ก็แค่Weblogดองๆทำเล่นไปเรื่อยแหละน่าของกรรมกรกระทู้ลงชื่อและเมล์ที่Blogนี้สำหรับผู้ที่ต้องการGmailครับ
เข้ามาแล้วกรุณาตอบแบบสอบถามว่าคุณตั้งหน้าตั้งตาเก็บเนื้อหาในBlogไหนของผมบ้างนะครับ
รับRequestรูปCGการ์ตูนไรท์ลงแผ่นแจกจ่ายครับ
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter

เข้ามาเยี่ยมแล้วรบกวนลงชื่อทักทายในBlogไหนก็ได้Blogหนึ่งพอให้ทราบว่าคุณมาเยี่ยมแล้วลงสักหน่อยนะอย่าอายครับถ้าคุณไม่ได้เป็นหัวขโมยเนื้อหาBlog(Pirate)โจทก์หรือStalker

ความเป็นกลางไม่มีในโลก มีแต่ความเป็นธรรมเท่านั้นเราจะไม่ยอมให้คนที่มีตรรกะการมองความชั่วของ มนุษย์บกพร่อง ดีใส่ตัวชั่วใส่คนอื่น กระทำสองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติได้ครองบ้านเมือง ใครก็ตามที่บังอาจทำรัฐประหารถ้าไม่กลัวเศรษฐกิจจะถอยหลังหรือประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ได้เจอกับมวลมหาประชาชนที่ท้องสนามหลวงแน่นอน

มีรัฐประหารเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ขอให้มวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน จงไปชุมนุมพร้อมกันที่ท้องสนามหลวงทันที

พรรคการเมืองนะอยากยุบก็ยุบไปเลย แต่ึอำมาตย์ทั้งหลายเอ็งไม่มีวันยุบพรรคในหัวใจรากหญ้ามวลมหาประชาชนได้หรอก เสียงนี้ของเราจะไม่มีวันให้พรรคแมลงสาปเน่าๆไปตลอดชาติ
เขตอภัยทาน ที่นี่ไม่มีการตบ,ฆ่าตัดตอนหรือรังแกเกรียนในBlogแต่อย่างใดทั้งสิ้น
อยากจะป่วนโดยไม่มีสาระมรรคผลปัญญาอะไรก็เชิญตามสบาย(ยกเว้นSpamไวรัสโฆษณา มาเมื่อไหร่ฆ่าตัดตอนสถานเดียว)
รณรงค์ไม่ใช้ภาษาวิบัติในโลกinternetทั้งในWeblog,Webboard,กระทู้,ChatหรือMSN ถ้าเจออาจมีลบขึ้นอยู่กับอารมณ์ของBlogger
ยกเว้นถ้าอยากจะโชว์โง่หรือโชว์เกรียน เรายินดีคงข้อความนั้นเพื่อประจานตัวตนของโพสต์นั้นๆ ฮา...

ถึงอีแอบที่มาเนียนโพสต์โดยอ้างสถาบันทุกท่าน
อยากด่าใครกรุณาว่ากันมาตรงๆและอย่าได้ใช้เหตุผลวิบัติประเภทอ้างเจตนาหรือความเห็นใจ
ไปจนถึงเบี่ยงเบนประเด็นไปในเรื่องความจงรักภักดีต่อสถาบันฯเป็นอันขาด

เพราะการทำเช่นนี้รังแต่จะทำให้สถาบันฯเกิดความเสียหายซะเอง ผมขอร้องในฐานะที่เป็นRotational Royalistคนหนึ่งนะครับ
มิใช่Ultra Royalistเหมือนกับอีแอบทั้งหลายทุกท่าน

หยุดทำร้ายประเทศไทย หยุดใช้ตรรกะวิบัติ รณรงค์ต่อต้านการใช้ตรรกะวิบัติทุกชนิด แน่นอนความรุนแรงก็ต้องห้ามด้วยและหยุดส่งเสริมความรุนแรงทุกชนิดไม่ว่าทางตรงทางอ้อมทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะพวกสีขี้,สื่อเน่าๆ,พรรคกะจั๊ว,และอำมาตย์ที่หากินกับคนที่รู้ว่าใครต้องหยุดปากพล่อยสุมไฟ ไม่ใช่มาทำเฉพาะเสื้อแดงเท่านั้นและห้ามดัดจริต


ใครมีอะไรอยากบ่น ก่นด่า ทักทาย เชลียร์ เยินยอ ไล่เบี๊ย เอาเรื่อง คิดบัญชี กรรมกรกระทู้(ยกเว้นSpamโฆษณาตัดแปะรำพึงรำพัน) เชิญได้ที่ My BoardในMy-IDของกรรมกรที่เว็ปเด็กดีดอทคอมนะครับ


Weblogแห่งนี้อัพแบบรายสะดวกเน้นหนักในเรื่องข้อมูลสาระใช้ประโยชน์ได้ในระยะยาว ไม่ตามกระแส ไม่หวังปั่นยอดผู้เข้าชม
สำหรับขาจรที่นานๆเข้ามาเยี่ยมสักที Blogที่อัพเดตบ่อยสุดคือBlogในกลุ่มการเมือง
กลุ่มหิ้งชั้นการ์ตูนหัวข้อรายชื่อการ์ตูนออกใหม่รายเดือนในไทย
และรายชื่อการ์ตูนออกใหม่ที่ญี่ปุ่นในตอนนี้

ช่วงที่มีงานมหกรรมและสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประจำครึ่งปี(ทวิมาส)จะมีการอัพเดตBlogในกลุ่มห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญา
และหิ้งชั้นการ์ตูนของกรรมกรกระทู้


Hall of Shame กรรมกรมีความภูมิใจที่ต้องขอประกาศหน้าหัวนี่ว่า บุคคลผู้มีนามว่า ปากกาสีน้ำ......เงิน หรือ กลอน เป็นขาประจำWeblogแห่งนี้ที่เสพติดBlogการเมืองและใช้เหตุวิบัติอ้างเจตนาในความเกลียดชังแม้วเหลี่ยมและความเห็นใจในสถาบัน เบี่ยงประเด็นในการแสดงความเห็นเป็นนิจ ขยันขันแข็งแบบนี้เราจึงขอขึ้นทะเบียนเขาคนนี้ในหอเกรียนติคุณมา ณ ที่นี้ จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

