ผู้ที่ควรแก่การยกย่องและเคารพ คือผู้ที่ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม มิใช่ผู้ที่ทรงอำนาจ แต่ไร้คุณธรรม "ป๋วย อึ้งภากรณ์"
Group Blog
 
<<
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
30 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
ทิ้งการเมือง แต่ไม่ทิ้งบ้านเมือง : มุมมองของ อุกฤษ มงคลนาวิน

ขอขอบคุณ หนังสือพิมพ์กรงเทพธุรกิจ ที่กล้านำบทความนี้ มาตีแผ่
ให้มุมมองอีกด้านหนึ่งกับผู้อ่าน


ขอบคุณด้วยใจจริง จากคุณ : cmart2000 แห่งห้องราชดำเนิน

ทิ้งการเมือง แต่ไม่ทิ้งบ้านเมือง
ดูจะเป็นวลีประจำตัวของ ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน ไปแล้ว เพราะแม้อดีตประธานรัฐสภาหลายสมัยผู้นี้จะประกาศว่างมือทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ก็ไม่วายมีชื่อปรากฏทุกครั้งในยามที่บ้านเมืองต้องการคนกลาง เพื่อแก้วิกฤติ

เมื่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันกำลังเดินเข้าสู่ “จุดแตกหัก" อีกครั้ง เสียงจาก ศ.ดร.อุกฤษ ในฐานะผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง คนหนึ่ง จึงมีน้ำหนักมากพอที่ทุกฝ่ายสมควรสดับตรับฟัง

ศ.ดร.อุกฤษ วิเคราะห์ว่า ความรุนแรงทางการเมืองเป็นเรื่องที่น่าห่วง และมี
ต้นเหตุมาจาก 2 ส่วน คือ กลุ่มที่ออกมาต่อต้านผู้ที่ถืออำนาจรัฐในปัจจุบัน
ซึ่งอาจจะเรียกว่า"กลุ่มอำนาจเก่า" ก็ได้ โดยกลุ่มอำนาจเก่าที่ว่านี้
มีพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเกินกว่า 15 ล้านเสียง เป็นแกนหลัก
จึงถือว่ามีพลังไม่น้อยเลย

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มที่ไม่พอใจในวิธีการได้มาซึ่งอำนาจของ "กลุ่มอำนาจปัจจุบัน" ที่มาจากนอกกติกาประชาธิปไตย จึงมีความไม่พอใจอยู่ และมีการรวมตัวกัน อย่างไรก็ตาม ถ้าการบริหารบ้านเมืองเป็นไปด้วยดี
กลุ่มพลังต่างๆ ก็ไม่มีทางปลุกระดมขึ้นมาได้ แต่หากบริหารบ้านเมือง
ในสภาพที่ยิ่งกว่าช่วงก่อน 19 กย 2549 ก็ย่อมจะเกิดปัญหา

ศ.ดร.อุกฤษ เห็นว่า สถานการณ์บ้านเมืองในด้านต่างๆขณะนี้ หนักหนายิ่งกว่าช่วงก่อนการรัฐประหารมาก และสถานการณ์ในอนาคตอันใกล้ก็ส่อเค้าว่าจะรุนแรงจาก 3 ปัจจัยสำคัญคือ

1. ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งทุกฝ่ายยอมรับว่ารุนแรงขึ้น และรัฐบาลแก้ปัญหาไม่สำเร็จ

2. คดีความที่กล่าวหาว่าหมิ่นเหม่ต่อสถาบันเบื้องสูง ปรากฏว่า
อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ทั้งๆ ที่เป็น 1 ใน 4 เหตุผลของการยึดอำนาจ

3. การตรวจสอบทุจริต ที่ไม่ยึดหลักนิติธรรม


แม้ที่ผ่านมาหลายฝ่ายจะมองว่า คณะทหารที่ก่อการยึดอำนาจ ไม่ใช้อำนาจให้เป็นประโยชน์เท่าที่ควรจนถูกเรียกขานว่าเป็น "รัฐประหารหน่อมแน้ม" ทว่าในมุมมองของ ศ.ดร.อุกฤษ กลับเห็นตรงกันข้าม โดยเฉพาะในบริบทของการตรวจสอบทุจริต ที่จะทำให้ "กลุ่มอำนาจเก่า"ไม่มีที่ยืน

