หลากความเห็นที่มีต่อคำตอบของรสนา โตสิตระกูลของชาวราชดำเนิน
ผมได้รับเมล์ที่ตั้งคำถามกับรสนา และต่อมามีการตอบคำถามนี้แล้ว ผมขออนุญาตนำมาแบ่งปัน เพราะเห็นว่ายังไม่ปรากฎในเวบนี้
คำถามที่รสนาต้องตอบ
คนจำนวนไม่น้อยทำใจเลือกรสนาได้ยาก เพราะรสนาไม่เคยตอบคำถามที่สำคัญสี่ข้อ
ข้อแรก รสนาค้านการแปรรูปรัฐวิสาหกินในกรณี ปตท. แต่รสนากลับเป็นกรรมการบริหาร อสมท.ที่แปรรูปแล้ว ทั้งที่รสนาไม่ได้เป็นตัวแทนของคนกลุ่มไหน ไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในกิจการสื่อสารมวลชนเลยสักนิด
แต่กลับมีตำแหน่งบริหารองค์กรแบบนี้ มีรายได้จากการประชุม เงินปันผล ฯลฯ ปีละหลายแสน
พฤติกรรมลักลั่นขัดแย้งกันเองแบบนี้ต้องการคำอธิบาย
ข้อสอง รสนาหาเสียงด้วยการโจมตีนักการเมือง ทั้งที่รสนาเป็นนักการเมือง หาเสียงและชิงตำแหน่งการเมืองเหมือนนักการเมืองทั้งหมด การหาเสียงแบบนี้ให้ร้ายนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง พรรคการเมือง และประชาธิปไตยรัฐสภา โดยลืมไปว่าตำแหน่งสว.ก็เป็นตำแหน่งการเมืองไม่ต่างจากนักการเมืองคนอื่น
พฤติกรรมหาเสียงแบบใส่ร้ายป้ายสีระบบประชาธิปไตยแบบนี้ต้องการคำอธิบาย
ข้อสาม รสนาอ้างว่าสนับสนุนประชาธิปไตย ทั้งที่รสนาเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตรฯ มีบทบาทสนับสนุนรัฐประหาร 19 กันยายน รวมทั้งมีจุดยืนรับรัฐธรรมนูญ คมช. ที่เป็นต้นตอของความไม่เป็นประชาธิปไตยหลายอย่าง เช่นการกำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสภา 74 คน จากการแต่งตั้ง ซ้ำยังเข้าไปรับตำแหน่งกรรมการปฏิรูปกฎหมายและกรรมการพัฒนาการเมืองที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลจากการรัฐประหาร
ภูมิหลังการเมืองที่พิรุธแบบนี้ต้องการคำอธิบาย
ข้อสี่ รสนาอ้างว่าเล่นการเมืองแบบคานธี ทั้งที่คานธีนุ่งเจียมห่มเจียม สนับสนุนการผลิตแบบพึ่งตนเอง ไม่ยึดติดกับอำนาจการเมืองทุกชนิด ขณะที่รสนาแสวงหาอำนาจการเมือง เคลื่อนไหวการเมืองเพื่อเป็นฐานของการเข้าสู่อำนาจในอนาคต ให้สัมภาษณ์เปลี่ยนไปมาตามกลุ่มผู้ฟังผู้ชมสื่อ บางเวทีก็ว่าไม่เห็นด้วยกับทุนนิยม บางเวทีก็ว่าสนับสนุนทุนนิยมเสรีทุกชนิด
พฤติกรรมแสดงความเห็นที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนไปมาแบบนี้ ต้องการคำอธิบาย
ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้แสวงหาอำนาจที่หาเสียงด้วยวิธีการแบบรสนา คนกรุงเทพเคยเลือกนักการเมืองด้วยทัศนคตินี้นับครั้งไม่ถ้วน จึงจำเป็นต้องถามคำถามคุณรสนาให้มากกว่านี้ เพราะคุณรสนาเป็นนักการเมือง แสวงหาอำนาจการเมือง และกำลังเล่นการเมืองไม่ต่างจากนักการเมืองทุกราย
โดย คน Say no to Rosana
จากคุณ : บก.ลายจุด - [ 1 มี.ค. 51 17:56:29 A:58.8.240.186 X: ]
ขอตอบคำถาม คุณ “saynotorosana” และผู้อ่านคำถามทั้ง 4 ข้อ ดังนี้
