ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
ตากสินมหาราช:กฤษฎาภินิหารอันบดบังมิได้

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
28 ธันวาคม 2552

ทางราชการได้ถือว่าวันพระเจ้าตากสินมหาราช ตรงกับวันที่ 28 ธันวาคม อันเป็นวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ท่าน จากปกติมักถือธรรมเนียมเอาวันสวรรคตเป็นวันรำลึกถึงมหาวีรกษัตริย์ แต่เนื่องจากวันสวรรคตของพระองค์ท่านตรงกับวันที่ 6เมษายน ได้ถือเป็นวันจักรีแล้ว ประวัติศาสตร์จึงต้องมากำหนดวันให้พระองค์ท่านในวันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีแทน

ทรงเป็นวีรกษัตริย์ไทยอีกพระองค์หนึ่งที่ได้รับ การเทิดทูน และเคารพบูชาจากประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด ไม่เพียงเพราะพระปรีชาสามารถในการรบที่กอบกู้ชาติไทยให้เป็นเอกราช และสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่บ้านเมืองของเราเท่านั้น แต่พระองค์ยังเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีความกตัญญูและเสียสละต่อผืนแผ่นดินไทยอย่างยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือนอีก

ระหว่างการโฆษณาชวนเชื่อกับการเมืองที่เป็นจริงกรณีพระเจ้าตากvsรัชกาลที่1

เรื่อง หนึ่งที่กลายเป็นblack propagandaที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ไทยก็คือ การโฆษณาชวนเชื่อว่า พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 แห่งพระราชจักรีวงศ์นั้นไม่ได้ทำรัฐประหารยึดอำนาจและประหารชีวิตพระเจ้า ตากสินมหาราชแต่ประการใด แต่เป็นข้อตกลงลับของพระเจ้าตากสินกับพระพุทธยอดฟ้าที่จะให้พระเจ้าตากสินลง จากบัลลังก์เพื่อแก้ไขปัญหาที่ไทยไม่มีเงินไปชำระหนี้จีนในช่วงยืมเงินมากู้ ชาติ หลังเสียกรุงครั้งที่ 2 จากนั้นพระเจ้าตากได้แอบหนีไปบวช และมีชีวิตต่อมาในเพศภิกษุที่นครศรีธรรมราช

การโหมโฆษณาชวนเชื่อนี้ ทำให้คนไทยชั้นหลังๆจำนวนมากเชื่อตามไปเช่นนั้นจริงๆ แต่หากจะตั้งข้อสงสัยซักเล็กน้อยว่า ในหน้าประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรไทยนั้นไม่เคยมีครั้งใดที่เคยเกิดเหตุการณ์ เช่นนี้เลย และประการสำคัญก็คือพระเจ้าตากสินนั้นมีรัชทายาทที่จะสืบทอดราชบัลลังก์อยู่ แล้ว...ด้วยเหตุใดเล่า จึงจะไปยกราชสมบัติให้กับ"ท่านอื่น"

ความจริง นั้นปรากฎเป็นหลักฐานเอกสารชั้นต้นว่า พระเจ้าตากสินถูกยึดอำนาจ ถูกประหารชีวิต รัชทายาทและขุนนางใกล้ชิด รวมทั้งพระกุมารเล็กๆก็ถูกสังหารเกือบเรียบ ยกเว้นพระราชโอรสที่บังเอิญเกิดกับสนมที่เป็นลูกของรัชกาลที่1 หรือมีศักดิ์เป็นหลานรัชกาลที่1ของราชวงศ์จักรีที่รอดมาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อรัชกาลที่1สวรรคตเพียง7วัน รัชทายาทคนสุดท้ายเชื้อสายของพระเจ้าตากก็ถูกสังหาร เพื่อขจัดเสี้ยนหนามไม่ให้เหลือซาก

หากมองด้วยสายตาของคนในยุคนั้น การปราบดาภิเษกดังกล่าว นักวิชาการเห็นว่าเป็นธรรมเนียมโบราณราชประเพณีโดยปกติ หาใช่การทรยศหักหลังแต่ประการใด ดังที่เคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้เรื่อยมาในหน้าประวัติศาสตร์ราชอาณาจักรไทย

วาระสุดท้ายของมหาราชชาตินักรบ?