Group Blog
นิยายดองแต่งแล่นบันทึกการเดินทางของกรรมกรกระทู้คำทักทายกับสมุดเยี่ยมพงศาวดารมหาอาณาจักรบอร์ดพันทิพย์สาระ(แนว)วงการการ์ตูนมารยาทในสังคมออนไลน์ที่ควรรู้แจกCDพระไตรปิฎกฟรีรวมเนื้อเพลงดีๆจากดีเจกรรมกรกระทู้รวมแบบแผนชีวิตของกรรมกรกระทู้ชั้นหิ้งการ์ตูนของกรรมกรกระทู้ภัยมืดของโลกออนไลน์เรื่องเล่าในโอกาสพิเศษห้องสมุดรวมสาระอุดมปัญญาของกรรมกรกระทู้กิจกรรมของกรรมกรกระทู้กับInternetคุ้ยลึกวงการบันเทิงโทรทัศน์ตำราพิชัยสงครามซุนวูแฟนพันธ์กูเกิ้ลหน้าสารบัญคลังเก็บรูปกล่องปีศาจ(ขอPasswordได้ที่หลังไมค์)ลูกเล่นเก็บตกจากเน็ตสาระเบ็ดเตล็ดรู้จักกับงานเทคนิคการแพทย์ของกรรมกรรวมภาพถ่ายโดยช่างภาพกรรมกรรวมกระทู้ดีๆการเมือง1กรรมกรกับโรคAspergerรวมกระทู้ดีๆการเมือง2ความเลวของสื่อความเลวของพรรคประชาธิปัตย์ความเลวของอำมาตย์ศักดินาข้อมูลลับส่วนตัวกรรมกรที่ไม่สามารถเผยได้ในการทั่วไปข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายรวมบทความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงินเจาะฐานการเมืองท้องถิ่น

ถึงผู้ที่ต้องการขอpasswordกล่ิองปีศาจหรือFollowing Userใต้ดินเพื่อติดตามข่าวการอัพเดตกล่องปีศาจและดูpasswordมีเงื่อนไขว่ากรุณาแจ้งอายุ ระดับการศึกษาหรืออาชีพการงาน และอำเภอกับจังหวัดของภูมิลำเนาที่คุณอยู่ เป็นการแนะนำตัวท่านเองตอบแทนที่ผมก็แนะนำตัวเองในBlogไปแล้วมากมายกว่าเยอะ อีกทั้งยังเก็บรายชื่อผู้เข้ามาเยี่ยมGroup Blogนี้ไปด้วย
ถ้าอยากให้คำร้องขอpasswordหรือการFollowing Userใต้ดินผ่านการอนุมัติขอให้อ่านBlogข้างล่างนี่นะครับ
ข้อแนะนำการเขียนProfileส่วนตัว

อยากติดตั้งแถบโฆษณาแนวนอน ณ ที่ตรงนี้จังเลยพับผ่าสิเมื่อไหร่มันจะยอมให้ใช้Script Codeได้นะเนี่ย เพราะคลิกโฆษณาที่ได้มาตอนนี้ได้มาจากWeblogของผมที่Exteen.comซึ่งทำได้2-4คลิกมากกว่าที่นี่ซึ่งทำได้แค่0-1คลิกซะอีก ทั้งๆที่ยอดUIPที่นี่เฉลี่ยที่400กว่าแต่ของExteenทำได้ที่200UIP ไม่ยุติธรรมเลยวุ้ยน่าย้ายฐานจริงๆพับผ่า
เนื่องจากพี่ชายของกรรมกรแนะนำW​eb Ensogoซึ่งเป็นWebขายDeal Promotion Onlineสุดพิเศษ ซึ่งมีอาหารและของน่าสนใจราคาถูกสุดพิเศษให้ได้เลือกกัน ใครสนใจก็เชิญเข้ามาลองชมดูได้ม​ีของแบบไหนที่คุณสนใจบ้าง
ซีรีย์NGOsที่รักภาคพิสดาร(8):ขุดรากเหง้าภาคประชาชนจาก สกย.อ.ถึงสมัชชาคนจน2

โดย คุณรักเอ็นโตดี ห่วงประชาชน
21 กุมภาพันธ์ 2553

ไอ้โครงสร้างใหม่ของ สกย.อ. นั้น ได้แบ่งองค์กรบริหารออกเป็น 6 เขต คือ สกย.อ. เขต 1 มี ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม, เขต 2 มี ร้อยเอ็ด มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ , เขต 3 มี กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม , เขต 4 มี เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย เขต 5 สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี, เขต 6 นครราชสีมา บุรีรัมย์...

ในแต่ละเขตมี กรรมการระดับสูง 2 คน...คนแรกเป็น “เลขาธิการประจำเขต” ส่วนอีกคนเป็น “ผู้ประสานงานประจำเขต” ...ด้วยเหตุดังนั้น การจัดรูปขบวนของ สกย.อ. จึงมีกรรมการ 2 ชุด คือ ชุดแรกเรียกว่า “คณะกรรมการกลาง สกย.อ.” มีจำนวน 7 คน (เลขาธิการประจำเขต 6 คน และ เลขาธิการ สกย.อ. อีก 1 คน) คณะกรรมการชุดนี้มีอำนาจเต็มในนาม สกย.อ....

ส่วนกรรมการอีกชุดหนึ่งเรียกว่า “สำนักงานคณะกรรมการ สกย.อ” อันประกอบด้วยกรรมการและเจ้าหน้าที่รวม 8 คน (เลขาธิการ สกย.อ. 1 คน, ผู้ประสานงานประจำเขต 6 คน และหัวหน้าสำนักงาน สกย.อ. อีก 1 คน)...แหมออกแบบโครงสร้างแบบนี้คุ้น ๆ ยังกับระบบ “กรมการเมือง” กะ “สำนักเลขาธิการใหญ่” ของ พคท. เลยว่ามั้ย “สหายใหม่”!!!....

และส่วนที่สำมะคัญก็คือ ตำแหน่ง “หัวหน้าสำนักงาน สกย.อ.” ก็ได้นี่เลยดีหนึ่งประเภทหนึ่ง... “เจ๊ตุ๊ก”-สมศิริ วงศ์วินัย บัณฑิตวิชาเอกอังกฤษ จาก มศว.ประสานมิตร และเป็นอดีตสหายร่วมรบเขตงานอีสานใต้...และที่สำมะคัญเป็น “ภรรเมีย” ของ “เฒ่าขี้ดื้อ” อีกตะหาก ส่วน เฒ่าขี้ดื้อ ก็กินตำแหน่ง “ผู้ประสานงานสกย.อ.” อีกด้วย...อย่างเงี๊ยะแล้ว “แก๊งส์ 4 เกลอ” จะสู้งัยไหวว่ะ...ฮา ฮา ฮา...

