ก่อนประชาชนสิ้นความอดทน เย้ เย้ วันนี้ขออัพบล็อกอย่างง่ายๆ ด้วยการลอกหรือก๊อปปี้ข้อมูลจากกระทู้ของคุณ off180 จากห้องราชดำเนินมาสะท้อนความจริงกันค่ะ จขบ. เห็นด้วยกับข้อเขียนนี้เลยนำมาเก็บไว้เป็นความทรงจำ และเผื่อแผ่เพื่อนบล็อกคนอื่นด้วยค่ะ เริ่มเลยแล้วกันนะคะ ความหวังในการพัฒนาประชาธิปไตยของไทยดับวูบลงทันทีที่คณะนายทหารเข้ายึดอำนาจ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ปีที่แล้ว ทั้งนี้เพื่อแลกกับการโค่นล้มรัฐบาลนายกฯทักษิณ ตามข้อเรียกร้องของคนไทยบางส่วน หรือ กลุ่มอนุรักษ์นิยมและชนชั้นกลาง ที่ฉวยโอกาสใช้สิทธิแทนคนไทยส่วนใหญ่ หรือ กลุ่มคนรากหญ้าและคนในชนบท เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงของการยึดอำนาจกลับพบว่า ยังเป็นสิ่งที่ "พร่ามัว" เหตุผลที่อ้างในการยึดอำนาจ 4 ข้อของ คมช. กับ เหตุผลเบื้องลึกคือการสูญเสียผลประโยชน์จากการที่ระบอบทักษิณกินรวบ เป็นสิ่งที่โต้แย้งกันไปมาและยังไม่ได้ข้อยุติว่าสิ่งใดคือความจริง พอๆ กับข้อสงสัยที่ว่า ใครคือผู้วางแผนและสั่งการให้ยึดอำนาจ ระหว่าง คณะปฏิรูปลงมือเอง กับ มีผู้มีบารมีเป็นผู้บงการ จนขณะนี้การรัฐประหารผ่านไปกว่า 7 เดือนแล้ว คณะปฏิรูปที่กลายร่างเป็น คมช. ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเหตุผล 4 ข้อเป็นเรื่องจริง อีกทั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มาจาก คมช. ก็ไม่สามารถสร้างผลงานในการบริหารประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งได้รับการต่อต้านรอบด้านไม่เว้นกระทั่งฝ่ายพันธมิตร สิ่งเหล่านี้ย่อมพิสูจน์ ให้เห็นว่า การบริหารประเทศของรัฐบาลเผด็จการไม่สามารถตอบสนองประชาชนได้ทัดเทียมเท่ากับรัฐบาลประชาธิปไตย แต่การต่อสู้เรียกร้องกับรัฐบาลและ คมช.ไม่ใช่สาระสำคัญที่ต้องใส่ใจอีกต่อไป เพราะการปกครองด้วยรถถังและกระบอกปืนเป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืน สิ่งสำคัญที่ควรขบคิดในเวลานี้ คือ จะทำอย่างไรให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ซึ่งการที่จะได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาก็ต้องผ่านการเลือกตั้ง แต่เมื่อพิจารณาถึงรัฐธรรมนูญร่างแรกที่คณะกรรมาธิการยกร่างฯ แล้วเสร็จ กลับพบว่า มีสาระสำคัญที่น่าเคลือบแคลงใจ อาทิ การเปลี่ยนที่มาของ ส.ว.จากการเลือกตั้งเป็นการแต่งตั้ง การตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาแก้ไขวิกฤตของชาติ การลดจำนวน ส.ส.ลงเหลือ 400 คน การกำหนดเขตเลือกตั้งให้ใหญ่ขึ้นเป็นเขตละ 3 คน และการเปิดโอกาสผู้สมัคร ส.ส.ย้ายพรรคได้โดยสะดวก หากพิจารณาสาระสำคัญดังกล่าว พบว่า ล้วนสวนทางต่อวิถีทางประชาธิปไตย วิเคราะห์เจตนาได้ว่าผู้ร่างต้องการลดอำนาจนักการเมืองลง ให้อำนาจประชาชนคงที่ แต่ไปเพิ่มอำนาจให้กับระบอบราชการ แต่ความหวังในการได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุดลง เพราะยังเหลือขั้นตอนการแปรญัตติในชั้นสภาร่างรัฐธรรมนูญเป็นด่านสุดท้าย เมื่อถึงจุดนี้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญต้องมีสำนึก แล้วกลั่นกรองรัฐธรรมนูญทุกมาตราให้เป็๋นประชาธิปไตย อย่าปล่อยให้รัฐธรรมนูญที่เคลือบแฝงด้วยแนวคิดเผด็จการเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามติอย่างเด็ดขาด เพราะเมื่อถึงวันนั้นก็ไม่แน่ใจว่าประชาชนจะยอมให้ คมช.แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่แล้วประกาศใช้ แทนรัฐธรรมนูญที่ถูกประชามติคว่ำไปหรือไม่ บูรพา เล็กล้วนงาม......เรียบเรียง หอมกร.....เผยแพร่   Create Date : 11 เมษายน 2550 11 comments Last Update : 11 เมษายน 2550 8:06:23 น. Counter : 566 Pageviews. Share Tweet