1.ดิฉันได้รับการทาบทามให้เป็นบอร์ดอสทม. ตั้งแต่ปลายปี 2549 ดิฉันเคยปฏิเสธไม่รับในครั้งแรก ภายหลังมีเพื่อนและพี่บางคนบอกว่าสมควรเข้าไปให้มีพื้นที่ของฝ่ายผู้บริโภคบ้าง คุณคงไม่ทราบกระมังว่าดิฉันจบวารสารธรรมศาสตร์ เมื่อมีการทาบทามครั้งที่ 2 ดิฉันจึงยอมรับเป็นกรรมการ ส่วนคนที่ทาบทามให้เข้าไป บอกเหตุผลว่าอยากให้เข้าไปดูว่า อสมท. จะแก้ไขให้ถูกกฎหมายได้โดยไม่ต้องถอนการแปรรูปได้อย่างไร ดิฉันเข้าประชุมครั้งแรก เมื่อ 18 ธันวาคม 2550 และบอร์ดก็ได้หยิบยกประเด็นเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา (เนื่องจากศาลปกครองเพิ่งตัดสินให้ปตท. ต้องคืนทรัพย์สินส่วนที่เป็นสาธารณสมบัติให้รัฐ) และบอร์ดมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ บางคนบอกว่าดิฉันต่อต้านการแปรรูปทุกชนิด ดิฉันก็ต้องขอบอกจุดยืนว่ากิจการที่ผูกขาด ไม่มีการแข่งขัน และเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่กระทบชีวิตประชาชนในสังคม ไม่ควรแปรรูป เพราะเป็นการโอนการผูกขาดไปให้เอกชนในการทำกำไรเข้ากระเป๋าโดยเอาเปรียบผู้บริโภค ส่วนกิจการใดแปรรูปแล้วแข่งขันได้ก็จะมีประสิทธิภาพ และราคาที่เป็นธรรม เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ในการประชุมบอร์ดครั้งแรกนั้น ดิฉันยังได้พบข้อมูลว่ามีลูกจ้างรายวันของอสมท.จำนวนกว่าร้อยชีวิตที่ทำงานกับอสมท.เป็นเวลาหลายปีตั้งแต่ก่อนแปรรูป โดยไม่เคยได้รับสวัสดิการประกันสังคม เพราะเป็นลูกจ้างรายวัน ดิฉันเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนลูกจ้างรายวันเหล่านั้นให้เป็นพนักงานประจำ เพื่อพวกเขาจะได้รับสวัสดิการการประกันสังคม ซึ่งในที่ประชุมเห็นด้วย และมีมติให้ปรับเปลี่ยนให้เสร็จในต้นปี 2551 การเป็นกรรมการอสมท. ดิฉันได้เพียงค่าตอบแทนเบี้ยประชุม ซึ่งไม่ได้มากมายอย่างที่คิด โบนัสไม่มี ทั้งไม่มีสิทธิประโยชน์อื่นๆ นอกจากโทรศัพท์มือถือที่ทางฝ่ายสำนักงานจะจัดให้ดิฉันในฐานะกรรมการ แต่ดิฉันก็ปฏิเสธไม่รับ
2.ดิฉันพูดถึงหลักการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร ซึ่งเป็นไปตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพราะหากขาดการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหาร ก็จะเกิดการใช้อำนาจในทางที่ผิด และเกิดการทุจริตคอรัปชั่นได้ ดังที่ลอร์ด แอกตัน เคยพูดว่า “อำนาจนำไปสู่การคอรัปชั่น อำนาจเบ็ดเสร็จย่อมนำไปสู่การคอรัปชั่นเบ็ดเสร็จ” การพูดถึงระบบการเมืองปัจจุบันที่ว่า การถ่วงดุลตามหลักการแบ่งแยกอำนาจเป็น 3 ส่วน คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ ไม่เกิดขึ้นจริงในทางปฏิบัติ จึงทำให้การตรวจสอบไม่สามารถเกิดขึ้นจริง ทำให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นในหมู่นักการเมืองอย่างกว้างขวาง ซึ่งนำไปสู่วงจรอุบาทว์ของการรัฐประหารซ้ำซาก เพราะมีข้ออ้างให้กับกลุ่มอำนาจอีกฝ่ายในการทำรัฐประหาร เพื่อช่วงชิงอำนาจจากรัฐบาลที่คอรัปชั่นเท่านั้น และก็ไม่สามารถหยุดยั้งการคอรัปชั่นได้ พูดอย่างนี้ใส่ร้ายนักการเมืองตรงไหน?(หรือ?) ดิฉันเห็นว่า ถ้าผู้แทนของประชาชนสามารถทำให้ระบบรัฐสภาเป็นที่พึ่งของประชาชนในด้านความยุติธรรมทางสังคมอย่างแท้จริง ประชาชนก็ไม่ต้องออกมาเดินบนท้องถนน ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนจนต้องเสียเลือดเสียเนื้อกัน