หลังจากนั้นการออกแบบบัญชาการรบ ก็ล้วนมาจากสองสามีภรรยาเป็นด้านหลัก...แถมช่วงหลัง “เจ๊ตุ๊ก” ก็ทำแสบ ไปเอานี่เลย “สายน้ำ ตรัสกมล” ซึ่งเป็นน้องชายแท้ ๆ ของตัวเองมาทำงานในสำนักงานอีก...ก็เลยโดนด่าเละหละทีนี้ แต่ไม่เป็นไรอะนะ เพราะรุ่นเจ๊ตุ๊กเนี๊ยะ “กระเบื้องตราช้าง” ยังเรียกพี่อะนะ...ฮา ฮา ฮา

ขอรวบรัดตัดตอนอีกสักครั้ง...การเคลื่อนไหวของ สกย.อ. ยุคใหม่ นับตั้งแต่ปี 2536 ถึง 2538 เป็นช่วงเวลา 3 ปี การต่อสู้ของ สกย.อ. จบลงที่รัฐบาลรับปากว่าจะแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้อง แต่หลังการชุมนุมเกือบจะไม่มีการแก้ไขปัญหาที่สำคัญตามที่ได้สัญญาไว้...จนเกิดคำถามขึ้นกับ สกย.อ. ว่า ควรจะดำเนินยุทธศาสตร์เดิมต่อไป หรือ จะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธการต่อสู้ใหม่ ?...

คำถามนี้นำมาสู่การความเห็นที่แตกต่างของผู้นำ สกย.อ. ฝ่ายแรก นำโดย เลขาธิการ สกย.อ.-บำรุง คะโยธา และคณะ เห็นว่า ต้องใช้ยุทธวิธีกดดันทางการเมืองต่อไป เพราะเป็นวิธีสร้างอำนาจต่อรองแต่เพียงวิธีเดียวของเกษตรกร การกดดันในอดีตที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เพราะยังไม่มีกำลังคนมากพอ จึงต้องเพิ่มพลังในการกดดันให้มากขึ้น...

ฝ่ายสอง นำโดย ผู้ประสานงาน สกย.อ.-นคร ศรีวิพัฒน์ เห็นว่า ต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการเคลื่อนไหว การใช้วิธีประท้วงกดดันเพียงอย่างเดียว จะทำให้ สกย.อ. ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม และการประท้วงอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความสิ้นเปลืองและสมาชิกอ่อนล้า จำต้องใช้วิธีแก้ปัญหาโดยผ่านการเจรจาล็อบบี้...

นี่คือ เหตุผลอีกประการหนึ่ง นอกเหนือจากเหตุผลที่ว่า โครงสร้างของ สกย.อ. มีลักษณะรวมศูนย์อำนาจแนวดิ่ง...ที่ทำให้ “แก๊งส์ 4 เกลอ” และ “เด็ก ๆ” พากันยกทีมไปสร้าง “สมัชชาคนจน” -สคจ. ในเวลาต่อมา...เพราะข้อโต้แย้งดังกล่าวจบลงด้วย “เสียงข้างมาก” สนับสนุนการปรับเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ขององค์กร...ก็จะไม่ให้เป็นไปตามนั้นได้งัย...ก็ทั้งผู้นำ ทั้งมวลชนสมาชิกได้ถูก “เฒ่าขี้ดื้อ” กุมสภาพไว้ได้หมดแล้วนะซิ...

...การต่อสู้ทางความคิดดังกล่าว ทำให้ “แก๊งส์ 4 เกลอ” ได้แยกตัวไปก่อตั้ง “สมัชชาคนจน” (สคจ.) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2538 และดำเนินยุทธศาสตร์การต่อสู้กดดันโดยการชุมนุมใหญ่ยืดเยื้อต่อไป...(...ไอ้ข้อเท็จจริงของการแยกตัวไปจัดตั้ง สคจ. นั้น ลึก ๆ แล้ว แมร่งมาจากปัญหาการแย่งชิง “การนำ” อะนะ...เนื่องเพราะฝ่ายข้าง “เฒ่าขี้ดื้อ” อาศัยโครงสร้างใหม่เป็นเครื่องมือในการจัดตั้งสมาชิกเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ทำให้พี่เค้ากุมสภาพมวลชนไว้ได้หมด...ข้างส่วน “เสี่ยโย” “เสี่ยสังข์” “เสี่ยเพิก” “เสี่ยจู๋” มัวแต่งมโข่งอยู่กะการให้สัมภาษณ์นักข่าวสาวขาวอวบอยู่นั่นแหละ...พอเหลียวหลังมาอีกที อ้าวว่ะ...บักขี้ดื้อ มันรวบอำนาจใส่หน้าอกมันผู้เดียวว่ะ... “เสี่ยเพิก” กะ “เสี่ยจู๋” ในฐานะ “เสนาธิการ” สองนักคิดคนสำคัญก็วิเคราะห์สถานการณ์พร้อมกับ “เป่าหู” พรวด ๆ ให้ “เสี่ยโย” “เสี่ยสัง” ฟังทุกวันว่า...ไอ้ห่าโย ไอ้ห่าสัง บักนคร มันซิมาโค่นล้มเจ้าเด้อ!!! เพือกเองต้องหาทางเล่นมันก่อน เนี๊ยะไอ้โย กำลังจะหมดวาระเลขาธิการพอดี เอ้า เพือกเฮาต้องช่วยกันดันก้นไอ้สังขึ้นเป็นว่ะงานนี้ว่ะ...

(...ข้อเท็จจริง มีการคุยกัน และตกลงกันภายในแล้วว่า พอ “เสี่ยโย” หมดวาระลงก็จะดันก้น “เสี่ยสัง” ขึ้นสวาปามตำแหน่ง “เลขาธิการ สกย.อ.” คนต่อไป...แต่ปรากฏว่า เฒ่าขี้ดื้อ ก็ขี้ดื้อสมชื่อ คือ ไม่ยอมท่าเดียว และคิดจะขึ้นเป็น “เลขาธิการ” เองอยู่แว๊ว...ไอ้เหี้ยเรื่องอะไรกรูจะยอมว่ะ กรูเตรียมการเป็น “เลขาธิการ” มาเป็นเวลานานแว๊ววว์ในการยึดอำนาจช่วงชิง “การนำ” มาเป็นของกรู อยู่ ๆ จะให้ไอ้สังเด็กเมื่อวานซืนมาเป็น เลขาธิการ คนใหม่ แมร่งต้องข้ามศพกรูไปก่อนว้อย...

