แกงโฮะ+จับฉ่าย+รวมมิตร
<<
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ธันวาคม 2550
 
 
พระสมเด็จ......จักรพรรดิ์แห่งพระเครื่อง









***************************************************************************

การกำเนิดพระสมเด็จ

แหล่งกำเนิดพระสมเด็จ เท่าที่ทราบมีอยู่ด้วยกัน 3 วัด คือ

1. วัดระฆังโฆษิตาราม
วัดนี้เป็นวัดเก่าโบราณนานมาแล้วในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตามหลักฐานในประศาสตร์ กล่าวเล่ากันว่า วัดนี้มีชื่อว่า "วัดบางหว้าใหญ่" ครั้งถึงยุคกรุงรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ให้เป็นพระอารามหลวงโดยทรงให้เปลี่ยนชื่อเสียใหม่ว่า "วัดระฆังโฆษิตาราม" สืบมากระทั่งทุกวันนี้ และเป็นวัดที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โตฯ ได้มาบวชเณรอยู่จนได้รับพระสมณศักด์ขึ้นเป็นสมเด็จพุฒาจารย์ ฯ และเป็นเจ้าอาวาสจนสิ้นบุญนับเป็นครั้งแรกที่ท่านได้สร้างขึ้นไว้

2. พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม "วัดใหม่อมตรส"
กล่าวกันต่อมาว่าเสมียนตราด้วงต้นตระกูลธนโกเศศ เป็นผู้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่จนแล้วเส็จเมื่อปี พ.ศ. 2411 และได้สร้างพระเจดีย์ขึ้นเพื่อบรรจุอัฐิบรรพบุรุษ ครั้นต่อมาเสมียนตราด้วงได้ไปนิมนต์ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ มาทำพิธีสร้างพระสมเด็จ ขึ้นที่วัดอินทรวิหารซึ่งแต่เดิมนั้นชื่อว่า "วัดบางขุนพรหมนอก" แลัวนำมาบรรจุไว้ในพระเจดีย์ใหญ่ที่วัดใหม่อมตรส

3. วัดเกศไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง
วัดนี้ตามหลักฐานที่ท่านผู้รู้ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า "สมเด็จพุฒาจารย์โต ฯ" เป็นผู้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนบุญให้โยมมารดาและตา จึงตั้งนามว่าวัดเกศไชโย (มารดาชื่อเกศ ตา ชื่อชัย) และยังได้สร้างพระนั่งองค์ใหญ่ไว้ 1 องค์ เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้รู้ว่าขณะท่านยังเป็นเด็กได้สอนนั่งได้ที่นี่ ครั้งต่อมาในปี พ. ศ. 2430 เจ้าพระยารัตนบดินทร์สมุหนายกได้มีจิตศรัทธาปฏิสังขรณ์พระอารามนี้ขึ้นใหม่พร้อมทั้งพระอุโบสถและพระวิหาร แต่ทว่าความสั่นสะเทือนของการปฏิสังขรณ์ในครั้งนั้นจนทำให้พระโตนั่งพังลงมาความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง จึงมีพระราชภาระให้สร้างพระโตขึ้นใหม่ และเสร็จในปี พ.ศ.2434 ทรงถวายพระนามว่า"พระมหาพุทธพิมพ์" และทรงเปลี่ยนชื่อวัดว่า "วัดไชโยวรวิหาร" ให้เป็นพระอารามหลวง ตั้งแต่นั้นมา


การสร้างพระสมเด็จ

เหตุของการสร้างพระสมเด็จ นั้นมีเรื่องเล่ากันว่าครั้งหนึ่งทานเจ้าพระคุณสมเด็จโตฯ ได้ขึ้นไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดกำแพงเพชร และได้พบศิลาจารึกบนใบลานและแม่พิมพ์ของการสร้างพระหลายอย่างด้วยกันก็ได้ดำริที่จะสร้างพระพิมพ์ขึ้นมาเพื่อเป็นการสืบทอดพระศาสนาตามเยี่ยงโบราณกาลบ้าง พร้อมยังได้นำเศษพระเครื่องที่แตกหักชำรุด เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในการสร้างพระในครั้งนั้นด้วย จึงได้มีผู้มีจิตศรัทธาได้คิดแบบพิมพ์ขึ้นหลายแบบพิมพ์ด้วยกัน มีทั้งแบบพิมพ์พระนางพญา พิมพ์เม็ดขนุน พิมพ์สี่เหลี่ยมชิ้นฟัก พิมพ์พระโต ฯ และแบบอื่น ๆ อีกหลายแบบด้วยกัน แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงพิมพ์ที่มหาชนนิยม แต่ทั้งนั้นพระเครื่องที่ท่านได้สร้างขึ้นมานั้นก็ล้วนแต่ขลังและศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น ขอให้เป็นของเก่าของแท้ แล้วท่านจะไม่ผิดหวัง ในพุทธคุณ พุทธานุภาพ วิเศษสุดสำหรับผู้ใช้และจัดได้ว่าเป็นวัตถุโบราณอันสำคัญของชาติอีกด้วย

พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม
แบบพิมพ์ที่อยู่ในความนิยมและมีมูลค่าในการแลกเปลี่ยนสูง มีดังนี้




1. พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่ )




