ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
เสียงจากออสเตรเลียตอนที่ ๑๒ อวสานคนชื่อเปรม

๕ เมษายน ๒๕๕๐

บทความทั้ง ๑๑ ตอนที่ผมนำเสนอไปแล้วเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงได้เห็นตัวตนของเปรมเป็นอย่างดีแล้วว่าธาตุแท้ความจริงของคนผู้นี้เป็นอย่างไร แต่ก็ยังมีใครบางคนกล่าวหาและโจมตีบทความที่ผมนำเสนอว่าเป็นเรื่องโคมลอยหรือรับอามิสสินจ้างจากกลุ่มอำนาจเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีความพยายามผูกโยงความบางตอนด้วยเจตนา เพื่อให้เข้าใจว่าบทความที่ผมนำเสนอเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงบ้าง หรือมีความแค้นส่วนตัวกับเปรมบ้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการประเทืองปัญญาสำหรับใครบางคนที่ผมได้กล่าวถึงข้างต้น จะได้หูตาสว่างบ้าง ผมจึงขอนำบทความของอาจารย์หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ลงตีพิมพ์ในคอลัมน์ ซอยสวนพลูหนังสือพิมพ์รายวัน สยามรัฐ ฉบับประจำวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๓๐ มาประกอบเป็นหลักฐานว่า พฤติกรรมของเปรมนั้นราชนิกูลผู้มีความจงรักภักดีอย่าง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ก็มีความสงสัยและได้ตั้งคำถามไว้เมื่อ ๒๐ ปีที่ผ่านมาแล้วดังต่อไปนี้





“เรื่องประชาธิปไตยแบบไทยๆ นี้ ผมได้ยินพูดกันมาช้านานแล้วคนโน้นพูดบ้างคนนี้พูดบ้าง ฟังดูก็เห็นตรงกันแต่ศัพท์ที่ใช้เรียก ส่วนวิธีการที่อ้างว่าเป็นวิธีการแบบไทยๆ นั้น ไม่เห็นตรงกันสักราย เมื่อต่างคนต่างคิดในเรื่องเดียวกันนี้ ต่างคนต่างก็มีวิธีการของตนแตกต่างกันไป บ้าบ้าง บอบ้าง บิ่นบ้าง หาอะไรเป็นแก่นสารและเอาเป็นที่ยุติไม่ได้ เมื่อ คุณเปรมตื่นเต้นในระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ อย่างนี้ ก็พอจะเข้าใจได้ว่า คุณเปรมเองก็ต้องการและมีวิธีการของระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของตนเอง”





หมายถึง การเป็นนายกฯโดยไม่ต้องสมัครผู้แทนฯให้เหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ใช่ไหม?





หมายถึงการที่เป็นนายกฯคนเดียวตลอดไปใช่ไหม?





หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมนั้นไม่ต้องรับผิดในสิ่งใดและต่อใครใช่ไหม?





หมายถึงนายกฯคนที่ชื่อเปรมจะต้องอยู่เหนือคำวิพากษ์วิจารณ์ ใครแตะต้องไม่ได้ ใช่ไหม?





หมายถึง ความเป็นนายกฯนั้นมีแต่เสวยสุข ไม่มีทุกข์กับใคร ใช่ไหม?





ได้อยู่บ้านหลวง ใช้น้ำหลวง ไฟหลวง ใช่ไหม?





จะไปไหนก็ใช้รถหลวง เรือหลวง หรือหลวงออกค่าโดยสารเครื่องบินให้ยกโขยงกันไปเที่ยวต่างประเทศได้ ใช่ไหม?





จะไปไหนก็มีคนมาเรียงรายคอยต้อนรับ บางแห่งถึงกับก้มลงกราบกับพื้นดิน ใช่ไหม?