...และนี่เลย ทางด้าน “เสี่ยจู๋” ก็มีสายสัมพันธ์อันดีอยู่แล้วกับ “เหี้ยมป๋า”-สมภพ บุนนาค รวมทั้ง “เปี๊ยก แมวเหมียว” ก็ทำหน้าที่ประสานงานเคลียร์คนเข้าร่วมก่อตั้ง สคจ. อะนะ...อย่ากระนั้นเลย ไอ้นคร แมร่งมันกะเล่น พี่เปี๊ยก ยาวเลยอะนะ เห็นมั๊ยมันอาศัยโครงสร้าง สกย.อ.ใหม่มาคุมการนำมวลชนหมดแล้ว พี่เปี๊ยก แมวเหมียวเอ๋ย พี่เปี๊ยกต้องนำ “เครือข่าย” มวลชนทุกที่เข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน มาก่อตั้ง “สมัชชาคนจน” นะพี่เปี๊ยกนะ...เออว่ะ ข้าฯก็เฝ้ามองและหมั่นไส้ไอ้นครมานาน แมร่ง มันจะมาแย่งตำแหน่ง “ประธานใหญ่อีสาน” ไปจากอ้อมอกกรู แมร่ง เคลื่อนไหวแนวซ้ายตลอด เพือกมันไม่เคยเคารพกรู ไม่เคยเชื่อ แนวทางวัฒนธรรมชุมชน ยั่งยืน พอเพียง หวานแหวว ของกรูเล้ย...เปี๊ยก แมวเหมียว พูดพลางผงกหัวพลาง...งานนี้กรูเอาด้วยกะเพือกมรึงว่ะ...(...ในส่วน “เสี่ยจู๋” พี่เค้าเองก็ได้พา “เครือข่ายสลัม 4 ภาค” เข้าร่วมจัดตั้ง สคจ. ด้วย...อันเป็น 1 ใน อีก 10 เครือข่ายที่ร่วมก่อตั้งและเป็นสมาชิกของ สคจ.อะนะ...)

กล่าวอย่างสั้น... “สมัชชาคน” หรือ สคจ. มียุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการต่อสู้ที่ “แตกต่าง” ไปจาก สกย.อ. กล่าวคือ สคจ. ไม่เชื่อว่า แนวทางการเจรจา แบบ สกย.อ. จะแก้ปัญหาเกษตรกรได้ และ สคจ. สรุปบทเรียนว่า การกดดันของ สกย.อ. ในอดีตล้มเหลวเพราะพลังในการกดดันไม่มากพอ ดัวยเหตุดังนั้น ต้องเพิ่มพลังในการกดดันโดยเพิ่มปริมาณของผู้ชุมนุมและช่วงเวลาในการกดดัน และใช้การจัดชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางอำนาจรัฐแทนการชุมนุมต่างจังหวัดแบบที่ สกย.อ. เคยทำมา

เป้าหมายของการชุมนุมใหญ่ของ สคจ. จะต้องยืดเยื้อ กดดันรัฐบาลให้มีการแก้ปัญหาให้เสร็จสิ้นจึงยุติการชุมนุม...จึงเป็นที่มาของการจัดการชุมนุมครั้งสำคัญในปี 2540 เป็นเวลา 99 วัน ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 20,000 คนอะนะ...

(...ผลการชุมนุมใหญ่ครั้งกระโน้นก็ได้มาซึ่ง “คณะกรรมการ” หลายชุดอะนะ...แต่ที่เจ๋งสุด ๆ ก็คือ ได้งบประมาณติดปลายนวมมา 400 กว่าล้านบาทอะนะ...อ้าว...ก็งบประมาณที่เพือกเค้า เอามาทำ “เกษตรหลงทาง” เอ้ย! “เกษตรทางเลือก” และเป็นที่มาของ “โครงการเกษตรกรรมทางเลือกภูมินิเวศน์” อันโด่งดังงัย...

และนำมาสู่การก่อตั้ง “มูลนิธิเกษตรกรรมการยั่งยืน” (ประเทศไทย) ซึ่งทำให้ “เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก” มีตัวตนและที่อยู่ที่ยืนในแวดวง “เอ็นโตดีโลก” และสอดคล้องกะทฤษฎีใหม่ “เศรษฐกิจพอเพียง” ของพระองค์ท่าน...อย่างไรก็ดี พอเงินทุนก้อนนี้หมด เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ก็ค่อย ๆ พากัน “เลือกทาง” อะนะ...กล่าวคือ...ทางใครก็ทางมัน)

...นี่เลย “เสี่ยต้อย”-สุเมธ ปานจำลองเสี่ยบล”-อุบล อยู่หว้า ก็ถอยออกห่างจาก “ดอนแดง” ถอยออกห่างจาก “เปี๊ยก แมวเหมียว” รวมถึง “กป.อพช.อีสาน” โดยสิ้นเชิง!!!...

และ“เสี่ยต้อย” ก็หันมาจูบปากกะ...นี่เลย “แหล่งทุนหน้าโง่”-พอช.อีสาน มีการอนุมัติงบประมาณสนับสนุน เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน เป็นระลอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งงาน “อีเวร-event” ตามกระแส ทั้งโครงการปกติอะนะ...ก็เลี้ยงดูปูเตียงกันไปอะนะ...

อย่าง ปี 2551-52 เนียะ พอช.อีสาน ก็อนุมัติเงินให้ไป 6 ล้านบาท

ปี 25523-53 ก็ให้ไปอีก 3 ล้านกว่าบาท เหนาะ ๆ อุไรวรรณ ๆ ๆ...

ข้างฝ่าย พอช.อีสาน แมร่งมันจะ “โง่” จริง ๆ หรือว่า “แกล้งโง่” กรูก็เดาไม่ถูกอะนะ เพราะเครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกอีสาน เนียะนะ...พี่เค้า แมร่ง หาเงินเก่งบรรลัยเลยว่ะ ไม่ว่าจะเป็น “แหล่งทุนหน้าโง่” อะไร ? ทั้ง พอช. สสส. สกว....โหย ได้เงินมาทุกปีอะนะ...

