Group Blog
 
All blogs
 

บ้านในฝัน

          ได้รับ Tag แสนน่ารักมาจากคุณ ~Resha-Valentine~ ว่าให้อธิบาย “บ้านในฝัน” มา แต่จะว่าไปขออธิบายตามแบบที่ถนัดละกันนะ


          เอาล่ะ มาเริ่มกันเลย บ้านในฝันหรือ.... อืม... จากที่คิดไว้มันน่าจะเป็นแบบนี้...


          ถัดจากชายป่าเชิงเขาไม่ไกลนัก ปรากฏเป็นทุ่งหญ้ากว้างประดับพุ่มไม้เตี้ยๆที่ขึ้นอยู่ประปรายไปจนถึงทะเลสาปใหญ่ ระหว่างชายป่าและทะเลสาปนั้นมีบ้านสองชั้นที่ก่อขึ้นด้วยหินตั้งอยู่บนเนินเตี้ยๆ ตัวบ้านถูกล้อมรอบด้วยแมกไม้นานาพรรณ เมื่อสังเกตให้ถี่ถ้วนก็ล้วนแต่เป็นพุ่มสมุนไพรนานาชนิดจนยากจะบรรยายได้หมด ทั้งหมดถูกปลูกจัดอย่างเป็นระเบียบพร้อมป้ายไม้เล็กๆบอกชื่อแต่ละต้นอย่างปราณีตบรรจง


          จากภายนอกบ้านหลังนี้ปลูกขึ้นด้วยหินแกรนิตสีเทาแกมน้ำตาลอ่อนยาด้วยปูนคอนกรีต กรอบหน้าต่างและประตูไม้สีน้ำตาลแดงจึงถูกขับให้ดูโดดเด่น ทว่าเมื่อก้าวพ้นกรอบประตูไปแล้ว ภายในบ้านกลับสว่างตาทันทีด้วยกำแพงภายในบ้านนั้นถูกฉาบให้เรียบเสมอและลงปูนขาวให้สีสว่างจนแทบไม่น่าเชื่อเมื่อดูจากภายนอก


          อาคันตุกะจะได้รับการต้อนรับทันทีด้วยพื้นที่ห้องรับแขกด้านหน้าที่ดูอบอุ่น ทั้งหมดถูกจัดแต่งอย่างประณีตและแปลกตา ด้วยเพราะไม่มีเก้าอี้ หรือโต๊ะรับแขกอย่างทั่วไป แต่พื้นนั้นปูด้วยพรมทอมือลวดลายวิจิตร และหมอนหลากสี หลายขนาดวางอยู่เกลื่อนอย่างเอกเขนกและดูผ่อนคลาย กำแพงห้องประดับด้วยผืนผ้าไหมทอมืออวดลาย และรูปวาดสีน้ำมันของภูเขาสูงที่มีน้ำแข็งจับอยู่บนยอดราวกับหมวกของนักบวช


          เมื่อเดินลึกเข้าไป ห้องทั้งห้องก็ทึมทึบด้วยกำแพงสีสันแปลกตา ทว่าเมื่อพิจารณาดูใกล้ๆ กลับเป็นชั้นวางหนังสือที่มีหนังสือเรียงรายอยู่จนสูงจรดเพดาน เหล่าสันหนังสือหลากสี หลายวัตถุดิบทั้งกระดาษสีน้ำตาลหม่น หนังสัตว์สีแดงคล้ำ ปกผ้าสีเขียวเข้ม และอีกนานาสีสรรหลากวัสดุเท่าที่จะจินตนาการได้ หนังสือทั้งหมดมวลนั้นได้รวบรวมเอาความรู้แทบทุกแขนง ตอบและขบคิดปัญหาทั้งหมดที่ปรากฏบนโลก ไม่ไกลนักมีบันได้ไม้เล็กๆพาดอยู่ด้านหนึ่งเพื่อสะดวกแก่การหยิบและสืบค้น