"เมื่อยึดอำนาจแล้ว คณะทหารและรัฐบาลบอกว่าจะปกครองบ้านเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยยึดหลักนิติธรรม ซึ่งหลักนิติธรรมก็คือ ต้องถือว่า
ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธ์อยู่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาว่ากระทำผิดจริง แต่การตั้ง คตส. แล้วออกข่าวเกือบจะเรียกว่า 3 เวลาหลังอาหารว่า
คนนั้นทุจริต เรื่องนั้นเรื่องนี้โดยระบุชื่อชัดเจน แบบนี้ถือว่า
ขัดหลักนิติธรรม เพราะจะผิดหรือถูกยังพิสูจน์ไม่ได้
คนพิสูจน์คือศาล ไม่ใช่ คตส.
"


"ถ้าสุดท้ายเหตุการณ์กลับตาลปัตร เอาผิดไม่ได้เลย ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นี่พูดถึงอกเขาอกเรา และคนเราพอถูกกระทำอย่างนี้ เรียกว่าหลังพิงกำแพงแล้วสัญชาตญาณของคนที่มีศักยภาพต่อสู้เพื่อตัวเอง เพื่อชื่อเสียง
เพื่อครอบครัวได้ และสมัครพรรคพวกก็มีจำนวนมาก เขาก็ต้องสู้"

"ที่สำคัญก็คือ ไม่มีหลักนิติธรรมที่ไหนที่เอาฝ่ายปฏิปักษ์มาสอบสวนพิจารณาความผิดของคู่กรณี ทำไมไม่ตั้งคนกลางจริงๆ
เหมือนสมัย รสช. ผู้ที่เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบยึดทรัพย์สิน
ในขณะนั้น คือ พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ ซึ่งได้รับการยอมรับนับถือใน
ความซื่อสัตย์สุจริต แต่การตั้ง คตส. สมัยนี้ผิดกัน ทำให้การยอมรับ
ไม่เกิดขึ้น คนเราเวลาใครมากล่าวหาญาติพี่น้องและผู้สนับสนุนก็ต้อง
เดือดร้อน ความโกรธนั้นไม่อันตราย แต่เมื่อความโกรธกลายเป็น
ความแค้น นั่นแหละคือ สิ่งที่คาดหมายได้ว่าจะเกิดอะไรบางอย่าง"


อดีตประธานรัฐสภา ผู้คร่ำหวอดในแวดวงการเมือง ยังตั้งคำถามด้วยว่า ประเทศของเราต้องการปกครองด้วยระบอบอะไร เพราะขณะนี้เรากำลังพูดคนละเรื่องเดียวกัน ขณะที่เรากำลังบอกว่าประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่ถามจริงๆว่าเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยแค่ไหน

"สมมติฐานของเราก็คือ ต้องการปกครองใรระบอบประชาธิปไตยที่ดีกว่าช่วงก่อน 19 กย. แต่ขณะเดียวกันเราต้องกลับไปหาประชาชนเพื่อใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตย ถามว่าช่วง 1 ปี เราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความคิดทางการเมือง ของประชาชน 30-40 ล้านคนได้หรือไม่
เพราะเราให้บทเรียนใดแก่ประชาชน เราอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย
แต่เราได้อำนาจมาโดยวิธีการที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แล้วเราจะไป
เรียกร้องให้ประชาชนเป็นประชาธิปไตยได้หรือ"


"ผมคิดว่าเราต้องเข้าใจคำว่าประชาธิปไตยเสียก่อน โดยเฉพาะอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ฉะนั้นในที่สุดเราจะทำอะไรก็ได้ ต้องกลับไปหาประชาชน แต่ตอนนี้เรากำลังหลงทาง กลายเป็นว่า ความคิดของคนบางกลุ่มเหนือกว่าประชาชนที่เป็นเสียงข้างมากของประเทศหรือเปล่า ถ้าเราเชื่อว่าความคิดนี้ถูก ก็ต้องเลิกเป็นประชาธิปไตย"

"อนาคตของประเทศจะล่มจม จะพัง หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ถ้าจะพังก็ประชาชนเขาเลือกที่จะพัง ทำไมเราไม่ปล่อยให้ประชาชนเป็นผู้วินิจฉัย ประชาชนอาจจะคิดถูกก็ได้ คิดผิดก็ได้ เราเอาอะไรมาเป็นเครื่องวัดว่าเรารู้ดีกว่าประชาชน ถ้าเรายึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อย่างดูถูกประชาชน อย่างคิดว่าฉันมีการศึกษา ฉันมีข้อมูลดีกว่า เพราะหลายๆ เรื่องชาวบ้านรู้ดีกว่าเสียอีก"