3. ดิฉันไปปราศรัยบนเวทีพันธมิตร เพราะรัฐบาลไม่สามารถถูกตรวจสอบภายในระบบของรัฐสภาได้ ทำให้ประชาชนต้องออกมาเคลื่อนไหวนอกสภา แต่ไม่นอกรัฐธรรมนูญ แต่ดิฉันไม่เคยเชื่อไม่เคยสนับสนุนการรัฐประหารว่าเป็นการแก้ปัญหาการทุจริตของนักการเมืองและรัฐบาล ดิฉันเคยเขียนบทความว่า การรัฐประหาร 19 กันยา เป็นการฉวยโอกาส และตัดตอนการเรียนรู้ของประชาชนในการจัดการกับรัฐบาลเผด็จการทุนนิยมสามานย์ ทำให้ประชาชนขาดโอกาสในการเรียนรู้ที่จะจัดการกับเผด็จการในคราบประชาธิปไตย โดยไม่ให้เสียเลือดเนื้อเหมือนอดีต ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่โหวตไม่รับรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าคุณจะบอกว่า “ถ้างั้น ดิฉันก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเป็นกรรมการต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ และการสมัคร ส.ว. ด้วยละก้อ” ดิฉันก็อยากให้คุณไปตั้งคำถามนี้กับพรรคพลังประชาชนด้วยว่า เมื่อโหวตไม่รับรัฐธรรมนูญแล้ว มาลงเลือกตั้งทำไม คุณไม่มีคำถามกับพรรคนี้บ้างหรือ ทำไมไม่ประนามพรรคนี้บ้างว่ามีพฤติกรรมลักลั่นขัดแย้งกันเอง แบบนี้ต้องมีคำอธิบายบ้างล่ะ
4. ดิฉันพูดถึงทุนนิยมเสรีว่าต้องมีธรรมาภิบาล และมีความรับผิดชอบต่อสังคมจึงจะยอมรับได้ แต่ทุนนิยมสามานย์นั้นยอมรับไม่ได้ และทุนนิยมเสรีนั้นต้องไม่ใช่ เป็นเพียงเสรีภาพของหมาจิ้งจอกในเล้าไก่
ดิฉันขอขอบคุณคำถามทั้ง 4 ข้อ และคนถามที่ให้ความสนใจดิฉันเป็นอันมาก ทั้งที่ตำแหน่งส.ว. ไม่ได้บริหารงบประมาณแผ่นดิน คุณยังตรวจสอบดิฉันเข้มข้นขนาดนี้ ดิฉันขอให้คุณตรวจสอบรัฐบาล และบรรดาคณะเลขา ที่ปรึกษาที่เป็นผู้ใช้อำนาจและภาษีของพวกเราบ้างเถิด เพราะถ้ามีประชาชนที่ตรวจสอบใกล้ชิดเข้มข้นเช่นนี้ รัฐบาลน่าจะดีกว่านี้ได้มาก ขออย่าใช้แค่อคติในการดิสเครดิตดิฉัน เพียงเพื่อให้ผู้อ่าน”saynotorosana” หากคิดว่าการ ”saynotorosana” แล้วจะทำให้บ้านเมืองดีกว่านี้ โปร่งใสกว่านี้ ได้รัฐบาลดีกว่านี้ มีธรรมาภิบาลมากกว่านี้ก็เชิญดิสเครดิตไปเถิด แต่ที่จะรีบร้อนตัดสินดิฉันแบบรับเหมาตัดสินแทนผู้อื่น อย่างที่มักกล่าวหาพวก NGO เป็นพวกชอบรับเหมาทำแทนละก้อ น่าจะลองดูกันยาวๆ ดีไหม ยังไม่สายที่จะตัดสินกันก่อนตายจากกัน แต่ก่อนอื่นคนตั้งคำถาม น่าจะมีความกล้าหาญพอที่จะบอกชื่อแซ่ของตัวเองให้ผู้อื่น และผู้ตอบคือดิฉันได้ทราบบ้าง อย่าหลบอยู่หลังฉากเพื่อดิสเครดิตคนอื่นโดยไม่ให้เขาเห็นตัวตนของคุณบ้างว่าบริสุทธิ์ สะอาดสักแค่ไหน ไม่งั้นก็จะถูกมองได้ว่า เป็นแค่มือปืนรับจ้าง หรือคุณจะเป็นอัศวินของประชาชนที่จะต่อสู้กับสิ่งไม่ถูกต้องกันแน่ ถ้าคุณเป็นอย่างแรก ดิฉันก็ไม่อยากให้ค่ากับคุณมากนัก แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง ดิฉันก็ขอคาวระ.
