ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
รวบรวมข่าวตัดแปะว่าด้วยการมีเอี่ยวทางการเมืองของป๋าเปรม

หลักฐานมัีด ป๋าเปรม ผู้อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลทักษิณ..... เล่าเรื่องด้วยข่าว
ผมรู้อยู่แล้วว่าสักวันหนึ่ง ป๋าจะต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นกับการปฏิวัติ
ถ้าเป็นยุคสมัยก่อน ที่มีแต่ทีวีและหนังสือพิมพ์ ผมคงต้องยอมให้ป๋า กลบเกลื่อนหลักฐานไปตามกาลเวลา
แต่นี่ยุคดิจิตัลครับ และนี่คือผลการรวบรวมหลักฐานตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา

เชิญพี่น้องพิจารณาว่าหลักฐานมีน้ำหนักหรือไม่
ที่มาทั้งหมดจากข่าวไทยรัฐ
...............................................

กลุ่มเครือข่ายฯยื่นหนังสือถึง “ป๋าเปรม” [10 ก.ย. 49 - 03:27]

วานนี้ (9 ก.ย.) ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เครือข่ายประชาสังคม หยุดระบอบทักษิณประมาณ 300 คน นำโดยนายสังศิต วิริยะรังสรรค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยนายสังศิตเปิดเผยว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้น้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องความสามัคคีและเป็นผู้ปฏิบัติในธรรม อีกทั้งเป็นสัญลักษณ์ของคุณธรรม ที่กลุ่มเครือข่ายฯมาวันนี้เพื่อขอนำเอาแบบอย่างของ พล.อ.เปรมไปปฏิบัติ การยื่นหนังสือครั้งนี้ไม่ต้องการผลอะไร แต่เห็นว่าอะไรที่เป็นความดีควรจะทำ ก่อนหน้านี้ไปให้กำลังใจคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการ สตง.มาแล้ว

นายสังศิตกล่าวถึง กกต.ที่ได้รับการเลือกตั้งว่า ในส่วนตัวคิดว่า 5 ใน 10 ท่าน ขอชื่นชมทุกคน มั่นใจว่า กกต.ไม่ว่าจะเป็นใครชื่นชมทั้งนั้น มั่นใจว่า กกต.ชุดนี้จะมีส่วนช่วยคลี่คลายวิกฤติของประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีข่าวการบล็อกโหวต นายสังศิตกล่าวว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งที่ไหนมักจะมีการล็อบบี้หรือบล็อกโหวตเหมือนกันทุกที่ จะไปห้ามไม่ให้มีการล็อบบี้ทำไม่ได้ แต่ศาลได้ส่งคนที่คิดว่าดีตามสมควรทั้ง 10 คนเข้ามา

“ป๋าเปรม” จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อชาติ

พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ ผู้แทน พล.อ.เปรมที่ออกมารับหนังสือ กล่าวถึงความรู้สึกของ พล.อ.เปรมว่า อย่าให้ตอบแทนท่านเลย มันไม่ใช่หน้าที่ แต่เรื่องนี้ผู้ใหญ่ทุกคนมีความกังวลเป็นเรื่องธรรมดา ขนาดพวกเราทุกคนยังรู้สึกวิตก อยากให้ทุกอย่างดีขึ้นโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามว่ามีผู้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เปรมมากมายท่านได้อ่านบ้างหรือไม่ พล.ร.ท.พะจุณณ์ตอบว่า ท่านอ่านทุกฉบับแต่ไม่แสดงออก เรื่องเหล่านี้ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะทุกฝ่ายจะต้องตระหนักถึงเรื่องความสามัคคี เป็นพระบรมราโชวาทและเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัติ ไม่ใช่หน้าที่ของ พล.อ.เปรมต้องพูดอีก เพราะว่าสิ่งนี้ถือว่าสูงสุดแล้ว ทุกคนต้องตระหนักว่าสิ่งไหนที่จะทำให้เกิดความสามัคคีก็ต้องทำกัน ท่านเป็นคนเข้มแข็งในเรื่องทุกเรื่อง อะไรมาท่านรับได้หมด ฉะนั้น ท่านจะไม่ปริปากที่จะบอกว่ามันจะอะไรหรือไม่ แต่รู้ว่าท่านได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประเทศชาติ

“อุทัย” เตือนอย่าให้ปัญหาเดิมซ้ำรอย

ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการจัดอภิปรายสาธารณะ เรื่อง “การแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จะแก้ไขปัญหาวิกฤติทางการเมืองไทยได้จริงหรือ” โดยนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภาและอดีตประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถือว่า แก้ง่ายที่สุด เพียงแค่ให้ประชาชนเข้าชื่อ หรือให้องค์กรอิสระเสนอแก้ ต่างจากเดิมที่หากจะแก้แทบจะต้องปฏิวัติ และรัฐธรรมนูญ ให้น้ำหนักกับการตรวจสอบ เพราะครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคยตรัสเมื่อครั้งมาทรงดนตรีที่ธรรมศาสตร์ว่า ถ้าพูดถึงการโกงกิน ถ้าเอาข้าราชการที่โกงกินมาตัดหัว คงจะเหลือไม่ถึง 30% จะเห็นว่า การโกงกินมันฝังลึกในรากเหง้าสังคมไทยมาช้านานแล้ว ไม่คัดค้านที่จะแก้รัฐธรรมนูญ แต่แก้แล้วอย่าให้ปัญหามันเกิดซ้ำรอย ถอยหลังเข้าคลองแบบก่อนมี รธน.ฉบับนี้ เช่น เกิดปัญหาเดิม เช่นเดียวกับก่อนบังคับสังกัดพรรค 90 วัน แต่ยอมรับว่าองค์กรอิสระที่ผิดเพี้ยนไปจากที่ออกแบบไว้ เพราะถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง มีคนคนหนึ่งที่เก่งเหลือเกินที่ทำได้ แต่ถ้าคนคนนี้ตายไปหรือหมดอำนาจไป รัฐธรรมนูญ ฉบับนี้อาจดีกว่าที่เป็นอยู่นี้ก็ได้ จึงต้องยอมรับว่า วิกฤติที่เกิดขึ้นสาเหตุส่วนใหญ่มาจากคนใช้การพัฒนาการเมืองไทยขณะนี้ เราพัฒนาในเรื่องของพื้นฐานความคิดและกติกาได้แล้ว แต่เรื่องจริยธรรมของคนยังทำไม่ได้