“ความคิดเหล่านี้ก่อให้เกิดตัณหาอุปาทาน อันเป็นต้นเหตุของอกุศลมูล คือ โลภะ โทสะ โมหะ ทำให้เกิดความอยากเห็นความคิดของตนเป็นผลจริงจังขึ้นมา เพื่อทุกอย่างที่ตนปรารถนาจะให้เกิดขึ้นจะได้เกิดขึ้น”





จากอดีตที่ผ่านมาเปรมมีพฤติกรรมบิดเบือนกระแสพระราชดำรัสมาโดยตลอด (อ่านบทความตอนที่ ๖ “เปรมาธิปไตยลัทธิมอมเมาสังคม”) แม้ทุกวันนี้เปรมก็ไม่เคยคิดที่จะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง มิหนำซ้ำยังมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นชัดเจนว่าหนักข้อยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ กล้าถึงขนาดก้าวล่วงอำนาจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการสนับสนุนให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งๆที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้มีการเลือกตั้งเมื่อกลางเดือนตุลาคม ๒๕๔๙ ที่ผ่านมา พร้อมกับมีพระราชหัตถ์เลขา โดยมีนายอาสา สารสินเป็นผู้อันเชิญถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตรนายกรัฐมนตรีเพื่อให้กกต.ชุดเดิมทำหน้าที่ว่า “ให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม”





การที่เปรมนำคณะรัฐประหารเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลางดึกภายหลังการยึดอำนาจ ทั้งๆที่คณะแพทย์ที่ถวายการรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อรักษาพระอาการประชวร ได้ถวายคำแนะนำไม่ให้ทรงงานเป็นเวลาสามเดือน เปรมต้องมีมโนสำนึกว่าควรหรือไม่ที่จะเข้าเฝ้าในยามวิกาลเช่นนั้น นอกจากนี้แล้วเปรมต้องรู้ด้วยว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวเคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีพระราชทานว่า ทำให้พระองค์ทรงเดือดร้อน ไม่เป็นประชาธิปไตย มันมั่ว อันแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพระบรมมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยมีพระราชประสงค์ที่จะสนับสนุนให้มีการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย






ตำแหน่งประธานองคมนตรีอันเป็นตำแหน่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัยก็จริงอยู่ หากแต่ท่านผู้อ่านต้องเข้าใจด้วยว่าตลอดช่วงระยะเวลาอันยาวนานกว่าหกสิบปีที่พระองค์ทรงครองราชสมบัติ พระองค์ก็ทรงอยู่ในทศพิธราชธรรมที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ทรงมีพระกรุณาให้โอกาสกับกลุ่มบุคคลตลอดมาจนเป็นที่ซาบซึ้งอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเป็นที่รับรู้ของปวงชนชาวไทยทุกคน เปรมก็เป็นคนหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นองคมนตรีและรัฐบุรุษภายหลังจากถูกต่อต้านการเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นประธานองคมนตรีเมื่อเดือนกันยายน ๒๕๔๑ อันเป็นการพระราชทานโอกาสให้ได้สร้างคุณงามความดีบนตำแหน่งประธานองคมนตรี






เปรมเริ่มมีบทบาทในการเคลื่อนไหวและแทรกแซงทางการเมืองและด้านการทหารอย่างเปิดเผยในกรณีโยกพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กลับมาผงาดในส่วนหัวของกองทัพบกด้วยการขึ้นครองตำแหน่งผบ.ทบ.โดยผ่านไปทางนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอันเป็นร่างทรงของเปรมนั่นเอง ในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลนับได้ว่าเป็นช่วงที่บรรดาลูกๆของเปรมในทุกสาขาอาชีพต่างเติบโตกันอย่างถ้วนหน้าแม้แต่นายพลากร สุวรรณรัตน์ ซึ่งอยู่สายการปกครองสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือดร.เกษม วัฒนชัยซึ่งอยู่วงการศึกษา แต่ขอให้ได้ชื่อว่าลูกป๋า ต่างได้ดิบได้ดีกันทั่วหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายพลากรก้าวกระโดดแบบติดปีกบินกินตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย สุดท้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหาร ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)






๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งแร่และสิ่งผิดกฏหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งแก๊สระหว่างชายแดนไทยและมาเลเชีย ถ้าหากท่านผู้อ่านจำได้ในสมัยรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เคยประกาศว่าแหล่งแก๊สดังกล่าวมีปริมาณมหาศาลมากพอที่จะเป็นเชิงพาณิชย์ จากวันนั้นถึงวันนี้เรายังมีปัญหาที่ยังไม่สามารถวางท่อแก๊สได้ อันเนื่องจากการต่อต้านทุกรูปแบบ ในขณะที่ทางฝั่งมาเลย์เขาสูบเอาไปขายจนกลายเป็นประเทศเศรษฐีไปแล้ว นั่นเป็นเพราะนักการเมืองและข้าราชการเลวๆไปรับเงินจากเขาแล้วก็เอาเศษเงินส่วนหนึ่งไปจ้างคนพื้นที่ให้ทำการเคลื่อนไหวต่อต้าน