รสนา โตสิตระกูล 29 กุมภาพันธ์ 2551
เมื่อ จอน อึ้งภากรณ์ ประกาศเลือก รสนา
เรียนเพื่อนๆที่ร่วมสังคม
เป็นเรื่องที่เพี้ยนสุดๆตามรัฐธรรมนูญยุคคมช. ที่ประชาชนทั้งประเทศมีสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาได้เพียง 76 คน ในขณะที่มี 7 อรหันต์จากศาลและองค์กรอิสระได้รับสิทธิเลือกสมาชิกวุฒิสภาถึง 74 คน (คำนวณดูแล้ว 1 อรหันต์จากศาลและองค์กรอิสระมีค่าเท่ากับประชาชนทีมีสิทธิเลือกตั้งถึง 4 ล้านกว่าคน)
แล้วความจริงก็ปรากฏแล้วว่า 74 ส.ว. ผู้ที่ได้รับการเลือกจาก 7 อรหันต์นั้น เกือบทั้งหมดไม่ใช่ผู้แทนผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างแน่นอน
การเลือกตั้งส.ว. อีก 76 คน ก็ปรากฏเป็นเรื่องเพี้ยนอีกที่ชาวกรุงเทพฯ 6 ล้านคนจะมีผู้แทนเป็น ส.ว.เพียงคนเดียวแทนที่จะได้ 7 คนตามสัดส่วนของอัตราพลเมือง
ในฐานะที่ผมเคยได้รับเลือกตั้งเป็นส.ว.กรุงเทพฯหนึ่งใน 18 คนเมื่อปี 2543 ผมขอยืนยันว่าบทบาทของสมาชิกวุฒิสภามีความสำคัญมากในเรื่องของการตรวจสอบนโยบายและการปฏิบัติของรัฐบาล ตลอดจนการปกป้องผลประโยชน์และสิทธิเสรีภาพของประชาชนในเรื่องต่างๆ
เราไม่ควรปล่อยให้วุฒิสภาเป็นตรายางเป็นอันขาด !
เราควรต้องใช้สิทธิ์อย่างคุ้มค่าที่สุดโดยการเลือกผู้แทนที่เรามั่นใจว่าจะทำหน้าที่ส.ว.ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ในฐานะคนกรุงเทพฯ ผมเองจะเลือก รสนา หมายเลขห้า เพราะถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เห็นด้วยกับรสนาในทุกเรื่อง แต่รสนาเป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา ถูกซื้อไม่ได้ กล้าท้าทายผู้ที่ใช้อำนาจในทางผิด กล้าต่อสู้กับระบบผลประโยชน์ที่ไม่ชอบธรรม กล้าปกป้องผลประโยชน์ของผู้ด้อยโอกาสและประชาชนโดยรวม ผลงานในการเปิดโปงคอรัปชั่นในกระทรวงสาธารณสุขและในการหยุดยั้งการแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็เป็นที่ประจักษ์
ด้วยความเคารพ
จอน อึ๊งภากรณ์
ไม่ได้เกลียดหรือโกรธที่ รสนา ต่อต้านระบอบทักษิณหรือที่ไม่เลือกรสนา ไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนเลว คำว่าดี/เลว ไม่มีในด้านการทำงาน แต่ไม่เลือกและไม่ชอบรสนา เพราะ"หลักคิด"ไม่ตรงกับผม
รสนา"ปากเก่ง"ได้แต่กับนักการเมือง แต่พวกศักดินาในระดับสูงที่มีพฤติกรรมดำเนินธุึรกิจผูกขาด ตัดตอนใช้อำนาจบาตรใหญ่อวดบารมีอิทธิพลเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบทางธุรกิจ รสนาก็"หงอ"เป็นใบ้ไม่กล้าพูด รสนาด่าได้แต่นักการเมืองเพราะรสนาเห็นว่าคนพวกนี้"หมูในอวย"ด่าคนพวกนี้แล้วจะทำให้รสนา"ดัง""เท่ห์" "ดูดีมีชาติตระกูล" พฤติกรรมเหมือนกับพวกประชาธิปัตย์"ยุคเก่า"ที่ด่า "ทหาร" แล้วได้ใจประชาชน
รสนามีพฤติกรรมรับใช้ศักดินาดูถูกประชาชนเพราะพวกศักดินาบางคนบริจาคเงินช่วยเหลือในการเคลื่อนไหวใช่หรือไม่
จากคุณ : Whisperer - [ 1 มี.ค. 51 18:20:41 A:124.121.132.222 X: ]
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยนะครับ....ว่า
คำตอบ ใน ข้อ 2 และ 3 ของนางรสนา...