2. พิมพ์ทรงเจดีย์




3. พิมพ์ทรงฐานแซม





4. พิมพ์เกศบัวตูม




5. พิมพ์ปรกโพธิ์


อย่าหลงทางซึ่งแต่ละพิมพ์ยังเเยกออกอีกหลายพิมพ์ดว้ยกัน



พระสมเด็จวัดใหม่อมตรส "วัดบางขุนพรหม"
เป็นพระสมเด็จ ที่เสมียนตราด้วงได้นิมนต์ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จโต ฯ มาปลุกเสกและบรรจุในกรุ พระกรุนี้จึงมีสนิมกรุแน่นติดแน่นอยู่กับเนื้อพระพิมพ์พระซึ่งอยู่ในความนิยมของมหาชนมีดังต่อไปนี้คือ



1. พิมพ์ใหญ่ ( พิมพ์พระประธาน )




2. พิมพ์ทรงเจดีย์




3. พิมพ์ฐานแซม




4. พิมพ์เส้นด้าย




5. พิมพ์เกศบัวตูม




6. พิมพ์สังฆาฏิ




7. พิมพ์ฐานคู่




8. พิมพ์อกครุฑ




9. พิมพ์สังฆาฏิมีหู


ดังนี้เป็นต้น

พระสมเด็จวัดไชโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง
พระสมเด็จวัดนี้ท่านเจ้าพระคูณสมเด็จโต ฯ ได้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศส่วนบุญให้แก่โยมมารดาและตาของท่านซึ่งบรรจุอยู่ในพระเจดีย์ต่อมาพระเจดีย์ได้พังลงจึงมีผู้มาพบและเรียกพระกรุนี้ว่าพระสมเด็จวัดเกศไชโยในพระเจดีย์ พระสมเด็จวัดเกศไชโย แบบพิมพ์ที่อยู่ในความนิยม มีดังต่อไปนี้



1. พิมพ์ฐาน 7 ชั้น




2. พิมพ์ฐาน 6 ชั้นอกตัน




3. พิมพ์ฐาน 6 ชั้นอกตลอด



วัสดุที่ไช้ในการสร้างพระสมเด็จ
พระสมเด็จของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จโตฯ ที่ได้สร้างขึ้นนั้น ท่านได้ผสมด้วยผงวิเศษถึง 5 อย่างด้วยกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วกล่าวกันว่า อานุภาพของผงวิเศษ 5 อย่างนี้มีคุณานุภาพมากมายนักสุดที่จะพรรณนาดังเช่น

1. ดินสอมหาชัย
ท่านได้เก็บรวบรวมมาจากการศึกษาอักขระเลขยันต์ต่าง ๆ อันได้แก่การเขียนพระเวทย์อันศักดิ์สิทธิ์ จากพระตำหรับคัมภีร์พุทธาคม อันได้แก่ ผงปัตถะมัง ผงอิทธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห ซึ่ยากยิ่งนักที่บุคคลทั้งหลายจะทำได้สำเร็จ อานุภาพก่อให้เกิดลาภผลต่าง ๆ แก่ท่านผู้ที่ได้นำไปใช้ ผงวิเศษ 5 อย่างนี้มีคุณวิเศษที่สุดยากที่จะหาได้ง่ายนัก

2. ข้าวสุก
ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จโตฯ ได้มาจากการบิณฑบาตและได้นำมาผสมกับผงวิเศษของท่านในการสร้างพระสมเด็จ โดยท่านแบ่งออกเป็นสี่ส่วน คือ 1. สำหรับท่านฉัน 2. แบ่งให้ลูกศิษย์ 3.ให้ทานแก่นก กา 4. ที่เหลือนำมาผสมในการสร้างพระเครื่อง

3. กล้วยน้ำ (กล้วยหอมจันทร์)
ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จ ฯ ท่านเอาทั้งเปลือกและเนื้อมาบดตำให้ละเอียดแล้วนำมาผสมในการสร้างพระเครื่อง

4. ผงเกสรดอกไม้
ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จโต จะถือเอานิมิตอะไรก็เหลือทราบแต่เท่าที่ทราบก็คือท่านได้เดินตามรอยอย่างของโบราณาจารย์ทั้งสิ้น

5. ปูนขาว
ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จโต มิใช้ปูนขาวทาผนัง แต่ท่านได้นำเอาเปลือกหอยตามชายทะเลและที่ชาวบ้านบริโภคเนื้อทิ้งเปลือกไว้ท่านได้นำมาเผา แล้วนำมาบดตำจนละเอียดเป็นผงแป้ง ใช้เป็นวัสดุส่วนสำคัญที่ต้องการปริมาณมากในการผสมพระสมเด็จ ส่วนน้ำมันตั้งอิ๋วมีส่วนผสม กับน้ำพุทธมนต์เพื่อการหล่อหลอมตัวเกี่ยวของเนื้อพระให้ให้ยึดแน่น ไม่เปราะหักแตกง่าย จะเห็นได้ว่าพระสมเด็จ ได้ถูกสร้างขึ้นด้วยผงวิเศษต่าง ๆ ดังกล่าวมานี้ จึงมีคุณานุภาพมากมายยิ่งนัก เพราะเหตุนี้จึงเป็นที่ต้องการของมหาชนยิ่งนัก ทำให้เกิดการทำพระปลอมแปลง เลียนแบบ มาหลอกแลกเปลี่ยนชื้อขายกันมากมาย จึงขอให้ระวัง