การเมือง เรื่องน่าสนใจที่ควรเอาใจใส่ แต่ยังแก้ไขไม่ง่ายนัก ขอบคุณที่ไปทักทายจ้า วันนี้ดอกไม้ไม่ค่อยสวยนะคะ ที่บ้านเราปลูกค่ะ แอดบล็อกคุณหอมกรไว้เหมือนกันค่ัะ ดอกฮีเธอะ Heather   โดย: law of nature 11 เมษายน 2550 8:24:48 น.

แวะมาอ่านการเมืองคับ   โดย: frank3119 11 เมษายน 2550 10:02:46 น.

แวะมาอ่านนะครับ ไท้ค่อยกล้าคอมเม้นท์เรื่องการเมือง กลัวบล็อคโดนปิดนะ อิอิ   โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 11 เมษายน 2550 10:20:41 น.

ดีใจจังที่ราชดำเนินเปิดแล้ว ที่จริงนุทเชื่อว่า ในนั้นมีวอร์รูมจริง ๆ แต่มีทุกฝ่ายนั่นแหล่ะ แล้วแต่ว่าฝ่ายไหน ก็มีข้อมูล หรือ วาจาที่โน้มน้าว PR หรือ ข้อมูลเด็ด ๆ มากกว่ากัน จริงมั่ง โม้มั่ง โกหกมั่ง เป็นธรรมดาโลก แต่การจะมาปิดในยุคสมัยที่โลกไซเบอร์มันกว้างไกลอย่างนี้ มันทุเรศไปหน่อยอ่ะค่ะ ถึงแม้จะอยู่ในยุคของ ทหาร ครองเมืองก็เหอะ แต่นุทว่า คนพวกนี้ ค่อนข้างไดโนเสาร์ ค่ะ แย่มากมาก 555 เรื่องขนมเค้ก นุทเอาไว้ในถ้วยค่ะ ตอนแรกมันกินในถ้วยนั่นแหล่ะ แต่กินไปกินมา คงไม่ถนัด เลยเอาจมูกกันขนมออกมานอกถ้วยเลย แต่ยังดีน๊ะ มันจัดการกินจนหมด ไม่เหลือซาก   โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) 11 เมษายน 2550 10:58:18 น.

แวะมาอ่านข่าวสารหน่อยคะ....   โดย: จ้าววว... (น้ำอิน ) 11 เมษายน 2550 11:18:03 น.

แวะเข้ามาอ่านบล็อคคุณหอมกร หลายครั้งแล้ว ถึงแม้ว่าทัศนคติการเมืองจะแตกต่าง ก็เถอะนะ ทัศนคติ และความเชื่อ ทางการเมือง มันมาจากพื้นฐาน ประสบการณ์ของแต่ละคน ...เราไม่ชอบทุนนิยมสามานย์ ...เราก็ไม่เอาศักดินาล้าหลังด้วยเหมือนกัน ...แต่เรารักแผ่นดินไทย ... รักคนไทย ที่เป็นคนไทย ยิ้มง่าย มองโลกในแง่ดี มีความสุขกับชีวิต ... ช่างเถอะ ถ้าหากใครจะบอกว่าเป็นเพราะคนไทย นี่แหละที่ทำให้ชาติไทยไม่พัฒนาไปไหน อะไร ๆ ก็เลยเป็นแบบไทย ๆ อย่างที่เราเห็นนี่แหละ ...จะประชาธิปไตย ก็ไม่เคยไปถึง ... จะรวมศูนย์อำนาจ เราก็รับกันไม่ได้ ...แล้วจะเอาอย่างไง ...ไม่รู้ บลา บลา บลา ๆๆๆๆ   โดย: ดาวสีแดง (ดาวสีแดง ) 11 เมษายน 2550 12:21:15 น.

อยากให้บ้านเมืองเราดีกว่านี้ล่ะคะ ไม่ว่าจะฝ่ายไหน แต่ว่าถ้าหากว่าใจนั้นอยากช่วยชาติบ้านเมืองให้เจริญ เราเห็นด้วยทุกอย่างค่ะ /// ไม่ว่าไปมาลาไหว้ หรือไปลามาไหว้ ก็เหมือนกันค่ะ เพราะว่าไปๆ มาๆ มีโอกาสก็จะได้เข้าไปกราบพระสบายใจดีค่ะ   โดย: JewNid 11 เมษายน 2550 20:14:06 น.