ดัง ที่ทราบกันดีว่าหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 แล้ว พระเจ้าตากสินที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน(ซึ่งเป็นที่ดูถูกของคนไทยสมัยนั้น แม้กระทั่งเวลาต่อมาอีกนับร้อยๆปี) ก็นำทัพกอบกู้เอกราชให้แก่ไทย แล้วสถาปนากรุงธนบุรี เป็นราชธานีใหม่

ทรงรวบรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น แล้วปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2311 พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 6 เมษยา 2325 แม้จะมีคำบอกเล่าเชิงตำนานไว้บางสำนวนว่า พระองค์ได้หลีกทางให้พระยาจักรี สถาปนาราชวงศ์ใหม่ด้วยเหตุผลบางประการ และพระองค์ได้ดำรงพระชนม์ชีพอย่างสงบในสมณเพศสืบมา

แต่นั่นก็เป็นเพียงประวัติศาสตร์กระซิบ การนั่งทางใน หรือการนิมิต ทว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็ชี้ว่าพระองค์ถูกพระยาจักรี สั่งให้สำเร็จโทษเพื่อปราบดาภิเษกราชวงศ์ใหม่ และมีการกำจัดเสี้ยนหนามตามมาอีกหลายระลอก

กรณีของพระเจ้า ตากสินมหาราชนั้นนับว่าประหลาดไปจากกรณีอื่นที่กล่าวมาแล้ว คือการช่วงชิงอำนาจทางการเมืองนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในขณะที่พระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนสวรรคตลง แล้วเกิดปัญหาการสืบราชสมบัติ และการถูกประหารชีวิตนั้นกรณีอื่นๆมีการจับสึกจากสมณเพศก่อน แต่ในกรณีพระเจ้าตากสินนั้นบางหลักฐานชี้ว่า อาจเป็นไปได้ว่าถูกสั่งสำเร็จโทษประหารชีวิตด้วยการตัดพระเศียร ขณะที่ดำรงสมณเพศอยู่ก็เป็นได้

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวถึงวาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินมหาราชไว้ในหนังสือ”การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี" หน้า 575 ว่า* " ( พระพุทธยอดฟ้าฯ) จึงมีรับสั่งให้เอาไปประหารชีวิตสำเร็จโทษเสีย เพชฌฆาตกับผู้คุม ก็ลากเอาตัวขึ้นแคร่หามไปกับทั้งสังขลิกพันธนาการ เจ้าตากสินจึงว่าแก่ผู้คุมเพชฌฆาตว่า ตัวเราก็สิ้นบุญจะถึงที่ตายแล้ว ช่วยพาเราแวะเข้าไปหาท่านผู้สำเร็จราชการ จะขอเจรจาด้วยสักสองสามคำ ผู้คุมก็ให้หามเข้ามา ครั้น ( พระพุทธยอดฟ้าฯ)ได้ทอดพระเนตร จึ่งโบกพระหัตถ์มิให้นำมาเฝ้า ผู้คุมแลเพชฌฆาตก็ให้หามออกไปนอกพระราชวัง ถึงหน้าป้อมวิชัยประสิทธิ์ ก็ประหารชีวิตตัดศีรษะเสีย ถึงแก่พิราลัย จึ่งรับสั่งให้เอาศพไปฝัง ณ วัดบางยี่เรือใต้"

ขณะ ที่ปรีดา ศรีชลาลัย กล่าวถึงวาระสุดท้ายของพระเจ้าตากสินฯไว้ในบทความเรื่อง”ปีสุดท้ายของสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราช”ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 3 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนธันวาคม 2524 ว่า”สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชถูกปลงพระชนม์ ณ พระวิหารที่ประทับในวัดแจ้ง (คือวัดอรุณราชวราราม ปัจจุบันนี้) รวมวันตั้งแต่เสด็จออกทรงผนวชจนถึงวันถูกปลงพระชนม์ เป็น 28 วัน โหรจดไว้ว่าดับขันธ์ ไม่ใช้คำว่าสิ้นพระชนม์ หรือสวรรคต ก็เพื่อยืนยันว่า พระองค์ท่านถูกปลงพระชนม์ทั้งที่ทรงเพศเป็นพระภิกษุ จึงใช้คำว่าดับขันธ์ เพื่อให้เข้าใจว่ามิได้สวรรคตเมื่อลาผนวชออกมา ความจริงพระองค์ดำรงสมณเพศจนตลอดพระชนม์ชีพ เมื่อการปลงพระชนม์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เชิญพระศพไปฝังไว้ที่วัดอินทาราม บางยี่เรือ ใกล้ตลาดพลู คลองบางหลวง (เวลานั้นยังเรียกวัดบางยี่เรือ)”

ปรีดา นำเสนอว่า ปฐมเหตุนั้นมาจากการที่เกิดความวุ่นวายทางการเมืองของเวียดนาม เมื่อพวกกบฏไตเซินได้ก่อการรัฐประหารต่อพระเจ้าเวียดนามยาลอง พ่ายแพ้ถอยร่นลงมาทางใต้ แล้วหวังจะได้กำลังฝ่ายเขมรเข้ามาช่วยสู้รบ จึงเข้าไปแทรกแซงการเมืองเขมร ซึ่งเป็นประเทศราชของไทย