ยังไม่พอนะ...เงินที่หลอกแดก “แหล่งทุนหน้าโง่” ทั้งหลายทั้งปวงมานั้น...วันดีคืนดีก็เอาเงินนั่นแหละ “เหมารถ” พาบรรดาแกนนำ สมาชิกเครือข่ายฯ ไปสนับสนุนเพือก “เหี้ยมหางเหลือง” ทำตัวเป็น “ลูกกะโปกไอ้เหี้ยมลิ้มโกเต็กซ์”...แถมยังมีข่าวรายงานมาว่า บรรดาผู้นำเครือข่ายฯหลายคน ถึงกะส่งบรรดา “ลูก ๆ “ ของตนเอง ไปทำงานรับใช้ใกล้ชิด"ลิ้มโกเต๊กซ์”...และยังเสือกมาโพนทะนาว่า...ลูก ๆ เพือกกรูไปอยู่กะประมุขลิ้มเนี๊ยะดีจริงเลย กลับมาความคิดก้าวหน้าขึ้นกว่าอยู่กะเพือกเราเยอะเลยว่ะ

...อพิโถ อภิถัง ไอ้เพือก “สุนัขรับประทานไอคิว” เอ้ย!!!....ไม่เชื่อก็ลองไปถามนี่เลย “เสี่ยอุบล” เค้าดู...ช่างเหี้ยมเจง ๆ ...รีบ ๆ เอาลูกหลานกลับมาซะ ก่อนที่มันจะเสียคนไปมากกว่านี้...

จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองจาก ปี 2548 – ปัจจุบัน ดู ๆ แล้ว “แนวทางการเมือง” ของ สคจ. ก็ไม่ชัดเจน คลุมเครือมาโดยตลอด หากใช้ภาษากรูก็ต้องจัดเพือกมันส์ไว้ในประเภท “อีแอบ” อะนะ...(...ก็ “แอบเชียร์เสื้อเหลือง” แบบสุดจิตสุดใจแต่ไม่กล้าแสดงออกนอกหน้าอะนะ ก็ใช้วิธี “แทงกั๊ก” ตลอดเวลา...ผู้นำบางคนก็ “แดงแจ๋” แต่ไม่กล้าหืออือกะท่าน “ที่ปรึกษา” และ “พ่อครัวใหญ่” ...ก็ออกแนวทางกลาง ๆ “รัฐธรรมนูญกินได้” “การเมืองกินได้” ไปนู้น...สมควรแล้วที่ “ไอ้หวัง” มันด่าเอาในงานศพครบรอบ 100 วัน ของ “ปุ๋ย” ที่ “ราษีไศล” ...)

พอเพือก “แก๊งส์ 4 เกลอ” แยกตัวออกไปจาก สกย.อ. ไปจัดตั้ง สคจ. และแน่นอนที่สุด เพือกมันก็ก็ต้องกล่อมบรรดา “เด็ก ๆ” ไปใช้สอยด้วย และรวมทั้งเด็ก ๆ ที่ใกล้ชิด “เฒ่าขี้ดื้อ” ที่ช่วงหลังไม่ค่อยเห็นด้วยกะการทำงานลักษณะปิดลับ ใต้ดิน บนดิน ในรู ในส้วม แบบบ สหาย พคท. อะนะ ก็ไปอยู่กะ สคจ. กันหลายคน อาทิ บารมี, น้อย, ไท, ต๋อม, โป๊ะ, ปุ๋ย, ไผ่, หมี, ปราโมทย์, ทอม ฯลฯ...และเพือกที่ว่าเนียะก็คือ กำลังสำคัญของ สคจ. โดยมีตำแหน่งเป็น “ที่ปรึกษา” โก้หรูไปเลยว่ะ...

นัยว่า ตามโครงสร้างองค์กรของ สคจ. นั้น...ว่ากันว่า เป็นแบบ เครือข่าย หลวม ๆ แนวลาบแนวก้อย เอ้ย แนวราบ อะนะ...

กระนั้นก็ดี...วันดีคืนดีกรูก็เห็นเพือกแมร่ง “ผู้นำ สคจ.” แว๊บบบ์ ๆ ๆ อยู่บนเวทีพันธมารฯ แถว ๆ ทำเนียบ...มองไปมองมาก็เห็นนี่เลย “ไอ้เหี้ยมบารมี” อยู่หลังเวทีพันธมารฯ แถว ๆ สนามหลวงแว๊บบบ ๆ ๆ อะนะ (...สงกะสัย “ไอ้เหี้ยมบารมี” กลัวตกขบวนรถไฟ หรือ ไม่ก็กลัวตกหล่นไม่มีชื่ออยู่ในฝ่ายก้าวหน้าที่ร่วมส่วนอยู่ในเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยกระมัง...เอ้ หรือว่าพี่เค้าต้องการสะสม “แต้ม” เพื่อเสนอความดีความชอบไปรับ “เครื่องราช” จะได้ขยับเข้าไปใกล้ ๆ รั้วใกล้วังเหมีอน “เจ้าคุณสอ” ลูกพี่ใหญ่ของมันว่ะ...ไอ้เพือก “เอ็นโตดีโลก” ที่จ้องอยากได้ “เครื่องราชฯ” เนี่ยะอะนะ...กรูขอตั้ง “ฉายา” ให้เพือกเมริงใหม่ละกัลล์ว่า เพือก “NGOs บรรณาการ” (...ความหมายของ “เอ็นโตดีบรรณาการ” กรูขอยกไปอธิบายใน ตอนหน้า กรูละเหนื่อยกะเพือกเหี้ยมเนี๊ยะเจง ๆ ว่ะ!!!...) ฮ่า ฮ่า ฮ่า เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก อิ อิ อิ ก๊าก ก๊าก ก๊าก !!!...

แม้กระนั้น...กรูก็ต้องยอมก้มหัวให้กะ “คุณูปการ” ที่ สคจ. ได้สร้าง “ผลสะเทือน” ด้านบวกไว้กะสังคมไทยเยอะแยะอะนะ...อย่างน้อย “คนจน” “คนเล็กคนน้อย” (คำของเพือกมัน...) ก็ได้มีที่อยู่ที่ยืนในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรีขึ้นมาหน่อยหนึ่งว่ะ...แต่อนิจจา สังขารไม่เที่ยงแท้ สคจ. ในวันนี้ต้องประสบปัญหากะผู้นำคนสำคัญ ๆ มาเสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ “เสี่ยจู๋” “เจ๊มด”-วนิดา ตันติฯ “ปุ๋ย” ทำให้สถานการณ์ภายในของ สคจ. ไม่สู้จะดีนัก...