ต้องสร้างความเสมอภาคทางการเมือง

รศ.ดร.นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ส่วนตัวอยากเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ ในส่วนแกนหลักของอำนาจ คือการเข้าสู่อำนาจ การใช้อำนาจ การตรวจสอบการใช้อำนาจและการพ้นจากอำนาจ ผลจากรัฐธรรมนูญมีทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ เช่น การกำหนดให้ผู้สมัคร ส.ว. ไม่สามารถหาเสียงได้ ก็ต้องใช้ฐานเสียงของ ส.ส. หรือการเลือก ส.ส. 1 เขต 1 คน ก็กลายเป็นการผลักให้เกิดระบบ 2 พรรคการเมืองใหญ่ การเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยกำหนดให้ประเทศไทยเป็นเขตเลือกตั้ง โดยตั้งด่านไว้ที่ร้อยละ 5 แทนที่จะส่งเสริมให้พรรคการเมืองเล็กเข้ามามีบทบาท จึงกลับทำให้คนที่เลือกตั้งได้ที่ 1 มีลักษณะคล้ายประธานาธิบดีและผลักดันพรรคเล็กออกไปหมด ผิดหลักของประชาธิปไตยที่ต้องดึงคนมามีส่วนร่วมมากที่สุด คิดว่าคนออกแบบรัฐธรรมนูญไม่ได้ศึกษาเรื่องการเลือกตั้งที่ดีเพียงพอ นอกจากนี้เรื่องการแข่งขันอย่างเสมอภาคของพรรคการเมือง เราไม่มีกฎหมายควบคุมการรับบริจาคเงินให้พรรค หรือการควบคุมการใช้สื่อหาเสียงอย่างเท่าเทียมกัน จึงเกิดปัญหา

ห้ามรัฐบาลใช้สื่อโทรทัศน์แถลงผลงาน

นายปริญญา เทวานฤมิตกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การโหวต กกต.ที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกของประชาชนว่า ส.ว.ชุดนี้ ตั้งแต่ต้นจนสุดท้ายก็ไม่เป็นอิสระ รัฐธรรมนูญยังมีสิ่งที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ยังเป็นเรื่องของจิตสำนึกทางการเมือง เช่น การที่ผู้นำต้องกับข้อสงสัยก็ต้องลาออก แต่ของเราไม่มีตรงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณทำในสิ่งที่เกินกว่าผู้ที่มีสติปัญญาในบ้านเมืองจะรับได้ ทั้งนี้ การแก้วิกฤติชาติจะรอแก้รัฐธรรมนูญไม่ทัน ต้องเริ่มตั้งแต่เรามี กกต. ใหม่ โดย 1. กกต.ควรเอาอีก 5 คน ที่ไม่ถูกเลือกมาช่วยงาน โดยเฉพาะเลือกมาเป็นเลขาธิการ เพราะคนเหล่านี้ ศาลคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว 2. รับรอง ส.ว.ชุดใหม่ให้เร็วที่สุด ห้ ส.ว.ชุดรักษาการนี้หมดหน้าที่ไปเสียที 3. จัดการเลือกตั้งที่เที่ยงธรรม ห้ามใช้ทรัพยากรหรืองบของรัฐ มาโฆษณาหาเสียงให้พรรคการเมืองของตัว และบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง มาตรา 47 ที่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่เป็นคุณเป็นโทษต่อพรรคตัวเองอย่างเข้มงวด ในประเทศเยอรมัน 6 เดือนก่อนเลือกตั้ง ห้ามรัฐบาลใช้สื่อโทรทัศน์แถลงผลงานด้วยซ้ำ ของเราน่าจะละอายใจมากกว่านี้ อยากให้ กกต.จับตาโดยเฉพาะการหาเสียงในนามการตรวจราชการ 4. เปลี่ยนอำนาจการวินิจฉัยให้ใบเหลืองใบแดงไปให้ศาล

บิ๊กจิ๋ว” ชี้นายกฯปากไม่สร้างสรรค์ [25 ส.ค. 49 - 03:13]

วันที่ 24 ส.ค. เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถาบันพระปกเกล้า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้บรรยายพิเศษให้กับหลักสูตรวิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า รุ่น 10 ในหัวข้อ “ประสบการณ์ ทางการเมืองของข้าพเจ้า” โดยได้เล่าถึงอดีตที่เคยต่อสู้กับระบอบคอมมิวนิสต์ และกล่าวว่า การปกครองบ้านเมืองต้องประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ คือ 1. อธิปไตยต้องเป็นของปวงชน 2. เสรีภาพทางความคิดของบุคคลต้องสมบูรณ์จริงๆ 3. ต้องปฏิบัติตามตัวบทกฎหมาย 4. รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งหมดนี้ต้องประกอบกัน ไม่ใช่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งประชาธิปไตย แต่กลับไม่มีองค์ ประกอบดังกล่าวครบถ้วน ก็ถือว่าไม่เป็นประชาธิปไตยเช่นกัน ที่ผ่านมา 20-30 ปี บ้านเมืองมีการปกครองที่ไม่เป็นธรรม จึงเกิดปัญหาอื่นตามมา จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ประเทศตกอยู่ในวงจรอุบาทว์ คือมีการปฏิวัติ แก้รัฐธรรมนูญ ตั้งรัฐบาล และปฏิวัติอีกถึง 21 รอบ สิ่งที่ห่วงคือการใช้เงินในการเลือกตั้งจนเกิดเป็นนิสัย ไม่มีผู้ริเริ่มที่จะไม่ให้ใช้เงิน จึงต้องกำหนดเป็นกติกาใหม่เพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง สมัยตนไม่มีการใช้เงินซื้อตำแหน่งรัฐมนตรี

บอกสงสาร “ป๋าเปรม” ตกเป็นเป้า

“ขณะนี้น่าสงสาร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ตกเป็นเป้ามากที่สุด เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ผมนำดอกไม้ไปกราบอวยพรท่าน ท่านพูดว่าจะไปคิดล้มกันทำไมรัฐบาล คนดีๆเขาเยอะ แต่ก็มีเหมือนกันที่ท่านบอกว่ารัฐบาลควรแก้ไขอะไร ซึ่งคิดว่าทำไมคนไทยถึงไม่หันหน้าเข้าหากัน” พล.อ.ชวลิตกล่าวและว่า การแก้ปัญหาภาคใต้ที่ไม่ประสบความสำเร็จ อย่าไปโทษว่าเป็นความเลวร้ายของผู้ก่อการ แต่เป็นความเละเทะของเรามากกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบเลยว่าใครมีอำนาจสั่งการที่แท้จริง ผู้ปฏิบัติจึงต้องมีความเป็นเอกภาพทั้งทางปฏิบัติและการบังคับบัญชา ขณะนี้คนภาคใต้ว้าเหว่ ตนจึงต้องนำเอา พล.อ.เปรมลงไปในพื้นที่ เพราะ พล.อ. เปรมเป็นสัญลักษณ์ของคนใต้ แต่เป็นการรุกการเมือง ไม่ได้มุ่งเน้นให้รัฐบาลเสียหาย