ทำไม...? ถึงไม่มีการปฏิบัติในห้วงระยะเวลา เมื่อ ปีกว่าๆ ที่ผ่านมาทั้งเรื่อง ถ่วงดุลย์อำนาจ ทั้งเรื่อง ต่อต้านการปฏิวัติ... นางรสนาเคยแสดงหรือกระทำอะไรบ้างตามที่โม้มาในคำตอบ ข้อ 2 และ 3... หรือ หมายความว่า รัฐบาลทหารมีครบทุกอย่างที่นางรสนาต้องการ... คือ ไม่มีการคอร์รัปชั่น ไม่มีการใช้อำนาจในทางที่ผิด มีธรรมภิบาล “อำนาจนำไปสู่การคอรัปชั่น....อำนาจเบ็ดเสร็จย่อมนำไปสู่การคอรัปชั่นเบ็ดเสร็จ” คำกล่าวนี้ไม่ผิดหรอก แต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หมายความว่าเค้ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ เหรอ ไม่สามารถตรวจสอบได้เหรอ... ครั้งกระโน้น...ไม่ใช่ตรวจสอบไม่ได้ แต่ ฝ่ายตรวจสอบ"ไร้ปัญญาซะมากกว่า" การมีฝ่ายค้าน ไร้ปัญญาจะโทษรัฐบาลไม่ได้ สมควรจะถามคนที่เลือกฝ่ายค้านไร้ปัญญามา มากกว่าว่า "เลือกมาทำลิง...อะไร"
ส่วน ประโยค "เมื่อโหวตไม่รับรัฐธรรมนูญแล้ว มาลงเลือกตั้งทำไม" หมายความว่า ผมไม่รับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ผมก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูธฉบับนี้ ก็ได้!! ใช่หรือไม่...?
คำตอบที่ 4 เป็นเพียงแค่คำพูดสวยหรูของพวกจบวารสารธรรมศาสตร์...ซะมากกว่า "ทุนสามานย์"ใครเป็นผู้ตัดสิน เอ็นจีโอ เหรอ หรือพวกที่ชอบพูดยกตัวเองว่ามีคุณธรรมเหมือนนางรสนา....
เท่าที่ผมทราบ....ย้ำ เท่าที่ผมทราบ มีแต่เข้าไปเกี่ยวพัน และมีส่วนร่วมและกระทำการต่างๆ ภายใต้อำนาจของรัฐบาลทหาร...อย่างมีความสุขและยินดียิ่ง เสมือนได้รับรางวัลจากการทำงาน ก็ไม่ปาน....