          และในส่วนท้ายสุดของบ้าน ห้องครัวจัดตกแต่งด้วยเครื่องไม้ ทั่วทั้งกำแพงจะมีชั้น ตู้ไม้ และหิ้งติดเรียงรายรอบด้าน ทั้งหมดมีขวดแก้วหลายขนาดบรรจุสมุนไพรทั้งแห้งและสด เครื่องปรุง แป้ง น้ำมัน เครื่องเทศนานาชนิด ทั้งที่เป็นที่รู้จักทั่วไปและหายากราคาแพง ในสุดของครัวมีเตาไฟ และเตาอบขนาดพอเหมาะ บรรดาหม้อ กระทะและภาชนะหุงต้มแขวนเรียงรายอยู่เหนือเตา กลางห้องมีโต๊ะหินแกรนิตขัดเงาตั้งตระหง่านขอบโต๊ะด้านหนึ่งถูกวางด้วยเครื่องใช้ภายในครัวทั้งมีด เขียง ไม้นวดแป้ง และตะกร้าเครื่องเงิน


          ถัดจากห้องครัวไม่ไกลนัก มีประตูเล็กๆที่เปิดไปสู่ห้องน้ำขนาดย่อมๆ ทั้งกำแพงและพื้นห้องเป็นหินแกรนิตเปลือยไม่ฉาบปูน ไม่ขัดเรียบ สีเทาของหินนั้นขับให้เครื่องสุขภัณฑ์ที่เลือกใช้สีน้ำตาลเข้มให้ดูโดดเด่นแปลกตา ในสุดของห้องน้ำมีอ่างไม้ขนาดใหญ่สีน้ำตาลทองเพื่อแช่ตัวในยามเหนื่อยล้า ใกล้ๆกันนั้นก็มีถังไม้เล็กๆเข้ากันเพื่อตักน้ำหรือใช้แช่เท้าผ่อนคลาย เหนืออ่างบนกำแพงมีหิ้งเล็กๆสูงระดับสายตาซึ่งวางไว้ด้วยตะเกียงน้ำมันหอมและขวดบรรจุน้ำมันหอมระเหยนานาชนิด


          เมื่อก้าวขึ้นบันไดไม้ไปสู่ชั้นสอง พื้นทั้งหมดปูด้วยไม้สีน้ำตาลแดง มีห้องอยู่เพียงสองห้องเท่านั้น ห้องแรกเป็นห้องนอนขนาดเล็กๆ กลางห้องมีเตียงสี่เสาไม้สีน้ำตาลเข้มลงลายทองเป็นริ้วเกลียวตลอดทั้งสี่เสา ยอดเสาหลังคาเตียงถูกแกะสลักให้เป็นเถาองุ่นเลื้อยผ่านถึงกันทั้งสี่เสาอย่างประณีต หมอนผ้าไหมสีแดงเบอร์กันดีเงาระยับหนึ่งคู่วางคู่หมอนอิงสีม่วงเข้ม ทั้งหมดถูกคลุมไปครึ่งหนึ่งด้วยผ้าห่มนวมเย็บมือสลับสีม่วงเข้มเปลือกองุ่น แดงไวน์เบอร์กันดี และเขียวเข้มมรกต และหากสังเกตใกล้ๆจะเห็นดิ้นทองแทรกอยู่ในเนื้อผ้าทำให้ทอประกายระยิบระยับ ไม่ไกลจากหัวเตียงนัก มีโต๊ะไม้ตั้งอยู่ใต้หน้าต่างพร้อมเก้าอี้ไม้บุนวมกำมะหยี่สีแดงเข้มเข้าชุด ถัดไปมีตู้ไม้สีน้ำตาลเข้มอมแดงที่ทำอย่างพิถีพิถัน กรอบและบานประตูตู้แกะลายเถาองุ่นให้เข้ากับเตียง