ชี้ “ทักษิณ” อาจเสียเงินก้อนโต

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ลุกขึ้นถาม โดยนักศึกษาผู้หนึ่งถามว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ค่อยรับฟังคำพูดคนอื่น และทำไมไม่มีจิตสำนึกในการเสียภาษี พล.อ.ชวลิตตอบว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณมีอะไรไม่ดีก็ไปบอกซะ จะได้รู้และแก้ไข ตอนนี้อาจจะไม่รู้ตัวเพราะไปเชื่อใครบางคน คนเป็นนายกฯมีเรื่องปวดหัวหลายอย่าง แต่ที่พูดเร็วไปนิดก็ต้องเบรกสักหน่อย และที่มีการพูดว่า ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณถึงไม่ยอมลาออก คิดว่าท่านคงมีเหตุผล ทุกคนที่เป็นผู้นำต้องมีความรับผิดชอบพิเศษมากกว่าคนอื่น เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณเป็นเหมือนผู้นำคนอื่น เพียงแต่ว่ามีเหตุผลอะไรที่เราไม่รู้ ส่วนการเสียภาษีนั้น พ.ต.ท.ทักษิณเคยพูดเองว่าไม่จำเป็นต้องเสียภาษี ดังนั้น อยากให้ดูที่ระบบว่าเป็นอย่างไร เรามักจะไปชี้ที่คน คนคิดว่าให้ 100 ทักษิณ ถ้าอยู่ในระบอบเผด็จการอย่างนี้ก็รับไม่อยู่ ลองอดทนอีกนิด เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีแผนอะไรมากกว่านั้น คงจะเสียสละเงินเพื่อประโยชน์แผ่นดินมากกว่าเงินที่เสียภาษีก็ได้

แนะพูดจาสร้างสรรค์อย่าท้าทาย

พล.อ.ชวลิตยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มสนับสนุนและกลุ่มคัดค้าน พ.ต.ท.ทักษิณว่า ความขัดแย้งทางความคิดเป็นเรื่องธรรมดาในการพัฒนาการเมือง ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงรอยต่อสำคัญมุ่งไปสู่การปกครองที่เป็นธรรมมากขึ้น ต้องแก้ไขเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน อย่าให้มีการล้ำเส้น ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของผู้นำประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมาคำพูดของผู้นำเป็นการเติมเชื้อไฟความขัดแย้งหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า ต้องให้ไปอ่านวิธีเข้าสู่นิพพานที่ต้องมีความอดทน ทั้งนี้ ผู้นำสามารถพูดได้ แต่ต้องพูดอย่างสร้างสรรค์ อย่าพูดในลักษณะท้าทาย เพราะพูดแล้วจะยิ่งทำให้ตีกันหนัก เมื่อถามอีกว่า ต้นเหตุของปัญหาอยู่ที่ตัวบุคคลใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ก็มีส่วนมากเหมือนกัน แต่ต้องดูที่ระบบด้วย เพราะคนเคลื่อนไหวไปตามระบบ ตอนนี้เรื่องสำคัญคือการเมืองการปกครองที่ไม่เป็นธรรม

'ป๋าเปรม' บรรยายเรื่องทหารอาชีพ [29 ส.ค. 49 - 03:37]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 31 ส.ค. นี้ กองทัพอากาศ ได้เชิญ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มาบรรยายพิเศษเรื่อง “ตามรอยพระยุคลบาทกับ การมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศของทหารอาชีพ” เพื่อ เป็นความรู้ให้แก่เหล่าบรรดานักเรียนนายเรืออากาศ นายทหารนักเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ และนักศึกษา วิทยาลัยการทัพอากาศ จำนวน 500 คน ที่โรงเรียนนายเรือ อากาศ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรมเดินทางไปบรรยายพิเศษให้แก่นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ นักเรียนนายเรือ เกี่ยวกับความเป็นทหารอาชีพ เพื่อให้ทหารรุ่นใหม่ได้มีจิตวิญญาณของความเป็นทหาร



นักวิชาการเข้าพบประธานองคมนตรี [14 ก.ย. 49 - 04:32]

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (13 ก.ย.) ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ นายอนันต์ เหล่าเลิศวรกุล อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะเลขาธิการเครือข่ายจุฬาเชิดชูคุณธรรมนำประชาธิปไตย (จคป.) พร้อมตัวแทนเครือข่ายวิชาการเพื่อประชาธิปไตย (ควป.) เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพนักวิชาการ และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยทั้งของรัฐและเอกชน ประมาณ 20 คน เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อเยี่ยมคารวะและให้กำลังใจ โดยใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นนายอนันต์ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าพบครั้งนี้ไม่ได้เสนออะไรเป็นพิเศษ แต่มาคารวะและขอโอวาทจาก พล.อ.เปรม เพราะบ้านเมืองกำลังอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง


รับโอวาท-ทำดีตอบแทนแผ่นดิน

นายอนันต์กล่าวว่า พล.อ.เปรมไม่ได้เสนอแนะ อะไร เพียงแต่อัญเชิญพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ว่า ความดีรักษาทุกสิ่งทุกอย่าง รักษาคนดี ดังนั้นขอให้ศรัทธาความดี และทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ ปราศจากอคติและความเกลียดชัง รักษาความดี ตอบแทนคุณแผ่นดิน พล.อ.เปรมย้ำถึง 4 ครั้งว่าไม่ได้เกลียดชัง ใครทั้งสิ้น เพราะความเกลียดชังทำให้จิตเศร้าหมอง

ผู้สื่อข่าวถามถึงแนวทางที่กลุ่มจะดำเนินการต่อไป นายอนันต์ตอบว่า จะเดินหน้าช่วยแก้วิกฤติ โดยในวันที่ 14 ก.ย.นี้ จะมีกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยร่วมกันทำ มีจุดยืนคำนึงถึงสถานภาพของ พล.อ.เปรม เพราะ พล.อ. เปรมย้ำว่าเป็นประธานองคมนตรีจะต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง เมื่อถามว่าการเข้าพบวันนี้อาจถูกมองว่าดึง พล.อ.เปรมเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมือง นายอนันต์ ตอบว่า เป็นการขอโอวาทตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ


ปัดข้อหาดึง “ป๋าเปรม” ยุ่งการเมือง

นายบุญเรือง มานะสุรกานต์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า เป็นการเข้าพบเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั่วไปที่พวกเราทุกคนห่วงใย ไม่เกี่ยวกับว่าจะดึง พล.อ.เปรมลงมาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม เรามาเพราะห่วงใยสถานการณ์บ้านเมือง โดย พล.อ.เปรมให้ข้อคิดว่าให้ช่วยทำความดี และความดีนั้นจะกลับมาสู่ประเทศชาติเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่กลุ่มคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่างๆเข้าพบ พล.อ.เปรมนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่จาก สน.สามเสน ตำรวจสันติบาลและหน่วยข่าวกรอง คอยเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคณาจารย์และการทำข่าวของสื่อมวลชน โดยมีการบันทึกด้วยกล้องถ่ายภาพนิ่งและกล้องวีดิโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เปิดประตูให้บรรดานักวิชาการเข้าพบ พล.อ.เปรมถึงภายในบ้าน แตกต่างจากกลุ่มเครือข่ายอื่นที่ทำได้เพียงยื่นหนังสือกับตัวแทนบริเวณหน้าบ้านเท่านั้น