จากคุณ : ทำซิม - [ 1 มี.ค. 51 18:55:42 A:222.123.178.117 X: ]
รสนา:ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่โหวตไม่รับรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าคุณจะบอกว่า “ถ้างั้น ดิฉันก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการเป็นกรรมการต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ และการสมัคร ส.ว. ด้วยละก้อ” ดิฉันก็อยากให้คุณไปตั้งคำถามนี้กับพรรคพลังประชาชนด้วยว่า เมื่อโหวตไม่รับรัฐธรรมนูญแล้วมาลงเลือกตั้งทำไม คุณไม่มีคำถามกับพรรคนี้บ้างหรือ ทำไมไม่ประนามพรรคนี้บ้างว่ามีพฤติกรรมลักลั่นขัดแย้งกันเอง แบบนี้ต้องมีคำอธิบายบ้างล่ะ -------------------------------------------- ......มันต่างกันนะ ระหว่างการใช้สิทธิ์กับการไปนั่งเป็นกรรมการบอร์ดที่มีผลประโยชน์ ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่โหวตไม่รับรัฐธรรมนูญ แต่ก็ออกไปใช้สิทธ์ลงคะแนนเลือกตั้ง... บ้า รึเปล่า เอาอะไรคิดที่ว่า ...ถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ...ก็ไม่ต้องไปใช้สิทธิ์ทั้งในการลงคะแนน หรือ การลงเลือกตั้ง.... "เรา"..เคารพในกติกา ต่างหากล่ะ ก็ในเมื่อโหวตรับมันผ่าน ก็ต้องใช้สิ(วะ)ไอ้รัฐธรรมนูญฉบับนี้น่ะ ถึงแม้จะไม่เต็มใจก็เถอะ.. --------- นี่ยาวที่สุดที่เคยพิมพ์มาเลยนะ
จากคุณ : syk05 - [ 1 มี.ค. 51 19:00:32 A:58.9.161.142 X: ]
ผมเป็นผู้จัดการโรงงานแห่งหนึ่ง มีการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลใช้เองและเหลือขายให้กับการไฟฟ้า รสนารู้ไหม การจะขออนุญาตไฟฟ้าต้องจ่ายใต้โต๊ะกันเท่าไหร่ ขายเพียงแค่ 10-20 MW หมดค่าใต้โต๊ะเข้ากระเป๋าตัวเองพวกการไฟฟ้าเป็นล้าน ไหนจะค่า Entertain แบบถึงๆอีกต่างหาก ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็จะไม่ได้รับความสดวก การทำ COD (เปิดขายไฟ)ต้องล่าช้าออกไป นี่แหละเสือนอนกิน ยังมีอีกครับ บางคนใช้เวลาไปเป็นที่ปรึกษาการขายไฟฟ้าให้กับบริษัทเอกชน รายได้ไม่ต้องพูดถึง น่าจะเอาเวลาไปพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ให้กับการไฟฟ้าเพื่อจะได้ไม่ต้องขึ้นค่าไฟฟ้ากับประชาชนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อชาติมากกว่า
จากคุณ : AldilaNV55 - [ 1 มี.ค. 51 20:43:35 A:202.149.24.129 X: ]
รสนากล่าวหาผู้อื่นว่า เป็นทุนนิยมสามานย์ ... นี่คือเทคนิคของพวกเคลื่อนไหวโดยด่าผู้อื่นให้เตะหูชาวบ้าน... ที่แท้ก็เพื่อหาพื้นที่ทางการเมืองให้ตนเองเท่านั้น ในยุคเผด็จการพวกนี้เงียบเป็นเป่าสาก
พวกเขาท่องคาถาวิเศษว่า นักการเมืองมันเลว เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่า เช่นเดียวกับนักวิชาการที่อยากมีชื่อเสียง หรือราษฏรอาวุโสที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรนักให้ประเทศนี้นอกจากออกมาทำเป็นสั่งสอนประชาชน คล้ายพวกขิงเน่าที่เพิ่งจากไป
ผมอยากพูดบ้างว่า... รสนาแล้วเข้าร่วมกับพวกบิดเบือนปลุกระดม เพื่อสร้างชื่อให้ตัวเองในการโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองที่คุณไม่ชอบจนกระทั่งออกเทียบเชิญ คมช. เข้ามายึดอำนาจ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สามานย์ยิ่งกว่าสังคมทุนนิยมที่รสนาอาศัยอยู่ทุกวันนี้หรือ