ศ.ดร.อุกฤษ เห็นว่าระบบการเมืองทุกวันนี้มั่วไปหมด
แม้แต่หลักการพื้อฐานที่สุดที่เขียนไว่ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับว่า
อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้
อำนาจนั้นผ่านสถาบันคือ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล
ปัจจุบันก็ดูจะถูกลืมไป"

"อำนาจการบริหาร อำนาจตุลาการจำไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว แต่เดี๋ยวนี้ต้องไปศึกษากันใหม่แล้ว ถนนสามเลนวิ่งกันมั่วหมด ทุกคนอยากวิ่งในเลนที่ไม่ใช่ของตัว โดยเฉพาะไม่ได้รับมอบฉันทะจากประชาชน วันหนึ่งมันจะเกิด
ความโกลาหลวุ่นวาย เพราะการวิ่งผิดเลน คือต้นตอของปัญหา
ที่เกิดอยู่ในปัจจุบัน แล้วนับวันจะรุนแรงขึ้นทุกที่ เพราะเราไม่รู้จักว่า
ขอบเขตสิทธิหน้าที่ของเราอยู่ตรงไหน เขามีเส้นขีดไว้ เราข้ามเส้น
ล้ำเส้นหรือเปล่า ไปคิดเอาเอง"


เขายังวิพากษ์สังคมไทยด้วยว่า คนไทยชอบเห็นอะไรสะใจ โดยที่ไม่ตระหนักว่าการทำอะไรด้วยความสะใจ จะสร้างความเสียหายใหญ่หลวง

เวลาเห็นรถชน เราก็ไปมุงดูกัน การจราจรติดขัดช่างมัน หรือเห็นนักเรียนตีกัน ทีวีก็ไปทำข่าวกัน เอิกเกริก มันไม่ใช่การทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก แต่กระพือเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อความสะใจ แล้ววันหนึ่ง จะรู้สึกว่าสิ่งที่ท่านทำด้วยความมันและสะใจนั้น ท่านกำลังทำลายประเทศชาติและสังคมของคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ

อย่างไรก็ดี ศ.ดร.อุกฤษ เสนอทางออกว่า เมื่อสถานการณ์ปัจจุบัน คือ
ทุกฝ่ายกำลังไม่เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ถ้าถามว่าใครจะเป็นคนหยุดก่อน
หรือหยุดหลังคงไม่ได้ ฉะนั้นหยุดพร้อมกัน แล้วอาศัย หลัก 4 ประการคือ
1. ยึดพระเจ้าอยู่หัวเป็นหลักชัย
2. รู้รักสามัคคี
3. อาศัยหลักเมตตาะรรม
4. อาศัยหลักนิติรรม


"อะไรที่ผิดกฏหมาย หาหลักฐานมาให้ได้ แล้วส่งเข้ากระบวนการยุติธรรมเพื่อลงโทษอย่างเด็ดขาด แต่อย่ามากล่าวหากันเป็นรายวัน ถ้าทำได้ความรุนแรงก็จะน้อยลง จากนั้นก็เลือกตั้งให้เร็วที่สุด เอารัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้
ตั้งคณะกรรมการดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมจริงๆ ถ้าไม่เชื่อใจ
กันเอง ก็ให้องค์กรเกี่ยวกับการเลือกตั้งของต่างประเทศ เขามา
สังเกตการณ์ก็ได้ และเมื่อผลออกมาเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ
ขอให้กฏหมายอยู่เหนือกฏหมู่ และการเมืองต้องรู้แพ้รู้ชนะ รู้อภัย
รู้จักกติกามารยาท"

"ถ้าตราบใดยังอยากให้มีการปกครองโดยประชาชน ก็ต้องมีการเลือกตั้งเร็วๆ เดี๋ยวนี้ยุคโลกาภิวัฒน์ สากลไม่ยอมรับการปกครองระบอบอื่นอีกแล้ว
นอกจากประชาธิปไตย ฉะนั้นถึงอย่างไรก็ไปไม่รอด รีบคืน
ประชาธิปไตยให้ประชาชนเสีย แล้วขอให้มีความเมตตาต่อกัน
ให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษตามกระบวนยุติธรรม
ถ้าทำได้ตามนี้ก็จะสงบ"


คัดลอกมากจาก บทวิเคราะห์ ของ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ หน้า 2 วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2550





Create Date : 30 เมษายน 2550
Last Update : 30 เมษายน 2550 9:16:02 น. 24 comments
Counter : 762 Pageviews.