พระเจ้าตาก สินจึงโปรดเกล้าให้สมเด็จเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ พระมหาอุปราช องค์รัชทายาทเป็นแม่ทัพใหญ่ เจ้าพระยาจักรี(ด้วง) เจ้าพระยานครสวรรค์ เจ้าพระยาสุรสีห์(บุญมา น้องชายเจ้าพระยาจักรี ด้วง)และพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนรามภูเบศ เหล่านี้เป็นแม่ทัพรองๆลงมา ไปจัดการปราบ และเพื่อมิให้ญวนลุกลามเข้ามายึดเมืองเขมรเป็นที่มั่น โดยโปรดให้กองทัพไทยออกไปในเดือนยี่ ปีฉลู ตรงกับพ.ศ.2324

แทนที่จะจัดการปัญหาได้ตามแผน ปรีดาได้อ้างถึงพงศาวดารญวน ฉบับนายหยงทหารปืนใหญ่ แปล(เล่ม 2 หน้า 378)ว่า เรื่องผิดคาดหมด เพราะกองทัพไทยที่ยกออกไปครั้งนั้นทำงานต่างกัน แม่ทัพใหญ่พยายามจะรุดหน้าไป ฝ่ายแม่ทัพรองบางนายหาทางยับยั้งเสีย เพื่อหน่วงคอยฟังเหตุการณ์ทางกรุงธนบุรี เวลา นั้นญวนได้ส่งกองทหารเข้าไปช่วยอยู่ในเมืองเขมรบ้าง แต่ไม่มากนัก ว่ากันตามส่วนกำลังที่ทั้งสองฝ่ายมีและจะต้องสู้กันอย่างแตกหัก อย่างไรเสียก็ควรจะหวังได้ว่ากองทัพไทยต้องทำงานได้ผลดีเป็นแน่ หากงานที่ทำนั้นไม่มีเรื่องอื่นเข้าแทรกแซง เพราะฝ่ายญวนอ่อนเต็มทีแล้ว ย่อมจะต้องการหย่าศึกกับไทยมากกว่า เพราะญวนมีภาระจะต้องสู้รบกับพวกราชวงศ์เล้(กบฏไตเซิน) ซึ่งกำลังตีรุกลงมาจากทางเหนืออย่างรุนแรง ถ้าขืนรบกับไทยเข้าอีก จะถูกตีกระหนาบสองหน้า อาจถึงเหลวแหลกหมดทางตั้งตัว

เพราะฉะนั้น เพื่อหาทางดีกับไทย แม่ทัพญวนชื่อเหงวียงหึวถว่าย จึงลอบแต่งทูตมาทาบทามทางแม่ทัพรองฝ่ายไทย พงศาวดารญวน เล่ม 2 หน้า 382 บันทึกไว้ว่านับเป็นโชคดีของญวน เป็นอันสมประสงค์ของแม่ทัพญวนโดยง่ายดาย เพราะว่าแม่ทัพรองฝ่ายไทยก็ต้องการจะให้กองทัพญวนและเขมรร่วมมือใน ทางลับอยู่เหมือนกัน และท่านแม่ทัพรองฝ่ายไทยก็ยินดีจะช่วยกำลังแก่ญวนตามสมควรในโอกาสต่อไป เมื่อทำงานลับเสร็จสมหมายแล้ว แม่ทัพญวนกับแม่ทัพรองฝ่ายไทยได้ลอบทำสัญญาลับทางทหารต่อกัน ฝ่ายแม่ทัพญวนหักกระบี่และคันธงออกเป็น ๒ ท่อน แล้วแบ่งให้ไว้ฝ่ายละครึ่งตามธรรมเนียม เพื่อเป็นเครื่องหมายในการทำสัญญา ต่อจากนั้น แม่ทัพรองฝ่ายไทยก็ให้ญวนล้อมกองทัพสมเด็จพระมหาอุปราช เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ และทัพพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนรามภูเบศ ไว้อย่างแน่นหนา ตรึงทัพทั้งสองมิให้เคลื่อนที่ได้ ส่วนตนรีบเดินทัพย้อนกลับมากรุงธนบุรีโดยด่วน

