ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
คำสั่งสอนเพิ่มเติมจากพวกคลั่งเจ้า

วันศุกร์ 11 กันยายน 2009 — chapter 11
More royalist political advice
September 9, 2009
ที่มา – Political Prisoners in Thailand
แปลและเรียบเรียง – แชพเตอร์ ๑๑

อับเดทครั้งที่ ๑: เดอะเนชั่นลงการสัมภาษณ์ ๒ ตอนของ ศ.สตีเฟน บี ยัง ผู้ให้คำปรึกษาพวกคลั่งเจ้า ภาคแรกของตามบทความข้างล่างนี้ เริ่มต้นด้วย “การแตกแยกในชาติสร้างความสับสนให้กับเพื่อนเก่าของประเทศไทย” (วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๒) เป็นเรื่องดีที่ทั้งนิวแมนดาลา และ บางกอกบัณฑิตได้ลงบทสัมภาษณ์นี้ และทั้งได้เน้นให้มองเห็นได้ชัดอีกด้วย ประหยัดเวลาของพีพีทีที่จะตั้งหลายๆคำถามของ “เพื่อนเก่า” ของศักดินาในประเทศไทย การขาดความเชี่ยวชาญในประวัติศาสตร์ไทย และการขาดความสามารถที่จะเข้าใจสภาพการเมืองไทย ในขณะที่มานั่งสั่งสอนคนอื่นซึ่งเข้าใจประเทศไทย

มันเป็นความคิดอันเป็นสันดานประจำตัวของบรรดาพวกคลั่งเจ้าที่คอยหาแต่นักวิชาการต่างประเทศ ซึ่งสนับสนุนราชวงศ์และศักดินาไทยเพื่อที่จะยกระดับตัวเอง ตัวอย่างเช่น องคมนตรีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่ถูกแต่งตั้ง แล้วถูกปลด ได้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานรัฐบาล คมช. หลังจากการทำรัฐประหารในปี พ.ศ.๒๕๔๙ เมื่อพวกคลั่งเจ้าระดับสูงโหมโฆษณาเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นอุดมการณ์ และถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง จนถูกโดนวิเคราะห์อย่างละเอียด จนต้องขอร้องให้นักวิชาการที่จงรักภักดี ออกมาจัดทำสัมมนาระดับชาติในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พวกเขาได้ยกขโยงนำผู้บรรยายชาวต่างประเทศที่มีชื่อเสียงดังๆ แต่ขาดความรู้ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง หรือแม้แต่จะอุทิศตนให้กับเศรษฐกิจพอเพียงนี้ (อ่านได้จาก ที่นี่ และ ที่นี่)

การเข็นเอา ศ.สตีเฟน ยังออกมาก็เป็นการกระทำย้ำรอยเดิม แม้ว่าเขาจะไม่มีชื่อเสียง แต่ประวัติส่วนตัวโดยสังเขปจากองค์กรธรรมาภิบาลบรรษัท (Caux Round Table) ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิชาการ และชี้ให้เห็นถึงความคิดอย่างอนุรักษ์นิยมและรีพับริกัน (เช่น ในปี พ.ศ.๒๕๓๕ เขาได้ก่อตั้งศูนย์การทดลองของอเมริกา (Center of the American Experiment) ซึ่งสนับสนุนความคิดในด้านอนุรักษ์นิยมและตลาดเสรี อันเป็นงานระดับมันสมองในรัฐมินนิโซต้า เขายังได้รับใช้กลุ่มขวาจัด เช่นคณะกรรมการสากลเพื่ออิสรภาพของชาวเวียตนาม)

