ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
ปัญหาของการไม่อภิปรายประเด็นสถาบันกษัตริย์ ในบริบทสังคม-การเมืองไทย

นักปรัชญาชายขอบ


ผมได้แง่คิดในการเขียนบทความนี้จากการติดตามอ่านการถกเถียงท้ายบทความ ชื่อ “ความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน: กรณีศึกษาประเทศอาร์เจนตินา” ของ คุณภัควดี ไม่มีนามสกุล (โดยเฉพาะแง่คิดจากความเห็นของ อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล) ความหมายที่ต้องการให้เข้าใจตรงกันก่อนคือ การอภิปราย “ประเด็นสถาบันกษัตริย์” ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับประเด็น “เอา-ไม่เอาสถาบันกษัตริย์”


เพราะสำหรับผม ประเด็น “เอา-ไม่เอาสถาบันกษัตริย์” เป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดปัญหาอย่างรุนแรงต่อประชาธิปไตย ต่อสังคม และต่อสถาบันกษัตริย์เอง ข้อเท็จจริงที่ยืนยันเรื่องนี้ก็คือ การชูประเด็น “เอา-ไม่เอาสถาบันกษัตริย์” ที่เริ่มโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)ได้นำมาสู่การเกิดรัฐประหาร 49 ความแตกแยกในสังคม การเพิ่มขึ้นมากอย่างผิดปกติของคดีหมิ่นเบื้องสูง ในช่วง 3-4 ปีมานี้ ฯลฯ

ฉะนั้น การอภิปราย “ประเด็นสถาบันกษัตริย์” ในที่นี้จึงหมายถึง การอภิปรายในเชิงความคิดเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ว่า ถ้าเราจะ “เปลี่ยนผ่าน” สังคมเราไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างอารยประเทศ เราควรจะกำหนดกติกาเกี่ยวกับสถานะ อำนาจ บทบาทหน้าที่ของสถาบันกษัตริย์อย่างไร หรือจะปฏิรูปความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างสถาบันกษัตริย์กับอำนาจทางการเมือง อำนาจกองทัพอย่างไร หรือภายในขอบเขตแค่ไหนที่หมายถึง “การอยู่เหนือการเมือง” ของสถาบันกษัตริย์ ฯลฯ

โดยที่การอภิปรายเป็นกิจกรรมทางวิชาการภายใต้กรอบของการอ้างอิงข้อเท็จจริงและเหตุผล (ไม่ใช่การกล่าวหา ใส่ร้าย ดูถูก ดูหมิ่นแต่อย่างใด) จึงเป็นกิจกรรมที่ต้องทำได้ภายใต้หลักประกัน “การมีเสรีภาพทางวิชาการ” ในสังคมประชาธิปไตย ผมเชื่อว่าการอภิปราย “ประเด็นสถาบันกษัตริย์” ในความหมายดังกล่าวนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาแก่ประชาธิปไตย แก่สังคม และแก่สถาบันกษัตริย์เอง

จะว่าไปแล้ว การเปิดเวทีให้มีการถกเถียงด้วยเหตุผลว่า ประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศจะเห็นสมควรว่าสถาบันกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยควรจะมีสถานะ อำนาจ และบทบาทอย่างไร น่าจะเป็นการดีแก่สถาบันกษัตริย์เอง เพราะ

1) จะทำให้ประเด็นสถาบันถูกยกขึ้นมา “บนเวทีของการใช้เหตุผล” ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาการเขียนข้อความไม่เหมาะสมบนพื้นถนน ผนังห้องน้ำ การเคลื่อนไหวใต้ดิน (ถ้ามี) ฯลฯ

2) อาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยปกป้องชาวบ้านจากการทำผิดกฎหมายหมิ่นฯ ที่เพิ่มมากขึ้น

3) ที่สำคัญอาจเป็นทางเดียวที่จะทำให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ขึ้นด้วย “สันติวิธี”

ผมคิดว่า ข้อ 3) สำคัญที่สุด ถ้าสังคมเราสามารถนำประเด็นสถาบันขึ้นสู่เวทีการใช้เหตุผลร่วมกันได้ มีคำตอบร่วมกันได้ว่า กติกาที่เหมาะสมสำหรับสถานะ อำนาจ และบทบาทของสถาบันที่อยู่เหนือการเมืองจริงๆ คืออะไร ก็เท่ากับเราได้สร้างการเปลี่ยนผ่านสังคมไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นธรรมเชิงอำนาจต่อรองทางการเมือง และอำนาจต่อรองด้านอื่นๆ ตามมา ด้วย “สันติวิธี”


แต่การหลีกเลี่ยงที่จะอภิปราย “ประเด็นสถาบันกษัตริย์” จะทำให้เกิดปัญหาอย่างน้อยต่อไปนี้

1) ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่า ข้อเสนอให้อภิปราย “ประเด็นสถาบันกษัตริย์” เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดต่อการเปลี่ยนผ่านสังคมไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย แต่ปัญหาสำคัญที่สุดอยู่ที่ฝ่ายที่ปฏิเสธประเด็นดังกล่าวนี้ ไม่สามารถแสดงเหตุผลได้ว่า ถ้าไม่อภิปรายประเด็นดังกล่าว จะสามารถสร้างการเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และ/หรือความเป็นธรรมในการต่อรองเชิงอำนาจทางการเมืองและทางอื่นๆได้อย่างไร