สำนักข่าวผ้าปูเตียง รายงานมาว่า เฉพาะที่ “เขื่อนปากมูล” เนียะ พอสิ้นบุญ “เจ๊มด”กับ “ปุ๋ย” นี่เลย... “ไอ้เหี้ยมป้าย”-ไพจิตร ศิลารักษ์ เจ้าของฉายาที่ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย คือ “อยู่ที่ไหนหัวหน้าตายหมด” เข้าไปกุมสภาพแกนนำไว้หมดแล้ว แถมยังไม่พอเสือกไปกุม “สภาพ” ของ “ผู้ปฏิบัติงานสาว” เอาทำเป็น “กิ๊ก” ซะอีก...สำนักข่าวผ้าปูเตียง ยังบอกอีกว่า งานนี้ “ไอ้เหี้ยมบารมี” เคืองมั้ก ๆ (...จะไม่ให้พี่เค้าเคืองได้ยังงัย ก็ไอ้ป้าย เล่นประกาศไม่ยอมให้พี่เค้าเข้าพื้นที่อะนะ...ฮา ฮา ฮา...เอ้าเร็วเข้า ท่านผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ร่วมก่อตั้ง สคจ. “ที่ปรึกษา” “พ่อครัวใหญ่” ไม่ว่าจะเป็น จารย์สุธี, จารย์ตุ๊ รีบ ๆ “เคลียร์” หน่อย...กำลังคนของ สคจ. ยิ่งร่อยหรอลงทุกวัน ๆ ...)

ว่ากันว่า ก่อนหน้านี้ก็เริ่มมีการค่อย ๆ แยกตัวของเครือข่ายสมาชิกสำคัญ ๆ อย่างเงียบ ๆ จาก สคจ. ไปหลายเครือข่ายอะนะ...อย่างในอีสาน “เครือข่ายปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน” (คปท.อีสาน) ก็ได้แยกตัวออกหางจาก สคจ. มาระยะหนึ่งแล้ว นำโดย “เสี่ยโมทย์”-ปราโมทย์ ผลภิญโญ จับมือกะ “เสี่ยแดน ดอนกุลา” มาทำวิจัยที่ดินกะ สกว. ภายใต้การนำของ “จารย์วารินทร์ วงศ์หาญเชาว์” (เสียชีวิตแล้ว) และได้ก่อตั้ง “ศูนย์ศึกษานิเวศน์ชุมชน” (ศนช.) ขึ้น ที่ อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ

และ “เสี่ยโมทย์” ก็ไปจับมือกะมิตรสหายทั่วประเทศ เช่น ภาคเหนือ มี โป๊ะ, มิว, สรรค์, เอก, เป็ด ภาคใต้ มี แก้ว, เอก, จ้อน และส่วนกลาง มี ป้อม...ซึ่งส่วนใหญ่ก็ คือ “ที่ปรึกษา” และ “พ่อครัวใหญ่” เดิมของ สคจ. นะแหละ เพือกเค้าได้ประกาศจัดตั้ง “เครือข่ายปฎิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย” (คปท.) และได้งบประมาณสนับสนุนจาก “แหล่งทุนหน้าโง่”-พอช.อีสาน ในการเคลื่อนไหวแนวทางปฏิรูปที่ดิน โดยอาศัยเงื่อนไขนโยบายของรัฐบาลยุคปัจจุบัน “โฉนดชุมชน” เป็นเครื่องมือในการ “ออแกไนซ์” ชาวบ้านอะนะ...

งานนี้เล่นเอาพี่เค้า “ไอ้เหี้ยมบารมี” โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง...แมร่ง สคจ. คนแมร่งยิ่งไม่มีอยู่ เสือกพากันแยกตัวตีห่างไปอีก แล้วกรูจะอยู่ยังงัยละที่นี้...อ้าว พี่บารมีขา พี่ก็อยู่กะ “สวาท” “อุทัย” ไปสามคนพลาง ๆ ก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวลูกพี่อีกคน “ชัยพันธ์” คงให้อภัยกันได้ แล้วค่อย ๆ กับมาก่อรูปขบวนแถวกันใหม่ละกัน ฮา ฮา ฮา...

แมร่งมรึงเคยทำมั้ย และทำเป็นมั้ย “งานแนวร่วม” หาเพื่อนมิตรนะ หรือ ถนัดแต่งานสร้าง “ศัตรู” ไอ้สัดกะหมา!!!

กล่าวโดยสรุป ภายหลังที่ “เฒ่าขี้ดื้อ” ได้รับเลืกเป็น “เลขาธิการ” สกย.อ. โดยเอาชนะคะแนนต่อ “เสี่ยสัง” อย่างท่วมท้นในที่ประชุมใหญ่ “สนามม้า” จ.ขอนแก่น และต่อมา “แก๊งส์ 4 เกลอ” ก็แยยกตัวไปก่อตั้ง สคจ. ตามที่อธิบายไปแล้วนั้น...ในส่วนของ สกย.อ. เองก็ใช่ว่า “เฒ่าขี้ดื้อ” จะดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น เพราะต่อมา สกย.อ. เองก็ได้ประสบเคราะห์กรรม คือ การ “แตกแยก” ภายในองค์กรครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครา...

กล่าวคือ การที่ สกย.อ. ได้เข้าร่วม “โครงการปรับโครงสร้างระบบการผลิตการเกษตร” (คปร.)-โครงการนี้เริ่มในปี 2537 อะนะ...ต่อมามีการเจรจากับรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2540 สกย.อ.ได้รับอนุมัติให้เสนอชื่อสมาชิกเข้าร่วม คปร. อีกปีหนึ่ง...

ก็ไอ้ คปร. นี่แหละที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้นำ สกย.อ. “แตก” กัน...เนื่องเพราะโครงการ คปร. มันเป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มผู้นำ สกย.อ. อะนะ...

“สำนักข่าวผ้าปูเตียง” รายงานว่า ผู้นำบางคนหักหัวคิวสมาชิกจนอ้วนพี, บางรายออกรถแบ็คโฮไว้ขุดสระน้ำให้สมาชิกจนร่ำรวย เช่น “เสี่ยคำตา”-คำตา แคนบุญจันทร์ เงี้ยะมีรถยนต์เก๋งยุโรปขับขี่เล่นเลยอะนะ...อย่ากระนั้นเลย ผู้นำเหี้ยม ๆ เพือกนี้ กรูไม่เอาไว้ทำส้นตีนดอก ไล่แมร่งออกให้หมดเลย...และ “เฒ่าขี้ดื้อ” ก็ทำตามคำพูด “ขับ” ผู้นำผลประโยชน์ออกไปจาก สกย.อ.