 
เย มาคนแรก

นุทว่าน๊ะ สมัยนี้ใครพูดถูกใจเรา เราก็ชอบเค้า <ณ ช่วงเวลานั้นที่เค้าพูดตรงใจเรา> ถ้าใครพูดตรงกันข้ามกับความเห็นเรา ไม่ตรงใจเรา เราก็ด่า

จำบทบาท ของ ดร.อุกฤษ ไม่ค่อยได้แล้วค่ะ ลืมไปแล้วง่ะ


โดย: Noot@Lampang (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:14:26:55 น.  

 

หมอยุ่นขอ.คิด ,

หมอยุ่นขอ..เขียน ,

หมอยุ่นขอ...พูด (บ้าง)

-----------------------------------------------------------

หมอยุ่นขอ...พูด (บ้าง) [7]



วิกฤติของชาติ สู่ สันติภาพ ได้อย่างไร ?


1. คมช. + รัฐบาล ตั้งหลักให้มั่น,

แถลงการณ์แก่สื่อทั่วโลก พูดให้ชัดว่า

เลือกตั้งอย่างช้าในเดือน ธันวาคม 2550

เพื่อลดความหวาดละแวง, ความเดือดร้อนของทุกฝ่าย


2. คมช. + รัฐบาล อย่าขัดกันเอง

ลงเรือลำเดียวกันแล้ว , มีเดิมพันสูง

ประคับประคองให้ถึงฝั่ง ,

ต้องป้องปราม อย่าให้มีการรัฐประหารซ้ำ / ซ้อน

อย่างเด็ดขาด

นายกรัฐมนตรีต้องอดทน , เสียสละ อีกไม่กี่เดือนแล้ว

อย่าได้ มีการกดดันให้ลาออก หรือ อย่าลาออกเอง


3. เปิดการเจรจาเพื่อสันติ ระหว่าง กลุ่มผู้เคลื่อนไหว

ทั้งที่ต่อต้าน , สนับสนุน รัฐบาลชุดเก่า และ ชุดปัจจุบัน

อย่างเปิดเผย , จริงใจ , แสดงออกถึงการสมานฉันท์

โดยเผยแพร่ทางสื่อทุกสาขา โดยเฉพาะ โทรทัศน์

เพื่อตกลงแนวทางสันติวิธี สู่ การเลือกตั้ง ตามระบอบ

ประชาธิปไตย


4. ให้มีรายการทางสถานีโทรทัศน์, วิทยุ เป็นรายการ

" หยุด...หันหน้าเข้าใจกัน

สู่ การเลือกตั้ง "