พูดถึง ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผมขออนุญาติเรียก ๕ จังหวัด) เพื่อให้เห็นเป็นภาพชัดเจน ผมสมควรกล่าวถึงกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๔๓ (พตท.๔๓) ที่ขึ้นต่อการบังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ ๔ เช่นเดียวกันกับศอ.บต. พูดถึงในส่วนของพลเรือน บทบาทสำคัญที่เป็นแรงขับเคลื่อนต้องยกให้กลุ่มนักการเมืองที่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ (เพราะเป็นพรรคที่มี ส.ส.ผูกขาดอยู่ในพื้นที่ภาคใต้) และดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น อันเนื่องจากผลประโยชน์มหาศาลนี่เองที่ทำให้มีการแก่งแย่งและช่วงชิงกันอย่างไม่มีกฏกติกา แต่ส่วนใหญ่ของชิ้นปลามันมักจะตกอยู่ในมือของนักการเมือง ทหารตำรวจทำได้ก็แค่เรียกค่าคุ้มครองสิ่งผิดกฏหมายและสถานบันเทิง จึงอย่าได้แปลกใจที่ทหารและตำรวจจะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่เป็นประจำ เสธ.ทหารตบหน้าผู้กองตำรวจเพื่อแย่งชิงพื้นที่หากินก็มีให้ได้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ





จวบจนกระทั่งเข้าสู่ยุคของพรรคไทยรักไทยเป็นรัฐบาล แล้วก็บังเอิญเป็นอย่างยิ่งที่ “คนดีไม่มีเสื่อม” อย่างร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์หรือฉายามือปราบสายเดี่ยวได้นั่งอยู่บนตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แล้วชูนโยบายจัดระเบียบสังคม และดูเหมือนจะเอาจริงกับสถานบันเทิงกับแหล่งอบายมุข ซึ่งภาคใต้ก็เป็นพื้นที่เป้าหมายอัน ดับต้นๆของนโยบายนี้ แล้ววิธีการทำงานของคุณปุระชัยก็มีรูปแบบที่แตกต่างไปจากผู้มีอำนาจคนอื่นๆคือ การสุ่มตรวจพื้นที่ในแต่ละครั้งจะเป็นไปอย่างเงียบๆไม่มีการบอกล่วงหน้าเพราะไม่นิยมให้มีการเกณฑ์ข้าราชการมาให้การต้อนรับ และต้องการที่จะเห็นสภาพความเป็นอยู่จริงที่ไม่มีการจัดฉาก ด้วยวิธีดังกล่าวทำให้คุณปุระชัยได้เห็นในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการ





สิ่งที่คุณปุระชัยเห็นย่อมต้องเป็นที่รับรู้ของพ.ต.ท.ทักษิณด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยจึงมีการเอาหน่วยข่าวแทรกลงไปในพื้นที่เพื่อขยายผล แล้วก็พบความจริงว่านอกจากขบวนการสารพัดส่วยและการเรียกค่าคุ้มครองแล้ว ยังมีขบวนการค้าอาวุธสงครามและมีการงาบงบราชการลับในส่วนของศอ.บต.เข้ากระเป๋าตัวเอง จวบกับหนูแดงหรือพล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ผบ.ตร.ในเวลานั้น ต้องการให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการดูแลด้านความสงบเรียบร้อย จึงได้มีการเสนอแนะให้คุณทักษิณลดความสำคัญของทหารด้วยการยืนยันว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายภาคใต้สูญพันธ์ไปหมดแล้ว ลำพังกำลังของตำรวจสามารถรับมือได้ในเขตพื้นที่