องค์กรธรรมาภิบาลบรรษัท ซึ่งเขาเป็นผู้อำนวยการระดับสูง เป็นองค์กรซึ่งเริ่มตั้งขี้นมาจากผู้นำด้านธุรกิจบางคนที่ต้องการสนับสนุนให้มีการค้าเสรี และยังได้สนับสนุน “จริยธรรมของระบบทุนนิยม” และความรับผิดชอบในสังคมของบริษัท เป็นกลุ่มเรียกร้องที่ไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่มีเส้นสายในในประเทศไทยโดยผ่านทางนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งสองสมัย และผู้คลั่งเจ้าที่ซื่อสัตย์ นายอานันท์ใช้เวลาหลายปีในการถ่ายทอดโครงการณ์ต่างๆของราชวงศ์ให้ชาวต่างประเทศได้รับรู้ ตัวนำขององค์กรธรรมาภิบาลบรรษัทในประเทศไทยจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก นายกษิต ภิรมย์

ศ.สตีเฟน ยัง เหมาะกับความต้องการทางอุดมการณ์ของพวกคลั่งเจ้าเป็นที่สุด แม้ว่าเขาแทบจะไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เลย

อัพเดทครั้งที่ ๒ และ ๓: ใครก็ตามที่ต้องการอ่านเรื่องตลกในรายงานเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๕๒ สามารถติดตามอ่านได้ ที่นี่ พีพีทีอดรนทนไม่ได้ที่จะต้องแสดงความเห็น เนื่องจากรายงานนี้สุดจะแย่ และแบไต๋ได้โจ่งแจ้งเสียเหลือเกิน

ศ.สตีเฟน ยัง เป็นสมาชิกพรรครีพับริกันของอเมริกา (อ่านการรณรงค์แข่งขันประธานาธิบดีปี พ.ศ.๒๕๕๑ ได้จากบล็อกของเขา) ขาดมารยาทในการแสดงความเห็นว่า การเมืองไม่ควร “ถูกซื้อ หรือถูกคุมเบื้องหลังฉาก ด้วยบุคคลที่มีเงินทุนหนา ใจแคบ มีนิสัยไม่เก็บอารมณ์…” ลองดูพวกรีพับริกันไม่กี่วันสุดท้ายซิ น่าเวทนาเหลือเกิน ดูที่เงินไหลเข้าในการรณรงค์ทางการเมืองในอเมริกาซิ จากแหล่งข่าวบางแหล่งว่ามีการใช้เงินเป็นจำนวนถึง ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท ในการรณรงค์แข่งขันตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่แล้ว

เขากล่าวว่าเพื่อนร่วมชั้นในมหาลัยคือ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้กอบกู้เศรษฐกิจของชาติภายหลังจากวิกฤติฟองสบู่แตกในปี ๒๕๔๐…” จริงหรือ ใครจำเรื่อง “กอบกู้” นี้ได้บ้าง เขาหมายถึงนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์

ศ.สตีเฟน นำวลีเก่าที่ใช้กันในปลายยุคปี ค.ศ. ๑๙๔๐ กลับมาใช้ใหม่เพื่ออธิบายประเทศไทยว่าเป็น “ระบบสังคมที่มีโครงสร้างไม่มั่นคง” ตามบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารปี พ.ศ. ๒๔๙๓ วลีเดิมเป็นคำเฉพาะเพื่อสร้างมโนภาพความเป็นไทย โดยการวางราชวงศ์ให้เป็นศูนย์กลางของสังคมไทย; อันเป็นงานของพวกคลั่งเจ้า

เมื่อ ศ.สตีเฟน ยัง เขียนเรื่องการเมืองในปัจจุบัน ช่างไม่เข้าท่าเอาเสียเลย หาว่าเสื้อแดงทุกคนรับเงิน และเสื้อเหลืองประท้วงอย่างสงบโดยเสมอมา – ที่แน่ๆคือ สตีเฟนได้รับข้อมูลมาจากนายกษิต ส่วนที่นายกษิตเว้นที่จะเล่าก็คือ ความเห็นตอนยึดสนามบินว่าสนุกสนานมีคุณภาพอย่างไร