กดดันแกรมมี่เลิกหนุน “ทักษิณ”

วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายประชาสังคมหยุดระบอบทักษิณ จำนวนกว่า 20 คน นำโดยนายนุภาพ สวันตรัจ ประธานเครือข่ายศิลปินเพื่อชีวิต เดินทางไปชุมนุมที่หน้าตึกจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ เพื่อเรียกร้องให้นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริหารบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หยุดให้การสนับสนุน พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายนุภาพกล่าวว่า เคยมายื่นจดหมายถึงนายไพบูลย์ครั้งหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จึงมาชุมนุมอีกครั้ง หากนายไพบูลย์ ยังเพิกเฉย ทางเครือข่ายฯจะรณรงค์ให้งดเว้นการบริโภคสินค้าในเครือแกรมมี่ จนกว่าบ้านเมืองจะพ้นวิกฤติ ขณะที่ น.ส.ประภาวดี ธานีรนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายคอร์ปอเรท พีอาร์และกิจกรรมบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ กล่าวว่า บริษัทยืนยันว่าได้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองมาโดยตลอด เพราะเป็นนโยบายที่ชัดเจนว่าจะไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องการเมืองใดๆทั้งสิ้น


พันธมิตรฯตามบี้ยึดทรัพย์

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า กรณีปัญหากลุ่มกุหลาบแก้ว สะท้อนให้เห็นความสลับซับซ้อนของปัญหาที่ต้องอาศัยเวลาและผู้เชี่ยวชาญที่จะทำให้เกิดความกระจ่าง ปัญหาเหล่านี้จะเอาการเลือกตั้งมาตัดสินถูกผิดไม่ได้ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ยอมประกาศเว้นวรรค เพราะเกรงว่าถ้าลงจากอำนาจทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ที่ได้มาจะถูกสังคมทวงคืน ทำให้พรรคไทยรักไทยพยายามบิดเบือนให้สังคมยอมรับผลการเลือกตั้ง เพื่อพาหัวหน้าพรรคหนีพ้นการตรวจสอบ แต่การเลือกตั้งไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งทางสังคมลดลง หาก พ.ต.ท.ทักษิณยังนั่งทับอำนาจการตรวจสอบอยู่ ขบวนการต่อต้านก็ยังจำเป็นต้องตรวจสอบและต่อต้านต่อไป แม้จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ตาม


ชำแหละนโยบายพรรคการเมือง

ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันเดียวกัน สมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดเสวนาเรื่อง “กระบวนทัศน์ใหม่ในการปฏิรูปการเมือง การกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบัน” โดยนายวิทยากร เชียงกูร คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า นโยบายพรรคการเมืองที่ผ่านมายังหลงทางและหลอกประชาชน ยึดตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง แนวทางแก้ไขพรรคการเมืองต้องเน้นนโยบายใหม่ ที่เป็นนโยบายในเชิงสังคมนิยมแบบเป็นกลางหรือแบบสหกรณ์ เช่นเดียวกับประเทศในแถบละตินอเมริกา ที่หันมายึดนโยบายชาตินิยม เอาประโยชน์ ของชาติเป็นหลัก






นายสมบัติ ธำรงธัญญวงศ์ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า นโยบายของพรรคการเมืองยังไม่ใช่นโยบายสาธารณะ จนกว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาแล้วทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ พรรคการเมืองจึงจำเป็นต้องสู้เพื่อให้ชนะเลือกตั้ง แต่ที่ผ่านมาพรรคการเมืองไม่เคยศึกษาถึงปัญหาสาธารณะในเชิงลึกอย่างแท้จริง จึงแก้ไขปัญหาพื้นฐานส่วนใหญ่ของคนในสังคมไม่ได้ แต่รัฐบาลกลับใช้เงินจำนวนมากผ่านโครงการประชานิยม สร้างภาพให้ หวือหวาแทนการแก้ไขปัญหาจริง เป็นการสร้างสีสันที่ฉาบฉวย ทำให้คนจนเสพติดนโยบายจนเลิกยาก คราวนี้แทนที่พรรคการเมืองจะเสนอนโยบายหลักในการแก้ไขปัญหา กลับมาช่วงชิงกันสร้างนโยบายช่วงเลือกตั้งให้หวือหวา จนในที่สุดนโยบายเหล่านี้ก็จะครอบงำนโยบายอื่นหมด


ทรท.อัดดึง “ป๋าเปรม” คลุกการเมือง

ด้าน พล.ร.ท.โรช วิภัติภูมิประเทศ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่กลุ่มต่างๆเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ พล.อ.เปรม อาจทำให้ พล.อ.เปรมทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 14 ที่ระบุว่า องคมนตรีต้องไม่แสดงความฝักใฝ่พรรคการเมืองใด ดังนั้น ขอร้องว่าอย่าไปทำให้ พล.อ.เปรมต้องเดือดร้อนออกมาพูดเรื่องการเมืองจนมีมลทินเลย ขอให้ไปดำเนินการแนวทางอื่นดีกว่า

นายสุนัย จุลพงศธร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายและการเมือง พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในฐานะศิษย์เก่าจุฬาฯรู้สึกเป็นห่วงความเคลื่อนไหวของคณาจารย์กลุ่มนี้ เพราะทราบว่าอาจารย์บางคนทำงานการเมืองรับใช้ ใกล้ชิดกลุ่มพันธมิตรฯมาตั้งแต่ต้น วันนี้มีความพยายามที่จะดึงสถาบันมาแปดเปื้อนกับการเมือง ถ้าเป็นการเคลื่อนไหวส่วนตัวคงไม่มีใครว่า แต่จุฬาฯมีสถานภาพทางสังคมที่แตกต่างจากกลุ่มม็อบพันธมิตรฯ การเอาชื่อมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทยไปแปดเปื้อนกับกลุ่มพันธมิตรฯ ถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง อยากให้ชาวจุฬาฯตรวจสอบการกระทำของอาจารย์เหล่านี้ด้วย

'สิริชัย' พบ 'ป๋า' เรื่อง 4 นายพล [6 ก.ย. 49 - 04:39]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ (5 ก.ย.) ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ เพื่อรายงานกรณีที่ 4 นายพลทำหนังสือร้องเรียนเรื่องความไม่เป็นธรรม ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น พล.อ.สิริชัยให้สัมภาษณ์ว่า ได้เรียนให้ พล.อ.เปรมทราบว่าได้ให้นายพลทั้ง 4 เขียนรายงาน และตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ก.ย. พล.อ.เปรม รับทราบโดยไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ และไม่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร เพราะ พล.อ.เปรมพ้นจากกองทัพแล้ว ทั้งนี้ ในร่างคำสั่ง ได้มอบอำนาจหน้าที่ให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้เสร็จโดยเร็ว เมื่อถามว่าจะมีการสอบวินัยหรือไม่ พล.อ.สิริชัยตอบว่า ต้องสอบถามทุกเรื่อง เพราะนายทหารทั้ง 4 อ้างว่าเขียนในฐานะส่วนตัว ต้องดูว่าที่ว่าส่วนตัวนั้นประเด็นใด และขัดกับระเบียบข้อไหน เมื่อถามว่าหากมีนายทหารคนอื่นทำหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.เปรมจะทำอย่างไร พล.อ.สิริชัยตอบว่า ผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาในลักษณะเดียวกับตน ว่าสิ่งที่ทำขัดกับข้อกฎหมาย ระเบียบวินัย ข้ามขั้นตอนการร้องทุกข์ ร้องเรียนหรือไม่อย่างไร