ลักษณะเนื้อของพระสมเด็จ
เนื้อพระสมเด็จ หลักใหญ่แล้วมีอยู่ ๒แบบ คือ "เนื้อแกร่ง" และ "เนื้อหนึกนุ่ม" นอกจากนั้นแล้วยังแบ่งการพิจารณาออกเป็นหลายรายการ ดังนี้คือ ความละเอียด ปรกติเนื้อพระสมเด็จ จะมีลักษณะค่อนข้างละเอียดเพราะเป็นเนื้อปูน ต่างกับพระดินเผาประเภทอื่น ๆ ส่วนเนื้อหยาบก็มีปรากฏบ้างเหมือนกันแต่ส่วนมากจะเป็นหย่อม ๆ ของเนื้อ และมวลสารของเนื้อ เหล่านี้ทำให้เกิดความซึ้งตายิ่งนักความนุ่ม เป็นคุณลักษณะของเนื้อที่สึกได้จากการพิจารณาด้วยนัยน์ตาเป็นส่วนใหญ่ และอาจใช้นิ้วมือสัมผัสก็ได้เช่นกัน เนื้อที่มีความนุ่มมากๆ มองดูจะเห็นความนุ่มของเนื้อไม่กระด้างนัยน์ตา นุ่มมือเล็กน้อย ลองสัมผัสมือดูก็จะรู้สึกถึงความนุ่มได้

ซึ่งทั้งนี้ มิใช่ว่าพระสมเด็จที่สร้างออกมาจะมีการไปอยู่เรื่อยๆก็หาไม่แต่ทว่าที่สำคัญ ก็คือแบบพิมพ์ที่มาตรฐาน (จำแบบพิมพ์ของจริงไว้ให้แม่น) แต่พระนอกพิมพ์ถ้าไม่แม่นจริงควรหลีกเลี่ยงให้ไกล เพราะเท่ากับเป็นการหนีพระเก้ให้มากขึ้นดดยปลอดภัยโยขอให้ท่านจำแบบพิมพ์-เนื้อที่มาตรฐาน (ขอให้ดูพระสมเด็จฯแท้ๆจำให้ขึ้นใจ) เพื่อท่านจะได้พระสมเด็จแท้ไว้บูชา

1. ความละเอียด
โดยปกติเนื้อพระสมเด็จ จะมีลักษณะค่อนข้างละเอียดเพราะเป็นเนื้อปูนเปลือกหอยเผาแล้วนำมาตำจนละเอียด ส่วนเนื้อหยาบก็มีบ้างเหมือนกันความนุ่ม เป็นคุณลักษณะของเนื้อที่รู้สึกได้จากนัยตา หรือใช้นิ้วมือสัมผัสก็สามารถรู้ได้ไม่ระคายกระด้างมือ ความจริงโครงสร้างภายไนของเนื้อ ย่อมมีความแข็งแกร่งแฝงอยู่เป็นอันมากเสมอ แต่จะมีความนุ่มเฉพาะบริเวณผิว ๆ เท่านั้น และความนุ่มนี้จะตรงกันข้ามกับความกระด้าง

2. ความแกร่ง
ลักษณะของความแกร่งที่เกิดจากมวลสารของปูนเปลือกหอยซึ่งจับตัวกันแข็งแกร่ง แต่มิได้หมายถีงความกระด้าง ทั้งนี้ของจริง ๆ นั้นในขณะที่เนื้อมีความแกร่ง แต่ผิวของเนื้อก็คงแขวงไปด้วยความนุ่มนวลนั่นเองและผิวมองคล้ายกับผิวของกระเบื้องกังใส

3. ความหนึก
เป็นคุณสมบัติของความนุ่มความแกร่งน้ำหนักก็เป็นคุณสมบัติสำคัญของแท้ ส่วนของไม่แท้นั้นจะปราศจากความหนึกเพราะเนื้อพระยังไม่เก่าพอ ข้อสำคัญจะต้องหัดดูความเก่าให้แม่น แล้วท่านปลอดภัยกับพระปลอมที่ระบาดอยู่ทั่วไป

4. ความฉ่ำ
เป็นลักษณะที่ควบคู่กับความนุ่มเกิดจากเนื้อมีความนุ่มและเงาสว่าง แต่เนื้อประเภทแกร่งก็มีความฉ่ำเช่นเดียวกัน ถ้าเกิดเงากระจ่างเพราะถูกใช้มาพอสมควร

5. ความซึ้ง
เกิดจากเกิดจากมวลสารของเนื้อ อันผสมด้วยวัสดูซึ่งมีวรรณะต่างๆกันทำให้เกิดความซึ้งต่างๆกัน ทำให้เกิดความซึ้งภายในเนื้อพระขึ้นเช่นวรรณะหม่น ๆ ของผงวิเศษและผงเกษรดอกไม้ต่างๆซึ่งมีวรรณะหม่นๆ ย่อมตัดกับเนื้อนวลๆของกล้วยผสมกับปูนเปลือกหอย และวรรณะขาวนวลของแป้งโรยพิมพ์เป็นต้น ความซึ้ง เกิดจากมวลสารของเนื้ออันผสมด้วยวัสดุซึ่งมีวรรณะต่างๆกันทำให้เกิดวรรณะหม่น ๆ ของผงวิเศษและ เกษรดอกไม้ต่าง ๆ ซึ่งมีวรรณะหม่น ๆ ย่อมตัดกับเนื้อนวล ๆ ของก้วยผสมด้วยเนื้อปูน และวรรณะขาวนวลของแป้งโรยพิมพ์ ดังนี้เป็นต้น