และสุดท้าย ความขัดแย้งขณะนี้ เป็นความขัดแย้งของศักดินาเอง – ลืมเรื่องพวกที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางสังคมเสียทั้งหมด – ปล่อยให้ทักษิณเป็นบุคคลที่น่าสยดสยอง หิวโหยแต่เงิน ตรงข้ามกับราชวงศ์ที่พร้อมไปด้วยจริยวัตร ซึ่งนิยม “จริยธรรมดั้งเดิม” และแสดงตัวคล้ายสุภาพบุรุษ แน่นอน ด้านนี้ของศักดินาก็คือหิวโหยแต่เงิน (คิดถึงทรัพย์สินที่ราชวงศ์มีเป็นพันๆล้านบาท และยังคงเก็บเกี่ยวได้ทุกวัน) และฉ้อราษฎร์ด้วยเช่นกัน แต่อย่าได้ปล่อยให้รายละเอียดปลีกย่อยแบบนี้ปรากฎในประวัติของบุคคลที่แสนประเสริฐ

ประชาธิปไตยจะถูกโค่นลงได้ (เขาอ้างถึงอริสโตเติล อ่านกี่ครั้งก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี) เพราะการฉ้อราษฏร์ แต่ คนดีๆที่อยู่รายล้อมพรรคประชาธิปัตย์และราชวังย่อมไม่มีทางที่จะเป็นพวกเห็นแก่ผลประโยชน์แห่งตน แน่นอน พีพีทีตีความเอาเอง แต่ที่แน่ๆ นี่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่เหลือจะทน

อัพเดทครั้งที่ ๔: ขณะนี้เดอะเนชั่นได้ลงบทสัมภาษณ์กับศ.สตีเฟน ยัง ทั้งสองตอน พีพีทีพูดได้คำเดียวว่ามีแต่เลวลง มีทั้งเหยียดเชื้อชาติ และสรรหาแต่เรื่องเหลวไหลอย่างคนขี้โอ่เกี่ยวกับ “คนตัวเล็กๆ” ในประเทศไทยว่าคิดอะไร และเชื่ออะไร ตัวอย่างเช่น: ทักษิณไม่ได้รับความนิยมอย่างแท้จริง เพราะ “ในประเทศไทย คนตัวเล็กๆ มักจะแหงนมองหาคนสำคัญ เพราะพวกเขามีความรู้สึกของระบบอุปถัมภ์อยู่” งั้น นี่ก็เป็นการอุปถัมภ์ของถุงเงินอย่างทักษิณซึ่งมีเชื้อจีน (และกษัตริย์ก็มีเชื้อจีนเช่นกัน แต่น่าเกรงขามสำหรับคนไทยมากกว่าทักษิณ คงจากการประทับในสวิสเซอร์แลนด์หลายปี) ซึ่งลุ่มหลงใน “ความคิดเรื่องสวรรค์ของทางจีนที่ว่า “ข้าเป็นบุคคลวิเศษ” เขากล่าวต่อว่า: “ถ้าทักษิณยังคงอยู่ในอำนาจ คุณจะจบลงด้วยความคิดรวบยอดอย่างเผด็จการจีนเช่นนี้” ในอเมริกา การเหยียดเชื้อชาติถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและเป็นเรื่องใหญ่ แล้ว ศ.สตีเฟน ยัง มาพูดอะไรอยู่ที่นี่