ให้มีทุกๆวัน , เชิญผู้มีแนวคิดด้านสันติวิธี ออกมาพูด

โดยรับฟังความคิดของประชาชนทุกกลุ่มสาขาอาชีพ

และ รณรงค์การเลือกตั้ง ให้ บริสุทธิ์ , ยุติธรรม


5. ขอความร่วมมือ สื่อทุกสาขา ช่วยกันเป็นช่องทาง

การแสดงออกของประชาชนทุกคน สำหรับ

เพื่อการสร้างสรร , หยุดการสื่อด้านทำลาย

เป็นลักษณะ สื่อสร้างชาติ , สมานฉันท์


6. คมช. + รัฐบาล หยุดการโหมประชาสัมพันธ์

เพื่อดิสเครดิตรัฐบาลชุดก่อน , รอให้เสร็จสิ้น

การตรวจสอบตามกระบานการยุติธรรมแล้ว จึงแถลงผล


7. ร่าง รัฐธรรมนูญ ฉบับแรกให้มีการแสดงความคิดเห็น

อย่างโปร่งใส ทางสื่อทุกสาขา โดยเฉพาะ โทรทัศน์

กรณี ถ้า ประชาชนลงประชามติ ไม่รับ ร่างรัฐธรรมนูญ

คมช. ต้องแสดงความจริงใจ , เคารพความคิดเห็นของ

ประชาชน ประกาศล่วงหน้าเลยเพื่อให้ชัดเจน ว่า

จะนำรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2540 มาใช้ชั่วคราว

สำหรับการจัดการเลือกตั้ง ปลายปีนี้ เพื่อไปร่าง

รัฐธรรมนูญ ฉบับถาวร กันใหม่หลังเลือกตั้ง


8. กรณี อดีต นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

ให้ คมช. + รัฐบาล

แสดงความจริงใจ , ให้ความเป็นธรรม

เปิดทางให้กลับประเทศไทย เพื่อสู่

กระบวนการยุติธรรม ตามหลักสากล


9. ศาลต่างๆ ให้แถลงการณ์ถึงจุดยืนว่า การพิจารณา

คดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดก่อน จะเป็น

ไปอย่างอิสระ , บริสุทธิ์ , ยุติธรรม


10. คดีความต่างๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ตามปกติที่มีอยู่เดิม , ยุติลักษณะเฉพาะกิจ เช่น

คตส.



วิกฤติของชาติ สู่ สันติภาพ ได้อย่างไร ?


ตุลาการ เป็นหลัก ให้ความเป็นธรรม ,

นับถอยหลัง สู่ การเลือกตั้ง ที่บริสุทธิ์ , ยุติธรรม

เปิดการเจรจาโดยสันติวิธี สู่ แนวทางที่ชัดเจน ,

ทุกคน , ทุกกลุ่ม หยุด...หันหน้าเข้าใจกัน


หมอยุ่น ษัษฐบุตร พฤทธิพันธุ์

บุคคลตัวอย่าง ปี 2542 - 2543

โดย สภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย

ใน พระบรมราชูปถัมป์-

สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

//www.esnips.com/web/moryoonwrite
//www.oknation.net/blog/moryoon
//moryoon.blogspot.com
//moryoon.tapee.ac.th
//moryoon.bloggang.com


โดย: หมอยุ่น ตามรอยพุทธทาส (moryoon ) วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:17:16:45 น.  

 
ชอบจำสับสนระหว่าง ดร.อุกฤษ กะ อีตา มีชัย ฤทธชุพันธ์เรื่อยเลยค่ะ คนแรกหนิเค้ามักจะเป็น ประธาน วุฒิ ใช่ไหมอ่ะ ลืมไปแล้วจริง ๆ หน่ะ

ส่วนคนที่สอง รับใช้รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย เข้าได้กับทุกรัฐบวม

แต่เรื่องจิงทีเดียวค่ะ ถ้าอ่านราชดำเนินบ่อย ๆ หากใครมาคิดเหมือนกับคนส่วนใหญ่ในราชดำเนิน ก็จะมีคนเข้ามาชื่นชอบ ชื่นชม แต่หากคิดตรงข้าม ก็จะเป็นอีกแบบ

เพราะฉะนั้นไม่ใช่ตัวคนจริง ๆ ค่ะ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และ ตัวแปรอะไรซักอย่างที่พยากรณ์ลำบาก ประมาณว่า ต้องขึ้นอยู่กับความพอใจ <ที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เหมือนอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย season change> ของ ปชช ด้วยอ่ะจ้ะ


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 30 เมษายน 2550 เวลา:22:52:49 น.  

 
อืม การเมืองเรื่องปวดหัวครับ อิอิ
ใครจะมาจะไปสำหรับผมก็คงต้อง
หาเช้ากินค่ำอยู่ร่ำไป เพราะฉนั้น
ตอนนี้ใครเป็นนักการเมืองชื่ออะไร
อยู่กระทรวงไหนก็จำได้ไม่กี่คนเล้ย


โดย: smack วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:53:31 น.  

 
การเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ
ไม่ว่าอำนาจเก่า อำนาจใหม่
เมื่อมีขั้ยอำนาจอยู่ในมือก็มักฮึกเหิมและหลงระเริงในอำนาจนั้น
นำกฏหมู่มาใช้รวมกับกฏหมายจนเป็นเรื่องปกติไปเสียชิป..
ทำทุกอย่างเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง
ประเทศชาติจะเป็นอย่างไรเอาไว้ก่อน
พูดกลับไปกลับมา..ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
แย่ลงๆ ทุกวัน
เฮ้อ..ประเทศชาติ
.....................
เซ็งมากๆ เวลาพูดเรื่องการเมือง อารมณ์ปะทุทุกที นี่เป็นเหตุผลที่ไม่อยากแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
...................
ขออภัยที่พูดจาไม่ค่อยสุภาพนะคะ
.................
กลับไปติ๊งต๊องแบบเดิมที่บล๊อกดีกว่า บ๊าย บายค่า




โดย: pataramin วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:32:48 น.  