ส่วนทางด้าน กรุงธนบุรี มีผู้ยุยงชาวกรุงเก่าให้เกิดเข้าใจผิดในสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และชักชวนทำการกบฏย่อยๆขึ้น ผู้ยุยงตัวสำคัญซึ่งแอบขึ้นไปตั้งทำการยุที่กรุงเก่า มี 3คน คือ นายบุนนาค, หลวงสุระ,หลวงชะนะ รวบรวมผู้คนตั้งเป็นกองรบเข้ารุมทำร้ายผู้รักษากรุงเก่า แล้วเดินทางมายังกรุงธนบุรี ในเดือน 4 แรม 11 ค่ำ ถึงกรุงธนบุรีในตอนดึก ก็เริ่มยิงพระนครทันที ยังมีพวกกบฏแอบแฝงซ่องสุมอยู่ในกรุงธนบุรีอีก มีหลวงสรวิชิต (หน) เป็นต้น ก็ก่อการจลาจลขึ้นรับกับพวกกบฏที่ยกมาจากกรุงเก่า

ในชั้นต้น พวกกบฏขอให้พระสงฆ์เข้าไปถวายพระพร ทูลขอให้พระองค์เสด็จออกทรงผนวชเพื่อสะเดาะพระเคราะห์เมืองสัก 3 เดือน สมเด็จพระเจ้าตากสินฯทรงรับคำทูล โปรดให้ข้าราชการผู้ใหญ่ปรึกษาดูตามความสมควร เวลานั้นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มีพระยาสรรคบุรี (บรรพบุรุษแห่งสกุลแพ่งสภา) พระยารามัญวงศ์ (มะซอน บรรพบุรุษแห่งสกุลศรีเพ็ญ) เป็นต้น ล้วนแต่ซื่อสัตย์จงรักภักดีในพระองค์อย่างยิ่งยวด ข้าราชการเหล่านั้นคงจะได้คำนึงถึงกำลังส่วนใหญ่ที่ต้องส่งออกไปภาคตะวันออก จะทำผลีผลามลงไปในขณะนี้ ฉวยว่ามีการผันแปรต่างประเทศด้านอื่นเกิดขึ้นแทรกแซง จะเรียกกำลังจากภาคตะวันออกกลับมาไม่ทันท่วงที

อีกประการหนึ่งพวก ราษฎรก็ถูกปลุกปั่นให้เข้าใจผิดโดยการโฆษณาชวนเชื่อว่าพระเจ้าตากสินทรงมี พระสัญญาณวิปลาส คือเป็นบ้า หลงผิดว่าบรรลุโสดาบัน ทำการสั่งสอนพระสงฆ์ หากพระสงค์องค์ใดไม่ยินยอมก็ถูกจับเฆี่ยนตี(ซึ่งเป็นกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก ที่สุดในเวลานั้น เป็นโทษฐานอนันตริยกรรมทีเดียว) ความเข้าใจผิดอาจลุกลามไปมาก ในเมื่อไม่รีบหาทางแก้ไข เสียแต่ในชั้นต้น ฉะนั้นควรจะมีทางมองเห็นทางเดียวที่ควรกระทำก่อน คือขอให้ทรงยอมตามความประสงค์ ดังที่พวกกบฏขอให้พระสงฆ์ทูลแล้วนั้น

พระ เจ้าตากสินฯซึ่งสิ้นไร้ทั้งกำลัง และถูกโฆษณาชวนเชื่อว่าร้ายอย่างหนักหน่วงให้ขาดการสนับสนุนจากมวลชน ก็ได้ตกลงเสด็จออกทรงผนวช วันอาทิตย์ เดือน 4 แรม 12 ค่ำที่วัดแจ้ง อันเป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง (เช่นเดียวกับวัดพระแก้วมรกตในวังหลวงทุกวันนี้) ในการเสด็จออกทรงผนวชนี้ ความจริงหาขาดจากพระราชตำแหน่งไม่ เพราะมีกำหนดแน่นอน ว่าจะเสด็จนิวัติกลับสู่ราชบัลลังก์ ภายหลังเมื่อทรงผนวชแล้ว 3 เดือน ส่วนราชการบ้านเมืองก็มีข้าหลวงรักษาพระนครตามธรรมเนียม

พระเจ้าตาก สินทรงผนวชแล้ว 12 วัน พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) หลานเจ้าพระยาจักรี (ด้วง) ซึ่งโปรดให้ออกไปเป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา ยกทัพมาจากนครราชสีมา โดยมิได้รับพระบรมราชานุญาต (ซึ่งถือเป็นพฤติการณ์กบฎในสมัยนั้น แม้กระทั่งสมัยนี้หากเคลื่อนย้ายกำลังโดยไม่มีคำสั่ง)

แต่ในพงศาวดาร ว่าเจ้าพระยาจักรี (ด้วง) ให้รีบยกเข้ามาฟังเหตุการณ์ในกรุงก่อน (ดูพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา เล่ม 3) พวกกบฏมีนายบุนนาค หลวงสุระเป็นต้น เข้าสมทบกับพระยาสุริยอภัย (ทองอิน)