ถุงเงินอย่างทักษิณไม่ได้มีคนจงรักภักดีอย่างแท้จริง: “ทุกคนทำงานให้ทักษิณ ซึ่งไม่ใช่หมายถึงค่าลิขสิทธิ์ของอเมริกา (Loyalty) เป็นแต่เพียงกล่าวว่า ถ้าคุณมีอำนาจ และมีเงินมาก และ คุณให้เงินผม ผมก็จะรับเงินนั้น” พีพีทีตระหนักว่านี่เป็นบางส่วนของอุดมการณ์ขยะที่เสื้อเหลืองมีความเชื่อ แต่เดอะเนชั่นอ้างว่าชายผู้นี้รู้ในเรื่องที่เขาพูด คำสัมภาษณ์มีแต่เลวลง และ เลวลง การเลือกตั้งหรือ เขากล่าวว่า “ไม่ได้เป็นการพิสูจน์อะไร คอมมูนิสต์ก็มีการเลือกตั้ง สตาลินก็มีการเลือกตั้ง ฮิตเล่อร์ก็มีการเลือกตั้ง” ถ้าอ่านผ่านๆที่วิกิพีเดียจะพบว่า ศ.สตีเฟน ยัง ไม่ประสาในเรื่องนี้

ใครสมควรที่จะถูกประณามในการทำรัฐประหารปี ๒๕๕๒ แน่ละ ต้องเป็นทักษิณ: “ไม่ใช่เพราะกองทัพ ไม่ใช่เพราะอภิสิทธิ์ ไม่ใช่เพราะประธานองคมนตรีพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ แต่เป็นเพียงคนคนหนึ่ง และพรรคพวกของเขาเอง”

และป๋าเปรมเป็นวีรบุรุษ: “ในช่วงระยะ ค.ศ. ๑๙๘๐ การอุทิศตนของพล.อ. เปรมสร้างความเจริญให้กับชาติ ผมคิดว่า พล.อ. เปรม สมควรได้รับความชื่นชมและความเคารพ ขณะนี้ท่านอายุมากแล้ว แต่ท่านได้ขับเคลื่อนประเทศไทยในสมัยที่ยังมีความเป็นประชาธิปไตยครึ่งใบ ท่านเข้ามาบริหารประเทศจากแบบเก่าที่นิยมใช้ความรุนแรง เผด็จการกองทัพ และพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างสมบูรณ์ ถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการที่สำคัญ”

ศ.สตีเฟน ยัง โยนหินถามทางทั่วไปหมด

บทความก่อนหน้านี้: เดอะบางกอกโพสต์ (วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒: “ประเทศไทยยังคงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นประชาธิปไตย“) ลงคำสั่งสอนเพิ่มเติมของพวกคลั่งเจ้าต่อการเมืองไทย สำหรับคำสั่งสอนก่อนหน้านี้ หาอ่านได้จากที่นี่

การสัมมนาเมื่อเร็วๆนี้ได้อภิปรายกันถึงรายงานนี้ โดยเริ่มต้นอย่างน่าฟังว่า “ในระหว่างที่สังคมและการเมืองเกิดความวุ่นวายไม่มีหนทางใดที่จะดำเนินต่อไปได้ นอกจากจะกลับมามองตัวเองอย่างไม่มีอคติในหัวข้อที่อ่อนไหวแต่มีความสำคัญ อย่างเช่น บทบาทของราชวงศ์ ของกองทัพ และการเคลื่อนไหวของประชาชน/ทางการเมือง” พีพีที เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และต้องการเห็นมากไปกว่านี้ อย่างไรก็ดี นายไมเคิล เนลสัน ได้กล่าวภายหลังในรายงานว่า การอภิปรายควรต้องขยายออกไปในวงกว้าง ไม่ใช่มีแต่ในวงพวกนักวิชาการและพวกศักดินานี้เท่านั้น

เมื่อไม่นานมานี้ พีพีทีได้วิจารณ์นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ และเราขอยกย่องต่อความเห็นที่เยี่ยมยอดและเฉียบคมอย่างนี้: “แทนที่จะมัวโหมกระพือโฆษณาชวนเชื่อ โดยปราศจากคำตอบที่จะนำไปใช้ปฎิบัติได้ ในเรื่องนามธรรมต่างๆ เช่น จริยธรรม ความสามัคคี และการปรองดองซึ่งกันและกัน ชนชั้นกลางควรจะหันมาเผชิญกับการแบ่งแยกทางการเมืองว่า เป็นความจริงของชีวิต และหยุดกล่าวหาชาวชนบทและชาวรากหญ้าว่าไร้การศึกษาเสียที พวกเขาควรหยุดตำหนินักการเมืองว่าเป็นเพียงตัวการเดียวเท่านั้นในการเมืองน้ำเน่า เช่นกัน “นายชาญวิทย์เชื่อว่า ความเห็นต่างที่ทำให้เกิดความแตกแยกกันอย่างหนักนี้ ไม่สามารถสมานรอยร้าวได้ด้วยการเอาแต่พร่ำสั่งสอน”

