8 บรรทัด (งานตะพาบครั้งที่ 156)
ครูให้เขียนข้อความแปดบรรทัด
ฉันก็จัดเต็มที่เพราะอยากเขียน
อยากบอกรักคุณครูแบบเนียนเนียน
แบบนักเรียนซนเซียนให้ครูอาย

หลังจากส่งคุณครูก็ยิ้มกริ่ม
ฉันเลยปริ่มคุณครูคงมักหลาย (คงชอบมาก)
ถัดจากนั้นฉันก็หัวใจวาย
เมื่อครูบอกชอบผู้ชายนะนักเรียน...



Create Date : 04 มิถุนายน 2559
Last Update : 4 มิถุนายน 2559 11:57:46 น.
Counter : 1042 Pageviews.

30 comment
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม. 155 :: “เก็บตะวัน” เวอร์ชั่นลูกสาวของคุณอิทธิ


ถ้าหากพูดถึงคำว่า “เก็บตะวัน” แน่นอนว่าหลายๆ คนคงต้องนึกถึงเพลงของคุณอิทธิ เราเองก็เช่นกัน ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะแต่งออกมาเป็นกลอน แต่ด้วยความที่ก็แต่งกลอน และเขียนเรื่องราวอะไรจากชีวิตตัวเอง จากโจทย์งานตะพาบมาเยอะละ คราวนี้เลยขอเขียนอะไรแบบเบาๆ สบายๆ ผ่อนคลายดูบ้าง หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ แปะเพลงเป็นหลัก เราเลยนำหัวข้อนี้มาอยู่ในหมวดของเพลงออนไลน์

ซึ่งจะว่าไปเพลงเพลงนี้ก็ถูกนำมาร้องในหลายๆ เวอร์ชั่น แต่เวอร์ชั่นที่เรารู้สึกประทับใจและได้มีโอกาสดูสดๆ จากหน้าจอโทรทัศน์ก็คือเวอร์ชั่นของน้องลูกเกด ลูกสาวของคุณอิทธิ พลางกูร ในปีนั้น ปีพ.ศ.2556 กับการประกวด KPN ครั้งที่ 23 น้องลูกเกด เธออยู่ในฝั่งของสายสีน้ำเงิน คือ สายของหน้าตา (KPN ในช่วงหลังๆ ตั้งแต่ครั้งที่ 22 จะแบ่งออกเป็น 2 สาย คือ สายสีแดงและสีน้ำเงิน สายสีแดงคือเน้นเสียงร้อง สายสีน้ำเงินคือเน้นหน้าตา ลักษณะของการโชว์จะเป็นลักษณะของการแบทเทิลกัน สายไหนทำโชว์ได้ไม่ดี กรรมการไม่ประทับใจ สายนั้นจะต้องมีคนหนึ่งถูกคัดออกไปจากผลคะแนนโหวต)

ในส่วนของน้องลูกเกดนั้นเราก็ตามลุ้นอยู่นะ เป็นกำลังใจให้เธอ แต่ก็ต้องบอกว่ารุ่นของน้องลูกเกดก็ร้องดีๆ กันหลายคน

โชว์ที่เราประทับใจน้องก็คือโชว์ของเพลงเก็บตะวัน รู้สึกว่าในวีคนั้น ถ้าจำไม่ผิดคือให้น้องๆ ร้องเพลงของไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ แล้วน้องก็เลือกร้องเพลงของคุณพ่อ เพลงเก็บตะวันเพลงนี้ ซึ่งเมื่อเราได้ดูจากรายการก็รู้สึกประทับใจนะ เป็นโชว์หนึ่งที่ดีเลยล่ะ ไม่ใช่ดีธรรมดานะ คือ ดีมากๆ เพราะทางทีมงานได้มีเซอร์ไพรส์คนดูด้วยการทำให้เหมือนว่าคุณอิทธิ มาร้องประสาน มาร้องคอรัสให้กับลูก ตอนช่วงกลางๆ เพลงไปจนถึงเกือบจบ รู้สึกขนลุก ถึงตอนนั้นน้องจะโดนคอมเม้นต์จากกรรมการว่ายังร้องได้ไม่ดี ได้พ่อช่วยเอาไว้เยอะ แต่เราว่าน้องก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าคุณอิทธิได้มาดูโชว์ของลูกสาวเขาต้องภูมิใจมากแน่ๆ