 

เมื่อวานนี้คอมบ้านป้าเกเร
เลยมาทักทายไม่ได้
วันนี้ป้าเลยเอาภาพสวยๆมาฝากนะคะ
เรื่องลดฟามอ้วน...ถ้าจะกู่ไม่กลับซะแล้ว
แต่ป้าหู้จะเป็นกำลังใจให้"น้องมือหอม"ของป้านะจ๊ะ
สู้...สู้...สู้ว้อยย...



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:54:46 น.  

 
สวัสดีครับ คุณ หอมกร
และชาว BlogGang ทุกท่าน

ขอบคุณครับที่เข้าไปให้กำลังใจ

ผมเห็นด้วยกับแนวทางที่ท่านอาจารย์อุกฤษ
เสนอ คมช. + รัฐบาล ควรทำนะครับ บ้านเมืองจะดีขึ้น
เพราะเป็นผู้ใหญ่กันแล้วทั้งนั้น ลดๆอัตตา , เสียสละกัน
ให้ชาติรอดภัยเถิด ชาติเจริญ , เข้มแข็ง , มั่นคง
อนุชนรวมถึงทุกท่านก็จะดีด้วย จะได้ไม่สาบแช่งรุ่นก่อนๆกัน

หมอยุ่น


โดย: หมอยุ่น ตามรอยพุทธทาส IP: 202.149.102.4 วันที่: 1 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:06:25 น.  

 
ที่มะได้อัพบล๊อค ก็เพราะอยู่เชียงใหม่ กะ ลำปางมาจ้ะ ช่วง 4 วันที่ผ่านมา

แต่เข้าเน็ตได้ปกติที่ office ที่โน่นค่ะ

แวะมาทักรอบดึก ไปนอนแระ

พี่หอมกรช่วยหน่อยดิ

//www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X5368388/X5368388.html


โดย: @homebkk (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:38:56 น.  

 
แวะมารายงานตัวค่ะ ว่ากลับมาจากไปเที่ยวแล้วน่ะค่ะ แล้วก็อัพบล็อคทั้งหมดที่เหลือ อย่าลืมเข้าไปให้กำลังใจน่ะค่ะ ระหว่างที่ไปเที่ยวก็เกือบเผลอไผลทานอาหารนอกสูตรซะแล้ว แต่ดีที่ว่ายับยั้งชั่งใจได้ทัน มิงั้นมีหวังน้ำหนักขึ้นแหง ๆ เลยค่ะ พรุ่งนี้ถึงจะอัพเดทเรื่องน้ำหนักน่ะค่ะ ตอนนี้ยังไม่บอกดีกว่าว่าลงไปทั้งหมดเท่าไหร่


โดย: bluecomet วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:4:52:02 น.  

 
หยุดไปหลายวัน ขี้เกียจเลยค่ะ ง่วงด้วย มาทำงานด้วยอาการง่วงเหงาหาวนอนสุด ๆ

เรื่องนู๋ผึ้ง เดี่ยวนุทคงใช้วิธีที่เค้าแนะนำมาอ่ะค่ะ แต่ถ้าไม่สำเร็จจริง ๆ อาจจะต้องแจ้งหน่วยงาน แนว ๆ "ร่วมด้วยช่วยกัน" ให้เค้ามาช่วยอ่ะจ้ะ

ใจจริงก็ไม่อยากไปรบกวนเค้าหรอก แต่ไม่อยากให้เค้ามาอยู่ด้วยอ่ะ กัววววววว


โดย: @OfficeBKK (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:52:44 น.  

 
แวะมาเยี่ยมแล้วนะครับ

ขออนุญาตไม่คอมเม้นท์เรื่องการเมืองนะครับ เพราะว่าหมอสั่งห้ามไว้นะ ... อิอิ

เอาเป็นสั้น ๆ ว่า ส่วนตัวผมแล้ว ผมชอบและชื่นชมแนวคิดคิดของท่านอาจารย์ ดร. อุกฤษ มาโดยตลอด รวมทั้งบทความชิ้นนี้ด้วยครับ (เห็นด้วยแต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็น)

จะมาฝากข่าวเพื่อบอกให้คุณหอมกรได้ทราบว่า ...