เมื่อเป็นเช่นนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชิณวัตรในฐานะนายกรัฐมนตรีจึงไม่รีรอที่จะมีคำสั่งยุบศูนย์อำนวยการบริหาร ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)และกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ ๔๓ (พตท. ๔๓) อันเป็นการทุบเข้ากล่องดวงใจของทั้งเปรมและพรรคประชาธิปัตย์ตลอดจนทหารโจร เปรมไม่อาจปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะทันทีที่ ศอ.บต.ถูกยุบ นายพลากร สุวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการศอ.บต. ก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นองคมนตรี ทั้งๆที่ยังมีอายุราชการอยู่อีกหลายปี เช่นเดียวกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็นองคมนตรีทันทีหลังเกษียณตลอดจน ดร.เกษม วัฒนชัย ในทันทีที่อำลาจากรัฐบาลทักษิณก็ได้รับการเสนอชื่อเป็นองคมนตรีเช่นกัน





ปัญหาชายแดนภาคใต้ผมเคยเสนอไปแล้วในบทความ ตอนที่ ๑ “แค้นของคนชื่อเปรม”ว่ามีจุดเริ่มต้นจากการเอาคืนเพื่อหวังดิสเครดิตรัฐบาลทักษิณ โดยมีพรรคการเมืองเก่าแก่ให้ความร่วมมืออย่างลับๆ ในที่นี้ผมจะไม่เขียนซ้ำ แต่จะชี้ให้เห็นว่าการโค่นล้มนายกฯทักษิณนั้นมีการวางแผนกันอย่างเป็นขบวนการมานานแล้วด้วยการส่งสัญญาณให้นายสนธิ ลิ้มทองกุลออกมาเปิดประเด็นโดยใช้เครือข่าย “แอ้มสนธิทีวี” (ASTV) และหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ แล้วนายพลากร สุวรรณรัตน์องคมนตรีก็ได้ทำหนังสือลาออกจากการเป็นนายกสมาคมศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในทันที ทั้งนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงในการถูกวิพากวิจารณ์ เพราะในเวลาต่อมาก็ปรากฏมีอาจารย์ผมยาวหรืออาจารย์ฉีกบัตรนาม ดร.ไชยยันต์ ชัยพร จากคณะรัฐศาสตร์ออกมาทำการเคลื่อนไหว ควบคู่ไปกับบรรดาคณาจารย์อีกจำนวนหนึ่งทั้งจุฬาและธรรมศาสตร์





การที่นายสนธิซึ่งสมัยหนึ่งเคยใกล้ชิดสนิทสนมกับพ.ต.ท.ทักษิณนำเอาข้อมูลดิบมาปรุงแต่งโจมตีย่อมต้องเป็นที่สนใจของผู้คนในตอนแรกเพราะเป็นเรื่องใหม่ แต่พอนานวันเข้ากระแสที่นิยมในตัวสนธิเริ่มลดน้อยถอยลง กับมีปรากฏการร่วมด้วยช่วยกัน อย่างเป็นขบวนการทั้งพรรคการเมือง นักวิชาการ และสื่อมวลชน ตลอดจนคนในกองทัพโดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารโจรอย่าง สพรั่ง กัลยาณมิตร ที่ปากก็พล่ามอยู่เสมอว่าเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่กลับลดตัวไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้นายสนธิจาบจ้วงล่วงเกินในกรณีเป็นสมาชิกพรรคจักรี โดยที่บรรดาผู้ที่จงรักภักดีทั้งหลายต่างไม่มีใครคิดที่จะปกป้องพระเกียรติยศ





ผมคงไม่ต้องลงในรายละเอียดเพราะเชื่อว่าท่านผู้อ่านที่มีใจเป็นกลางทุกท่านคงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นอย่างดีแล้ว แต่ในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงในสิ่งที่ยังไม่มีใครได้วิจารณ์และพูดถึงนั่นก็คือสถาบันตุลาการที่ทำหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งในที่นี้ผมขออนุญาติเรียกว่าสั้นๆว่าศาลเพื่อความเข้าใจง่ายขึ้น ในฐานะผมเป็นคนไทยคนหนึ่งผมย่อมต้องเข้าใจเป็นอย่างดีครับว่าศาลอันเป็นสถาบันสูงสุด ที่ต้องให้ความเชื่อถือและเคารพ เพราะทำหน้าที่ต่างพระเนตรพระกรรณ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หากแต่บุคลากรที่มาทำหน้าที่กระบวนการยุติธรรม ผมว่าถึงเวลาที่สมควรต้องได้รับการปฏิรูปและปรับปรุงครับ