ยันไม่มีผลพิจารณาปรับย้าย

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ 4 นายพลยื่นหนังสือต่อว่าผู้บังคับบัญชาเหมาะสมหรือไม่ พล.อ.สิริชัยตอบว่า ไม่ค่อยดีนัก ถึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง จะไปสรุปลงทัณฑ์เลยคงไม่ได้ ซึ่งการลงทัณฑ์ขึ้นอยู่กับผู้รับทัณฑ์ด้วย เช่นผู้รับทัณฑ์ยศไหน จะมีเกณฑ์ การลงทัณฑ์ไว้ว่าจะลงอะไรได้บ้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับเนื้อหาและความหนักเบาของโทษด้วย เมื่อถามว่า รมว.กลาโหม หงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นกับกองทัพ พล.อ.สิริชัยตอบว่า ท่านก็หงุดหงิด เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน รองปลัดกระทรวงกลาโหมหรือไม่ เพราะทั้ง 4 คนอยู่หน้าห้องพล.ร.อ.บรรณวิทย์ พล.อ.สิริชัยตอบว่า ไม่ได้พูดคุย ไม่ได้เอาเรื่องไปโยงกับใครเลย เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะมีผลต่อการพิจารณาต่อการปรับย้ายหรือไม่ ปลัดกระทรวงกลาโหมตอบว่า คงไม่มี เพราะผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามลำดับชั้น ผบ.เหล่าทัพก็ช่วยกันพิจารณา จนมาถึง ผบ.ทหารสูงสุด ปลัดกระทรวงกลาโหม รวมถึง รมว.กลาโหม เมื่อถามว่า รมว.กลาโหมระบุว่า ทั้ง 4 คนเป็นหน้าห้องของรองปลัดกระทรวงกลาโหม อาจส่งผลกระทบต่อ พล.ร.อ.บรรณวิทย์หรือไม่ พล.อ.สิริชัยตอบว่า คงยังไม่โยงไปถึงอย่างนั้น เพราะอยู่ที่กรรมการจะพิจารณา

คาดโผย้ายทหารเสร็จสัปดาห์นี้


เมื่อถามความคืบหน้าในการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 พล.อ.สิริชัยตอบว่า สัปดาห์นี้คงจะเสร็จเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้ได้พิจารณากับ รมว.กลาโหมเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอรายละเอียดบางส่วน โดย รมว. กลาโหมน่าจะนำเรียนนายกรัฐมนตรีได้ เพราะได้มีการหารือร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพมาโดยตลอด แต่ขั้นสุดท้ายจะเชิญมาคุยอีกครั้งภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้ บัญชีรายชื่อทุกตำแหน่งลงตัวหมดแล้วไม่มีปัญหา เหลือเพียงเก็บรายละเอียดเล็กน้อย แม้แต่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ก็เว้นไม่ได้ เพราะถือเป็นตำแหน่งสำคัญ


“บิ๊กแอ๊ด” เรียก ผบ.เหล่าทัพถกโผ

พล.ท.จักรกฤษณ์ อินทรทัต โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ (6 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการปรับย้ายข้าราชการของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม ร่วมกับ พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. พล.ร.อ. สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และ พล.อ.อภิชัย ไวรักษ์สัตว์ เจ้ากรมเสมียนตราเป็นเลขานุการ ทั้งนี้จะเป็นการพิจารณากลั่นกรองการปรับย้ายนายทหารประจำปีให้เป็นไปตามความชอบธรรมหลักการบริหารราชการ โดยยึดถือความสามารถ ความอาวุโส และความเหมาะสมของนายทหารแต่ละคนเป็นหลัก และต้องมีขั้นตอนการพิจารณาให้เกิดความเป็นธรรม และให้เป็นไปตามผู้บังคับบัญชา ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะได้ข้อสรุปเพื่อนำเรียน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯทรงลง พระปรมาภิไธยในโอกาสต่อไป



แนะ กกต.ตีกรอบห้ามย้าย ขรก.

ด้านนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภาได้ตอบคำถามผ่านทางเว็บไซต์มีชัยไทยแลนด์ดอทคอมถึงกรณีที่รัฐธรรมนูญกำหนดห้าม ครม.รักษาการ โยกย้าย ข้าราชการในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เว้นแต่ กกต. จะเห็นชอบ แต่ขณะนี้ยังไม่มี กกต. ครม.หรือนายกฯ สามารถโยกย้ายทหาร ตำรวจระดับสูงและนำขึ้นทูลเกล้าฯโดยไม่ต้องรอผ่านความเห็นชอบจาก กกต.ได้ หรือไม่ว่า ถ้าตีความตามตัวอักษร ใช้คำว่าคณะรัฐมนตรี ทำให้แปลไปว่า การแต่งตั้งที่จะต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.นั้น จะต้องเป็นการแต่งตั้งที่ ครม.เป็นผู้แต่งตั้งหรือโยกย้าย หรือหมายถึงเรื่องเฉพาะที่ต้องเสนอ ครม. แต่ถ้าพิจารณาถึงเจตนารมณ์ในเรื่องนี้ ที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายการเมืองแต่งตั้งโยกย้ายระหว่างการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เอาเปรียบทางการเมือง หรือบีบบังคับข้าราชการให้สนับสนุนพรรค การเมือง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งโดย ครม.ทั้งคณะ หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง ก็น่าจะอยู่ในความหมายของมาตรา 215 แต่ดูเหมือนว่าทางราชการในปัจจุบันจะถือเอาเรื่องที่ต้องเข้า ครม.เป็นสำคัญที่จะต้องนำไปขอความเห็นชอบจาก กกต. โดย กกต.ชุดเดิมก็คล้อยตาม แต่ต่อไปถ้ามี กกต.ชุดใหม่แล้วและเอาจริงเอาจัง เป็นอิสระจากฝ่ายบริหารอย่างแท้จริง ก็อาจคิดอีกอย่างหนึ่งโดยไม่คล้อยตามก็ได้


แฉขบวนการใส่ร้าย 'ป๋าเปรม-บิ๊กจิ๋ว' [5 ก.ย. 49 - 05:12]