โชคดีที่ผมยกเลิกงานแถลงข่าวเมื่อวานนี้ได้ทัน เนื่องจากเมื่อวันก่อน(วันจันทร์)ตอนเย็น ผมโทรศัพท์ไปที่เบอร์ 1900 1900 xxx ไปสอบถามดวงชะตาพยากรณ์จากหมอลักษณ์ฟันธง หมอลักษณ์บอกว่าให้ยกเลิกงานแถลงข่าวเถอะ เพราะว่าจัดไปก็ไร้ค่า ไม่ได้เป็นกิ๊กกันจริง แถลงข่าวไปก็มีแต่จะเสียหน้าทั้งคู่ อาจจะโดนไปลงข่าวหน้า 1 ให้อายกันทั้งประเทศแบบคู่ของโดมและพลอยก็ได้

หมอลักษณ์บอกว่า งานนี้ไม่มีมือที่ 3 หรอกครับ เพียงแต่ว่าฝ่ายสาวเจ้า(ป้าต้า)ยังคงมีใครอยู่ในใจนะ ไม่เชื่อลองอ่านเรื่องของคุณป้าต้าวันนี้สิ รู้ทั้งรู้อยู่ว่า ในเรื่องนี้คุณป้าต้ายังคงนึกใครบางคนที่ยังคงอยู่ในใจ ที่คุณป้าต้าเฝ้ารอคอยอยู่ตลอดชีวิต

คุณป้าต้าเค้ามีคนที่แอบรักอยู่แล้วก็ไม่บอก มาหลอกให้ผมหลงกิ๊ก .... อิอิ

วันนี้ผมเลยเขียนเรื่อง "ปล่อย ... เพื่อปลดปล่อย" เพื่อให้คุณป้าต้าโดยเฉพาะเลยนะครับ

"ปล่อยให้น้องเค้า(ป้าต้า) ไปเจอคนที่ดี ๆ กว่าผมเถอะ ... ได้บุญกว่าเยอะเลยนะ"

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:10:21 น.  

 
จำหนูได้ไหมพี่จ๋า

น้องแวะมาเยี่ยมนะค่ะ

คิดถึงนะ

จู๊ฟๆๆๆๆ



โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:16:27 น.  

 


วันนี้ป้าเอาผลไม้จัดใส่กระเช้าสวยงามมาฝาก
ทานผลไม้เยอะๆดีต่อสุขภาพนะคะ



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:59:56 น.  

 
การเมือง พูดหรือไม่พูดดีน๊า ฮิฮิ วันนี้ขอไม่พูดดีกว่า เพราะว่าใครไกลจะรู้ดีกว่าคนไกล้ได้งัย ฮิฮิ วันนี้มาแบบยังไม่ตื่นค่ะ ฮิฮิ

นอนหลับฝันดีนะค่ะ


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 2 พฤษภาคม 2550 เวลา:20:48:07 น.  

 
พวกอาจารย์ปัญญาชนรวมกับนักวิชาการสมองชั้นสูงกะสื่อทั้งหลาย ไม่ส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย ทำลายระบบเสรีประชาธิปไตย เลือกทหารให้ปฏิวัติด้วยความเต็มใจ
ทำลายชาติย่อยยับ ประชาชนเขาไม่ได้เต็มใจให้ทำเลย
ปากท้องของเขาสำคัญกว่า ไม่ได้มีนอกมีในด้วย ไม่ได้รำรวยจากการปฏิวัติ
เศรษฐกิจของชาติพังพินาศย่อยยับ แรงงานต้องตกงาน โรงงานปิด เด็กจบมาไม่มีงานทำ
แล้วใครจะช่วยพวกเขาล่ะครับ พี่น้อง


โดย: adventure IP: 202.5.84.246 วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:14:07 น.  

 


โดย: NEZ วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:1:43:44 น.  

 
สวัสดีตอนดึก ๆ ของที่นี่ค่ะ อยากจะบอกว่าสนุกมากค่ะ ไปเที่ยวครั้งนี้ เรื่องออกนอกสูตรเกือบ ๆ ไปค่ะ พยายามบอกตัวเองว่ากว่าจะมาได้ถึงเท่านี้ใช้เวลานานน่ะ แล้วก็เดินจากมาจากสิ่งยั่วยุทั้งหลายแหล่ค่ะ

มีความสุขมาก ๆ น่ะค่ะ นนนี่อัพบล็อคแล้วน่ะ อาจจะยาวไปสักหน่อยค่ะ


โดย: bluecomet วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:5:33:48 น.  