6. การแตกลายงา
เกิดจากการที่เนื้อถูกลงรักน้ำเกลี้ยงตอนทำเสร็จใหม่ ๆ และเนื้อพระยังไม่แห้งสนิทดีเมื่อรักล่อนออกก็จะแตกลายงาอย่างละเอียด ของเนื้อด้านหน้า และด้านหลังจะไม่แตกลายงา ล่องรอยการแตกลายงาจะต้องมีสีของรักติดฝังอยู่ในรอยลายงานั้นเสมอ เนื้อที่แตกลายงานั้นส่วนมากจะเป็นเนื้อแกร่งแต่ถ้าเป็นพระประเภทเนื้อหนึกนุ่ม ก็จะไม่แตกลายงาหรือจะมีก็แค่เพียงรอยตื้น ๆ ในบริเวณส่วนน้อยเท่านั้นแต่ถ้าเป็นเนื้อที่แห้งสนิทดีแล้วก็จะไม่แตกรายงาเช่นเดียวกันการแตกลายสังคะโลก เป็นการแตกลายที่ละเอียดและตื้นกว่าลายงาและส่วนมากจะแตกทางด้านหน้า ด้านหลังมีบ้างเหมือนกันเป็นส่วนน้อยและเป็นลายตื้น ๆ การแตกลายงาชนิดนี้มิได้เกิดจากการทารักแต่เป็นการเกิดปฎิกิริยาของปูนเมื่อแข็งตัวความแห้งตัวและความแข็งตัวของเนื้อพระไม่เท่ากันจึงแตกรานขึ้นมาและจะเกิดกับเนื้อประเภคแกร่งเท่านั้นคาบแป้งโรย คือคาบผิวนวล ๆ ที่เกิดจากพระที่ไม่ค่อยได้ใช้หรือเกิดจากการเอาพระสรงน้ำแล้วผึ่งให้ผิวแห้งเกิดได้ทั้งเนื้อแกร่งและเนื้อนุ่ม

7. ทรายเงินทรายทอง
เป็นอนุภาคอันละเอียดผสมผสารอยู่ในเนื้อพระเป็นส่วนน้อยแต่สำหรับบางองค์ ก็จะบังเกิดอยู่ตามผิวถ้าใช้แว่นขยายส่องดูอย่างละเอียดโดยเฉพาะจะมีมากสำหรับเนื้อแกร่ง หรือเนื้อหนึกแกร่ง

8. พุทธคุณ
จากกิตติศัพท์อันโด่งดังไปทั่วสารทิศทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธ์ของพระสมเด็จดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นที่นิยมของมหาชนมาช้านาน ถึงกับมีการปลอมแปลง และเรียนแบบกันอย่างมากมายเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าทำไม สมเด็จพุฒาจารย์โตฯ ได้สร้างพระขึ้นด้วยเศษอิฐเศษปูนจากเปลือกหอยแท้ๆ แต่ผู้คนก็ยังนิยมกันนัก ชึ่งมีค่ามหาศาลเช่นนี้ และเมื่อเร็วๆนี้ก็ยังมีประมูลกันไปเป็นสิบล้านบาทเลยทีเดียว ถ้าใครได้มีพระสมแท้ๆไว้สักองค์ก็ขอให้นึกว่าตัวของเราเองมีอำนาจลึกลับคอยพิทักษ์รักษาอันตรายให้เราทุกโอกาส และชีวิตจะไม่มีการตกอับเป็นอันขาด ทั้งนี้ก็ขอให้เราปฎิบัติดีปกิบัติชอบในทางสุจริตไม่ผิดกฎหมายเท่านี้ก็พอการอาราธนาพระสมเด็จฯแลวิธีใช้พระสมเด็จ ก่อนอื่นให้เอาพระสมเด็จฯ ขึ้นพนมไว้บนฝ่ามือตั้งใจให้แน่วแน่อย่าให้วอกแวกแล้วระลึกถึงสมเด็จฯ ว่า"นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ" (ว่า 3 จบ)แล้วสวดพระคาถาดังต่อไปนี้ โอมศรี ศรี พรหมรังสีนามเต มหาเถรานุสโตนะเมตตัง สุขัง อันตรายังวินาสสันติ ภวันตุเม ฯ และต่อจากนั้นให้สวดพระคาถาอันวิเศาสุดยอดของท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ กำกับลงไปอีกเพื่อเพิ่มความศักดสิทธิ์มากยิ่งขึ้นไปอีกดังต่อไปนี้

ชินปัญชรคาถา
ชะยาสะนากะตา พุทธาเชตะวา มารังสวาหะนัง จะตุสัจจาสะพังระสังเยปิวิงสุนะราสะภาตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฎฐวีสสะตินายะกา สัพเพปติฎฐิตา มัยหัง มัตถะเกเต มุนิสสะรา สีเสปะติฎฐิโตมัยหัง พุทโธ ธัมโมทะวิโลจะเน สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเรสัพพะคุณากะโร หะทะเยเม อะนุรุทโธ จะ สารีปุตโต จะทักขิเณ โกณฑัญโญ ปฏิฐิภาคัสสะมิง โมคคัลลาโน จะ วามะเก ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุโล กัสสะโป จะมหานาโม อุภาสุงวามะโสตะเก เกสะโตปะฏิฐิภาคัสสะมิง สุริโยวะ ปะภังกะโร นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโตมุนิปุงคะโว กุมาระกัสโป เถโร มเหสี จิตตะวา ทะโก โสมัยหังวะทะเน นิจจัง ปติฏฐาสิ คุณากะโร ปุณโณ อังคุลิมาโรจะ อุปาลี นันทะสีวะลี เถราปัญจะ อิเมชาตา นลาเตติ ละกามะมะ เสสาสีติมหาเถรา วิชิตาชินะสาวกา เอเตสีติ มหาเถราชิตะวันโต ชิโนระสาชะลันตาสีละเตเชนะ อังคะมังเคสุสัณฐิตา ระตะนังปุระโต อาสิ ทักขิเณเมตตะสุตตะกัง ธะชัคคังปัจฉะโตอาสิ วาเมอังคุลิมาละกัง ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะ สุตตะกังอากาเสฉะทะนัง อาสิ เสสาปาการะสัณฐิตา ชินานา วะระสังยุตตา สัตตัปปาการะลังกะตา วาตาปิตา ทิสัญชาตา พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา อะเสสาวินะยังยันตุอะนันตะชินะเต ชะสา วะสะโตเมสะกิจเจนะ สะทาสัมพุทธะปัญชะเร ชินะปัญชะระมัชฌิมหิ วิหิรันตัง มหีตะเลสะทาปาเลนตุมัง สัพเพเตมะหาปุริสาสะภา อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข ชินานุภาเวนะชิตุ ปัททะโว ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริ สังโฆ สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย สัทธัมมานุภาวปาลิโตจะราม ิชินะปัญเรติ


ธรรมชาติของเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมองทางกายภาพ
จากเลนส์ขยายในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังเท่าที่ได้สัมผัสมา มวลสารที่มองเห็นด้วยตาเปล่าประกอบด้วยมวลสารดังต่อไปนี้

1.จุดสีขาวขุ่น
มีทั้งขนาดใหม่และเล็ก ขนาดเล็กตั้งแต่ปลายเข็มหมุดขนานใหญ่เท่าเมล็ดถั่วเขียวก็เคยพบ มีปรากฏอยู่ทั่วไปในเนื้อพระละเอียดแน่นนอน และ เนื้อพระชนิดหยาบเนื้อไม่แน่นนอน สันนิษฐานว่าคือ เม็ดพระธาตุ และเปลือกหอย

2.จุดสีแดงหรือสีแดงอิฐ
ตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าคงจะเป็นเศษพระเครื่องหักของกำแพงเมืองเพรช สมัยที่สมเด็จพุฒาจารย์ (โต) ได้ไปเดินธุดงค์พบพระเนื้อดินหัก แต่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพระพุทธคุณ จึงนำมาสร้างพระเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล และความขลังแก่พระสมเด็จ

3.จุดสีดำ
มีขนาดเล็กก็คือ เกสรดอกไม้ เม็ดกล้วย ถ้าเป็นขนาดกลาง สันนิษฐานว่าเป็นผงถ่านใบลานและถ้าเป็นลักษณะยาว สันนิษฐานว่าเป็นกานธูป

4.จุดสีเขียวคล้ายสีคราม
มีลักษณะใหญ่เล็กแล้วแต่จะพบในองค์พระ สันนิษฐานว่าเป็นหินเขียวหรือ ตะไคร่ ใบเสมา

5.จุดสีน้ำตาลอ่อน และ น้ำตาลแก่
สันนิษฐานว่า คือเกสรดอกไม้แห้งนานาชนิด อาจเป็นดอกไม้108 (ดอกไม้ที่ใช้บูชาพระ)

6.เม็ดทรายเสกขนาดกลางและขนาดเล็ก
พบในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง

7.เม็ดขาวขุ่นหรือพระธาตุ
ส่วนมากจะพบกระจายอยู่ทั่วไปในองค์พระบางองค์ พบอยู่ด้านหลังบางองค์ไม่พบ

8.ทองคำเปลว
ที่ติดพระประธานในโบสถ์วัดระฆัง ใช้บดละเอียดผสมในเนื้อพระ

9.ผงวิเศษที่พบเป็นก้อน
คล้ายกับก้อนดินสอพองก็คือ ผงวิเศษที่ได้จากผงอิทธิเจ ผงปัตถะมัง ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ผงมหาราช

10.การยุบตัวของเนื้อพระสมเด็จ
เกิดจากปฎิกริยาการหดตัว แห้งตัว ยุบตัวของเศษอาหาร จึงทำให้เนื้อพระยุบตัวลง ระยะเวลาและความร้อนของอากาศหลายๆปี ฤดูกาลธรรมชาติ

11.ที่แลเห็นพระบางองค์มีความมันบนองค์พระมาก
เพราะว่าในเนื้อพระผสมนำมันตั้งอิ้วมากกว่าปกติเนื้อพระชนิดนี้จึงหนึกนุ่มอยู่เสมอ ทำให้เนื้อพระเก่าได้ยาก

12.พระสมเด็จกับการลงรักปิดทอง
พระสมเด็จวัดระฆังบางองค์มีการลงรักปิดทองไว้ แล้วในภายหลังได้ถูกล้างออก ซึ่งก็ทำให้สามารถดูเนื้อพระได้ง่ายขึ้น

13.คราบสีขาวบนองค์พระ
มักจะพบในพระสมเด็จวัดระฆังนั้นมี ๒ นัย นัยแรกเกิดจากแป้งโรยพิมพ์พระในตอนสร้าง (สันนิษฐานว่าใช้แป้งขาวเจ้าผสมปูนขาว) นัยที่สองเกิดจากเชื้อราบางชนิดซึ่งเกิดขึ้นเนื่องมาจากการเก่าเก็บไว้เป็นเวลานานซึ่งไม่มีผลทำให้ผิวพระเสียแต่อย่างใด ซี่งถ้าใช้นิ้วถูออกคราบสีขาวก็จะหายไปและจะไม่มีผงฝุ่นสีขาวติดนิ้วเลย แต่ไม่ควรถูออกเพราะคราบสีขาวเป็นการแสดงความเก่าความมีอายุอันยาวนานขององค์พระ

14.รอยปริแยกแตกบนผิวพระสมเด็จวัดระฆัง
สันนิษฐานว่าเกิดจากการยุบตัว หดตัวของเนื้อพระเนื่องจากความชื้นและอุณหภูมิในอากาศเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าเนื้อพระมีส่วนผสมน้ำมันตังอิ้วที่เหมาะสมเป็นตัวประสานเนื้อพระก็จะไม่พบลอยปริแตกบนผิว