ซึ่งต่อมาผู้นำเหล่านั้น อาทิ คำตา แคนบุญจันทร์ และคณะ ก็ออกไปก่อตั้ง “สมัชชาเกษตรกรรายย่อย-สกย.อ. ( 2 )...แหะ ๆ เห็นหรือยังละสัด สกย.อ. เริ่มมี “วงเล็บ” แว๊ววว์...ต่อมา “เฒ่าขี้ดื้อ” ก็ปรับโครงสร้าง สกย.อ. อีกครั้ง คราวนี้ให้มี “กรรมการบริหาร” ด้วย...จำได้คลับคลายคลับคราว่า “ประธานคณะกรรมการบริหาร” ยุคแรก ๆ คือ “ลุงเคน

ต่อมาก็นี่เลย.."เหี้ยมหางเหลือง”-อวยชัย วะทา ในช่วงที่ “เสี่ยอวย” ขึ้นเป็น “ประธาน” (...แต่ตำแหน่ง “เลขาธิการ” ยังเป็นของ “เฒ่าขี้ดื้อ” อยู่อะนะ...) นี่แหละก็เกิดการ “แตก” ภายในองค์กรอีกครา.......ก็แมร่ง ไอ้อวยมันบ้าอำนาจ ลุแก่อำนาจไม่ฟังเสียงใคร แมร่งกะจะมาใหญ่กว่ากรู กรูหรือจะยอมก็ไล่แมร่งมันไปอีกคน... “เฒ่าขี้ดื้อ” ชี้แจงกะมิตรสหายเช่นนั้น!!!...ซึ่งต่อมา “เสี่ยอวย” ก็ยกพรรคเพือก เช่น ยุทธ บุญเกษ และคณะ ออกไปจาก สกย.อ. และไปก่อตั้ง “สมัชชาเกษตรกรอีสาน” (สกอ.)...

อ้าว คราวนี้ “ตัวย่อ” ไม่มีตัว “ย” แล้วอะนะ...แมร่งยุ่งฉิบหาย

...เมื่อหมดเสี้ยนหนามแล้ว การนำแบบเบ็ดเสร็จใน สกย.อ. ก็ตกเป็นของ “เฒ่าขี้ดื้อ” โดยสิ้นเชิง...ต่อมาราว ๆ เดือนพฤษภาคม 2540 สกย.อ. ก็ทำ “แนวร่วม” กับ “มูลนิธิเกษตรกรไทย” ของ “เสี่ยอโศก ประสานสอน” , “ชุมนุมสหพันธ์สหกรณ์ภาคอีสาน” (ช.สสอ.) ของ “ส.วา”-ครูสน รูปสูง” , “กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรประชาชนอีสาน” (กพอ.) ของ “กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน” และภาคีองค์กรเกษตรกรภาคอีสานอีกจำนวนหนึ่ง จัดตั้ง “คณะกรรมการองค์กรประชาชนอีสาน” (คปอ.)...(...แหะ ๆ ชื่อตัว “ย่อ” ช่างมาเหมือนกะองค์กรผู้นำชุมชนใน “คาถา” ของ “แหล่งทุนหน้าโง่”-พอช.อีสาน ในปัจจุบันที่มีชื่อว่า “คณะประสานงานองค์กรชุมชน” (คปอ.) อะนะ...ทั้ง ๆ ที่ “ประวัติศาสตร์” คนละเรื่องเดียวกัน...เอ หรือว่า ไปขโมยชื่อตัว “ย่อ” พี่เค้ามาระวังพี่เค้าเคืองเอานะ “จารย์สังคม” ฮา ฮา ฮา...)

ภาคีความร่วมมือขององค์กรประชาชนอีสานภายใต้ชื่อ คปอ. ได้ผลักดันเชิงนโยบายต่อรัฐบาลจนในเดือนตุลาคม 2542 สภาผู้แทนราษฎร ได้ผ่าน ร่าง พรบ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร และประกาศใช้ในเวลาต่อมา...ที่นี้แหละ “เฒ่าขี้ดื้อ” ก็เหมือน “คนป่าได้ปืน” อะนะ...แต่อย่างว่าอะนะปัญหาอุปสรรคมันเยอะอะนะ ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว “กองทุนสัปะรังเค” (...ภาษาของ “เสี่ยเพิก” เค้า...ไม่ใช่ของกรู อย่างเคืองกรูนาโว้ย กรูไม่เกี่ยวเจี๊ยวยังเล็ก!!!) ก็ไม่ไปหน้ามาหลังซะกะที...

อย่ากระนั้นเลย แมร่งยุ่งนักไอ้เพือกการเมือง กรูจะเป็น เลขาธิการกองทุนฯ เองวะ...ว่าแล้ว “เฒ่าขี้ดื้อ” ก็ลาออกจากตำแหน่ง “เลขาธิการ” สกย.อ. และมอบไม้ต่อให้ “ลุงยาง” เป็น “เลขาธิการ” สกย.อ. ต่อจากพี่เค้า...และแล้วพี่เค้าก็ได้รับเลือกจากคณะกรรมการสรรหาของกองทุนฯ ในตำแหน่ง “เลขาธิการ” กองทุนฯ เรียร้อยโรงเรียนเจ๊ตุ๊ก เอ้ย โรงเรียนจีน!!!..

แต่แมร่ง เหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก เสือกมี “มือดี” แต่ปาก “แหว่ง ๆ” ชื่อ “ชรินทร์ ดวงดารา” จาก “เครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย” มาเตะตัดขา และโยนเข่าเข้าลูกกะโปกซะจุกอั๊ก ๆ ไปร้องเรียนต่อ “ศาลปกครอง” และจนบัดเดี๋ยวนี้ “เฒ่าขี้ดื้อ” ยังไม่ได้นั่งบัลลังก์ทองแต่อย่างใด...ครั้นจะกลับไปนั่งในตำแหน่งเดิมที่ สกย.อ. ก็เจอนี่เลย...กรูไม่ให้เมริงอีกแว๊ววว์ ให้แล้วให้เลยโว้ย!!!...เสียงตะโกนคุ้น ๆ หูมาจากฝั่ง “ดงหลวง” ภูพาน อะนะ...ฮา ฮา ฮา

สรุปแล้วในใต้หล้านี้“ยุทธจักรบู๊ลิ้ม”เอ็นจีโอและแวดวง"ภาคประชาชน"(ตามที่เรียกๆกัน) ยังคงมีเรื่องราวอีกมากที่ผู้คนมิอาจรับรู้...และความลับจะต้องตายไปพร้อมกับ “จอมยุทธ” ...