ที่ร้านอาหารรถเสบียง นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานกลุ่มอีสานกู้ชาติ แถลงวานนี้ (4 ก.ย.) ว่า ได้รับรายงานว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติในพื้นที่ภาคอีสาน โดยทีมงานอีสานกู้ชาติได้ลงสำรวจพื้นที่พบว่าขณะนี้มีขบวนการของพรรคการเมืองบางพรรคพูดให้ร้ายและโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรีว่าจ้องล้มรัฐบาลและเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขบวนการนี้เริ่มดำเนินการหลายจังหวัด เช่น ร้อยเอ็ด อุดรธานี นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ และยโสธร มีอดีตผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนั้นๆเป็นผู้ดำเนินการ โดยเรียกชาวบ้าน แกนนำคนสำคัญในพื้นที่ รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาพูดคุยเพื่อให้ขยายเรื่องนี้ไปยังชาวบ้านในลักษณะปากต่อปาก ถือเป็นการยุยงให้คนในชาติแตกสามัคคี ดังนั้น ขอเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวทันที

พันธมิตรฯลั่นปราศรัยใหญ่ 3 จังหวัด

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า หลังจากมีการประชุม 5 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีความเห็นร่วมกัน 4 แนวทาง คือ 1. ตำรวจมีเจตนาเตะถ่วงไม่ดำเนินคดีกับตำรวจและชายฉกรรจ์ 2 คน ที่ร่วมทำร้ายกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน และเซ็นทรัล เวิลด์ ดังนั้น กลุ่มพันธมิตรฯจะประสานงานกับผู้เสียหายทั้ง 5 คน และสภาทนายความ เพื่อยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผบ.ตร. นายตำรวจที่เกี่ยวข้องและชายฉกรรจ์ 2 คน ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา ภายในสัปดาห์นี้ 2. ภายในเดือน ก.ย.นี้ จะเปิดปราศรัยใหญ่ 3 จุด คือที่ท้องสนามหลวง จ.เชียงใหม่ และ จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลของระบอบทักษิณ ส่วนจะเปิดปราศรัยวันไหนนั้น จะประกาศอย่างเป็นทางการในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ วันที่ 15 ก.ย. ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3. จะยื่นเรื่องให้ กกต.ชุดใหม่ พิจารณาวินิจฉัยตัดสิทธิเลือกตั้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีใช้อำนาจเอื้อประโยชน์แก่ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคไทยรักไทย 4. กลุ่มพันธมิตรฯยังยืนหยัดในจุดยืนหยุดระบอบทักษิณก่อน ค่อยปฏิรูปการเมืองรอบ 2

“คงศักดิ์” ขู่จับกลุ่มพันธมิตรฯ

พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยกขบวนไปชุมนุมที่พื้นที่ จ.เชียงใหม่ อาจจะทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรี ว่า ยอมรับว่าเป็นห่วง ไม่ทราบว่านายสนธิมีจุดประสงค์อะไร ทุกคนต้องช่วยกันให้เกิดความสงบเรียบร้อย มีความสมานฉันท์สามัคคีถ้ารักประเทศ อยู่ในกรอบกฎหมาย เหตุการณ์รุนแรงจะไม่เกิด ทั้งนี้ได้แจ้งไปยัง ผวจ.เชียงใหม่และผู้เกี่ยวข้องว่า หากมีการชุมนุมจะต้องคอยดูแลไม่ให้เหตุการณ์ บานปลาย พร้อมหาทางระงับเหตุ เมื่อถามว่า จะมีการสกัดกั้นไม่ให้มีการชุมนุมหรือไม่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ตอบว่า การชุมนุมเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ในขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่ถ้ามีการกระทำเกินไป มีการ ยั่วยุ จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อไม่ให้ เกิดการปะทะ

องค์กรสื่อผนึกกำลังต้านอำนาจเถื่อน

วันเดียวกัน สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย พร้อมด้วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ วิทยุและโทรทัศน์ ได้ออกแถลงการณ์บทบาทของสื่อมวลชน ในสถานการณ์ปัจจุบัน มีใจความว่า 1. องค์กรวิชาชีพสื่อห่วงใยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งและการเผชิญหน้าท้าทายของฝ่ายต่างๆ จะนำไปสู่ความรุนแรง และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม 2. องค์กรวิชาชีพสื่อตระหนักถึงภาระหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลและนำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เพื่อนำเสนอความเป็นจริงของปัญหามาเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ให้มากที่สุด 3. องค์กรวิชาชีพสื่อตระหนักดีว่า สื่อมวลชนที่ยึดมั่นในจริยธรรมแห่งวิชาชีพได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่ผลของการทำหน้าที่ดังกล่าว ทำให้สื่อมวลชนตกเป็นเป้าของการข่มขู่คุกคาม การกล่าวร้าย ทำลายความน่าเชื่อถือของสื่อมวลชน โดยนักการเมืองและข้าราชการประจำที่ตกอยู่ใต้อำนาจของนักการเมืองตลอดมา 4. องค์กรวิชาชีพสื่อต้องผนึกกำลังกันปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานของจริยธรรมแห่งวิชาชีพ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาการเมืองโดยสันติวิธี

”สิริชัย” ตั้งกรรมการสอบ 4 นายพล

ด้าน พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสอบสวน 4 นายพลที่ยื่นหนังสือถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ร้องเรียนความไม่เป็นธรรมในการจัดทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2549 ว่า ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว มีรองปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ส่วนกรรมการประกอบด้วยนายทหารจากกรมเสมียนตรา กรมพระธรรมนูญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประมาณ 4-5 คน ผู้สื่อข่าวถามว่า พฤติกรรมของ 4 นายพลเข้าข่ายความผิดทางวินัยหรือมีความผิดอย่างอื่นหรือไม่ พล.อ.สิริชัยตอบว่า ยังไม่อยากฟันธงว่ามีความผิดในชั้นใด ลักษณะใด ต้องปล่อยให้คณะกรรมการมีอิสระในการพิจารณา


เปิดใจสนธิยกเก้าอี้ให้ 'สุรยุทธ์' เพราะเป็นคนดีที่หาได้ยาก [1 ต.ค. 49 - 13:22]

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (1 ต.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ได้ประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง โดย พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการคณะปฏิรูปฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมให้รับทราบถึงการถอนตัวออกจากคณะทำงานด้านกฎหมายของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ พร้อมคณะทำงานที่ได้เข้ามาร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราวให้กับคณะปฏิรูปฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ พล.อ.สนธิ ได้ทำหนังสือขอบคุณคณะทำงานด้านกฎหมายทุกคน ซึ่งภายหลังจากนายมีชัย ถอนตัวออกจากคณะทำงานฯ ได้เดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบถึงการพิจารณาแต่งตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากประกาศธรรมนูญชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว

พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตนได้เข้าหารือกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อขอความคิดเห็นในการสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมาเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นตนได้จึงได้โทรศัพท์ติดต่อทาบทาม พล.อ.สุรยุทธ์ ถึง 2 ครั้งเพื่อขอร้องให้เข้ามาช่วยเหลือประเทศชาติยามวิกฤติ จากนั้นวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงได้เดินทางไปพบ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่บ้านพัก โดยใช้เวลาหารือถึงปัญหาต่างๆ และเหตุผลถึงความจำเป็นที่ต้องทาบทามเข้ามารับตำแหน่งเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จะตัดสินใจรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และในวันนี้เวลา 16.00 น. ตนจะนำชื่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี

"คนที่อยากเป็นนายกฯ ในประเทศมีมาก มีทั้งเสนอตัวเข้ามาหลายคน ซึ่งผมพิจารณาดูแล้วก็มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ดังนั้น จึงตัดสินใจเพียงไม่กี่วัน เพราะคนดีๆ อย่าง พล.อ.สุรยุทธ์ หาได้ยาก" หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ กล่าว

พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยว่า ผู้ที่เข้ามารับตำแหน่งนายกฯ ต้องเสียสละอย่างแท้จริง เพราะปัญหาหลังจากนี้ต่อไปต้องมีมากแน่นอน ดังนั้น นายกฯ ต้องเป็นบุคคลที่มีความสามารถ ประเทศชาติจะต้องเดินหน้าไปด้วยความมั่นคงอย่างแท้จริง


รับหารือป๋าก่อนทาบนายกฯ 'สนธิ' ย้ำไม่ล้วงลูก รบ.ใหม่ [1 ต.ค. 49 - 15:21]

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสายทหารวันนี้ (1 ต.ค.) ถึงการทำงานของคณะปฏิรูปฯ ว่า ขณะนี้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ถือเป็นภารกิจหนึ่งของคณะปฏิรูปฯ ต้องดำเนินการและตอนนี้เสร็จสิ้นไปแล้ว แต่ยังมีภาระอีกหลายเรื่องที่คณะปฏิรูปฯ ต้องดำเนินการ อาทิ ทำอย่างไรที่จะให้คนไทยมีความรัก ความสามัคคีกัน ซึ่งดูแล้วอาจจะเป็นนามธรรมเสียมาก แต่เรากำลังทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นรูปธรรม ทำให้คนทั้งชาติรู้สึกว่ามีความหวงแหนต่อชาติ ต่อแผ่นดิน ซึ่งกรรมวิธีตรงนี้เรากำลังเริ่มดำเนินการกันอยู่ โดยเฉพาะในส่วนของกองทัพก็กำลังทำเช่นเดียวกัน และคณะกรรมการที่เกี่ยวกับความสมานฉันท์ตอนนี้กำลังหาข้อมูลแนวทางในการปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่ออกมาถือว่าดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คำว่า ชั่วคราว คือร่างขึ้นมาเพื่อเป็นกรอบให้รัฐธรรมนูญถาวรเดินไปได้ ในกรอบรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะมุ่งเน้นไปสู่ตามวัตถุประสงค์ที่เราได้ให้ไว้ เช่น เรื่องปราบปรามการโกงกิน คอรัปชัน หรือความประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ต่างๆ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่เรากำลังดำเนินการอยู่ จะเห็นว่าเป็นงานที่ยากที่สุดในวัตถุประสงค์ของคณะปฏิรูปฯ ที่ผ่านมา

ต่อข้อถามว่า เวลานี้มีหลายคนเฝ้าจับตามองคนที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวเสร็จเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการอย่างไร หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ กล่าวว่า หลังจากประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ทางคณะปฏิรูปฯ จะเปลี่ยนไปเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ส่วนการประกาศรายชื่อนายกรัฐมนตรีจะประกาศคืนนี้ และพรุ่งนี้มีการรับสนองพระบรมราชโองการ ทั้งนี้ คณะปฏิรูปฯ ต้องไปปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจะเปลี่ยนถ่ายภาระหน้าที่ แต่ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ยังไม่สามารถเลือกคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศได้ ทางคณะมนตรีความมั่นคงฯ จะเข้ามาช่วยดูแลช่วงระยะเวลาหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า คณะมนตรีความมั่นคงฯ จะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จะเรียกว่าเป็นพี่เลี้ยงหรืออะไรก็แล้วแต่ เราต้องปรึกษาหารือกัน

"นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นใครนั้น ขอให้สื่ออดใจรอ ถ้าบอกไปก่อนจะจืด ขอให้รอสักนิด สำหรับสเปกนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น ผมบอกไปบ้างแล้ว แต่มีข้อหนึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกก็คือเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ผมเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เข้ามาจะสามารถควบคุมได้ในวัตถุประสงค์ของคณะปฏิรูปฯ แล้วจะต้องนำพาประเทศไปไม่ว่าเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องต่างประเทศ หรือเรื่องอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ จะต้องสามารถเดินไปได้" หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะปฏิรูปฯ มีความเป็นห่วงเรื่องของการเลือกคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นี้หรือไม่ เนื่องจากอาจจะมีเด็กฝากเข้ามา และจุดนี้จะมีวิธีการดูแลอย่างไร เพื่อให้เกิดความโปร่งใส พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนคงไปแทรกไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องคิดเอง ทั้งหมดถึงจะทำให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานไปได้อย่างสมบูรณ์ ตนคงไม่เข้าไปยุ่ง

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าจะให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เลือกคณะรัฐมนตรีเองใช่หรือไม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้บอกว่าเป็น พล.อ.สุรยุทธ์ เลย ใครเป็นนายกรัฐมนตรี คนนั้นก็ต้องแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเอง เมื่อถามว่า หลังมีคณะรัฐมนตรีแล้ว คณะปฏิรูปฯ จะให้คำแนะนำอย่างไรบ้าง พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คงไม่เข้าไปแนะนำอะไร แต่เมื่อตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ที่ปรึกษาคณะปฏิรูปฯ เดิมจะนำข้อมูลเรื่องเศรษฐกิจ ต่างประเทศ สังคม ไปเสนอว่าควรจะดำเนินการอย่างไร แต่ไม่มีการแนะนำตัวบุคคล

เมื่อถามถึงบทบาทของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ภายหลังการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว เรามีหน้าที่พยายามทำให้รัฐบาลชุดใหม่เดินตามแนวทางที่เราได้เสนอแนะและประกาศให้ประชาชนรับทราบ เพราะฉะนั้น คณะรัฐบาลคงต้องมุ่งเน้นไปสู่สิ่งที่เราได้กำหนดไว้ ซึ่งปัญหาอื่น ๆ อีกหลายประเด็นที่นอกเหนือจากที่คณะปฏิรูปฯ คงต้องไปพิจารณาเอง ตนคิดว่าความรู้ความสามารถของท่านเหนือกว่าคณะปฏิรูปฯ อยู่แล้ว ส่วนที่หลายคนเป็นห่วงว่าคณะมนตรีความมั่นคงฯ จะแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่ ถ้าทำเช่นนั้น คณะรัฐมนตรีคงจะดุตนกลับมา เพราะฉะนั้น ไม่ต้องถามเรื่องนี้ ขอให้หยุดได้เลย ตนไม่มีทางแทรกแซง