          อีกหนึ่งห้องเป็นห้องกว้าง กลางห้องมีพรมขนาดใหญ่ทอลายวงกลมซับซ้อนปูอยู่ มีโต๊ะไม้กลมตั้งอยู่บนพรมผืนนั้น มุมหนึ่งของห้องมีตู้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ (ส่วนจะใส่อะไรอยู่ในนั้น ผู้เขียนขอเก็บเป็นความลับ) พื้นไม้ของห้องถูกแกะสลักด้วยอักขระนานาภาษา และสัญลักษณ์มากมายทั่วทั้งพื้นห้อง


          เอาล่ะ! พอเท่านี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวจะรู้กันไปหมดว่าแท้จริงแล้วผู้เขียนเป็นอะไร ส่วนใครที่อยากจะร่วมทำ Tag นี้ก็เปิดกว้างตามสบายเลย ใครจะทำก็ทิ้งชื่อไว้แล้วจะรออ่านอย่างใจจดใจจ่อ

Free TextEditor




 

Create Date : 29 เมษายน 2551    
Last Update : 29 เมษายน 2551 15:48:38 น.
Counter : 1453 Pageviews.  

สำรวจเขา(รอบแรก)

วันนี้หลังจากหม่ามี๊ออกไปทำงาน ก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยออกไปเดินเล่นรอบๆบ้านเสียหน่อย เพราะปีที่แล้วที่มาก็ไม่ได้เดินสำรวจที่ไหนไกล


โชคดีที่หม่ามี๊ย้ายมาอยู่แถวเขตเมืองใหม่ ที่นี่อากาศดีมาก ทิศใต้ติดทะเล ทิศเหนือเป็นภูเขา (ฮวงจุ้ยช่างดีนัก) ลมดี อากาศเย็นสบายกว่าตัวเมืองนักเชียว


ถ้าเลือกทะเล กับภูเขา ใจจริงชองเดินริมทะเลมากกว่า (แต่ก็ยังไม่ได้ไปเหมือนกัน) แต่อะไรดลใจไม่ทราบ ก็ลองออกเดินไปทางฝั่งภูเขา เดินไปสักพัก เจอบันไดขึ้นเขา พร้อมท่อส่งน้ำ ดูท่าทางเปลี่ยวมาก (แต่ก็ดูเชิญชวนให้ไปอย่างน่าประหลาด)



ด้วยความซน แกมอยากรู้อยากเห็น มองดูป้ายแล้ว เขาก็เขียนบอกว่า “ที่เก็บน้ำของเขต Tiu Keng Leng” กับ “Wilson Trail” เราก็เอะใจ เส้นทางวิลสัน จะเป็นหนทางแสวงบุญอะไรรึไงกัน ก็ไม่รอช้า เดินขึ้นไปทันที


ทางขึ้นตอนแรกเป็นบันไดสลับกับขั้นพัก พร้อมกับป่าไม้ที่รายล้อมเรา สวยงามมาก ต้นไม้ตระกูลยูคาลิปตัส (ยังไม่ทราบว่าต้นอะไร จะไปค้นมาให้) ออกดอกเหลืองสะพรั่งอย่างกับฉากหนัง



ตะกายบันไดไปเรื่อยๆ (ซึ่งมันเยอะมาก) ก็มาเจอกับโรงเก็บน้ำบนเขา จากรูปข้างล่างจะเห็นกำแพงยาวเหยียดทางฝั่งซ้าย



กว่าจะเดินขึ้นไปจนสุดได้ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เพราะบันไดชันมาก



มองออกไปก็คิดว่าสูงเหมือนกันนะเนี่ย



แต่มันยังไม่สุดเท่านี้ ยังมีทางลาดขึ้นไปอีก ซึ่งตอนแรกดูเปลี่ยว และวังเวงมาก ที่สำคัญตั้งแต่เดินขึ้นบันไดมา ยังไม่เจอคนเลยสักคน ผีน่ะไม่กลัวหรอก กลัวโดนซุ่มตีหัวปล้นมากกว่า ไม่ก็หลุดมิติไปเมืองลับแลเลย โดยเฉพาะทางลาดที่จะไปต่อเนี่ย วังเวงนัก