เมื่อพวกคุณตัดสินผู้อื่นได้...ผมขอตัดสินพวกคุณบ้าง โดยเรียกพวกคุณว่า NGOสามานย์(บางส่วน) หรือ รสนา สามานย์ จะได้หรือไม่ ผมไม่เลือก รสนา สามานย์ เป็นสว.แน่นอน
จากคุณ : S_Chai - [ 1 มี.ค. 51 20:44:39 A:125.24.30.121 X: ]
รสนา ใน ทัศนะข้าพเจ้า (บก.ลายจุด) ก่อนอื่นออกตัวก่อนว่า รู้จักคุณรสนาเป็นการส่วนตัว แม้ไม่ได้ใกล้ชิด แต่เป็นพี่คนหนึ่งที่ผมเฝ้ามองความคิดและการทำงานของเธอ
ในฐานะรุ่นน้องคนหนึ่งในแวดวง NGOs รสนา เป็นคนที่มีประวัติการต่อสู้น่าสนใจ หลายคนใน pantip อาจรู้จักรสนาในช่วงพันธมิตร และ กรณี ปตท
โดยภาพลักษณะภายนอก รสนาเป็นคนดูแข็งกร้าว จุดยืนชัดเจนไม่อิงใคร เป็นคนหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าเขาเป็นคนมีอิสระจากอิทธิพลภายนอก สิ่งเดียวที่มีอิทธิพลต่อเขาคือ จุดยืน และ ความคิด ใครจะเรียกว่าเป็นพวกอัตตาสูงหรืออะไรก็แล้วแต่ รสนา ไม่เหมือนใครจริง ๆ
ผมรู้จักรสนาครั้งแรกตอนที่พี่เขาทำงานในมูลนิธิสุขภาพไทยเมื่อยิ่สิบปีที่แล้ว เขาและเพื่อน ๆ ของเขาทุ่มเทอยู่ในชนบท ทำงานกับชาวบ้าน เอาความรู้ทักษะในฐานะคนชั้นกลางที่มีการศึกษาไปช่วยจัดระบบเรียบเรียงความรู้จากชุมชนในเรื่องสมุนไพร หมอพื้นบ้าน และ เรื่องเด่นสุดในทัศนะผมคือการส่งเสริมเรื่องการบริโภาคข้าวกล้อง โดยการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ และการเกษตรแบบผสมผสาน วนเกษตร
รสนา เป็น NGOs ในกลุ่มฝังตัวและลึกซึ้ง เชื่อว่า คำตอบอยู่ที่หมู่บ้าน ทำจนกระแสเรื่องสมุนไพร และ ข้าวกล้อง เกษตรอินทรีย์ บูมสุด ๆ CP รวมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ทำการตลาดขายข้าวกล้องในร้าน 7-11
ตอนที่ในหลวงพูดเรื่องเศรษฐกิจทฤษฏีใหม่ ทำให้ผมนึกถึงภาพการทำงานของ NGOs อย่างรสนาขึ้นมาในสมองทันที
รสนา สร้างความฮือฮาอีกครั้ง จากโครงการ "เบี้ยกุดชุม" ระบบการเงินหมู่บ้าน ที่ลองสร้างตัวกลางแลกเปลี่ยนในหมู่บ้านขึ้นมา จนธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาโวยวาย จริง ๆ แล้ว เบี้ยกุดชุมเป็นกระบวนการที่ชุมชนจัดระบบตนเองเพื่อสร้างความเข็มแข็งกันในชุมชน แต่รัฐมองว่าเป็นภัย
ตอนที่เกิดปัญหาคอรัปชั่นยาในกระทรวงสาธารณะสุข 1400 ล้าน รสนา เป็นหัวหอกสำคัญคนหนึ่งที่ไล่ล่านักการเมืองและข้าราชการระดับสูงในกระทรวงสาธารณะสุข รสนาไม่เคยหวั่นไม่ว่าจะเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือ แม้แต่การดำเนินงานขององค์กรที่คุณรสนาทำงานอยู่ ที่งบก้อนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณะสุข แล้วสุดท้ายโดนกระทรวงตัดงบประมาณในการสนับสนุน ทั้ง ๆ ที่โครงการของคุณรสนาทำงานอย่างเป็นรูปธรรมและมีผลงาน แต่ไม่ถูกใจคนในกระทรวง เพราะตรวจสอบคอรัปชั่น
ตอนที่ทักษิณเป็นรัฐบาลในปีแรก ๆ ทักษิณมอบรางวัลประมาณ NGOs ดีเด่นให้กับรสนา แล้วตามด้วยคำว่า NGOs น้ำดี
กรณี ปตท ที่รสนา ร้องต่อศาลนั้น ฟังขึ้นครับ เพราะทรัยย์สินของ ปตท ที่ได้จากการเวรคืนจากประชาชน จะเอาไปขายไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ศาลปกครองจึงถือตามคำร้องของรสนา ชัยชนะของรสนา เป็นไปตามหลักการที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ผมเห็นต่างกับรสนาและหลาย NGOs ในเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ในทัศนะผม การแปรรูปเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ใช่แปรรูปไม่ได้เลย แต่แปรรูปอย่างมีเหตุมีผล และหลายองค์กรควรแปรรูป