ผมเชื่อเหลือเกินว่า คงไม่ใช่เพียงผมคนเดียวที่มีความสงสัยในกระบวนการยุติธรรมในบ้านเรา หากแต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความสงสัยดังเช่นเดียวกับผม ที่เชื่อว่ามีการเลือกปฏิบัติ และใช้อำนาจเกินขอบเขตแห่งความพอดี ในกรณีที่มีคำพิพากษาอดีตสามกกต.อันประกอบด้วย พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ นายปริญญา นาคฉัตรีย์ และนายวีรชัย แนวบุญเนียน เพราะทั้งสามท่านเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่มียศเป็นถึงพลตำรวจเอกท่านหนึ่ง ส่วนอีกสองท่านเคยดำรงตำแหน่งสูงถึงอธิบดีและโดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสามท่านก็มาทำหน้าที่โดยผ่านกระบวนการสรรหาตามระบอบประชาธิปไตย แต่ได้ถูกพิพากษาลงโทษสถานหนักด้วยการตัดสินให้จำคุก ๔ ปี โดยไม่รอการลงอาญา แถมไม่อนุญาติให้มีการประกัน และสิ่งที่ทำให้มีผู้คนสงสัยมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือภายหลังการตัดสินมีการสำทับจากศาลว่าห้ามวิจารณ์ หากมีผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษในข้อหาหมิ่นศาล และที่สำคัญดูเหมือนจะมีการต่อรองในเรื่องการขอประกันตัว โดยตั้งข้อแม้ว่าจะต้องให้ลาออกจากตำแหน่งกกต.มาเป็นเงื่อนไข





ผมเชื่อครับว่าการพิจารณาคดีความในทุกครั้งศาลจะถือเอาพยานและหลักฐานเป็นสำคัญในการพิพากษาตัดสินความผิดด้วยถือหลักว่า “ปล่อยคนร้ายให้ลอยนวลสิบคน ดีกว่าตัดสินเอาผิดกับคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว” แต่บนความเป็นจริงก็มีหลายคดีที่ผ่านมาเป็นปัญหาที่คาใจสังคมคนไทยอยู่แม้ทุกวันนี้ เช่นในคดีเชอร์รี่แอน แม้มีการรื้อฟื้นคดีและพิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหาที่ถูกตัดสินจองจำเมื่ออดีตสิบปีที่ผ่านมาเป็นแพะ แล้วได้รับการจ่ายเงินค่าชดเชยจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ก็ปรากฏว่ากว่าจะคืนความชอบธรรมให้ผู้บริสุทธิ์ได้ นักโทษที่ถูกตัดสินจองจำก็มีอันต้องเสียชีวิต (ตายคาคุก) ส่วนที่ยังมีชีวิตรอดก็กลายเป็นบุคคลพิการและประสบกับปัญหาบ้านแตก แต่ที่แปลกก็คือเศรษฐีนีแห่งตระกูลฟงฟัด ( ชื่อดั่งเดิมเป็นจีนแคะ) หรือพัฒน์พงษ์ผู้บงการจึงลอยนวล นั่นไม่ใช่เพราะคนที่ได้รับการมอบหมายให้มาดูแลรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินของตระกูลนี้ในเวลานั้นมีชื่อว่า นายประมาณ ชันซื่อ อดีตประธานศาลฏีกาดอกหรือ คดีนี้จึงสาวไปไม่ถึงคนบงการ





นอกจากนี้แล้วยังมีการยกฟ้องคดี ร.ต.ดวงเฉลิม อยู่บำรุง ที่ยิงจ่ายิ้ม ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่แห่งรัฐถึงแก่ความตาย ที่ทำให้เป็นที่คาใจของคนทั้งประเทศ หรือถ้าจะให้ผมยกตัวอย่างชัดเจนซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ในกรณีที่ นายพชร ยุติธรรมดำรงกุล อัยการสูงสุดในเวลานั้น มีคำสั่งฟ้องคาราวานคนจนที่เดินขบวนไปประท้วงหนังสือพิมพ์คมชัดลึกที่ตึกเนชั่น จนเป็นที่วิพากวิจารณ์กันว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ เพราะในเวลาเดียยวกันนั้นก็มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนฯซึ่งมี นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นแกนนำ เหตุใดจึงไม่ถูกดำเนินคดี





เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๐ รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ครั้งที่ ๓๗ นายสนธิ สิ้มทองกุล ได้นำเอาประเด็นคำสั่งฟ้องคาราวานคนจนมาออกอากาศ โดยอ้างคำชี้แจงของ นายพชร ยุติธรรมดำรงกุล ในกรณีพิจารณาสั่งฟ้องคาราวานคนจนว่า มีความแตกต่างกับกลุ่มพันธมิตรฯ เนื่องจากคาราวานคนจนมีเจตนาไปปิดกั้นอาคารคมชัดลึกในเครือเนชั่น ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯเวลาเดินก็ไปปักหลักอยู่ที่สนามหลวง ก็ไปอยู่ที่บริเวณลานพระรูป ก็ไปอยู่ที่สพานมัฆวานฯ ไม่ได้ไปปิดกั้นสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง โดยไม่มีการกล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯที่ไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลเพื่อไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีสามารถเข้าทำงานได้สะดวก และไม่กล่าวถึงการเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมสำนักงานกกต.และให้กลุ่มนักศึกษาภายใต้การนำของน.ส.กชวรรณ ทำการตรวจค้นรถเข้า-ออกเพื่อหาตัว พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ แล้วก็ไม่พูดถึงการเคลื่อนขบวนไปปิดถนนสุขุมวิทโดยยึดเอาศูนย์การค้าพาราก้อนเป็นที่ปราศรัย ส่งผลให้ห้างร้านต่างๆของสถานที่แห่งนี้มีอันต้องปิดลงโดยปริยาย





บทความทั้งสิบสองตอนที่ผมนำเสนอมาทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าการโค่นล้ม พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น มีการวางแผนและทำกันอย่างเป็นขบวนการอันสืบเนื่องจากอำนาจและผลประโยชน์ โดยใช้วิธีการอันสกปรกที่ปราศจากมูลความจริง การกล่าวหาและยัดเยียดความผิดให้ครอบครัวชินวัตรทุกคนจนต้องตกเป็นจำเลยของสังคม โดยไม่สามารถพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ปรากฏด้วยหลักฐานพยาน ทั้งๆที่มีการแต่งตั้งกลุ่มบุคคลที่เคยเข้าร่วมต่อต้านคุณทักษิณมาทำหน้าที่ตรวจสอบ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของสังคมคนทั่วไป จนกลายเป็นประเด็นที่ประชาชนที่รักความยุติธรรมต้องออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน และข้าราชการที่มีคุณธรรมจำนวนมากตัดสินใจยุติการให้ความร่วมมือ แทนที่จะรู้สำนึกในการกระทำที่เลวทรามต่ำช้า กลับลุแก่อำนาจบาตรใหญ่ทำการข่มขู่คุกคามด้วยกำลังและอาวุธ อันเป็นพฤติกรรมของโจรเท่านั้นที่จะทำได้




การประกาศว่าจะใช้มาตราการรุนแรงในการจัดการกับกลุ่มคนที่ต่อต้านเปรม ด้วยการรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีการตั้งข้อหาว่าเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจนั้น และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของเปรมและกลุ่มทหารโจร ผมจึงมีความเห็นเพื่อเสนอพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยร่วมกันพิจารณาดังนี้





๑. บนตำแหน่งประธานองคมนตรีตามกฏหมายจะต้องวางตัวเป็นกลางอย่างที่สุด และห้ามดำเนินกิจกรรมทางการเมือง แต่พฤติกรรมของเปรมตลอดเวลาที่ผ่านมานับได้ไหมว่าดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฏหมายบ้านเมือง





๒. เปรมไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่รู้เรื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รับถวายการผ่าตัดเพื่อรักษาพระอาการประชวร โดยที่คณะแพทย์ได้ถวายคำแนะนำให้งดการทรงงานอย่างน้อยสามเดือน แล้วการที่เปรมและคณะรัฐประหารขอเข้าเฝ้าในยามวิกาลเช่นนั้นเป็นการสมควรหรือไม่อย่างไร