วันนี้เลยขอนำเพลงเพลงนี้ในเวอร์ชั่นของลูกสาวของคุณอิทธิ พลางกูรมาฝากไว้ เพราะหาดูได้ยากจริงๆ สำหรับเพลงที่คุณพ่อซึ่งเสียชีวิตไปแล้วได้มาร้องร่วมกับลูกสาว







Cr. Youtube : เพลง เก็บตะวัน - ลูกเกด KPN (ลูกสาวของคุณอิทธิ พลางกูร)



Create Date : 20 พฤษภาคม 2559
Last Update : 20 พฤษภาคม 2559 12:47:17 น.
Counter : 2082 Pageviews.

8 comment
ฮีโร่ : โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 154


ฮีโร่สำหรับคนอื่นๆ อาจจะมีความหมายว่าคนที่โดดเข้ามาช่วยปกป้อง คุ้มครอง แต่ฮีโร่สำหรับเราแล้วคือคนที่อยู่ข้างๆ เราในวันที่เราไม่มีใคร หรือวันที่เราเจ็บปวดจากอะไรบางอย่างโดยที่เราไม่ได้เอ่ยปาก แต่เขาเข้ามาอย่างยินดี นั่นแหละ คือฮีโร่ของเราแล้ว

จริงๆ ฮีโร่ จะสัมพันธ์กับโจทย์ของคำว่าแกล้งนะ แต่โจทย์นั้นเราไม่ได้เขียน เพราะเราคิดว่ามันเป็นความทรงจำที่เราควรจะลืมๆ มัน ทั้งๆ ที่เราว่าเรื่องโดนแกล้ง คงไม่มีใครเจออย่างเราแน่นอน เจอแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์จนแทบไม่อยากไปเรียน

มีมาทุกวัน เช่น เอารองเท้านักเรียนเราไปวางไว้นอกระเบียง ล็อกกระเป๋านักเรียนเราจนเราเกือบจะเอาสมุดการบ้านหรือหนังสือออกมาเรียนไม่ได้ ต้องไปตามหากุญแจจากคนที่มีมาไข ซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยมีใครพกมาหรอก เพราะส่วนใหญ่จะไม่มีใครล็อกกระเป๋าเพราะจะต้องเปิดหยิบเอาหนังสือออกมาเรียนตลอด และที่โดนแกล้งหนักไปกว่านั้นคือโดนลูกเทนนิสเขวี้ยงมาเกือบจะโดนหน้าตอนชั่วโมงวิชาพละ

ณ นาทีนั้นไม่มีพระเอก ไม่มีฮีโร่ เพื่อนผู้ชายในห้องเราที่มีกันอยู่ไม่ถึงสิบไม่ได้มาช่วย เราก็ต้องช่วยเหลือตัวเองนั่นแหละโดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งคอยช่วยอยู่ข้างๆ เวลารองเท้าหายเขาก็ช่วยหา หรือมีอะไรมาติดที่หลังเสื้อ เขาก็ช่วยดึง หลายๆ อาจจะบอกว่าเหมือนนิยาย แต่นี่เรื่องจริงเลยล่ะ

ตอนนั้นเราเป็นเด็กใหม่ขึ้นม.4 ก็เงียบๆ ไม่ค่อยพูด เวลาใครมาทำอะไร เราก็ไม่ได้โวย นี่อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราโดนแกล้งก็ได้ เพื่อนในกลุ่มก็มีหลายคนนะ แต่คนที่อยู่ข้างๆ เราเสมอ ไปไหนด้วยกันตลอดมีอยู่คนเดียว เราก็ถือว่าเขาเป็นฮีโร่ของเรานะ เป็นฮีโร่ตัวจิ๋ว (ถ้าใครอยากเห็นรูปก็ลองเข้าไปดูในสมุดบันทึก ตอน ความทรงจำในวัยเด็ก(มัธยม) ดูก็ได้ คนตัวเล็กๆ ที่ยืนอยู่ข้างๆ คนตัวสูงๆ อย่างเรานี่แหละ คือ เพื่อนสนิทเรา)