และใน “ยุทธภพสยาม” ที่แบ่งออกเป็น 2 ค่าย คือ “ฝ่ายธรรมมะ” ที่อยู่ในด่าน!!! กับ “ฝ่ายธรรมโม๊ะ” เอ้ย “ฝ่ายอธรรม” ที่อยู่นอกด่าน!!! กำลังต่อสู้ห้ำหั่นกันแบบเอาเป็นเอาตายอยู่ในขณะนี้นั้น...บางคนเคยเป็น “เพื่อนมิตร” บางคนเคยเป็น “สหาย” เคยร่วมรบ ร่วมม็อบ นอนกลางดินกินกลางทรายมาด้วยกัน ผ่านความยากลำบาก ผ่านร้อยผ่านหนาวมาด้วยกัน...แต่แมร่งเสือกมาแตกแยกกัน กลายเป็น “ศัตรู” กันในวันนี้นั้น...

จากรายชื่อ “จอมยุทธ์” ในภาคอีสานทั้งหมดทั้งมวลนั้น...จะไม่บอกดอกว่า มันผู้ใดเป็น “เสื้อเหลือง” และมันผู้ใดเป็น “เสื้อแดง”...แต่หากจะดูว่า “ใครเปลี่ยนสีแปรธาตุ” ไปแล้วอะนะ...ขอให้พิจารณาเหตุปัจจัย 3 ประการ คือ

จุดยืนทางการเมือง หรือ จุดยืนทางชนชั้น ให้ดูว่า เค้าผู้นั้นมีจุดยืนเพื่อประชาชนหรือไม่ ? ปัญหานี้สำคัญที่สุดเพราะเป็นเรื่อง “อุดมการณ์” แก้ไขยากมาก...ปล่อยเพือกแมร่งมันไปเถอะ!!!

ปัญหาการรับรู้ ให้ดูว่า เพราะเค้าขาดข้อมูลที่รอบด้านใช่หรือไม่ ? เช่น เสพเฉพาะข้อมูลจาก ASTV. ด้านเดียว หรือ เสพเฉพาะ PTV. ด้านเดียว !!!...หากเค้ามีแค่ปัญหาการรับรู้ ก็แก้ไม่ยาก ก็เอาข้อมูลข้อเท็จจริงให้เค้าไป แล้วค่อย ๆ ดึงให้กลับมาในทางที่ถูกต้อง!!!

ปัญหาผลประโยชน์ ให้ดูว่า เค้าคนใหนไปเข้าร่วมกับฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เพราะผลประโยชน์อะไร ? เช่น เงิน, อำนาจหน้าที่, ตำแหน่งทางการเมือง ฯ ล ฯ...อันนี้ก็พอแก้ไขได้ต้องค่อย ๆ จัดการปัญหาเหล่านี้ให้กับเค้า แล้วให้การศึกษาเค้าอย่างถูกต้อง!!!

สรุปว่า ทั้งบรรดา “ผู้นำ” และมวลสมาชิก ของทั้ง 2 องค์กร ไม่ว่าจะเป็น “สกย.อ.” หรือ “สคจ.” ต่างก็ป้วนเปี้ยนอยู่ทั้ง “เสื้อเหลือง” และ “เสื้อแดง” อะนะ...ก็ให้ใช้เครืองมือ 3 ประการไป “ส่องดู” หรือ “คลำเมิงคีง” แต่ละคนเอาเองเด้อ!!!...

แต่ที่แน่เหมือนแช่แป้ง...ก็นี่เลย ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น “เทวดา” หน้าไหน ? ก็มิบังอาจสามารถทำให้ขบวนการประชาชนทั้ง 2 องค์กรดังกล่าวนี้กลับมา “คืนดี” กันได้ดอก...เพราะ “แนวทางการเมือง” มันคนละเรื่องกันไปแว๊ววว์...

โอ้หนอที่รัก...ชาตินี้เราคงรักกันลล์บ่ได้ดอก!!!...


Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2553 12:37:53 น. 0 comments
Counter : 757 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]









ผม ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร
สามัญชนคนเหมือนกัน(All normal Human)
คนจรOnline(ได้แค่ฝัน)แห่งห้วงสมุทรสีทันดร
(Online Dreaming Traveler of Sitandon Ocean)
กรรมกรกระทู้สาระ(แนว)อิสระผู้ถูกลืมแห่งโลกออนไลน์(Forgotten Free Comment Worker of Online World)
หนุ่มสันโดษ(ผู้มีชีวิตที่พอเพียง) นิสัยและความสนใจแปลกแยกในหมู่ญาติพี่น้องและคนรู้จัก (Forrest Gump of the family)
หนุ่มตาเล็กผมสั้นกระเซิงรูปไม่หล่อพ่อไม่รวย แถมโสดสนิทและอาจจะตลอดชีวิตเพราะไม่เคยสนใจผู้หญิงกะเขาเลย
บ้าในสิ่งที่เป็นแก่นสารและสาระมากกว่าบันเทิงเริงรมย์
พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆกับบันทึกในโลกออนไลน์แล้วครับ
กรุณาปรับหน้าจอเป็นขนาด1024*768เพื่อการรับชมBlog
ติดตามการเคลื่อนไหวของกรรมกรผ่านTwitter
และติดตามพูดคุยนำเสนอด้านมืดของกรรมกรผ่านTwitterอีกภาคหนึ่ง
Google


ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
ติชมแนะนำหรือขอให้เพิ่มเติมเนื้อหาWeblog กรุณาส่งข้อความส่วนตัวถึงผมโดยตรงได้ที่หลังไมค์ช่องข้างล่างนี้


รับติดต่อเฉพาะผู้ที่มีอมยิ้มเป็นตัวเป็นตนเท่านั้น ไม่รับติดต่อทางE-Mailเพื่อสวัสดิภาพการใช้Mailให้ปลอดจากSpam Mailครับ
Addชื่อผมลงในContact listของหลังไมค์
free counters



Follow me on Twitter
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ไทยวรรษ สีทันดรสมุทร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.