กาลครั้งนั้นพระเจ้าหลานเธอ กรมขุนอนุรักษ์สงครามจึงระดมกำลังเท่าที่จะหาได้ในเวลานั้น รีบยกไปตีกองทัพพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) ที่ตำบลบ้านปูน ณ วันอังคาร ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2325 เป็นเวลาภายหลังที่พระยาสุริยอภัย (ทองอิน) เดินทัพเข้ามาในกรุง และตั้งมั่นอยู่ 11 วัน แต่กำลังของกรมขุนอนุรักษ์สงครามไม่สามารถตีทำลายกองทัพพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) ลงได้ตามความประสงค์ เพราะกำลังน้อยกว่า ต้องล่าถอยไปทางวัดยาง ในที่สุดถูกพวกพระยาสุริยอภัย (ทองอิน) จับได้ พระยาสุริยอภัย (ทองอิน)จึงขยายวงค่ายแผ่กว้างออกมา จนใกล้พระราชวังหลวง

เมื่อ กรมขุนอนุรักษ์สงครามถูกจับแล้ว 3 วัน พอเช้าวันที่ 6 เมษายน 2325 เจ้าพระยาจักรี (ด้วง) ก็รีบเดินกองทัพใหญ่มาถึงพระนคร ได้มีการสอบถามความเห็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก(ซึ่งส่วนมากก็ล้วน อยู่ในสายของพระยาจักรีนั่นเอง) ว่าเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้แล้วจะควรทำอย่างไรต่อไป

บรรดาข้า ราชการที่ยังจงรักภักดีในพระองค์สมเด็จพระเจ้าตากสิน และเชื่อในพระราชปรีชาสามารถ ของพระองค์ ก็ยืนคำว่าควรไปกราบทูลอัญเชิญเสด็จ ขอให้ทรงลาผนวชออกมาครองราชสมบัติบริหารการแผ่นดินโดยด่วน หาไม่ก็ควรยกราชสมบัติให้รัชทายาทของพระองค์แทน เพราะมีรัชทายาทหลายพระองค์ ในเรื่องนี้ได้ความตามคำบอกเล่าจากเจ้านายบางองค์ในราชวงศ์จักรีว่า ข้าราชการพวกที่กล้าพูดเช่นนั้น ในที่สุดก็ถูกคุมตัวไปประหารชีวิตทั้งหมด

ส่วน สมเด็จพระเจ้าตากก็ถูกปลงพระชนม์ในวันนั้นเอง ณ พระวิหารที่ประทับในวัดแจ้ง (คือวัดอรุณราชวราราม ปัจจุบันนี้) รวมวันตั้งแต่เสด็จออกทรงผนวช จนถึงวันถูกปลงพระชนม์ เป็น 28 วัน โหรจดไว้ว่าดับขันธ์ ไม่ใช้คำว่าสิ้นพระชนม์หรือสวรรคต ก็เพื่อยืนยันว่า พระองค์ท่านถูกปลงพระชนม์ทั้งที่ทรงเพศเป็นพระภิกษุ จึงใช้คำว่าดับขันธ์ เพื่อให้เข้าใจว่ามิได้สวรรคตเมื่อลาผนวชออกมา ความจริงพระองค์ดำรงสมณเพศจนตลอดพระชนม์ชีพ

เมื่อการปลงพระชนม์เสร็จ เรียบร้อยแล้ว เชิญพระศพไปฝังไว้ที่วัดอินทาราม บางยี่เรือ ใกล้ตลาดพลู คลองบางหลวง (เวลานั้นยังเรียกวัดบางยี่เรือ) บรรดาศพข้าราชการที่จงรักภักดีในพระองค์ มีเจ้าพระยานครราชสีมา (บุญคง ต้นสกุลกาญจนาคม) พระยาสรรค์ (บรรพบุรุษสกุลแพ่งสภา) พระยารามัญวงศ์ (ต้นสกุลศรีเพ็ญ) พระยาพิชัยดาบหัก (ทองดี ต้นสกุลวิชัยขัทคะ และพิชัยกุล) เป็นต้น จำนวนมากกว่า 150 นาย ก็ถูกฝังเรียงรายใกล้พระศพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนั้น