เอางานหินไปด้วยนะคะ https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pookkiekitty&group=21   โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) 11 เมษายน 2550 21:40:27 น.

อืม ประชาธิปไตย ดีนักแล ฮิฮิ เลือดรักชาติอย่างแรง....จริงๆนะเออ ฮิฮิ   โดย: Hawaii_Havaii 12 เมษายน 2550 7:57:04 น.

ความวุ่นวาย ขึ้งเครียดของคนในสังคม   โดย: งง IP: 222.123.128.253 12 เมษายน 2550 9:12:46 น.

ในขณะที่พรรคการเมือง และประชาชนในประเทศประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว มุ่งที่จะรักษาผลประโยชน์ของชาติ แต่นักการเมืองในระบอบทักษิณกลับนึกถึงประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเป็นหลัก และที่สำคัญคือ ขาดจริยธรรม ความหมายของคำว่าประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น ไม่ใช่ เพียงแค่ การไปใช้สิทธิออกเสียงการเลือกตั้ง แต่ ต้องมีคุณธรรม และ จริยธรรมของผู้ปกครองเกี่ยวข้องด้วย หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือ ประชาธิปไตย ต้องหมายถึงการเมืองที่ดีด้วย ซึ่งการเมืองที่ดีก็คือ การเมืองที่มีธรรมาภิบาลนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ระบอบทักษิณได้ทำมาตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในอำนาจ คือ เอาคำว่าประชาธิปไตย ในรูปแบบของการเลือกตั้งมาบังหน้า ผสมผสานกับการ “มอมเมา” นโยบายประชานิยมกับพวกรากแก้ว ด้วยวิธีการตลาดอันแยบยล (เพราะทักษิณฯ มองประเทศชาติเป็นบริษัท) ซึ่งรากแก้วไม่อาจรู้ว่า ระบอบทักษิณได้เปลี่ยนพวกเขาให้เป็น “นักบริโภคนิยม” ที่มีความฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย จนติดเป็นนิสัย เหมือนกับติดยา แต่เป็น “การติดยาทางเศรษฐกิจแห่งลัทธิบริโภคนิยม” ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาบริโภค จนในที่สุดก็ขายชีวิตจิตวิญญาณของตนเอง กลายเป็นทาสของลัทธิบริโภคนิยมโดยสมบูรณ์ สำหรับประเด็นเรื่องเศรษฐกิจที่คอลัมนิสต์ผู้นี้ได้กล่าวโจมตีว่า การเข้ามายึดอำนาจของทหารทำให้เกิดการชะลอตัวของการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งในข้อนี้ถ้าเราพิจารณาให้ดีแล้ว จะเห็นว่า สาเหตุนั้น เริ่มมาจากรัฐบาลทักษิณนั่นเอง เริ่มตั้งแต่การแปรรูปกิจการพลังงานของชาติเป็นของเอกชน เช่น ปตท. ที่ขายเป็นหุ้นเข้าไปในตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว และได้กลายเป็นปมขัดแย้งทางการเมืองที่บาดลึกระหว่างประชาชนและรัฐบาลทักษิณ ซึ่งถ้าทหารไม่เข้ามาแทรกแซงยึดอำนาจเสียก่อน ก็จะมีการขายสมบัติสาธารณะด้านอื่นๆอีก อย่างเช่น ช่องสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ ความถี่ของโทรศัพท์เคลื่อนที่โครงข่ายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ทางด่วน ขนส่งมวลชน สนามบิน ท่าเรือ วงโคจรดาวเทียม เส้นทางการบิน ประปา รวมถึง โครงข่ายระบบไฟฟ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ ทหารจำเป็นต้องเข้ามาดำเนินการ เพื่อให้มีการตรวจสอบ เอาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี (เพราะไม่มีรัฐบาลประเทศใดในโลก ที่จะขายสมบัติสาธารณะให้เป็นของเอกชน โดยเฉพาะกิจการที่กระทบต่อความมั่นคง และความภูมิใจของชาติ ยกเว้นรัฐบาลที่ไร้คุณธรรมเช่นรัฐบาลทักษิณ) และระหว่างอยู่ในช่วงตรวจสอบนี้ อาจจะทำให้บรรยากาศการลงทุนชะงักงันไปบ้าง แต่ในระยะยาวจะเป็นผลดีต่อประเทศ เพราะสามารถรักษาสมบัติของชาติไว้ได้ เหมือนกับยอมเสียอวัยวะบางส่วนเพื่อรักษาร่างกายไว้ เพราะถ้าทหารมัวแต่ห่วงบรรยากาศการลงทุนแล้วปล่อยให้นักการเมืองฉ้อฉลกินบ้านกินเมืองต่อไป ประเทศไทย และประชาชนคนไทยคงลำบากกว่านี้แน่   โดย: พญางูใหญ่ 27 เมษายน 2550 23:21:54 น.