หลังจากนี้ จะเข้าสู่บทความของพวกคลั่งเจ้า

ศ.สตีเฟน บี ยัง ผู้อำนวยการระดับสูงของโลก ขององค์กรธรรมาภิบาลบรรษัท (Caux Round Table) กล่าวว่า “ประชาธิปไตยจะได้ผลดี ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กำหนดด้วยกฎหมาย และระบบศาลที่มีความยุติธรรม” จากประวัติโดยย่อของ ศ.สตีเฟนในนิวแมนดาลา เราได้ทำการตรวจสอบและพบว่ารายละเอียดยังไม่ถูกต้อง

ศ.สตีเฟน ยัง เชื่อว่า “นิติศาสตร์ของไทยมีมาตราฐานในการใช้ตัดสินการกระทำของผู้นำและผู้ปกครอง” มีการลากเอาความคิดเก่าๆเกี่ยวกับประชาธิปไตยอย่างไทยๆ โดยเขากล่าวว่า “ประชาธิปไตยอย่างไทยๆ” มีมาตราฐานคล้ายคลึงกับ “บารมีของผู้นำที่ดี ซึ่งคงไว้ด้วยความซื่อสัตย์ และความห่วงใยต่อประชาชนเต็มหัวใจ และ ทศพิธราชธรรม จริยวัตร ๑๐ ประการอันเป็นหลักธรรมของผู้นำ เช่นเดียวกับ หลักของเศรษฐกิจอย่างพอเพียงซึ่งเน้นการยึดทางสายกลาง การมองการไกล การมีเหตุมีผล เรียนรู้ที่จะช่วยตัวเอง และมีศรัทธา” นี่เรียกกันว่า “ประชาธิปไตยอย่างไทยๆ”

ศ.สตีเฟน ยัง ไม่ได้มองว่า “ประเทศไทยในขณะนี้ ได้แตกแยกกันอย่างหนักระหว่างศักดินาและรากหญ้า” เขากล่าวว่า “มีเพียงความเห็นที่แตกต่างกันเท่านั้น ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะลงคะแนนเสียง ดูที่อีสานซิ ในต้นยุคปี ค.ศ.๑๙๗๐ เป็นอย่างไร และตอนนี้เป็นอย่างไร ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องผ่านอุปสรรคมาอย่างไร ขณะนี้มีแต่ความเจริญ และคล้ายกับกรุงเทพแล้ว” ศ.สตีเฟน ดูเหมือนไปอยู่คนละอีสาน อะไรนะ อีสานน่ะหรือที่คล้ายกรุงเทพ ขอบคุณนะที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ความเห็นเรื่องการลงคะแนนเสียงนี่ถือว่าเป็นอมตะจริงๆ ใช่ คุณลงคะแนนเสียงได้ แต่ถ้าบางคน – อย่างพวกศักดินา – ไม่ชอบล่ะ ก็คว่ำกระดานลงเสียหลายครั้ง คุณลงคะแนนเสียงได้ แต่ไม่ได้ทำให้มันแตกต่างอะไรขี้นมา