15.กลิ่นหอมในเนื้อพระสมเด็จวัดระฆัง
สันนิษฐานว่าเกิดจากการที่ส่วนผสมมวลสารในเนื้อพระมีดอกไม้และเกสรหลายชนิดรวมกัน รวมทั้งน้ำมันจันทน์ด้วย จึงทำให้พระสมเด็จมีกลิ่นหอม

16.รอยแตกลายงาบนผิวพระสมเด็จวัดระฆัง
เกิดจากการแห้งและหดตัวของผิวเนื้อพระชั้นนอกเร็วกว่าเนื้อพระชั้นใน พบได้ในองค์พระที่มีผิวระเอียดหนึกนุ่ม


************************************************************************


มวลสารของเนื้อพระสมเด็จ
1. ดินสอมหาชัย
ใช้เขียนลงเป็นผง วิเศษ 5 ประการ อันได้แก่
ผงพระพุทธคุณ
ผงปัตถะมัง
ผงตรีนิสิงเห
ผงมหาราช
ผงอิทธิเจ

ดินสอมหาชัยเป็นผงดินสออาถรรพณ์ทำจากดินขาวอันบริสุทธิ ผสมด้วย น้ำคั้นใบตำลึง ยอดสวาท ยอดกาหลง ยอดรักซ้อน ดินโป่ง ไคลเสมา ยอดชัยพฤกษ์ ยอดราชพฤกษ์ ยอดมะลิจากข้าวในยาตร ทั้งหมดเป็นมวลสารพระพุทธคุณ และได้ถือหลักการคุลีเนื้อพระจากตำรับไสยเวทย์ และเพทางคศาสตร์

2. ข้าวหอมจากบาตร
บรรจุในชามเบญจรงค์ อันเป็นของที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เก็บรักษาโดยเฉพาะ

3. กล้วยน้ำไท
ผสมยางมะตูมทั้งสองสิ่งนี้เก็บรักษาไว้ในขันสัมฤทธิ์ ไม่บูด ไม่เสีย

4. เกสรบัวสัตตบงกช
พร้อมทั้งเกสรดอกไม่ป่าจากเมืองสุโขทัย เมื่องกำแพงเพชร เป็นเกสรที่เจ้าคุณสมเด็จฯ ได้รวบรวมไว้ถึง 108 ชนิด

5. เปลือกหอยขาวบริสุทธิ์
นำมาป่นจนละเอียดแล้วผ่านกรรมวิธีจนกลายเป็นปูนเปลือกหอย มวลสาร ชนิดนี้เมื่อ ปลุกเสกและอบด้วยพระเวทย์มนตราอาถรรพณ์แล้วจะเกิดทรายทองขึ้นเองด้วยวิทยาคมของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ

6. น้ำมันตั้งอิ๊ว
เป็นตัวประสานมวลสารที่ใช้ในการสร้างพระให้ยึดรวมกันอย่างเหนียว ทั้งกระทำให้เนื้อพรชุ่มชื่นอีกด้วย

7. วัสดุอื่น ๆ
ที่กล่าวไว้แล้วในหัวข้อ มวลสารที่มองเห็นด้วยตาเปล่าข้างต้นนี้ ฯลฯ


ปฏิกิริยาจากผงวิเศษห้าประการ
พระสมเด็จอันเกิดจากผงวิเศษห้าประการ ของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เป็นสิ่งที่เกิดจากปูนเปลือกหอยเป็นหลักแต่ประชาชน เรียกกันว่า "พระผง" เมื่อพิจารณาด้วยสายตาโดยใช้เลนส์ขยาย จะแลเห็นบนพระมีจุดเล็กๆ เรียกว่ารูพรุนปลาย เข็มเกิดเป็นหมู่ๆ ประปรายอยู่ทั่วบริเวร ผิวขององค์พระ รวมทั้งแผ่นพื้นฐานด้วย

1. รอยปูไต่
มีลกษณะ บุ๋มลึกลงไปรอยนี้มักเกิดเป็นคู่ๆเรียงกันไปเป็นทางคล้ายรอบปู จึงเรียกกันว่า "รอยปูไต่" รอยนี้เกิดขึ้นประปรายทั่วแผ่นพื้นฐานขององค์พระ

2. รอยหนอนด้น
บนผิวขององค์พระ เมื่อใช่เลนส์ขยายกำลัง 10 เท่า ส่องจะเห็นรอยโค้งเล็กๆ คล้าลายตัวหนอนขาดเล็กมากปรากฏอยู่ รอยนี้ไม่ปรากฏในพระแบบอื่นนอกจากพระของเจ้าพระคุณสมเด็จเท่านั้น ผู้ศึกษาพึงพิจารณาให้ละเอียด

3. บ่อน้ำและลำธาร
เกิดบนผิวพื้นฐานขององค์พระอยู่โดยทั่วไป สมมติว่าเราขึ้นไปอยู่บนที่สูงๆ แล้วใช่กล้องส่องดูดาวที่มีกำลังขยายมากๆ ส่องดูดวงจันทร์ เราจะแลเห็นบนพื้นผิวดวงจันทร์ปรากฏเป็นหลุมเป็นบน่อ หุบ เหว ภูเขา และสายลำธาร ซึ่งขอเรียกว่า"ผิวพระจันทร์" อันเป็นสัญลักษณ์ที่เกิดในองค์พระสมเด็จโดยเฉพาะ