2) การหลีกเลี่ยงที่จะอภิปราย ทั้งที่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ว่ามีการอ้างสถาบันในการต่อสู้ทางการเมือง การทำรัฐประหาร การปราบปรามประชาชน การจำกัดเสรีภาพในการพูดความจริง ฯลฯ แสดง (อย่างน้อยโดย “นัยยะ”) ถึงการ “ยอมรับ” หรือ “รับได้” กับระบบสังคมที่ห้ามใช้เหตุผลกับบางเรื่อง ซึ่งการห้ามใช้เหตุผลกับบางเรื่องย่อมเท่ากับห้ามใช้เสรีภาพ หรือเสรีภาพถูกจำกัด แต่ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยประชาชนต้องมีเสรีภาพที่สมบูรณ์ในความหมายสำคัญที่ว่า “เราต้องสามารถใช้เหตุผลได้อย่างเต็มที่กับทุกเรื่อง”

3) ฉะนั้น เมื่อยอมรับให้มีการจำกัดการใช้เหตุผล หรือจำกัดการใช้เสรีภาพ การกล่าวอ้างคำว่า “ประชาธิปไตย” ภายใต้การยอมรับเช่นนี้ ย่อมเป็นคำกล่าวอ้างที่ไร้ความหมาย คือเราจะบอกว่าเรากำลังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไม่ได้ ถ้าไม่ใส่ใจต่อการแก้ปัญหาการจำกัดเสรีภาพ หรือ “การจำกัดการใช้เหตุผล”

4) การหลีกเลี่ยงที่จะอภิปราย เท่ากับยอมจำนนต่อความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ที่ความตายของประชาชนฝ่ายที่เรียกร้องเสรีภาพเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นความตายที่หลีกเลียงไม่ได้ และสะท้อนว่าอนาคตก็ต้องหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน (ทั้งที่จริงสามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าสามารถห้ามการใช้สถาบันเป็นเครื่องมือต่อสู้ทางการเมืองได้ ฯลฯ)

เป็นความจริงว่า มีประเด็นอื่นๆ ต้องอภิปรายกันอีกมากในการเปลี่ยนผ่านสังคมสู่ความเป็นประชาธิปไตย และแม้จะสมมติให้เป็นจริงด้วยว่า การอภิปรายประเด็นสถาบันไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดของการเปลี่ยนผ่าน แต่ฝ่ายที่ปฏิเสธการอภิปรายประเด็นสถาบันก็ไม่สามารถมี “คำตอบที่ดีกว่า” ทั้งเรื่องจะเปลี่ยนผ่านได้อย่างไร ประชาธิปไตยที่เราพูดถึงได้ในระบบสังคมที่ห้ามใช้เหตุผลกับบางเรื่องมีหน้าตาอย่างไร และที่สำคัญคำตอบสำหรับป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้คืออะไร

ปัญหาที่น่าคิดยิ่งขึ้นไปอีกคือ ทำไมการนำประเด็นสถาบันขึ้นสู่เวทีการใช้เหตุผล หรือเวทีทางวิชาการ ซึ่งได้รับการปกป้องโดยพื้นฐานด้วยหลักเกณฑ์ที่พิเศษกว่าชาวบ้านคือ หลัก “เสรีภาพทางวิชาการ” นักวิชาการ ปัญญาชนซึ่งได้รับการปกป้องด้วยหลักการดังกล่าว และมีบทบาทหน้าที่ในการชี้นำทางความคิดแก่สังคม จึงดูเหมือนไม่เชื่อมั่นในวิถีทางการใช้เหตุผล (ว่าจะปลอดภัย ฯลฯ) หรือไม่สามารถยกประเด็นที่ละเอียดอ่อนล่อแหลมต่อการจะกลายเป็นเงื่อนไขความรุนแรงขึ้นอีกในอนาคตเข้าสู่วิถีทางการใช้เหตุผล ใช้หลักวิชาการเป็นทางออกจากวิกฤต

ผมคิดว่าปัญหา “ความไม่พร้อมที่จะเสี่ยงในการใช้เหตุผลอภิปรายประเด็นสถาบัน” เป็นปัญหาที่ไม่สามารถเข้าใจได้ในบริบทการเรียกร้องประชาธิปไตยในปัจจุบัน "


ยิ่งอ้างความต้องการเปลี่ยนผ่านสังคมโดยสันติวิธี และเรียกร้องต้องการความยุติธรรมด้วยแล้ว แต่ไม่ยอมยกประเด็นดังกล่าวขึ้นสู่เวทีการใช้เหตุผล ปล่อยให้เรื่องละเอียดอ่อนเช่นนี้ตกลงไปใน “กระแสของการใช้อารมณ์” ของประชาชนทั่วไป ยิ่งสะท้อนให้เห็นความมืดมนและน่าหวาดกลัวของอนาคตสังคมไทย!

ที่มา ประชาไท


Create Date : 12 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2553 3:47:31 น. 2 comments
Counter : 509 Pageviews.

 
เชิญชวนให้คลิก ระวังโดนแบนนะครับ สวัสดีตอนเช้าๆครับ


โดย: MaFiaVza วันที่: 12 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:29:03 น.  

 
ทู่ซี้แต่จะโจมตีสถาบัน ทำเป็นเนียนโดยอ้างหลักวิชา นักวิชาเกิน อ้างประชาธิปไตย แล้วการเผาเมือง ทำลายสถาบันทั้งหลายของบ้านของเมืองการแทรกแซง การปั่นพวกแดงกินหญ้าว่าโดนกดขี่กลั่นแกล้ง สองมาตรฐาน ยกย่องแดงกินหญ้าว่า เป็นพวกรักความเป็นธรรม เพื่อจะได้จูงจมูกไปทำสิ่งที่พวกคางคกต้องการกระทำเพื่อเงิน


โดย: กลอน IP: 113.53.139.82 วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:5:44:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.