ศ.สตีเฟน ยังยืนยันความคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “ความบังอาจ” (ต่อใครล่ะ) ของ “อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่ถูกปล้นอำนาจ สำหรับประเทศไทยแล้วถือว่าเป็นเรื่องฉกรรจ์เนื่องจากทักษิณไม่ได้ “คิดอย่างคนไทย” หลักฐานจากเรื่องนี้ เป็นแบบนี้: “ผู้นำไทยคนอื่นๆที่ประสบปัญหาการเมืองในประเทศ – ปรีดี พนมยงศ์ แปลก พิบูลย์สงคราม และ ถนอม กิตติขจร – ต่างไม่มีใครต่อสู้กลับ หรือพยายามที่จะกู้อำนาจของตัวเองกลับคืนมาหลังจากออกไปใช้ชีวิตนอกประเทศ แต่ทักษิณเป็นบุคคลผู้ไม่ยอมอ่อนข้อให้”

ตรงนี้อาจจะไม่ใช่่ประวัติศาสตร์ที่ดีนัก จอมพล ป พิบูลย์สงครามหลังจากลี้ภัยแล้วไม่ได้หวนกลับมาเล่นการเมืองอีก แตกต่างจากปรีดี และ ถนอม ศ.สตีเฟน ยังทำเป็นลืมว่า ปรีดีนั้นกลับสู่ประเทศไทยหลังการลี้ภัยครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๗๕ และเขาได้หลบหนีเมื่อครั้งเกิดรัฐประหารในปี พ.ศ.๒๔๙๐ และกลับมาอีกครั้งในปี พ.ศ.๒๔๙๒ ในระหว่างที่มีความวุ่นวายครั้งใหญ่ และบินหลบหนีไปอีกครั้งในปีเดียวกัน ปรีดีใช้เวลาบั้นปลายที่เหลือในขณะลี้ภัย ทำการต่อสู้ผลักดันให้มีความเป็นประชาธิปไตยและความก้าวหน้าของประเทศไทย แน่นอน ถนอมกลับสู่ประเทศไทยด้วยสภาพพระเพิ่งบวชของวัดบวรนิเวศน์อันเป็นวัดหลวง การกลับมาของถนอมในเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ เป็นชนวนให้เกิดการประท้วงของนักศึกษาซึ่งนำไปสู่การใช้กำลังรุนแรงของฝ่ายขวาจัดที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งทั้งตำรวจและกองทัพจำนวนนับร้อยทำการสังหารหมู่ในวันที่ ๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๑๙ เกิดการทำรัฐประหารนำกองทัพกลับมา ได้บุคคลของกษัตริย์ ซึ่งขวาสุดขอบที่น่ากลัวอย่างนายธานินทร์ กรัยวิเชียรเป็นนายกรัฐมนตรี ธานินทร์ยังคงดำรงตำแหน่งองคมนตรีในปัจจุบันนี้ และเป็นที่น่าสนใจที่ว่า อดีตนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย ของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นบุคคลที่พยายามกู้ชื่อเสียงให้กับถนอม ในปี พ.ศ.๒๕๔๒

ผู้เห็นร่วมกับ ศ.สตีเฟน ยัง อย่างเห็นได้ชัด ก็ไม่พ้น ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นนักวิชการด้านกฎหมายคลั่งเจ้า ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ผู้ซึ่งเคยกล่าวว่า “แม้ว่ารัฐธรรมนูญปี พ.ศ.๒๕๕๐ จะย้ำเรื่องให้การศึกษาแก่พลเมืองและจริยธรรมทางการเมือง แต่ก็ยังไม่เพียงพอเพราะท่าทีของสังคมไทยยังคงขี้นอยู่กับระบบอาวุโส การให้ความเคารพผู้ใหญ่ยังคงเป็นเรื่องจำเป็น” แต่จากการสังเกตุ: “คุณจะเห็นได้จากผลการสำรวจความเห็นว่า ประชาชนในตัวเมืองและในกรุงเทพให้ความสำคัญต่อเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง ในขณะทีประชาชนในชนบทให้ความสำคัญต่อการเลือกตั้งมากกว่าเศรษฐกิจที่ดี ทำไมหรือ ก็เพราะชนชั้นกลางได้เข้าถึงแหล่งข้อมูล ในขณะที่ชาวชนบทต้องขี้นอยู่กับผู้แทนราษฎรของเขา เพื่อให้ได้มาซึ่ง การชลประทาน โครงสร้างระบบพื้นฐาน การศึกษา และงาน…..”

ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นพวกคลั่งเจ้าเสรีนิยม เขาต้องการดึงมวลชนชาวชนบทที่ยากจนออกจากทักษิณโดยใช้ “ยุติธรรมถ้วนหน้า” และ “การปรับปรุงระบบจัดเก็บภาษี” เป็นการแลกเปลี่ยนซึ่งอาจจะมีออกมาเรื่อยๆถ้าขืนการเมืองยังคงมีความขัดแย้งกันอย่างนี้ แต่อุดมการณ์ที่ ดร.บวรศักดิ์ส่งเสริมนี้ จะดำเนินได้อย่างไร ถ้าขาดราชวงศ์ไปเสีย สำหรับราชวงศ์แล้วไม่มีคำว่าเท่าเทียมกัน และไม่มีคำว่าภาษีสำหรับทรัพย์สินอันมหาศาลของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าสนใจว่า “เสรีนิยม” อย่าง ดร.บวรศักดิ์ จะทนต่อแรงต้านทานจากบรรดาพวกอนุรักษ์นิยมผู้ซึ่งครอบครองราชวัง และอยู่เบื้องหลังการเมืองได้แค่ไหน

ที่มาภาษาไทย liberalthai.wordpress.com


Create Date : 11 กันยายน 2552
Last Update : 11 กันยายน 2552 17:09:36 น. 7 comments
Counter : 743 Pageviews.

 
ตัวคุณมีจุดประสงค์อะไรในการเผยแพร่บทความนี้ มันเป็นประโยชน์กับตัวคุณ หรือครอบครัวคุณหรือไง


โดย: จเด็ด IP: 10.137.129.38, 202.183.146.5 วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:17:46:35 น.  

 
ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แล้วมันจะฟังใคร ต่างคนต่างใหญ่
ล้มสถาบันแล้วอย่างไร มันจะเข้าทำนองกบเลือกนายหรือไม่
อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ใช่ แต่ไม่ใช่แผ่นดิน หรือสิ่งของหรืองบประมาณของประเทศเป็นของมัน
อย่ามั่วเข้าข้างตัวเอง


โดย: สหสกหส IP: 125.26.156.186 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:8:06:01 น.  

 
คุณบวรศักดิ์ เดิมก็อยู่ฝ่ายทรัพย์สินไม่ใช่เหรอครับ ทำไมตอนนี้มาด่ากันหละ่ครับ


โดย: สหสส IP: 125.26.156.186 วันที่: 13 กันยายน 2552 เวลา:8:27:35 น.  

 
คุณจเด็ด IP: 10.137.129.38, 202.183.146.5 จุดประสงค์ในการเผยแผ่บทความก็คือ ผมไม่ยอมให้บุคคลที่คลั่งเจ้าพวกนี้เอาสถาบันมาอ้างหาผลประโยชน์ให้กับตัวเองโดยใช้เหตุผลวิบัติหัวข้ออ้างเจตนา ความเห็นใจ และเอาอำนาจบารมีมาข่ม
ทุกวันนี้ บุคคลพรรค์นี้ค่อยๆทำลายเครดิตความน่าเชื่อถือของตัวเองไปเรื่อยๆ และสักวันก็จะไม่มีใครสนใจในคำพูดหรือบทความที่คนพวกนี้เขียนอีกต่อไป
การใช้เหตุผลวิบัติถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำลายชาติอยู่ในวันนี้


โดย: ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร (spiralhead ) วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:14:02:48 น.  