ฝ่ายพระ ราชวงศ์ของพระเจ้าตากสินที่ยังเหลือ ถ้าเป็นเจ้าชายชั้นทรงพระเจริญวัยก็ถูกจับปลงพระชนม์หมด เอาไว้แต่ที่ทรงพระเยาว์ และเจ้าหญิง ถอดพระยศออกแล้วเรียกว่าหม่อม เหมือนกันทุกพระองค์ แม้จนกระทั่งสมเด็จพระราชินี และสมเด็จพระน้านาง เป็นการถอดอย่างที่ไม่เคยมีมา ฝ่ายเจ้าพระยาอินทวงศา อัครมหาเสนาธิบดีฝ่ายกลาโหม ขณะนั้นตั้งวังปราบบัญชาการทัพอยู่ที่ปากพระ ใกล้เมืองถลาง ทราบว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินฯถูกปลงพระชนม์แล้ว ก็ฆ่าตัวตายตามเสด็จ เพราะไม่ยอมเป็นข้าคนอื่น

ยังเหลือไว้แต่กรมขุน กษัตรานุชิต(เจ้าฟ้าเหม็น)ราชโอรสที่เกิดแต่ลูกสาวของพระยาจักรีที่ไว้ชีวิต (แต่เมื่อรัชกาลที่1สวรรคตลง ก็มีการหาเหตุขจัดเสี้ยนหนามในที่สุด โดยอ้างว่าเจ้าฟ้าเหม็นจะทำการกบฎ โดยมีหลักฐานคือกาได้คาบข่าวมาบอกว่าเจ้าฟ้าเหม็นจะก่อกบฎ..)

ส่วนความเกี่ยวข้องกับญวน ตามสัญญาลับ ไทยต้องช่วยญวนต่อรบกับพวกราชวงศ์เล้ (ที่เรียกพวกกบฎไตเซิน) 2 ครั้ง และช่วยอาวุธยุทธภัณฑ์อีกนับไม่ถ้วน ผลสุดท้ายเมื่อญวนกลับตั้งราชวงศ์องเชียงสือสำเร็จ มีอำนาจใหญ่โตขึ้น ไทยต้องเสียเมืองพุทไธมาศแก่ญวน

อมรรัตน์ เทพกำปนาท กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม เขียนถึงพระราชอุตสาหะและน้ำพระทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชไว้ใน บทความเรื่อง พระเจ้าตากสินมหาราช กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในยุคกรุงธนบุรี ว่า คงเป็นเพราะการศึกสงครามที่ยังมีอยู่แทบตลอดรัชกาลนั่นเอง ซึ่งปัญหาความอดอยากนี้ นับว่าเป็นปัญหาหนักทีเดียว จนพระองค์ถึงกับเคยเอ่ยพระโอษฐ์ด้วยความทุกข์พระทัยว่า

“...บุคคล ผู้ใด เป็นอาทิ คือ เทวดา บุคคลผู้มีฤทธิ์มาประสิทธิ์ มากระทำ ให้ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ขึ้น ให้สัตว์โลกเป็นสุขได้ แม้ผู้นั้นจะปรารถนาพระพาหาแห่งเราข้างหนึ่ง ก็อาจตัดบริจาคให้แก่ผู้นั้นได้ ความกรุณาเป็นสัตย์ฉะนี้...”

จากพระราชปรารภข้างต้น คงจะทำให้เราได้เห็นน้ำพระทัยของพระเจ้ากรุงธนบุรีอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าทรงตั้งใจเสียสละเพื่อราษฎรเพียงใด ตลอดรัชกาล พระองค์ต้องคิดทั้งเรื่องการรบข้าศึกศัตรู คิดเรื่องการฟื้นฟูและทำนุบำรุงบ้านเมือง คิดถึงการแก้ปัญหาปากท้องราษฎร แต่ละเรื่องนับเป็นภาระที่หนักยิ่ง

หากมิใช่เพราะพระปรีชาสามารถ น้ำพระทัยที่ห้าวหาญ และความเสียสละของพระองค์ท่านแล้ว คงยากที่คนไทยเราจะมีวันนี้ได้

ตัดหวายอย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก

ภาย หลังเจ้าพระยาจักรีได้ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าขึ้นเป็น รัชกาลที่ 1 แห่งพระราชจักรีวงศ์นั้น สมเด็จพระอนุชาในรัชกาลที่ 1 คือ กรมพระราชวังบวรฯ(บุญมา) เสด็จลงมาเฝ้าฯ กราบทูลว่าบรรดาบุตรชายน้อยๆ ของเจ้าตากสิน จะรับพระราชทานเอาไปใส่เรือล่มน้ำเสียให้สิ้น คำบุราณกล่าวไว้ ตัดหวายอย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก ซึ่งจะเลี้ยงไว้นั้นหาประโยชน์ไม่ จะเป็นเสี้ยนหนามไปภายหน้า" (พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา, คลังวิทยา, ๒๕๑๖, น. ๔๖๐)