ส่วนกำลังทหารที่ประจำการตามสถานที่ต่างๆ นั้น พล.อ.สนธิ กล่าวว่า กำลังทยอยถอนกำลังออกมา เมื่อถามว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ หลังจากที่มีการถ่ายโอนอำนาจ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า เรากำลังศึกษาอยู่ เราจะเฝ้าระวังตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ไม่ต้องห่วงว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ติดต่อเข้ามาหรือไม่ หลังจากที่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ช่วงเดินกลับไปยังห้องทำงาน ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงการทาบทาม พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.สนธิ กล่าวยอมรับว่า ได้ขอความเห็นจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก่อนทาบทาม พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


ป๋าเปรม เลี้ยงอาหารแสดงความยินดีกับนายกฯ คนใหม่ [3 ต.ค. 49 - 14:57]

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลพร้อมด้วย พ.อ.หญิง คุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภรรยา เดินทางมายังทำเนียบองคมนตรี เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมทั้งคณะองคมนตรี โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ

พล.อ.เปรม กล่าวภายหลังการร่วมรับประทานอาหารว่า ไม่ได้ฝากเรื่องใดเป็นพิเศษ พร้อมปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยขอให้สอบถามจากนายกรัฐมนตรีเอง

“ไม่ได้แนะนำการบริหารประเทศให้นายกฯ คนใหม่ มากินข้าวกันเฉย ๆ เป็นการแสดงความยินดี กินข้าว เท่านั้นจบ ในโอกาสที่ท่านเข้ามารับตำแหน่งนายกฯ” ประธานองคมนตรี กล่าว และเมื่อถามว่า แนะนำแนวทางในการสรรหาคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.เปรม กล่าวว่า "เดี๋ยวไปถามท่านสิ ผมไม่รู้เรื่องหรอก ผมไม่ได้เป็นคนหา"

ขอบคุณกำลังพลร่วมปฏิวัติ ปูนบำเหน็จถ้วนหน้า [7 ต.ค. 49 - 03:59]

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก ได้มีการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ครั้งที่ 10/549 (วาระพิเศษ) โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. เป็นประธานในการประชุม พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมว่า ในที่ประชุม พล.อ. สนธิได้กล่าวขอบคุณที่ทหารทุกคนได้ร่วมปฏิรูปการปกครองเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมแรงร่วมใจและเสียสละ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่นิ่มนวล เป็นที่น่าเชื่อถือและศรัทธาของประชาชน ทุกคนเหนื่อยกันมาก เพื่อความสุขของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ พล.อ. สนธิได้แสดงความยินดีกับผู้บังคับหน่วย ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่ละคนทำงานด้วยความวิริยะอุตสาหะและความตั้งใจ จนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บังคับบัญชา

เมื่อถามว่า ที่ประชุมในวันนี้ได้มีการกล่าวถึงเรื่องที่แกนนำของพรรคการเมืองจะนำ 14 ล้านเสียง ออกมาชุมนุมหากถูกยุบพรรคหรือไม่ พ.อ.อัครกล่าวว่าไม่ได้กล่าวถึง ตอนนี้ทีมงานโฆษก คปค.ก็เปลี่ยนสถานะแล้ว วันนี้มาพบกับสื่อมวลชนในฐานะโฆษกกองทัพบก ส่วนของ คมช.นั้นต้องชี้แจงในอีกสถานะหนึ่ง

ปูนบำเหน็จนายทหารที่มีผลงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมได้มีการแจกจ่ายสำเนาคำสั่งกองทัพบก ที่ 588/2549 เรื่องให้นายทหารรับราชการ ซึ่งเป็นการปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษหรือระดับรองผู้บัญชาการกองพล (รอง ผบ.พล.) รองผู้บัญชาการมณฑล (รอง ผบ.มทบ.) จำนวน 75 นาย โดยคำสั่งลง ณ วันที่ 4 ตุลาคม ลงชื่อ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับย้ายนายทหารระดับพันเอกพิเศษครั้งนี้ พล.อ.สนธิให้สิทธิ์ขาดกับแม่ทัพภาคต่างๆในการแต่งตั้งนายทหารที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมกับตำแหน่งนั้นๆ ลงไปในหน่วยที่ต้องการได้ ส่วนในรายของนายทหารที่มีคุณงามความดี และมีผลงานจากร่วมทำการปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. ที่มีความอาวุโสในการครองยศ จะได้รับการพิจารณาปรับตำแหน่งสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ บังคับการกรมที่นำกำลังออกมาปฏิบัติการตามแผนปฐพี 149 จะได้รับปูนบำเหน็จเป็นกรณีพิเศษ

ทหาร คปค.ได้เลื่อนขั้นกันถ้วนหน้า

สำหรับตำแหน่งผู้บังคับการกรมหลักที่นำกำลังเข้าร่วมปฏิวัติ และได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งขึ้นประกอบด้วย พ.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผบ.ร.1 รอ.(ตท.15) เป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. พ.อ.กัปนาท รุดดิษฐ์ ผบ.ร.31 รอ.(ตท.16) เป็นรอง ผบ.พล.1 รอ. พ.อ.วลิต โรจนภักดี ผบ.ร.12 รอ. (ตท.15) เป็นรอง ผบ.พล.ร.2 รอ. พ.อ.อุกฤษฎ์ ณรงค์วิทย์ รอง ผบ.พล.ร.9 (ตท.13) เป็นรอง ผบ.มทบ.11 พ.อ.ประสงค์ บุตรขวัญ ผบ.ร.29 (ตท.15) เป็นรอง ผบ.พล.ร.9 พ.อ.สถิตย์ แจ่มจำรัส ผบ.กรม สน.พล.ร.9 (ตท.14) เป็นรอง ผบ.จทบ.เพชรบุรี พ.อ.คนินทร วงศาโรจน์ ผบ.จทบ.กาญจนบุรี (ตท.14) เป็นรอง ผบ.จทบ.เพชรบุรี พ.อ.สมศักดิ์ นิลบรรเจิดกุล ผบ.ม.3 (ตท.16) เป็นรอง ผบ.พล.ม.1 พ.อ.คณิต แจ่มจันทรา ผู้บังคับการกรมทหารช่างที่ 11 (ตท.14) เป็นรองผู้บัญชาการกองพลทหารช่าง


Create Date : 02 เมษายน 2550
Last Update : 2 เมษายน 2550 17:36:01 น. 2 comments
Counter : 491 Pageviews.

 
ตัดมาได้ปะติดปะต่อ


โดย: กกห IP: 202.28.27.3 วันที่: 5 เมษายน 2550 เวลา:11:28:11 น.  

 
ไม่เห็นเหมือนที่ตั้งชื่อเรื่องไว้เลย มั่วมาก


โดย: ชื่อชอบ IP: 117.47.177.142 วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:35:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.