 
เด็กเอ๋ยเด็ก สมัยพ่อแม่ของเราล่องเรือจากแผ่นดินแม่ หนีจากความเดือดร้อนแสนเข็ญ พ่อแม่เราเล่าเรื่องนี้สอนพวกเราด้วยน้ำตา ถึงความทุกข์ยากแสนเข็ญของแผ่นดินแม่ มาตั้งต้นชีวิตใหม่ในแผ่นดินสุวรรณภูมิอยู่ใต้ร่มบรมโพธิสมภารอย่างอบอุ่น พ่อแม่สั่งสอนว่า แผ่นดินนี้เจ้าของนี้ มีพระคุณต้องตอบแทนพระคุณด้วยการเป็นคนดี เราก็จำไว้จนขึ้นใจ มาสมัยนี้มาถึงรุ่นลูกหรือรุ่นหลาน มันกลายเป็นตัวอะไรก็ไม่รู้ หรือพ่อแม่เขาไม่เคยเอาใจใส่สั่งสอน ชอบอวดว่ามีความรู้แต่คุณธรรมไม่มี ความรู้ต้องคู่คุณธรรมนะครับ


โดย: ไทยสีทันดร สมุทรวรรษ IP: 125.26.149.46 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:16:57:20 น.  

 
คนดีในมาตรฐานของอำมาตย์ได้ถูกพิสูจน์ออกมาแล้วมันไม่ใช่คนดีจริงๆหรอกก็แค่มายาคติเท่านั้น ยกตัวอย่างที่ชัดแจ้งก็ฤาษีเขายายเที่ยงนั้นแหละ
คนที่ชอบอวด+โกหกตัวเองว่ามีคุณธรรมจริยธรรมมันน่ารังเกียจเสียยิ่งกว่าคนที่อวดว่ามีความรู้ซะอีกนะครับ
ชื่อตัวเองมีอยู่แล้วไม่ชอบมาใช้ชื่อของคนอื่นเอามาดัดแปลง คิดชื่อเองไม่เป็นก็ใช้ชื่อเก่าอย่างชื่อ กลอน ของคุณไปสิครับ


โดย: ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร (spiralhead ) วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:14:12:54 น.  

 
ไม่ว่าศาสดาใดๆของศาสนาใดๆของโลก ไม่เคยปรากฏว่าได้สอนให้คนทำชั่ว ไม่ว่าชั่วนั้นจะมากหรือน้อย ต้องมีการห้ามกระทำ มิหนำซ้ำยังจะต้องทำดีด้วย อย่างนี้ถือเป็นหลักสากล ทำไมจะต้องเบี่ยงเบนออกนอกทางศีลธรรมอย่างนั้นก็ไม่รู้ อย่างนี้มั๊งทีเขาเรียกว่า "เห็นกงจักรเป้นดอกบัว" ระวังกรรมตามทันนะครับ ตัวอย่างก็พอมีให้เห็นอยู่เป็นประจักษ์ ยกตัวอย่างของประเทศอื่นก็ได้ถ้าตัวอย่างในประเทศแสลงใจคุณไทยวรรษ เช่นประเทศได้หวัน คุณเฉินโดนคุกเข้าตลอดปี ส่วนสมาชิกของครอบครัว ก็โดนลากเข้าไปในคุกเป็นพรวน นี่เรียกว่าผลของกรรมหรือไม่ พระพุทธเจ้ายังทรงสั่งสอนเลยว่า "คนเรามีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรรเป็นที่อาศัย" ฟังแล้วน่ากลัวนะครับ กรรมมันติดตามตั้งแต่เกิดจนถึงตายเลย และยังส่งผลให้ไปเกิดในภพหน้าเสียอีก
ชอบอย่างไรก็เลือกปฏิบัติเลยนะครับ ส่วนผมขอเป็นไดโนเสาร์ตามสายตาคุณไทยวรรษดีกว่า ปลอดภัยดี


โดย: กลอนก็กลอนครับ IP: 125.26.143.81 วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:16:51:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.