ในขณะเดียวกันเราว่าเราก็เป็นฮีโร่สำหรับเขาเหมือนกัน เพราะเวลาเลิกเรียนเราจะต้องไปยืนส่งเขาที่ป้ายรถเมล์ และรอจนกว่าเขาจะขึ้นรถเมล์ เราถึงจะกลับบ้านได้ เพราะที่ป้ายรถเมล์ตรงนั้นมันจะเป็นป้ายรถเมล์ที่เหล่านักเรียนช่างกลก็จะมายืนรอรถเมล์อยู่ด้วย แต่เราไม่ค่อยกลัวหรอก เพราะเรามีหน้าตาเป็นอาวุธ

ส่วนเรื่องของการโดนแกล้งเราโดนอยู่ได้ปีเดียว พอขึ้น ม.5 กลุ่มที่แกล้งเรา เขาก็กระจัดกระจายกันไป เพราะมีบางคนเขาก็ออกไปเรียนที่อื่น บางคนก็ย้ายกลุ่ม และก็มีบางคนย้ายมาอยู่กลุ่มเราด้วย ก็กลายเป็นดีกันไป

มันก็เลยเป็นความทรงจำช่วงหนึ่งที่บอกตรงๆ ว่ากว่าจะผ่านไปได้มันลำบากมาก และมันคงจะลำบากยิ่งกว่านี้ถ้าไม่มีเพื่อนสนิทดีๆ ที่เป็นฮีโร่คอยอยู่ข้างๆ...



Create Date : 05 พฤษภาคม 2559
Last Update : 5 พฤษภาคม 2559 0:39:12 น.
Counter : 1007 Pageviews.

4 comment
พักร้อน : โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 153


อยากให้ดวงอาทิตย์ได้ผ่อนพัก
หลบงานหนักไปเที่ยวกับปักษา
ความร้อนแรงจะได้ลดลงสักครา
ให้หลายหลายชีวาได้ผ่อนคลาย

ก็ไม่ถึงกับเรียกฝนให้ตก
เพียงไม่อยากเหงื่อซกในตอนสาย
จึงอยากจะอ้อนวอนให้พระพาย
อยากให้นายมาทำงานแทนตะวัน

ให้สักเดือนกว่ากว่าให้คลายร้อน
ให้ได้ผ่อนหนักเบาให้แข็งขัน
แต่ฉันก็เป็นห่วงเหมือนเหมือนกัน
ถ้าไม่มีตะวันจะทำไง

ด้วยตัวฉันนั้นเลี้ยงกระบองเพชร
รวมเบ็ดเสร็จก็อะนะสิบสองต้นได้
ถ้าหากว่าขาดดวงอาทิตย์ไป
มันก็คงไม่ไหวเหมือนเหมือนกัน…




Create Date : 21 เมษายน 2559
Last Update : 21 เมษายน 2559 0:59:34 น.
Counter : 1110 Pageviews.

7 comment
รอยร้าว : โจทย์ประจำหลักกิโลเมตรที่ 152
‘รอยร้าว’ ไม่มีใครหรอกที่ไม่เคยเจอ แต่เมื่อเจอแล้ว เราจะจัดการกับรอยร้าวนั้นยังไง จะปล่อยให้มันร้าวไปอย่างนั้น โดยไม่จัดการอะไรอย่างนั้นหรือ หรือจะซ่อมแซมมันเท่าที่เราจะซ่อมแซมได้โดยไม่คาดหวัง แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน รอยร้าวเมื่อเกิดขึ้นมามันก็จะอยู่ในความทรงจำเสมอ เป็นเครื่องเตือนใจว่าจะไม่ทำให้มันร้าวอีก

การประสานรอยร้าวมันยากกว่าทำให้ร้าวนะ เราเองก็เคยสร้างรอยร้าวเหมือนกันในเรื่องความรัก เป็นความหึงที่เกินพิกัดของเราไป จนเกือบจะสูญเสียเพื่อนที่ดี ตอนนั้นรักแบบหญิงรักหญิง แต่อีกฝ่ายหนึ่งเขารักเราแบบเพื่อน เรียกว่าโกรธกันนานพอดูเหมือนกัน ไม่พูดกัน เพราะความหึงล้วนๆ