๓. ภาพถ่ายที่เปรมนำคณะรัฐประหารเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อกลางดึกของคืนวันที่๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ เปรมไม่อาจปฏิเสธได้เด็ดขาดว่าไม่ได้มีส่วนสนับสนุนหรือเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจ และเปรมต้องรู้ด้วยว่าในขณะนั้นมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๔๙ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีพระราชหัตถ์เลขาถึงสามอดีต กกต.ว่า “ให้การเลือกเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม” ซึ่งเป็นพระราชประสงค์ของพระองค์ที่ต้องการให้มีการปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย





๔. การเลือกเคลื่อนไหวของเปรมและคณะนายทหารโจรในปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราช ๖๐ ปีเมื่อปีที่ผ่านมาและในปีนี้เราก็จะต้องถือเป็นปีที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปีที่แล้วนั่นก็คือมีการจัดงานพระราชพิธีเฉลิมฉลองพระชนม์พรรษาครบรอบ ๘๐ ปี


พฤติกรรมของเปรมข้างต้น เป็นการขัดต่อพระราชประสงค์และก้าวล่วงอำนาจหรือไม่ ขอให้พี่น้องร่วมชาติทุกคนได้โปรดช่วยกันหาคำตอบด้วย

อาคม ซิดนี่ย์
Copyright © arkomsydney 2006-2007

สารบัญบทความของอาคม ซิดนีย์
//docs.google.com/Doc?id=d7qgfs4_35fhp9tg


Create Date : 01 เมษายน 2551
Last Update : 1 เมษายน 2551 16:21:26 น. 5 comments
Counter : 573 Pageviews.

 
ชอบครับ เห็นด้วยในเหตุผล แต่ก็ยังรู้สึกว่าค่อนข้างกล่าวหาลอยๆไปนิด เห็นด้วยว่า พล.อ เปรมยอมเป็นนายก โดยไม่ยอมเปืองตัว เช่นเดียวกับคุณอานันท์ แต่เรื่องเจตนาทำผิดยังไม่แน่ใจ อาจเป็นความเขลาที่เกิดขึ้นได้ในทุกๆคน


โดย: T IP: 61.90.250.13 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:19:22:36 น.  

 
ผมว่า ถ้าเป็นอย่างที่ผู่เขียนว่า ก็ไม่น่าจะอยุ่ในตำแหน่ง ประธานองคมนตรี มานานขนาดนี้ละครับ ก็ต้องรอดูต่อไป ขออภัยที่ออกความคิดเหน


โดย: koktong26 IP: 117.47.225.114 วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:20:52:42 น.  

 
อยู่ต่อไปเถอะค่ะ ท่าน เปรม คนเลวๆมันยังทนอยู่ได้ เป็ด เหลิมจอมโหด หมักจอมงาบ มันยังได้เป็น ถึง นายก ก็คิดดูเอาเอง ประเทศไทยเราจะก้าวไปไหน ขายขี้หน้า


โดย: dd IP: 118.173.240.220 วันที่: 7 มิถุนายน 2551 เวลา:10:49:00 น.  

 
ถ้าพวกคุณจะล้มล้างสถาบันก็พูดออกมาตรงๆเลย ไม่ต้องเบี่ยงเบนๆปที่ป๋า เพราะท่านคงไม่อยากได้ใคร่ดีและอยากร่ำอยากรวยอะไร เพราะท่านไม่มีครอบครัว แต่บังเอิญท่านฉลาดรู้ทันพวกชั่วๆเลยเข้าขัดขวาง ท่านเลยโดนคนชั่วจงเกลียดจงจังชนิด กัดไม่ปล่อย ขอให้คนที่คิดชั่วๆ จงพบความฉิบหายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


โดย: จอย IP: 125.24.126.237 วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:14:36:31 น.  

 
คนดีต้องอยู่ คนไม่ดีต้องไป อีกไม่นานก็รู้ ไม่ต้องเอาสถาบันมาอ้าง คนไทยไม่ยอม (ควรเชื่อคนเสื้อแดง)


โดย: Dang-Red IP: 172.17.13.48, 61.19.199.147 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:19:51:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.