อย่างไรก็ดีลูกของพระเจ้าตากสินองค์หนึ่งเหลือรอดมาได้ คือเจ้าฟ้าเหม็น เพราะเป็นหลานของรัชกาลที่ 1 ได้ขอยกเว้นชีวิตไว้ และโปรดสร้างวังท่าพระให้อยู่(ปัจจุบันเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากร)แต่พอ ต่อมาเมื่อรัชกาลที่ 1 สวรรคตได้เพียง 7 วัน และผลัดแผ่นดินมาสู่รัชกาลที่ 2 พระราโชบายที่เคยมีมาแต่ต้นรัชกาลก็มาประสบผล

โดยคดีนี้พิลึกพิลั่นว่า อีกาได้คาบข่าวมาบอกว่าเจ้าฟ้าเหม็นจะก่อการกบฎแย่งชิงราชบัลลังก์ ในที่สุดก็มีการตั้งตุลาการขึ้นชำระความ ซึ่งตุลาการสมัยโน้นก็คงอาการประมาณเดียวกับสมัยนี้หละกระมัง คือหาหลักฐานไม่พบ โดยมีความตอนหนึ่งว่าไว้ดังนี้

มีรับ สั่งโปรดเกล้าฯ ว่า อ้ายเมืองให้การถึงหม่อมเหม็น ทั้งนี้ยังเลื่อนลอยอยู่เห็นหาจริงไม่ แต่ทะว่าเป็นความแผ่นดิน จึงให้ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย ตริตรองชำระเอาความจริง

ตุลาการศาลยุติธรรมในเวลานั้นตริตรองแล้วก็ชำระความออกมา ด้วยการที่เจ้าฟ้าเหม็นทรงถูกถอดยศเป็น "หม่อมเหม็น" นำไปสำเร็จโทษที่วัดปทุมคงคา ส่วนพระโอรส 6 พระองค์ของเจ้าฟ้าเหม็นก็ต้องโทษ "ตัดหวายอย่า่ไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก" คือ หม่อมเจ้าชายใหญ่ หม่อมเจ้าชายสุวรรณ หม่อมเจ้าชายหนูเผือก หม่อมเจ้าชายสวัสดิ์ หม่อมเจ้าชายเล็ก และ หม่อมเจ้าชายแดง
ทรงถูกนำไป "ถ่วงน้ำ" ที่ปากอ่าว

ก็เป็นอันว่า พระราโชบายที่กำหนดไว้นับแต่ปราบดาภิเษกสถาปนาพระราชจักรีวงศ์ ก็มาบรรลุผลในตอนหลังรัชกาลที่ 1 สวรรคตลงเพียง 7 วันนั่นแล

แม้จะสิ้นวงศ์ไปแล้ว และแม้เหตุการณ์ผ่านไปนานถึง 227 ปี แต่กฤษฎาภินิหารของพระเจ้าตากสินมหาราชนั้นก็บดบังมิได้..


Create Date : 28 ธันวาคม 2552
Last Update : 28 ธันวาคม 2552 17:28:59 น. 7 comments
Counter : 646 Pageviews.

 
แล้วถ้าเผื่อสมเด็จฮวยเซ็ง กับพระเจ้ามูลเมือง กระทำการยึดแผ่นดินแล้ว ใครจะฆ่าใครก่อน ทั้งสองฝ่ายลูกเป็นครอกเลยนะนั่น เลือดคงจะเต็มหลุมเปรอะเปื้อนไปหมด น่าจะทายชิงโชครับรางวัล โดยการส่ง SMS นาทีละ6บาทนะครับ รางวัลน่าจะเป็นพระวิหาร เอาใหมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ (ฮา)


โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.151.139 วันที่: 28 ธันวาคม 2552 เวลา:21:40:53 น.  

 
ผมว่านะ อีดอกนิวส์ก็แดงทั้งฉบับ นี่เป็นการแสดงว่านักการเมืองลวงโลกที่บอกว่าจงรักภักดี ถ้าไม่พอเพิ่มอีกได้ นี่คือการกระตรงข้าม และโกหก


โดย: ksk IP: 113.53.166.227 วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:7:39:58 น.  

 
ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.151.139 <---- เบี่ยงประเด็นใช้ตรรกะวิบัติชนิดหุ่นไล่กา

ksk IP: 113.53.166.227 <---- ตรรกะวิบัติชนิดโจมตีบุคคลผู้ให้ข้อมูลไว้ก่อน โดยไม่สนใจจะถกเนื้อหาจริงๆ

เข้ามาแสดงความกากให้สนุกไปเลยนะคุณนะ


โดย: ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร (spiralhead ) วันที่: 2 มกราคม 2553 เวลา:15:09:20 น.  