ไม่ได้ติดต่อกันหลายเดือน ทั้งที่เมื่อก่อนสนิทจี๋จ๋ากันมาก เราเป็นคนเฟดตัวออกมาก่อน เพราะรู้สึกว่าทะเลาะกันรุนแรงไปแล้ว เราเป็นคนเริ่มต้นก่อนด้วย ก็เรียกได้ว่าเป็นคนผิดเต็มๆ

ตอนนั้นก็คิดว่าสงสัยคงจะไม่ได้คุยกันอีกแล้วล่ะ แต่ใจนึงก็รู้สึกเสียดายความสัมพันธ์ที่ดีที่เคยมีให้กัน ก็มานั่งทบทวน หลังจากผ่านไปหลายเดือน แบบว่า เฮ้ย เราจะไม่คุยกันจริงๆ เหรอ เราควรไปขอโทษเขาไหม ยังไงก็เป็นเพื่อนกันได้

สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไปขอโทษ เพราะเราเป็นคนเริ่มเรื่องก่อน ไม่ใช่เขาที่จะมาขอโทษเรา ก็ส่งเมล หรือ MSN ไปหา (สมัยนั้นยังไม่มีเฟซ) หลังจากได้ขอโทษก็รู้สึกโล่ง เหมือนยกภูเขาออกจากอก แต่ก็ลุ้นเหมือนกันว่าเขาจะยังคุยกับเราอยู่ไหม

ก็ปรากฏว่าเขาก็ให้อภัย กลับมาคุยกันเหมือนเดิม จี๋จ๋าเหมือนเดิม แต่ในใจเราไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนแล้ว เราสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้ และเข้าใจว่าเขาก็มีชีวิตของเขา เขาก็แนะนำให้เรามีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ ณ บัดนั้น จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีเลย ฮา...

แต่ก็ยืนยันว่าชอบผู้ชาย แต่เขาคนนั้นคนเดียวจริงๆ ที่รักในแบบหญิงรักหญิง (คนนี้ก็คือคนเดียวกับที่เราเขียนถึงในสมุดบันทึก ตอน หญิงเดียวในใจ)

ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ถ้าวันนั้นเราไม่ขอโทษเขา รอยร้าวมันก็คงจะเป็นรอยร้าวอยู่อย่างนั้น ถ้าหากวันใดวันหนึ่งมาเจอะกัน เราอาจจะไม่พูดกันก็ได้

แต่เมื่อรอยร้าวมันได้ถูกสมานเรียบร้อย เราก็สามารถพูดคุย พบเจอกันได้ ไม่มีอะไรที่ค้างคาใจกันอีก

แต่กับบางคน รอยร้าวที่มันเกิดขึ้น เราอาจจะไม่ได้สร้างเอง แต่เขามีส่วนร่วมสร้าง เป็นผู้เริ่มต้น ถ้ามีโอกาสขอโทษก็ขอโทษไปในส่วนของเรา ส่วนเขาจะอยากขอโทษหรือจะอยากคุยกับเราต่อหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ชีวิตใคร ชีวิตมันต่างคนต่างมีสิทธิ์เลือก ถ้าไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันต่อหลังจากความรักจบไป ก็ให้คิดเสียว่า ‘เราเพียงผ่านมาพบกันเท่านั้น’

คำว่า ‘ขอโทษ’ ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ทุกอย่างจบสวย มันเพียงแต่ทำให้ความรู้สึกผิดในใจของเรามันบรรเทาเบาบางไปเท่านั้น แต่อย่างน้อยๆ เราก็ได้ทำหน้าที่ของเราไปแล้ว พยายามจะประสานรอยร้าว ดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย แล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่ารู้งี้เราน่าจะขอโทษเขานะ




Create Date : 06 เมษายน 2559
Last Update : 6 เมษายน 2559 0:18:12 น.
Counter : 1015 Pageviews.

5 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  

comicclubs
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 27 คน [?]



Group Blog
All Blog
  •  Bloggang.com