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ปรากฏอันเป็นความงดงามขององค์พระสมเด็จ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจะมีผู้โชคดีได้เป็นเจ้าของพระสมเด็จ เมื่อใช้เลนส์ขยายดูเนื้อพระ เขาจะเฝ้าดูแล้วดูเล่าอย่างไม่รูสึกเบื่อหน่ายในความงามอันน่าอัศจรรย์ของพระผงวิเศษของเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ชึ่งสามารถแลเห็นมวลสารเกสรเป็นจุดรูปต่างๆกัน มีสีสันแปลกๆเช่น สีแดง สีฟ้า สีเหลือง สีเขียว สีเทา สีน้ำตาล ฯลฯ มวลสารเกสรนี้ช่อนตัวของมันอยู่เงียบๆ ต้องใช้เวลาในการดูนานจึงจะปรากฎ
ให้เห็น

ความหมายอย่างมีเหตุผลของมวลสารชึ่งมีส่วนผสมในเนื้อสมเด็จ ที่มีคุณวิเศษในตัวเองดังนี้
1. ผงวิเศษ
ในการทำพระสมเด็จของเจ้าประคุณสมเด็จฯ มี 5 ชนิด
.....1.1 ผงพุทธคุณ มีพลางนุภาพทาง แคล้วคลาด และ เมตตามหานิยม
.....1.2 ผงปัตถะมัง มีพลางนุภาพทาง คงกระพันชาตรี
.....1.3 ผงตรีนิสิงเห มีพลางนุภาพทาง มหาเสน่ห์
.....1.4 ผงมหาราช มีพลางนุภาพทาง มหาอำนาจทั่วไป
.....1.5 ผงอิทธิเจ มีพลางนุภาพทาง เมตตามหานิยม

2.ไม้มงคล
.....2.1 ดอกสวาท มีคุณทาง มหานิยม คนรักทั่วไป
.....2.2 ดอกกาหลง มีคุณทาง ใครเก็นใครชอบ
.....2.3 ดอกรักซ้อน มีคุณทาง มหาเสน่ห์
.....2.4 ดอกกาฝากรัก มีคุณทาง เมตตามหานิยม
.....2.5 ดอกชัยพฤกษ์ และดอกราชพฤกษ์ มีคุณทาง มหาอำนาจ และ แคล้วคลาดภัยทั้งปวง
.....2.6 ดอกว่านางคุ้ม และ ดอกว่าน มีคุณทาง คุ้มกันอันตรายแก่คนทั่วไป
.....2.7 ดอกว่านเสน่ห์จันทน์ขาว จันทน์แดง จันทน์ดำ มีคุณทาง มหาเสน่ห์ และ คลาดแคล้ว
.....2.8 ดอกว่านนางกวัก มีคุณทาง มหานิยมแก่คนทั่วไป
.....2.9 ว่านพระพุทธเจ้าหลวง มีคุณทาง คงกระพันชาตรี มหาอำนาจ
.....2.10 ใบพูลร่วมใจ มีคุณทาง มหานิยมแก่คนทั่วไป
.....2.11 ใบพลูสองทาง มีคุณทาง กันการกระทำ และอันตรายคลาดแคล้ว
.....2.12 ผงเกสรบัวทั้ง5 และเกสรดอกไม้108 มีคุณทาง มหาเสน่ห์ และแคล้วควาด

3.ดินอาถรรพณ์
.....3.1 ดิน 7 โป่ง ที่เสือลงมากิน มีคุณทางมหาอำนาจ ใครเห็นใครกลัวเกรงทั่วไป
.....3.2 ดิน 7 ป่า มีคุณทางเมตตามหานิยม
.....3.3 ดิน 7 ท่ามีคุณทางคลาดแคล้ว
.....3.4 ดิน 7 สระในวัด มีคุณทางเมตตามหานิยมของคนทั่วไป
.....3.5 ดินหลักเมือง มีคุณค่าทางมหาเสนห์แก่ตัวเอง
.....3.6 ดินตะไคร่เจอดีย์ มีคุณทาง กันภูตผีปีศาจ และกันเสนียดจัญไร
.....3.7 ดินตะไคร่รอบโบสถ์ มีคุณทาง ป้องกันอันตรายทั่วไป
.....3.8 ดินตะไคร่ใบเสมา มีคุณทางมหานิยม เมตตา และแคล้วคลาด
.....3.9 ดินสอขาว หรือ ดินขาว (ดินสอพอง) สำหรับเขียนยันต์ตามสูตรพระเวท มีคุณทางแก้อาถรรพณ์
.....3.10 ดินกระแจะปรุงด้วยของหอมมีคุณทาง เมตตามหานิยม

4.ผงดำ
คือ แม่พิมพ์พระที่แตกหักชำรุด นำมาเผาเป็นถ่าน แล้วนำมาบดผสมผงถ่านใบลาน (คือ ใบลานและคัมภีร์เก่า ๆ นำมาเผาจนเป็นถ่าน) แล้วนำมาผสมกันเป็นผงดำมีคุณทางคงกระพันชาตรี และแคล้วคลาด

5.ตะไลพระกริ่ง
มีทั้งเนื้อเงิน และเนื้อทองเหลือง มีคุณค่าทาง คงกระพันชาตรี

6.ตะไบเงินตะไบทอง
มีคุณทาง ร่ำรวย โชคลาภ

7.พระธาตุทั้ง 5 ชนิด
มีคุณทาง การมีสิริมงคล โชคลาภ

8.จุดแดง เกสรดอกไม้ 108
มีคุณทางมหาเสน่ห์ มหานิยม

9.เศษพระกำแพงหัก (อิฐกำแพง)
มีคุณทาง คงกระพันชาตรี โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา





พระประธานทีวัดอันมีความเกี่ยวเนื่องกับพระสมเด็จ
วัดไชโยวรวิหาร....วัดอินทรวิหาร....วัดระฆังโฆสิตาราม






ความเห็นของ จขบ. เกี่ยวกับพระสมเด็จ

1.พระสมเด็จจะคุ้มครองคนที่ทำความดี มีศีลธรรม ไม่เบียดเบียนคนอื่น
2.พระสมเด็จไม่สามารถเปลี่ยนความไม่ดีของคนที่แขวนให้เป็นความดีได้
3.แม้พระสมเด็จจะมีคุณค่ามากเพียงใดตามศรัทธาของสมเด็ฯโตที่สร้างไว้โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสืบทอดพระศาสนาโดยให้พระสมเด็จเป็นเครื่องหมายของคุณความดี คือปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบแบบท่าน คนที่เป็นเจ้าของพระสมเด็จควรเจริญรอยตามสมเด็จฯโต ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของควรศึกษาจริยวัตรของท่านแล้วทำตาม ก็จะได้มงคลชีวิตเช่นเดียวกัน







Create Date : 24 ธันวาคม 2550
Last Update : 26 มกราคม 2551 15:21:24 น. 16 comments
Counter : 39966 Pageviews.

 
สาธุค่ะ



โดย: เนระพูสี วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:17:30:30 น.  

 
ผมว่าใครดูพระสมเด็จเป็นเนี่ย อภิมหาเซียนเลยหละ ที่ว่าเจ๋งๆตกม้าตายมาเยอะ


โดย: ลุงแมว วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:21:49:06 น.  

 



โดย: a_mulika วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:0:51:08 น.  

 
อ่านแล้ว
ต้องเข้ามาอ่านอีก
และอ่านอืก..หลายๆครั้ง
หลายๆหน...
น่าก็อปเก็ยไว้จัง
เลย
ไม่ต้องไปซื้อหนังสือ...พระเครื่องเลยนะเนี่ยะ



โดย: katoy วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:10:09:17 น.  

 

สวัสดีตอนเช้า ของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า





บทกลอนแทนความห่วงใย
ดอกทิวลิปงามแทนความคิดถึง
เธอคือเพื่อนคนหนึ่งยังตราตรึง
ความรู้สึกซึ้งๆว่า คิดถึงเธอ


** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **



ข้อมูลแน่มากเลยอะจ้า อ่านแล้วรู้อะไรขึ้นเยอะเลยจิงๆๆอะ


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 27 มกราคม 2551 เวลา:16:04:31 น.  

 
อ่านแล้ว
ก็ให้ความรู้พวกเราอีก พระพุทธรูปเป็นองค์ที่ดี ศักดิ์สิทธิ์


โดย: เด็กบรบือกับยากูซ่า IP: 125.26.182.214 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:16:10:50 น.  

 
ไม่มีไร


โดย: เด็กนักเลง IP: 125.26.182.214 วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:16:12:15 น.  

 
มีประโยชน์มากมายครับ
ผมชอบจังเลย


โดย: กฤษกร IP: 125.27.120.73 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:13:58:00 น.  

 
ใช้ได้ดีมากครับ


โดย: sriklay IP: 124.157.133.238 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:22:06:30 น.  

 
พิมพ์6ชั้นวัดไชโยมีมากกว่า2พิมพ์ที่เห็นคับ ในหนังสือที่ประกวดได้ที่1 ของจังหวัดอ่างทอง ในบันทึกมีมากกว่า70พิมพ์


โดย: คนรักพระ IP: 222.123.160.250 วันที่: 30 สิงหาคม 2551 เวลา:17:30:16 น.  

 
สมัยนี้คนส่วนมากตาบอดตาใสเสียส่วนมาก
บูชาพระเครื่องตามคนที่(อวด)รู้ ที่เรียกตัวเองว่า"เซียนพระ"


โดย: คนพอมีอายุ IP: 118.172.231.218 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:35:32 น.  

 
ขอบคุณ ความรู้ดีๆครับ


โดย: ลูกปลาน้อย IP: 115.67.7.61 วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:22:24:29 น.  

 
แม่พิมพ์พระสมเด็จเฉพาะพิมพ์ใหญ่มีตั้งหลายสิบพิมพ์แต่พวกตั้งตัวเป็นเซียนเล่นกันแค่สี่พิมพ์นอกนั้นตีเป็นพระเก๊หมด.พระที่สมเด็จโตสร้างเพื่อให้ระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธเจ้าโดนตีเป็นพระเก๊น่าเศร้าใจ.


โดย: แมน IP: 101.109.24.95 วันที่: 5 ธันวาคม 2554 เวลา:10:37:52 น.  

 


โดย: amulet108 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:21:29:48 น.  

 


โดย: piyakoko (piyakoko ) วันที่: 19 สิงหาคม 2556 เวลา:13:03:48 น.  

 
ได้รับความรู้มากขึ้น.


โดย: ครูบาวุฒิ. IP: 182.232.66.172 วันที่: 19 กันยายน 2559 เวลา:11:59:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

cm-2500
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สุขกันเถอะน่าช้าอยู่ไย
ร่วมทางไปแสวงหา
ซึ่งสุขสงบสันติพา
ให้ได้มาแห่งความหมาย

"แบ่งปัน" แทน "แข่งขัน"
มิตรไมตรีคงเกิดง่ายขึ้น
ไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ใดใด
ใครอยากได้อะไรก็มาอาไป
ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ
น้องเพนกี้
น้อง DoryKong 1
น้อง DoryKong 2
น้อง DoryKong 3
X
X
X
X
Free Cell Phones
Cell Phones
[Add cm-2500's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com