 
คุณไทยวรรษ ปัญญาคุณไม่มีที่จะเขียนเองหรือไร หรือรับจ้างโพสต์ เขียนเองสิครับ ผมดูเจตนาของคนเขียน มันก็หวังกระทบสถาบันเท่านั้นไม่ต้องใช้อะไรคิดหรอกครับ อ่านปั๊บก็รู้ได้ปุ๊บว่าเจตนาคืออะไร ผมไม่เคยเบี่ยงเบนประเด็น ผมอ่านเสร็จผมสรุปเสร็จ ก็ตอบตามเจตนาที่เขาเขียน ไม่เห็นมีอะไร คนหนึ่งก็รับจ้างเบี่ยงโดยอาศัยความรู้ที่ตนมี อีกคนก็โพสต์่ต่อโดยไม่รู้ว่าได้รับอะไรตอบแทน เพื่ออะไรครับ อย่าตอบว่าเพื่อตามหาประชาธิปไตยนะครับ
ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง
คงจะต้องบังคับขับใส
เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป
ตามวิสัญชนเช่นผู้เป็นนาย
เขาจะเห็นแก่หน้าคราชื่อ
จะนับถือพงษ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย
ใหนจะต้องเหนื่อยยากลำบากกาย
ใหนจะอายทั่วทั้งโลกา


โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 113.53.165.27 วันที่: 3 มกราคม 2553 เวลา:19:18:21 น.  

 
หน้าประวัติศาสตร์มักเขียนขึ้นเพื่อคนที่ชนะในการรบ ผมเพิ่งรู้นิเองนะว่าการโฆษณาชวนเชื่อในไทยนี่ มีมาแต่สมัยโบราณแล้ว แสดงว่าโดยนิสัยคนไทยบางส่วนก็เป็นพวกนิสัยหูเบามาตั้งนานแล้ว ปัจจุบันนี้กรรมของคนไทย เหมือนกำลังเวียนบรรจบกับปัจจุบันเพื่อ...


โดย: metallica (stonekid ) วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:8:16:36 น.  

 
สถาบันแตะต้องไม่ได้เลยหรอคะ
ประวัติศาสตร์โดนบิดเบือนเพื่อเอาความดีใส่ตัว
ตลกดีคนๆนึงทำเพื่อชาติอย่างแท้จริงทั้งๆที่ไม่ใช่คนไทยแท้ๆ แต่กลับมาถูกไอ้ความอยากมีอำนาจของเพื่อนรัก
บดบังทำให้โดนฆ่ายกโคตร แบบนี้

อย่าดูถูกความคิดคนอื่นเลย
ถ้าดีจริงประชาชนจะรับรู้เองได้โดยไม่ต้องมาโฆษณามาก


โดย: Alt + m IP: 58.9.198.170 วันที่: 5 มกราคม 2553 เวลา:14:44:00 น.  

 
คุณ Alt + m ที่รัก
การแตะต้องสถาบัน ไม่มีใครห้ามหรอกครับ แต่ต้องดูที่เจตนา ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ทำ เหมือนพ่อแม่ของเราเราจะพูดหรือแสดงกริยาอย่างไรกับพ่อแม่ของเราก็ต้องคิดก่อนว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่ ไม่อย่างนั้นท่านอาจเกิดความเสียใจต่อการกระทำอันไร้เหตุผลของลูกที่ท่านตั้งใจเลี้ยงดูมาอย่างถวายชีวิต
...การแสดงการจาบจ้วงต่อสถาบันของประเทศไทยอย่างเลวร้ายและไม่เคยที่จะเกิดขึ้นมาก่อน ทำไม เพราะนักการเมืองลวงโลกได้กระทำผิดกฏหมายของบ้านของเมือง แล้วเผ่นหนีความผิดออกไปนอกประเทศ และโกหกว่าทุกคนที่ชี้ความผิดของเขาเลว ดีแต่เขาคนเดียว และหวังว่าสถาบันของประเทศจะนำเขากลับมาด้วยการพ้นจากความผิดทั้งหมด แต่เขาต้องผิดหวัง ดังนั้นการจาบจ้วงจึงเกิดขึ้น
....เพราะฉะนั้นคุณต้องคิดดูว่าการกระทำดังกล่าวเพื่อใคร ประเทศของเราหรือไม่ใช่ เพื่อผู้กระทำผิดคนเดียวเท่านั้น เนื้อหาจริงๆคืออย่างนี้ แต่การเขียนบทความดังกล่าวข้างต้นเป็นขบวนการหนึ่งของการจาบจ้วงเท่านั้น


โดย: ปากกาสีน้ำ......เงิน IP: 125.26.150.24 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:21:32:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.