 
จ๊ะเอ๋ ...

ตื่นยังค่ะ อรุณสวัสดิ์จ้า

งง ๆๆ ละสิว่าหนูเป็นใคร

จู๊ฟๆๆ

ไปละ

คิดถึงค่ะ



โดย: ดอกหญ้าเมืองเลย วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:03:17 น.  

 
เฮ้ย อัพบ๊อคเสียทีสิ เจ้

เบื่อคุงอุกิต แล้ว อ่ะ

พี่หอมกร นุทลองไปเล่นเกมส์คนหน้าเหมือนมา ฮี่ ฮี่ หน้าเหมือน คาเมรอน ดิแอซ ล่ะ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=pookkiekitty&group=21

ป.ล. มะคืนนุททำพิธีไล่หนูผึ้ง โดยการจุดธูปให้ควันออกเยอะ ๆ อ่ะค่ะ ช่วงนี้คงทำต่อเนื่องกันทุกคืน

ไม่ได้อยากทำร้ายเค้าน๊ะ แต่ไม่อยากให้เค้ามาอยู่ด้วยอ่ะ แล้วมันเพิ่ง ๆ เริ่ม จะได้ตัดไฟเสียแต่ต้นลม


โดย: ปุ๊กกี้&คิตตี้ (ปุ๊กกี้&คิตตี้ ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:52:16 น.  

 
มาเยี่ยมก่อนเที่ยงค่ะ สนุกกับการทำงานนะคะ


โดย: pataramin วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:12:28 น.  

 
แวะเข้ามาอ่านครับผม


โดย: สอระ (สอระ ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:59:10 น.  

 
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าห้องราชดำเนิน(คลั่งbloggangอยู่) แต่แว๊บไปอ่านกระทู้อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้เม้นท์ มีอะไรคืบหน้า มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ


โดย: pataramin วันที่: 3 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:06:49 น.  

 
เห็นด้วยกับท่านอ.อุกฤษค่ะ ท่านพูดจามีเหตุผล ดีกว่าคตส.อีก


โดย: ปุ๊ค่ะ IP: 124.120.37.17 วันที่: 4 พฤษภาคม 2550 เวลา:15:17:54 น.  

 
ขอทบทวนความหมายที่สมบูรณ์ของคำว่าประชาธิปไตย อีกครั้ง เพื่อประชาชนทั้งหลายจะได้เข้าใจและรู้ทันการกล่าวอ้างของนักการเมืองบางพวก ที่ชอบเอาคำว่าประชาธิปไตยมาบังหน้าเสียที ประชาธิปไตย โดยแท้จริง ต้องอยู่บน
หลักการ ๕ ประการ ได้แก่
๑. หลักเสรีภาพ
๒. หลักความเสมอภาค
๓. หลักเหตุผล
๔. หลักเสียงข้างมาก
และสุดท้าย๕. หลักหมุนเวียนในการดำรงตำแหน่ง
แต่ปรากฎว่า รัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณไม่ได้ยึดหลักการเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็น การให้เสรีภาพแก่สื่อมวลชนซึ่งกรณีนี้นอกจากไม่ให้แล้วยังซื้อสื่อมาอยู่ในมือเพื่อให้เป็นกระบอกเสียงของตนอีกนอกจากนั้นยังไม่เคยคำนึงถึงความเสมอภาคและหลักเหตุผลคำนึงแต่ว่าใครเลือกพรรคไทยรักไทย ก็ต้องได้รับประโยชน์ก่อน (เป็นที่มาของวลีฮิต “จังหวัดไหน เลือกไทยรักไทย ก็เอางบไปก่อน”)


โดย: พญางูใหญ่ วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:8:04:37 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หอมกร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 64 คน [?]




ทำงานราชการมีจิตใจรักชาติไม่น้อยกว่าใคร จากเดิมทำบล็อกหลากหลายที่ตนเองสนใจ ปัจจุบันเน้นแปะเรื่องราวจากภาพยนตร์ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อการตัดสินใจไปดู
Hello ! Hello ! Hello ! ขอบคุณสำหรับการเยี่ยมเยียนจ้า
Friends' blogs
[Add หอมกร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.