แต่พอเดินลอดทางแคบๆ (ซึ่งยาวไม่น้อยทีเดียว) ออกมาได้ ก็พอกับลานโล่ง มีคนอยู่สี่ห้าคน เป็นลานกว้างๆเหมือนกับที่ให้แคมป์ปิ้ง แต่ดุจากสภาพแล้วก็ไม่ค่อยมีคนมาสักเท่าไหร่



พร้อมกับหลืบเล็กๆที่แอบมีเจ้าแม่กวนอิมประทับอยู่ (ประมาณว่าเป็นที่ปกปักรักษาคนเดินเขา)



หลังจากนี้แหละ จะเป้นการเดินเขาของจริง เพราะทางที่ขาทำไว้นั้น ออกจะน่ากลัวไม่น้อย เป็นบันไดชันๆ แคบๆ ไม่มีรั้วให้เกาะ บางครั้งก็อยู่ชิดขอบเหวบ้าง ขอบหินบ้าง ถ้าล้มลงไป ก็กลิ้งลงป่าหาศพไม่เจอกันไปเลย



กล้องก็ไม่ได้เอามาด้วย มีแต่มือถือนี่แหละ แถมอากาศยังอึมครึม ทำให้ถ่ายได้ไม่ชัดอีก (แต่อีกนัยหนึ่งก็ดี ที่ไม่มีแดดมาคอยเผาหัว)



ส่วนนี่ภูเขาลูกข้างๆ



พอตะกายไปถึงยอดเขา ก็พบว่ามันยังมีทางต่อไปอีก ไปยังลูกที่สองซึ่งสูงกว่าลูกแรกอีก!!! ใจนึงก็อยากไปต่อ แต่ดูฟ้าแล้วกลัวว่าขากลับจะมืดซะก่อน เพราะถ้ามืดแล้วจะมืดสนิทแน่ๆ เพราะไม่มีไฟฟ้าเลย ฉะนั้นพรุ่งนี้จะออกเร็วขึ้น จะได้ไปจนถึงเขาลูกที่สอง (ซึ่งดูจากยอดลูกแรกแล้ว ทางขึ้นชันน่าดูทีเดียว)



นั่งพักสักพัก พอถึงขาลงเขานี่แหละ ถึงได้ทราบว่ามันทรมานกว่าขาขึ้นมากทีเดียว ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะมันน่าหวาดเสียวนัก ทางแคบก็แคบ ชันก็ชัน ไม่มีอะไรให้เกาะเลย กลัวจะกลิ้งลงเขามากๆ



ส่วนนี่ เป็นชื่อของเส้นทางสายนี้ จะมีหินที่ถูกลงสีแบบนี้อยู่เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้เราหลง



เดินลงมาจนถึงถนนใหญ่ ก็ประหลาดใจนักเชียว ว่าเดินออกจากบ้านไม่ไกล ก็เจอทางเดินป่าอยู่หลังบ้านตัวเองนี่เอง เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้จะเตรียมตัวให้พร้อมกว่านี้ แล้วจะเดินไปให้ไกลกว่าวันนี้ให้ได้! แล้วจะกลับมารายงานที่นี่เช่นเคย


คนส่วนมากคิดว่าฮ่องกงมีแต่เมืองไปหมด ก็คิดใหม่เสียนะ ใจจริงอยากพาเพื่อนๆคนไทยไปเที่ยวพวกสถานที่ประวัติศาสตร์บ้าง ป่าเขาบ้าง ทะเลบ้าง ที่ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประสัติศาสตร์บ้าง แต่คนส่วนมากก็คิดแต่ว่ามาฮ่องกงก็ต้องมาชอปปิ้ง กับกินเท่านั้น น่าเศร้าใจ...

Free TextEditor




 

Create Date : 26 เมษายน 2551    
Last Update : 26 เมษายน 2551 22:51:46 น.
Counter : 634 Pageviews.  


Lagnadan
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add Lagnadan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.