เรื่องสุดท้าย.....การเข้าร่วมกับพันธมิตร ผมเห็นคนในนี้ ด่าพันธมิตรกันอย่างสาดเสียเทเสีย เหมือนคนพวกนี้เป็นพลเมืองชั้นสอง ไม่มีสิทธิทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย วิธีคิดเช่นนี้ก็ไม่ต่างกับพวกพันธมิตรที่กล่าวหาคนที่สนับสนุนทักษิณว่าเป็นพวกไร้สติปัญญาหรือสนับสนุนคอรัปชั่น
ดังนั้น ตราบใดที่ใครจะวิจารณ์รัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลใด ประชาชนมีสิทธิที่จะเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย การที่รสนาเข้าร่วมกับพันธมิตร ผมไม่เห็นว่าเป็นความผิดอะไรที่จะวิจารณ์หรือคิดไม่เหมือนกับรัฐบาล
สำหรับผม รสนา เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และผมเชื่อว่า รสนา เป็นคนที่มีอิสระ มีความตั้งใจดีต่อประเทศชาติอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ฉวยโอกาสในตอนรัฐประหารเข้าไปแสวงประโยชน์อย่างหลาย ๆ คน และไม่ถูกฝ่ายการเมืองตบรางวัลเพื่อให้คล้อยตาม ส่วนจะเชื่อว่าความคิดของรสนา จะพาประเทศชาติล้าหลัง หรือ ก้าวหน้านั้น ต้องดูกันอีกที
ส่วนใครจะเลือก รสนา เป็น สว เลือกตั้ง หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ประชาชน แต่สำหรับผม การที่เขายืนยันเสนอตัวเข้าไปทำงานในสภาโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง แทนที่จะไปใช้โคว้ต้า สว สรรหา ก็ถือว่า รสนา เป็นคนที่มีจุดยืนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ผมขออนุญาตแบ่งปันข้อมูลความคิดที่ผมมี หวังว่าไม่ทำให้ใครโกรธนะครับ :>
จากคุณ : บก.ลายจุด - [ 1 มี.ค. 51 23:27:28 A:58.8.16.114 X: ]
ทำไมรสนาไม่สงสัยเลยหรือว่างบลับเอย งบจัดซื้ออาวุธเอย มันโปร่งใสขนาดไหน
แล้วที่สะพรั่งเข้าไปปู้ยี่ปู้ยำสองบอร์ดนั่นจนเละเทะล่ะ
หรือว่าพอเห็นเขาถือปืนอยู่ก็เลยไม่กล้า
ส่วนข้อสี่ดูเหมือนจะดี แต่รสนาเป็นคนกำหนดได้เองเลยหรือว่าอย่างไรมีธรรมาภิบาล อย่างไรเป็นสามานย์
มันเป็นแค่พรรณาโวหารแบบเดียวกับพวกขุนศึกศักดินาชอบใช้กันนั่นแหละ
ต้องมีจริยธรรม ต้องมีธรรมาภิบาล คุณธรรมอะไรอีกหลายหลากบ้าบอ
ถ้าแน่จริงทำไมไม่บอกไปเลยล่ะว่าทักษิณและครอบครัวเป็นพวกทุนนิยมสามานย์อะไรนั่น
สำนวนด่ากระทบแบบนี้ ถ้าเป็นผู้ชายคงต้องบอกว่าไม่แมน
เผอิญรสนาก็ไม่ใช่แมนอยู่แล้วนิ เลยไม่รู้จะบอกอะไร
ปล. สาธารณูปโภคพื้นฐานที่กระทบชีวิตประชาชนในสังคมเหรอ
ถ้าอีกหน่อยประเทศไทยต้องซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านมาใช้เดือนหนึ่ง ๆ เป็นหมื่นล้าน
อย่าบอกนะว่าประชาชนไม่มีผลกระทบใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะการไฟฟ้าเป็นของรัฐ
แล้วทำไมค่าเอฟทีมันขึ้นเอา ๆ อย่างนั้นล่ะ หา ?
จากคุณ : นั่งนั่งนอนนอน - [ 2 มี.ค. 51 01:12:36 A:210.203.179.22 X: ]
Create Date : 01 มีนาคม 2551 |
Last Update : 3 มีนาคม 2551 13:44:29 น. |
|
3 comments
|
Counter : 506 Pageviews. |
|
|
|
โดย: a_mulika วันที่: 3 มีนาคม 2551 เวลา:13:34:03 น. |
|
|
|
โดย: แมว IP: 115.67.235.77 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:16:53:51 น. |
|
|
|
โดย: popup IP: 118.172.134.184 วันที่: 8 ตุลาคม 2551 เวลา:17:32:44 น. |
|
|
|
| |
|
|
แอบเชียร์ อยู่ ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ พื้นที่ กทม.